นิทานเหล่านี้เป็นเรื่องสมมุติแต่งขึ้นมั้ง อาจจะเกี่ยวข้องกับบุคคล สมาคม หรือรัฐบาลใด ๆ หากชื่อของตัวละครหรือสถานที่ จงใจไปพ้องกับผู้ใดผู้หนึ่ง หรือสถานที่ใดที่หนึ่ง ผู้เขียนก็ขอเผ่นไปจากที่นี้
วรรค ๑ พระราชบัญญัติค้าปลีกค้าส่งhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5293048/W5293048.html
วรรค ๒ พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5340760/W5340760.html
~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~
~:~ ฮวงจุ้ยต่ออายุ ~:~
ฝูงนกกระจาบบินมาถึงสุวรรณภูมิโลหะวิหคคามโดยสวัสดิภาพ พวกมันตื่นตาตื่นใจกับนกยักษ์หลายต่อหลายลำ ทั้งที่กำลังร่อนขึ้น ร่อนลง หรือจอดอยู่เฉย ๆ ในสนาม มีหลายตัวนึกอยากไปทำรังบนนกเหล็กเหล่านั้น ดีที่พ่อนกกระจาบบอกเตือนไว้ก่อน แล้วพาฝูงไปแสวงหาทำเลเหมาะบริเวณอาคารคลังสินค้า
มีนกกระจาบหลายตัวไม่ชอบใจในความคิดนั้น เพราะคลังเก็บสินค้าอยู่ห่างจากแหล่งอาหาร อันได้แก่พวกร้านค้าทั้งหลายในอาคารที่พักผู้โดยสารนั่นเอง พวกมันจึงแยกตัวออกไปจากฝูงโดยไม่บอกกล่าวพ่อนก
ลูกนกเห็นดังนั้นจึงบอกกับพ่อว่า
พ่อจ๋า พวกของเราไม่เชื่อฟังคำพ่อสักนิด กลับไปคลุกคลีอยู่ด้วยชุมนุมชน พวกเราไปเรียกพวกเขากลับมาดีกว่านะจ๊ะ
พ่อนกถอนหายใจ
ลูกเอ๋ย ในเมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟังพ่อแล้ว ต่อให้พ่อไปเรียกพวกเขากลับมา พวกเขาก็คงไม่กลับ หรือกลับก็คงกลับมาอย่างเสียมิได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับการเก็บเหล่าชนที่ว่ายากสอนยากเอาไว้เล่า
ลูกนกฟังแล้วก็นิ่งงัน เพราะเห็นจริงตามที่พ่อนกกล่าว
เอาอย่างนี้ดีกว่านะลูก ทิ้งความขุ่นข้องหมองใจไปเถอะ แล้วเล่าให้พ่อฟังดีกว่า ว่าระหว่างทางเห็นอะไรน่าสนใจบ้างหรือไม่
ลูกนกเห็นเป็นโอกาสจะได้ฟังนิทานจึงรีบเล่า
เห็นสิจ๊ะพ่อ ตอนที่ลูกบินผ่านวัดใกล้ ๆ นี้ เห็นหญิงชราผู้หนึ่งมีลูกหลานคอยประคองสองข้างแขน แล้วช่วยหญิงผู้นั้นเอาไม้ค้ำยันกิ่งต้นไทร
แล้วลูกรู้หรือไม่ว่าพวกเขากำลังทำอะไร
ลูกนกกระจาบส่ายหัวดิก
นั่นคือพิธีต่ออายุขัย ซึ่งมีต้นเรื่องอยู่เหมือนกัน
ต้นเรื่องอะไรหรือจ๊ะ
พ่อนกทำท่าครุ่นคิด อันที่จริงพ่อก็ชักเลือน ๆ แล้ว เพราะเคยได้ฟังเมื่อนานโข ว่าครั้งนั้นมีสามเณรรูปหนึ่ง ได้รับการทำนายทายทักจากพระครูผู้ทรงวิทยาคมว่าจะเสียชีวิตในเร็ว ๆ นั้นล่ะ
แล้วเณรท่านทำยังไงจ๊ะ
ก็ขอลาพระครูกลับบ้าน เพื่อล่ำลาญาติพี่น้อง บังเอิญระหว่างทาง เห็นต้นไทรกิ่งยาว ๆ เอนไปเอนมาเหมือนจะหักลงพื้น จึงหาไม้สามง่ามแถว ๆ นั้นมาค้ำไว้เพื่อป้องกันกิ่งหัก หลังจากนั้นก็กลับบ้านเกิดตามความตั้งใจเดิม
แต่อยู่ไปอยู่มา หนึ่งอาทิตย์ก็แล้ว หนึ่งเดือนก็แล้ว จนจะครบสามเดือน เณรก็ยังไม่เป็นอะไร จึงกลับไปถามพระครูว่าเกิดอะไรขึ้น
พระครูเห็นก็ร้องทักว่าเณรมีเทวดาคุ้มครอง เณรอัศจรรย์ใจมากจึงแจ้งเรื่องราวให้พระครูฟังอย่างละเอียดถี่ถ้วน พระครูฟังแล้วก็บอกว่า การเอาไม้ไปค้ำกิ่งไทร คือการช่วยรักษาวิมานให้รุกขเทวา เทวดาจึงตอบแทนให้ด้วยการปกปักษ์รักษา ป้องกันเภทภัยทั้งหลายมิให้เข้ามาทำอันตรายได้ เรื่องก็เป็นฉะนี้ และกลายเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมา
อ้าว.. ลูกนกอุทานเมื่อฟังเรื่องจบ อย่างนั้นใครอยากอายุยืนสักหมื่นปีก็ไปค้ำต้นไม้สักหมื่นต้นก็ได้สิจ๊ะ
ฮ่าๆๆๆ พ่อนกหัวเราะอย่างชอบใจ ถ้ามันได้ผลจริง คงไม่มีคนตายแล้วล่ะลูก
หนูเคยได้ยินอีกเรื่องหนึ่ง ลูกนกโยงเข้าหาประเด็นใหม่ ว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลนี้ทำการจัดฮวงจุ้ยของทำเนียบฯเพื่อต่ออายุรัฐบาล นี่มันเกี่ยวกะเรื่องไม้ค้งไม้ค้ำอะไรหรือเปล่าจ๊ะ
จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไปลูก พ่อยังไม่อยากเข้าไปอยู่ในคุกเพราะวิพากษ์วิจารณ์ท่านนายกฯสักเท่าไหร่
โธ่พ่ออ่า... ลูกนกทำเสียงกระเง้ากระงอด
พ่อนกลำบากใจ แต่ก็ไม่อยากให้ลูกผิดหวัง จึงเพ่งกสิณเข้าฌานเพื่อระลึกอดีตชาติอยู่ครู่หนึ่ง
เอาเช่นนี้ดีกว่า พ่อจะเล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกาลให้ลูกฟังแทนก็แล้วกัน
แล้วพ่อนกก็สาธกนิทานที่เขาอ้างว่าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาอีกเรื่อง
ครั้งนั้น พระเจ้าเหาที่ยี่สิบหกครองกรุงสารขัณฑ์ ในกรุงนั้นมีฤษีผู้ตั้งตนเป็นจ้าลัทธิใหญ่อยู่สองตน ตนหนึ่งนามว่าฤษีเต่า อีกตนนามว่าฤษีตุ่น
ฤษีสองตนนี้ไม่ใคร่จะกินเส้นกันนัก ต่างฝ่ายต่างก็ช่วงชิงความเป็นใหญ่ในกรุงสารขัณฑ์ด้วยสารพันวิธีการ ทั้งลูกศิษย์ลูกหา เหล่าบริวารเต่าตุ่นก็มีเรื่องระหองระแหงกันอยู่เรื่อย ร้อนถึงพระเจ้าเหาซึ่งดำริว่าปล่อยไว้เช่นนี้ไม่ได้การล่ะ อาจจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ จึงเรียกฤษีทั้งสองตนเข้ามาพบภายในพระราชวัง
ฤษีเต่าและฤษีตุ่นเมื่อมาปะหน้ากันในวังแล้วก็ส่งสายตาพิฆาตใส่กันไปใส่กันมา ฤษีตุ่นเริ่มที่ลูกหยอด
ไงท่านฤษีเลี้ยงเต่า ได้ข่าวว่างานของท่านไม่คืบหน้าเลยนี่ ท่านนี่หนังหน้าหนาจริง ๆ เนาะ ขนาดชาวบ้านชาวเมืองเขาโห่ไล่ทุกวันยังทนอยู่ในเมืองนี้ได้อีก
ฤษีเต่ากัดฟันกรอด
ภารกิจของข้าเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอย่ามาวิจารณ์ดีกว่า ดูตัวเจ้าเองเถอะ ฤษีเหลี่ยมหัวหน้าเก่าของเจ้าโกงกินชาติบ้านเมืองไปตั้งเท่าไหร่ เจ้ายังหน้าด้านหน้าทนไม่ยุบลัทธิไปเสียให้พ้นหูพ้นตาอีก
ฤษีตุ่นลุกผางจากอาสนะอันราชาจัดไว้ให้
ท่านฤษีเหลี่ยมไม่ผิดเสียหน่อย พวกเจ้าต่างหากที่ใส่ความท่าน ซ้ำยังขับไล่ท่านออกนอกประเทศ
พระเจ้าเหารีบลุกขึ้นห้ามศึก ก่อนที่ไส้กี่ขด ๆ ของฤษีทั้งสองจะถูกสาวมากองเต็มวัง
โปรดเถิด พวกท่านทั้งสอง เวลานี้ประเทศชาติต้องการความสมานฉันท์นะท่าน ที่ข้าเรียกพวกท่านมาก็เพื่อจะช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้ มิใช่ให้พวกท่านมาทะเลาะกัน ณ ที่นี้อีก
ให้ข้าสมานฉันท์กับอ้ายฤษีตุ่นมุดดินนี่ ข้าตายเสียยังดีกว่า
ดี..ตายไปเลย ข้าจะได้สบายใจเมื่อไม่เห็นหน้าเจ้า ฮ่า ๆๆๆ ฤษีตุ่นย้อนเกล็ดเข้าให้
หนอย..เจ้า!
พอกันที!! พระเจ้าเหาแผดสีหนาท ถ้าพวกท่านยังขืนไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา ข้าจะให้พวกทหารมาลากคอพวกท่านไปประหารให้หมด
เจอคำขู่เข้าไป สองฤษีถึงกับหัวหด
ถ้าพวกท่านต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมใคร ดีล่ะ ข้าจะจัดการแข่งขันเพื่อให้พวกท่านได้ช่วงชิงความเป็นหนึ่งอย่างถูกทำนองคลองธรรม
ทั้งคู่มองพระราชาอย่างฉงนว่าพระองค์ตรัสถึงอะไร
ข้าจะจัดการเลือกตั้ง พระเจ้าเหาประกาศ ดูซิว่าพวกท่านทั้งสองใครจะได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากัน
แต่มหาบพิตร รัฐธรรมนูญยังร่างมิเสร็จสิ้นเลยนะ
ใครสนรัฐธรรมนูญกัน จอมไอศวรรย์ประกาศกร้าว ข้าพอใจอยากจัดข้าก็จัด พวกท่านมีอะไรจะคัดค้านไหม?
ไม่มี.. ทั้งคู่ตอบพร้อมกันราวกับนัดกันไว้ ใครกล้าค้านพระราชายามพิโรธก็บ้าแล้ว
จากคุณ :
Innocent&Pure
- [
23 เม.ย. 50 15:01:22
]