Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แรกเริ่ม...เมื่อเริ่มรัก (ตอนที่ 3 - 4)

    - 3 -


    "กวิน... ตื่นหรือยังลูก" เสียงเคาะประตูดังๆจากฝีมือคุณเนตรนภา มารดาสุดที่รักของผม ที่เจ้าของมือรัวเคาะถี่ๆ ราวกับเสียงกลองเพล ปลุกผมให้ตื่นจากนิทรารมย์อันแสนหวาน

    "ครับแม่" ผมงัวเงียลุกจากที่นอนอันแสนอบอุ่น เพื่อมาเปิดประตูก่อนที่มันจะพังเพราะฝีมือแม่ของผม "แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ มาเคาะเรียกผมแต่เช้าเลย" เมื่อผมเปิดประตูออกมาก็พบสายตาเขียวปัดจากดวงตาแสนสวยของท่าน ถึงแม้ว่าวัยของเจ้าของดวงตาล่วงเลยมาถึงเลขห้าแล้ว แต่ท่านก็ยังคงความสวยไม่สร่าง

    ผมส่งยิ้มหวานๆ พร้อมเอื้อมมือไปกอดเอวประจบนิดๆ "เช้าอะไรล่ะกวิน นี่ปาไปสิบโมงเช้าเข้าไปแล้ว เมื่อวานกวินสัญญาอะไรไว้กับแม่ บอกว่าจะกลับแต่หัววัน ก็ดันกลับมาถึงบ้านเที่ยงคืน" ผมทำหน้ายุ่งๆ ก่อนจะหอมแก้มเพื่อเป็นการไถ่โทษ

    "พอดีไอ้นัตถ์มันกลับมาจากต่างประเทศ ผมกับไอ้รันต์ก็เลยพามันไปท่องราตรีเมืองกรุง เพื่อย้อนความทรงจำนิดหน่อยเองครับแม่ โธ่... แม่อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ไม่สวยเลย น๊าๆๆๆ" ผมทำเสียงอ้อนๆ เพื่อให้ท่านใจอ่อน
    "แล้วคิดจะโทร.บอกแม่บ้างไหม รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วง แล้ววันนี้ก็สัญญาว่าจะพาแม่ไปดูเพชรที่ร้านคุณหญิงสิตางค์แต่เช้า ป่านนี้แม่ยังไม่ได้ออกจากบ้านเลยกวินจะให้แม่อารมณ์ดีได้เหรอ แม่ให้เวลาสามสิบนาทีกับการอาบน้ำแต่งตัว" ท่านก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือฝังเพชรเรือนโปรด แล้วเงยหน้ามองผมที่ทำหน้ายุ่ง


    "ตอนนี้เวลาสิบโมงสิบนาที สิบโมงสี่สิบแม่ต้องเห็นกวินอยู่ข้างล่างแล้วนะ" แล้วท่านก็เดินจากไป ปล่อยให้ผมเซ็งกับชีวิตอยู่คนเดียว

    วันหยุดของผมทั้งที นึกว่าจะได้พักผ่อนอยู่บ้าน แต่กลับต้องพาคุณนายท่านไปดูเพชร เฮ้อ... ผมไม่เข้าใจผู้หญิงเลยครับว่าทำไมต้องให้ความสำคัญกับอัญมณีที่มีราคาเป็นแสนเป็นล้านด้วย และที่แน่ๆผมรู้เจตนาของแม่ผมเป็นอย่างดี ว่าทำไมต้องให้ผมไปเป็นเพื่อนทั้งที่คนขับรถก็มี
    เจตนาแอบแฝงก็คือ ท่านต้องการให้ผมได้ไปพบกับลูกสาวของคุณหญิงสิตางค์เจ้าของร้านเพชรนั่นเอง "เพชรลดา" ชื่อที่แม่ของผมกรอกเข้าหูผมทุกวัน ว่าเธอน่ารักอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้ ทั้งเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน เรียบร้อย เฮ้อ…ผมขอถอนหายใจแรงๆอีกสักครั้งเถอะครับ กับการที่คุณนายแม่ของผมตั้งใจจะคลุมถุงชนให้ผมกับลูกสาวเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ถ้าเปลี่ยนจากผู้หญิงที่ชื่อ “เพชรลดา” มาเป็น “รินรดา” ผมคงไม่ปฏิเสธการคลุมถุงชนครั้งนี้แน่นอน

    “รินรดา อัศวจิระ” ชื่อที่เขียนกำกับไว้แสดงตนเป็นเจ้าของหนังสือเรียนที่ผมแอบเหลือบมองเมื่อครั้งตอนที่เธอนั่งจิบกาแฟในร้าน “กาแฟหน้ามอ” ในตอนนั้น นามสกุลที่ผมคุ้นหูมากๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากไหน แต่ไม่ว่ายังไงผมจะต้องหาทางใกล้ชิดเธอให้ได้

    “คุณกวินค่ะ คุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ” เสียงสาวใช้ตะโกนมาจากข้างนอก เรียกให้ผมตื่นจากภวังค์ แล้วหันมาสนใจกับการแต่งตัวอีกครั้ง

    “ใกล้จะเสร็จแล้ว เรียนคุณแม่ด้วยว่าเดี๋ยวฉันลงไป” ผมได้ยินเสียงขานรับจากสาวใช้ เธอคงจะไปเรียนท่านแล้ว ผมเลยต้องเร่งมือในการแต่งตัวให้เร็วขึ้น


    “สวัสดีค่ะคุณเนตรนภา” พนักงานในร้านเพชรทักทายแขกผู้มาเยือน คุณแม่ของผมท่านมาร้านนี้จนคุ้นเคยกับพนักงานขายหมดทุกคนแล้วละครับ

    “สวัสดีจ๊ะแข คุณหญิงอยู่ไหนเอ่ย” คุณแม่ผมจำชื่อพนักงานของร้านนี้ได้หมดทุกคนเลยครับ เหมือนกับว่าท่านเป็นเจ้าของร้านเพชรนี่เสียเองเลย

    “คุณหญิงอยู่ข้างในค่ะ เชิญคุณเนตรนภาเลยนะค่ะ” พนักงานสาวคนเดิมทำท่าจะเดินไปส่งถึงห้อง แต่คุณแม่ห้ามไว้ด้วยความเกรงใจ

    “ไม่เป็นไรจ๊ะแข เดี๋ยวฉันเข้าไปหาคุณหญิงเอง แขทำหน้าที่ต่อไปเถอะนะ ขอบใจมาก”

    “ไปเถอะกวิน เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวคุณหญิงจะรอนานนะ” พูดจบท่านก็เดินนำหน้าผมเข้าไปข้างใน ซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวของคุณหญิงสิตางค์ แม่ผมบอกว่าคุณหญิงเป็นเจ้านายที่ดีมากๆ ดีจนลูกน้องในร้านนับถือ และยำเกรง ในความเมตตาของเธอ พนักงานในร้านนี้ล้วนทำงานให้เธอมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบปีทุกคน

    ทั้งสวัสดิการและรายได้ของพนักงานที่นี่ ล้วนสูงๆกันทั้งนั้น ผมอดทึ่งไม่ได้ครับเมื่อได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้จากคุณแม่ของผม ผมไม่สงสัยอีกแล้วครับว่าทำไมร้านเพชรร้านนี้จึงเป็นร้านเพชรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นับหน้าถือตาของแวดวงไฮโซ ไฮซ้อทั้งหลาย


    “มาแล้วเหรอจ๊ะคุณเนตร เชิญนั่งก่อนนะค่ะ” คุณหญิงสิตางค์กุลีกุจอออกมาต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างผู้มีอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจ

    “ดาว ดาวเอ้ยเอาน้ำมาให้คุณเนตรหน่อยเร็ว อ้าว กวินมาด้วยเหรอเนี่ย” ท่านหันมาส่งยิ้มหวานให้ผม

    “สวัสดีครับคุณหญิง”
    “สวัสดีจ๊ะกวิน ไม่เจอนานโขเลย โอ้โห… หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” คุณหญิงจับตัวผมหมุนไปหมุนมาครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยให้ผมได้เป็นอิสระ

    “งั้นที่แล้วมาแปลว่าผมก็ไม่หล่อเลยซิครับคุณหญิง” ผมแกล้งตัดพ้อท่าน

    “เปล่าๆ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เมื่อก่อนนะเธอหล่อแบบเด็กๆ แต่ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ดูดีขึ้นตั้งเยอะแน่ะ” คุณหญิงกล่าวแก้เป็นฉากๆ จนผมอดหัวเราะไม่ได้กับความน่ารักของท่าน

    “แล้วหนูเพชรไม่อยู่เหรอจ๊ะคุณหญิง” ผมแอบชำเลืองมองหน้าคุณเนตรนภาคุณแม่อันเป็นที่รัก เมื่อท่านกำลังจะปฏิบัติภารกิจแม่สื่อแม่ชักจนออกนอกหน้า และดูเหมือนว่าคุณหญิงสิตางค์ก็คงจะพอใจไม่น้อยเหมือนกัน

    “หนูเพชรออกไปข้างนอกจ๊ะ เดี๋ยวคงจะเข้ามา แล้ววันนี้กวินไม่ไปไหนใช่ไหมจ๊ะ วันนี้คงได้เจอน้องนะ” ประโยคหลังท่านหันมาคุยกับผม ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าวันนี้ผมอยากพักผ่อน หรือไม่ก็อยากไปหายิ้มสวยของผมเหลือเกินครับ แต่เมื่อหันไปมองหน้าคุณแม่ผมแล้วก็จำต้องพยักหน้าหงึกๆ ด้วยความจำใจ

    ผมปล่อยให้ท่านทั้งสองพูดคุยกันตามประสาเพชรประสาพลอย ส่วนผมขอตัวเดินดูสินค้าภายในร้านรอ ประกายเพชรระยิบระยับชวนน่ามองยิ่งนัก มิน่าละใครๆก็อยากได้เป็นเจ้าของกันนัก ผมเดินดูสินค้าอย่างเพลิดเพลิน แล้วเสียงใสๆอันคุ้นๆก็วิ่งกระทบกับโสตประสาทหูของผมทันที ผมดีใจจนเนื้อเต้น รีบหันไปมองหาเจ้าของเสียงทันที
    “แพร…แพรว่ารินจะต่อโทที่อเมริกาตามคำสั่งของพ่อกับแม่ หรือว่าจะต่อที่เมืองไทยนี่ดี” เสียงพูดคุยสองสาวเพื่อนรักที่กำลังเดินผ่านประตูเข้ามาภายในร้านเพชรแห่งนี้ ทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อพบว่าเจ้าของรอยยิ้มอันพิมพ์ใจของผมกำลังเดินตรงรี่เข้ามาทางที่ผมยืนอยู่
    “ยังไงดีล่ะ แพรก็ไม่รู้จะแนะนำยังไงดีอ่ะนะ อยู่ทีว่ารินชอบแบบไหนมากกว่า แพรว่าไม่ว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันแหละนะ แต่แพรคงต้องไปเรียนที่ออสเตรเลียน่ะ เพราะพี่พัฒน์เรียนอยู่ที่นั่นแล้ว และพี่เพชรก็จบจากที่นั่นเหมือนกัน”

    หญิงสาวอีกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเพือนสาว

    “แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยนะ คิดแต่เรื่องวิจัยให้ผ่านก่อนก็พอเนอะ” แล้วเธอทั้งคู่ก็ประสานเสียงหัวเราะกันเดินเข้าข้างในห้องที่ผมเพิ่งเดินออกมาเมื่อสักครู่


    “ขอบคุณพรหมลิขิต” ท่าทางที่ผมแสดงออกมานั้นคงจะพิลึก เพราะเมื่อผมมองไปรอบๆ ก็เห็นพนักงานในร้านมองผมอย่างขำๆ ผมรีบเดินตามสองสาวเข้าไปข้างในทันที

    “สวัสดีค่ะคุณแม่” สองสาวเอ่ยทักคุณหญิงสิตางค์พร้อมกัน แล้วหันไปไหว้คุณแม่ของผมอีกคน

    “สวัสดีค่ะ” เสียงที่ยังคงประสานกันเมื่อกล่าวสวัสดี

    “สวัสดีค่ะ หนูแพร หนู…” คุณแม่ของผมเว้นวรรคนิดหนึ่ง เมื่อเห็นอีกคนที่ไม่รู้จัก ท่านหยุดพิจารณาหญิงสาวที่มาพร้อมกับลูกสาวของคุณหญิงสิตางค์อย่างสนใจ

    “หนูรินจ๊ะคุณเนตร ลูกสาวคนเดียวของคุณรื่น คุณพิภพไง จำได้ไหม”

    “อ๋อ… คุณรื่นที่เมื่อก่อนมักจะไปไหนมาไหนกับคุณหญิงบ่อยๆใช่ไหมค่ะ” คุณแม่ของผมหันไปขอคำตอบจากคุณหญิง ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ

    “ใช่แล้วค่ะ คุณรื่นเพื่อนกับฉันตั้งแต่สมัยมอปลายแล้วละค่ะ อ้าว… กวินมายืนเงียบๆ เข้ามาซิจ๊ะ” คุณหญิงสิตางค์หันมาเรียกผม เมื่อเห็นว่าผมมายืนเก้ๆ กังๆ อย่างน่าขัน ผมรู้สึกประหม่าเมื่ออยู่ใกล้เธอคนนี้ ทั้งที่เธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมแอบชอบอยู่ เมื่อคุณหญิงหันมาเรียกผม สายตาทุกคู่ก็มาหยุดตรงที่ผม รวมทั้งสายตาคมๆของเธอด้วย

    “ยืนทำอะไรตรงนั้นละตาวิน เข้ามาสิลูก มาๆ มารู้จักกันเอาไว้” คุณแม่ของผมกวักมือเรียก ทำให้ผมจำต้องเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ

    “สวัสดีค่ะ” เสียงเคารพพร้อมๆกันของสองสาว ทำให้ผมยิ่งประหม่า ตอนนี้สายตาของผมพุ่งไปอยู่ที่ยิ้มสวยคนเดียว ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีศอกของคุณเนตรนภามากระทุ้งเบาๆตรงเอวนี่แหละครับ

    “เอ่อ.. สวัสดีครับสาวๆ เจอกันอีกแล้วนะครับ” แพรเพชรมองผมอย่างงงๆ แต่ยิ้มสวยของผมมองแล้วยิ้มในแบบฉบับของเธอ ผมทำธุรกิจมาร่วมสิบปี เจอผู้คนมาก็มากมาย แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเหมือนครั้งนี้มาก่อน

    “ค่ะ เจอกันอีกแล้ว”

    จากคุณ : หนึ่งเดียวในใจ - [ 7 เม.ย. 50 09:33:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom