เรื่องเล่าจากการเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะฮ่องกงที่แทบทุกอย่างเรียกได้ว่าเป็น "ครั้งแรก"
ฝากนักอ่านทุกท่านไว้ที่นี้ด้วยครับ
เอามาโพสท์ 1 บท ส่วนที่เหลืออ่านได้ที่
http://www.reallifelog.com/uniqueone/archive/filter/category/6896/
Chapter 7 ให้ความรู้สึกนำทาง
Written April 18. 2007 in On The Way Stories
การเดินทางที่ไม่ได้มีการแพลนเรื่องการหาที่พักล่วงหน้าถือเป็นการไม่ฉลาดนัก แต่มันถือเป็นความตื่นเต้นยิ่งนักทีเดียว หากผมเลือกจองที่พักโดยจ่ายผ่านบัตรเครดิตล่วงหน้าก่อนเดินทางมาเยือนเกาะฮ่องกง คงไม่ได้เจอเรื่องตื่นเต้นเหล่านี้...
เวลาตีหนึ่งครึ่งค่อน 2 คนพี่น้องยังคงเดินแบกเป้หลงทางอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน ที่ไม่คุ้นเคยกับทางเข้า-ออก เดินวน หันซ้ายหันขวา วิ่งขึ้นลิฟท์ ลงบันได อ่านป้ายบอกทิศทาง เราอ่าน (อังกฤษ) ออกแต่ไม่รู้ว่าจุดหมายอยู่ที่ใด
Central! น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อไม่รู้จะไปเริ่มต้นที่ไหน ถ้าไปอยู่ตรงจุดที่เรียกว่าจุดศูนย์กลางน่าจะดีที่สุดในเวลานี้ เราขึ้นลิฟท์เพื่อไปยังทางออก Central ตามที่ป้ายบอกทิศทางนำเราไป สถานีที่เราตัดสินใจลงจาก Airport Express ก็คือสถานี Hong Kong และมีทางเชื่อมมาสู่ทางออกของสถานี Central นึกภาพตามง่ายๆ เหมือนเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าที่สยาม-สนามกีฬาฯ ไปมาบุญครองประมานนั้นละครับ
แล้วก็ไม่ผิดจริงๆ บรรยากาศของทางออก Central คล้ายๆ แถวสยามแสควร์บ้านเรา ต่างกันก็ตรงที่ไม่มีผู้คนให้เห็นซักคน ก็นี่มันปาไปเข้าตึหนึ่งครึ่งเข้าไปแล้ว จะมีใครที่ไหนเขาจะมาเดินช้อปปิ้งกันละ!
ผมรู้สึกว่าถ้าต้องเลือกระหว่างไปทางซ้ายกับทางขวาผมจะเลือกไปทางขวาก่อนในกรณีที่ต้องเสี่ยงทางกันดื้อๆแบบนี้ หันหน้าออกประตู ก็พาน้องสาวก้าวเท้ามุ่งหน้ามาทางขวาทันที เราเดินดุ่มออกมาท่ามกลางฝนโปรยปรายพอจะลุยไปได้ แสงไฟสีเหลืองๆ เกือบส้มจากเสาไฟรอบทางเดินช่วยให้บรรยากาศไม่น่ากลัวนัก ย่านนั้นเวลานี้ไม่มีผู้คนเอาเสียเลย เราเดินโผล่พ้นมาตรงทางที่บังคับให้เลี้ยวซ้ายตรงมุมตึก ผมเดินชนกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ก็แน่ละครับถ้ามีใครคุ้นหน้าคุ้นตามาเดินแถวนี้ตอนเที่ยงคืนกว่าๆ อย่างนี้อาจจะทำเราช็อคเอาก็ได้ ด้วยกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่แบกหลังอยู่ แทบจะฉุดร่างผมหงายหลัง หลังจากปะทะกับชายแปลกหน้า ทั้งตกใจ ทั้งกลัว ตอนนั้นกลัวไปหมด ว่า...คนรึเปล่าวะ! โจรรึเปล่าวะ! ฆาตกรรึเปล่าวะ!
ชายแปลกหน้าที่เจอแรงปะทะจากผมก็เซไปเช่นกัน พอทรงตัวได้ผมก็เพิ่งมองไปตรงข้างหน้า ผู้ชายรูปร่างสูงผอมสวมรองเท้าหนังสีดำมันวาวที่มีหยดน้ำฝนเกาะเต็มไปทั่วพื้นที่สีดำมันวาวนั้น ผมมองสูงขึ้นไปอีกเห็นกางเกงสแลคสีดำ ทีนี้รีบมองขึ้นไปอย่างเร็วผมมองหาศรีษะของเขาไม่เจอ!!!!
..ไม่ใช่! เขาไม่ใช่ผีไม่มีหน้าที่ออกหลอนหลอนผู้คนหลังเที่ยงคืนหรอก อย่าเพิ่งคิดกันไปขนาดนั้น! เขาถอดเสื้อตัวนอกออกมาคลุมศรีษะเพราะฝนตกเท่านั้นเอง
ชายแปลกหน้าเอาเสื้อที่คลุมศรีษะออกให้เห็นใบหน้าชัดเจน เขาสวมแว่น ศรีษะเขามีหมวกคล้ายหมวกตำรวจ ที่เอวมีกระบองสีดำด้วยหนึ่งอัน โถ่! พี่ยาม
นึกว่าเจออะไรเข้าซะแล้ว พอได้เห็นหน้าค่าตาพี่ยามหน้าตี๋ท่าทางดูใจดี ถามไถ่เราว่าจะไปไหนกัน คงเห็นว่าท่าทางละเล่อละล่า หอบหิ้วกระเป๋ากันซะขนาดนี้ เราบอกเพิ่งมาถึงที่นี่กำลังมองหาโรงแรม พี่ยามบอกให้ไปที่ทางออกอีกทางหนึ่ง แกบอกว่าทางนี้ไม่มีหรอกอย่าไปเลยมันอันตรายด้วย เราไม่ทันได้สงสัยว่าทางนั้นมันมีอะไร และมันอันตรายยังไง แล้วก็ในเวลานั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องสงสัยในคำพูดของพี่ยามตี๋ ท่าทางใจดีคนนั้น แกอาสาพาเรากลับเข้าไปในสถานีแล้วชี้บอกทางที่เราควรจะออกไป
สองคนพี่น้องได้แต่ก้มหัว พูดได้แค่ว่า Thank you Thank you พี่ยามยืนยิ้มแฉ่ง แล้วเราทั้งสองฝ่ายก็เดินจากกันไปคนทาง จากความรู้สึกมึนงง ไร้จุดหมาย และที่สำคัญไร้ทางออก ก็กลายมาเป็น ชอบใจ ยิ้มแฉ่ง รู้สึกดีเพราะประทับใจในความใจดีของพี่ยามตี๋ คนแปลกหน้าคนแรกที่เจอและทำให้เรา "พบทางออก"
จากคุณ :
Uniqueone
- [
18 เม.ย. 50 17:13:04
A:172.20.122.69 X:203.144.130.176 TicketID:143351
]