โดยจักกล่าวบทมา
ถึงเวลา เนิ่นนานวัน พลันประจักษ์
ก็คงราว ร่วมสิบปี ก่อนนี้นัก
แต่ตระหนัก รํ ฦกอยู่ มิรู้เลือน
ครั้งนั้น ครูอนรรจ เพิ่งหัดปี่พาทย์
ทั้งระนาด ทั้งปี่ใน ใครมิเหมือน
พราวลูกเล่น แสนพริ้งพราย กรายดวงเดือน
ดุจบุหลัน ลอยเลื่อน นภาเนาว์
ครั้น...คราหนึ่ง รับงานตี ปี่พาทย์ให้
กับคณะ ละครใน แสดงอิเหนา
ศึกกะหมังกุหนิง ยิ่งใช้เชาวน์
ด้วยหน้าพาทย์ ของเก่า เร้าวิญญาณ์
เชิดต่อตัว รำกฤช พิชิตศึก
งามพิลึก ตัวละคร กรายกรสง่า
ต้องเดี่ยวปี่ ที่แสนยาก มากคณนา
ให้รำกับ สังคามาระตา หมันหยาไซร้
*"...สุดแต่ ดวงจิต พิศวาส
ก็นับเปน วงศ์ญาติ กันได้..." *
สังคา มาระตา เจรจาไว้
วิหยาสะกำ ช้ำหัวใจ แลโกรธเคือง
แล้ว...ท้าวกะหมัง กุหนิง ต้องทิ้งชีวิต
วิหยาสะกำ ปลิวปลิด ชีพโดยเนื่อง
สังคา มาระตา เจ้าหัวเมือง
องอาจเขื่อง ช่วยพิชิต ปลิดศัตรู
นายอนรรจ เก็บเครื่องมือ ถือแต่ไม้
บัดดลใจ มีสาวน้อย มาคอยอยู่
นั่น...สังคา มาระตา นัยน์ตาตรู
แล้วมาอยู่ แถวนี้ได้ อย่างไรกัน
พี่เดียวปี่ ในปี่พาทย์ องอาจยิ่ง
สะระหม่า ไพเราะจริง งามดังฝัน
ช่างคล้องจอง กับท่ารำ นำ ตาม กัน
คือดิฉัน ใคร่จักมอบ คำขอบคุณ
คงจักได้ พบกันใหม่ ในครั้งหน้า
ถ้าเวลา แลโอกาส อาจเกื้อหนุน
ดิฉันลา พี่คนเก่ง เกรงใจคุณ
ยิ้มละมุน จำไว้นิด...หนู...กฤติกา...
*พระราชนิพนธ์ อิเหนา
ตอน ศึก กะหมังกุหนิง *
แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 50 13:03:10
จากคุณ :
พจนารถ๓๒๒
- [
26 เม.ย. 50 21:38:46
]