- 8 -
อ่านหนังสืออ่านไป อย่ามัวสนใจกับข้อความที่ส่งมาเพื่อบอกว่า
คิดถึงจังครับ พัฒนาการความรักที่กำลังก้าวหน้าของผมกับยิ้มสวย ถึงแม้ตอนนี้เธอมัววุ่นกับการอ่านหนังสือเพื่อสอบเทอมสุดท้าย และผมก็วุ่นกับงานที่เข้ามาอย่างหนักตลอดเดือนนี้ ทำให้เราสองคนไม่มีโอกาสได้เจอกันอย่างที่ใจต้องการ ผมเลยเลือกที่จะส่งข้อความหวานๆบอกเธอทุกวัน ในครั้งแรกที่ตัดสินใจส่งไปนั้นผมก็รู้สึกกังวลใจว่าถ้าส่งไปแล้วเกิดว่าเธอโมโห หรือไม่พอใจที่ผมกล้าบ้าบิ่นที่จะแสดงตัวว่าผมเริ่มจีบเธอแล้วนะ แต่เปล่าเลยครับผมวิตกจริตไปเองทั้งนั้น เพราะผมรู้สึกได้ว่าเธอก็มีความรู้สึกดีๆกลับมาให้ผมด้วยเหมือนกัน
อ่านหนังสือชักไม่เข้าใจ ก็เพราะข้อความที่ใครบางคนนั้นส่งมา เธอตอบกลับมาทำให้หัวใจดวงน้อยๆของผมมีความสุข
งั้นใครบางคนขอไม่รบกวนดีกว่า อ่านหนังสือต่อไปนะอย่ามัวแต่คิดถึงใครบางคน ผมส่งตอบกลับไปและไม่นานก็มีข้อความส่งกลับมาว่า หยี๊
ใครคิดถึงคุณ
อ้าว
ใครบางคนที่ว่า คือผมหรือครับ ผมหัวเราะเบาๆกับหน้าจอมือถือ รู้สึกสุขใจอย่างประหลาด ผมเพิ่งรู้ว่าความรักทำให้คนมีความสุขแบบนี้นี่เอง
วันนี้ยิ้มสวยของผมสอบเป็นวันสุดท้ายแล้ว ผมจึงรีบสะสางงานให้เสร็จแต่หัววันเพื่อที่จะหนีงานไปรับเธอ เพราะเราได้นัดกันไว้แล้วว่าจะมีการเลี้ยงฉลองให้เธอกับแพรเพชรในวันที่สอบวันสุดท้าย โดยเจ้ามือในงานนี้ก็คือ ผม เพชรลดา และไอ้นัตถ์ ส่วนอีกคนที่มาด้วยแต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานนี้คือ เจ้าการันต์ แต่มันก็ให้เหตุผลที่น่าฟังว่า ฉันมาในฐานะอาจารย์ของสองสาวไง อืม
ฟังขึ้นจริงๆ
ผมมานั่งรอยิ้มสวยกับแพรเพชรก่อนเวลาถึงหนึ่งชั่วโมงจนการันต์แซว แต่ผมไม่สนใจมันหรอกครับเพราะผมอยากเห็นหน้าของยิ้มสวยใจแทบขาด เกือบเดือนที่ได้แต่อ่านข้อความผ่านหน้าจอมือถือ ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่างานนี้มีเฮแน่นอน
ไอ้นัตถ์กับเพชรลดาโทรมาบอกว่าตอนนี้ไปรอที่ร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมได้แต่นั่งมองการันต์นั่งทำโน่นทำนี่ของมันไปเรื่อย แอบเหลือบมองนาฬิกาอย่างเซ็งๆ ทำไมผมรู้สึกว่านาฬิกามันเดินช้านักก็ไม่รู้ ผมเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น จนเจ้าการันต์ทนไม่ไหวจึงหันมาด่า
ไอ้วิน เอ็งหยุดเดินได้ไหมว่ะ จะเดินหาพระแสงอะไรของเอ็ง ข้าเวียนหัวทำงานไม่รู้เรื่อง นั่นแหละผมจึงกลับไปนั่งบนโซฟาเหมือนเดิม
เมื่อไหร่จะหมดเวลาสอบว่ะ ข้าใจร้อน การันต์หันมาหัวเราะส่ายหน้าอย่างระอา
เอ็งกลายเป็นคนใจร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ นั่งนิ่งๆอยู่ตรงนั้นน่ะดีแล้ว ถ้าเอ็งลุกขึ้นเดินอีกข้าจะเบิ๊ดกะโหลกให้ การันต์ชี้หน้าผมอย่างเอาเรื่อง ผมจึงต้องนั่งสงบปากสงบคำนั่งมองมันทำงานต่ออย่างใจเย็น
เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งจนสุดตัวสงสัยยิ้มสวยของผมมาแล้ว ผมรีบกระวีกระวาดไปเปิดประตูให้ผู้ที่อยู่ข้างนอกทันที
คุณแพร ผมทำเสียงเศร้าทันทีเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นไม่ใช่รินรดา คุณรินละครับ ผมถามตาละห้อย
อะไรกันค่ะคุณกวิน เห็นหน้าแพรแล้วทำไมต้องเศร้าอย่างนั้นละค่ะ น้อยใจจัง แพรเพชรแกล้งแหย่ผม
ผมไม่ได้
เอาเถอะค่ะ ไม่ต้องมาแก้ตัวแพรงอนแล้วล่ะ อาจารย์ยังนั่งทำงานอยู่อีกเหรอค่ะเนี่ยขยันอย่างนี้เอาเงินไปไว้ไหนหมดน๊า เธอตัดบทผมทั้งที่ผมพูดยังไม่จบด้วยซ้ำ และหันไปถามการันต์โดยทำเป็นไม่สนใจผมอีก
แล้วคุณริ
.
อาจารย์วางมือจากงานได้แล้ว แพรว่าเราเตรียมตัวกันดีกว่า เธอยังคงคุยกับการันต์แล้วแกล้งไม่สนใจคำถามที่ผมจะถาม ผมได้แต่กลืนคำถามเหล่านั้นลงคอ ทั้งที่อยากรู้ว่ายิ้มสวยของผมไปไหนทำไมไม่มาพร้อมกับแพรเพชร
ผมนั่งทำหน้าเซ็งและเงียบไปในที่สุด จนคนที่ตั้งใจแกล้งผมต้องหันมาหัวเราะอย่างถูกใจ
รินไปห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวตามมา นั่นแหละผมถึงยิ้มออกมาได้
งานเลี้ยงของเราจัดกันอย่างเรียบง่าย แต่อบอวลไปด้วยความรัก ทั้งความรักระหว่างเพื่อน ระหว่างพี่น้อง และระหว่างคนรัก ซึ่งเมื่อความรักทั้งสามอย่างนี้มารวมกันแล้วช่างให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและสุขใจอย่างมากทีเดียว ผมเชื่อว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับผม
วันนี้ผมตั้งใจแล้วว่าจะต้องสารภาพความในใจให้ยิ้มสวยรู้ให้ได้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ผมก็ยินดีรับมัน
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องแยกย้ายกันกลับบ้านเพชรลดายังคงเป็นเจ้าแม่จอมวางแผนเหมือนเคย คราวนี้มีแพรเพชร ไอ้นัตถ์และเจ้าการันต์มาร่วมขบวนการด้วย ทั้งสี่คนช่วยให้ผมได้ไปส่งรินรดา โดยอ้างเหตุผลต่างๆนา นา และชักแม่น้ำทั้งห้าสายหรือมากกว่านั้นผมก็ไม่แน่ใจ
ผมกับยิ้มสวยยืนโบกมือส่งทั้งสี่คนจนรถของพวกเขาเคลื่อนตัวลับจากไป เราจึงเดินไปขึ้นรถกันบ้าง
เหนื่อยไหมครับ ผมมองใบหน้าอิดโรยของเธออย่างเป็นห่วง สาเหตุคงมาจากการอดหลับอดนอนอ่านหนังสือ
ไม่ค่ะ
วันนี้เข้านอนเร็วๆนะครับ พักผ่อนเยอะๆจะได้หายเหนื่อยผมเป็นห่วงนะ ผมชวนเธอคุยไปเรื่อยแต่สายตายังคงจับจ้องไปข้างหน้า แต่หางตาผมแอบมองเธอไปด้วย เธอก้มหน้างุดมองมือของตัวเองอย่างอายๆ
คุณก็พักผ่อนเยอะๆนะค่ะ ได้ข่าวว่าทั้งเดือนทำแต่งานจนไม่ได้พักผ่อนเลยนี่ ระวังจะไม่สบายได้น๊า
คุณห่วงผม ผมหันไปเลิกคิ้วถามเธออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ยิ้มสวยพยักหน้าตอบ ค่ะ
แค่ได้ยินประโยคนี้ ความเหนื่อยที่มีมาทั้งเดือนก็มลายหายไปหมดสิ้นเลยละครับ ผมเลี้ยวรถจอดเทียบข้างทางยิ้มสวยมองหน้าผมงงๆ
จอดรถทำไมค่ะ
ผมขอเวลาคุณรินสักครู่นะครับ ผมสัญญาว่าครู่เดียวจริงๆ ผมลงจากรถวิ่งมาอีกข้างของรถเพื่อเปิดประตูให้เธอลงมา
เราเดินเคียงข้างกันไปอย่างเงียบๆ ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของเธออย่างชั่งใจ
คุณริน ผมแตะบ่าเธอให้หยุดเดิน
ค่ะ
ถ้าคุณรินคิดจะมีใครสักคนเป็นเพื่อนใจ เขาคนนั้นต้องเป็นคนแบบไหนครับ เธอหยุดแล้วหันหน้ามามองผมอย่างค้นคว้า
ไม่รู้สิค่ะ รินก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นคนที่ใช่จริงๆก็คงแค่มองตาก็รู้ใจแล้วมั้งค่ะ เธอจ้องมองลึกเข้าไปที่ดวงตาของผม เหมือนจะให้มันทะลุไปจนถึงหัวใจเลยทีเดียว
แล้ว เอ่อ
คุณรินจะรังเกียจไหมถ้า
ผมกลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาทันที เธอเอียงคอมองผมตั้งใจฟังประโยคถัดไป
เอ่อ
อะไรค่ะ รอยยิ้มใสๆของเธอเหมือนเป็นพลังให้ผมกล้าที่จะพูดขึ้นมาทันที ผมดึงมือเธอมากุมไว้ทั้งสองข้าง
ถ้าผมจะขอเป็นคนๆนั้น คนที่ใช่ของคุณริน เธอชะงักเล็กน้อยจนผมรู้สึกใจเสียขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ยิ้มสวยดึงมือบางๆของเธอออกอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆหันหลังเดินจากผมไปทีละก้าวทีละก้าว ปล่อยให้ผมยืนคว้างอยู่คนเดียวด้วยหัวใจที่แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆเมื่อตระหนักได้ว่าเธอคงไม่คิดมีใจให้กับผมและนี่คงเป็นการตอบปฏิเสธของเธอแน่ๆ แต่เมื่อเธอเดินไปได้สี่ห้าก้าวเธอก็หันมายิ้มหวานให้ผมแล้วใช้มือป้องปากตะโกน
คุณกวิน คุณคือคนที่ใช่สำหรับรินค่ะ ผมฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินดังนั้นพร้อมวิ่งเข้าไปสวมกอดเธอทันทีที่เธอพูดจบ ถ้าผมไม่เกรงใจชุดที่เธอสวมใส่อยู่ในขณะนี้ ผมจะทำโทษเธอฐานที่ทำให้หัวใจผมแทบสลาย แต่ตอนนี้มันผสานกันดีแล้วละครับ
ปล่อยรินเถอะค่ะ รินหายใจไม่ออกแล้ว ผมรีบกล่าวขอโทษและปล่อยเธอให้เป็นอิสระแต่คว้ามือเธอมากุมไว้แทน
ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสผม ผมยกมือเธอขึ้นมาจุมพิต ยิ้มสวยหลบตายิ้มอายๆ
ใครบอกว่ารินให้โอกาสคุณ รินให้โอกาสหัวใจตัวเองต่างหาก
ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องขอบคุณหัวใจคุณรินนะครับที่ทำให้ผมได้รับโอกาสนี้ด้วย รอยยิ้มบางๆจากเธอที่ส่งมาทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมมันจะพองจนคับอก ความสุขที่ผมได้รับตอนนี้มันแทบจะล้นทะลักออกมาถึงข้างนอก เพราะมันเยอะเหลือเกิน
ผมรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นคนที่โชคดีจริงๆ เพราะหลังจากที่ผมเรียนจบโทจากต่างประเทศมา ผมก็เข้าบริหารงานในกิจการส่งออกของครอบครัวด้วยวัยเพียงยี่สิบห้า จนบริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยๆและเป็นที่เชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และในตอนนี้เวลานี้ความโชคดีก็เกิดกับผมอีกครั้ง ต้นรักที่ผมเฝ้าเพียรรดน้ำถอนหญ้ามาตลอด มันได้งอกเงยขึ้นมาอย่างสวย
*******************
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ
จากคุณ :
หนึ่งเดียวในใจ
- [
20 เม.ย. 50 17:49:06
]