ตอนที่ 1 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W3929606/W3929606.html
ตอนที่ 2 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W3953316/W3953316.html
ตอนที่ 3 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/01/W4002544/W4002544.html
ตอนที่ 4 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4093854/W4093854.html
ตอนที่ 5 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/04/W4292042/W4292042.html
ตอนที่ 6 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/05/W4415906/W4415906.html
ตอนที่ 7 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/07/W4526916/W4526916.html
ตอนที่ 8 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/08/W4646194/W4646194.html
ตอนที่ 9 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/11/W4841829/W4841829.html
============
ตอนที่ 10
เสียงพื้นไม้สักไหวและสั่นสะเทือนจากแรงฝีเท้าที่ไม่ใช่แค่การเดินตามปกติ แต่น่าจะเป็นการวิ่งมากกว่า
รวิวารวิ่งมาหยุดหน้าห้องทำงานของผู้จัดการไร่ตะเกียงไพร ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไปในห้องพบสายตาของผู้จัดการหนุ่มกำลังคอยเธออยู่ก่อนแล้ว
พื้นไม้นะครับ ไม่ใช่ตึก เจ้าของห้องอดดุหลานสาวเจ้าของไร่ไม่ได้ ก่อนที่จะละสายตาจากร่างเล็กกลับมามองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ ด้านข้างมีกระดาษวางอยู่หลายแผ่น ได้ยินเสียงเครื่องพิมพ์กำลังทำงาน
รู้แล้วน่า
แค่นี้ไม่พังหรอก เด็กสาวพูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลางเดินมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะทำงานของผู้จัดการไร่
งานยุ่งอยู่เหรอ พลางยื่นหน้ามามองหน้าจอคอมพิวเตอร์
นิดหน่อยครับ ผมกำลังออกบิลส่งผักวันพรุ่งนี้อยู่ครับ ระบิลพูดโดยไม่ได้หันมามองคนถาม สายตามุ่งมั่นคู่นั้นจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่ง ปลายนิ้วมือขยับไปมาบนแป้นคีบอร์ดราวกับนกบินกระนั้น
มีอะไรรึเปล่าครับ
ก็
ไม่มีอะไรหรอก นายงานยุ่งอยู่หนิ ทำงานต่อเถอะ ฉันไปคนเดียวได้ หลานสาวเจ้าของไร่ถอดใจ ไม่กล้ารบกวนผู้จัดการหนุ่ม งานต้องมาก่อนเสมอ ธุระของเธอไม่สำคัญอะไรมากมาย เธอไม่ใช่นางเอกที่ต้องคอยมีพระเอกเดินไปไหนด้วยตลอดเวลาซะหน่อย ตัดสินใจหันหลังเดินกลับออกจากห้อง
จะไปไหนครับ ระบิลละสายตาจากคอมพิวเตอร์มองไปที่หลานสาวเจ้าของไร่ทันที
เด็กสาวหันกลับมา ทำหน้ายียวนกวนบาทา
ไม่บอก!! ก่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วรีบหันหลังเดินออกจากห้อง
เดี๋ยวครับ เสียงนั้นเข้มขึ้นมาทันที และไม่ใช่แค่พูดเท่านั้น ผู้จัดการหนุ่มรีบลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน ก้าวเร็ว ๆ ไปหาร่างเล็กที่กำลังจะเดินออกจากห้อง
ไม่ไปไหนไกลหรอกน่า
ในไร่ตะเกียงไพรนี่แหละ เธอหันมาตอบ แปลกใจที่ร่างสูงของผู้จัดการไร่มาหยุดอยู่ข้างหลัง แทนที่จะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเหมือนเมื่อครู่
ไปนะ พลางหันหลังเดินไป
ชายหนุ่มคว้าแขนสาวน้อยไว้
ไร่ตะเกียงไพรไม่ใช่เล็ก ๆ นะครับ บอกมาครับจะไปไหน น้ำเสียงเขาเครียดขึ้นมาทันที
นี่เขาไม่อยากจะเล่นซ่อนหากับเธอหรอกนะ!!
ทำไม
เป็นห่วงหรอ เด็กสาวลอยหน้าลอยตาย้อนถาม
คำถามนั้นทำเอาผู้จัดการไร่นิ่งอึ้ง คำถามนี้คุ้น ๆ แฮะ มุกใครเนี่ย
นี่เธอเอาคืนหรือไง
ครับ ผู้จัดการไร่ยอมรับหน้าตาเฉย
ง่ะ!
เล่นเอาคนแกล้งถามเป็นงง ไม่คิดว่าเขาจะยอมรับอะไรตรง ๆ ง่ายดายแบบนี้
ผมเป็นห่วงคุณ แล้วพูดย้ำอีกครั้งอย่างเต็มประโยค
เฮ้ย!!
คุณหนูตะเกียงยืนนิ่งงันราวกับถูกมนต์สะกด หัวใจแทบหยุดเต้น เขาพูดแบบนี้เป็นด้วยหรอ เธอฝันไปรึเปล่าเนี่ย
??
สายตาทั้งคู่ประสานกันนิ่งเหมือนพยายามอ่านรู้ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม
ทำตามหน้าที่อีกล่ะสิ! หลานสาวเจ้าของไร่รีบทำลายความเงียบงันขึ้นก่อน แกล้งพูดแก้เก้อ พยายามไม่หวั่นไหวต่อคำพูดของชายหนุ่ม
ถึงผมไม่มีหน้าที่ดูแลคุณ ผมก็เป็นห่วงคุณ
เง้ย
.!!
คำพูดนั้นทำให้เธอต้องอึ้งเป็นรอบที่สอง ทำไมหัวใจมันแปล๊บ ๆ อีกแล้ว
ตามฐานะของเพื่อนมนุษย์ที่ควรห่วงกันล่ะสิ! ขอบใจมาก ๆ น้า
. เด็กสาวฉีกยิ้มกว้าง หาเรื่องเฉไฉกลบเกลื่อนแก้เขินไปจนได้
ฉันจะไปที่เรือนเพาะชำ ใกล้ ๆ นี่เอง คุณหนูตะเกียงรีบพูดต่อทันที ที่สำคัญไม่อยากให้เขายืนจ้องหน้าแบบนี้ สายตานิ่งงันคู่นั้นของเขาที่มองตรงมาทำให้เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูก
ฉันไปได้รึยัง
. เด็กสาวถามพลางมองมือของผู้จัดการไร่ที่ยังรั้งข้อมือเธอไว้อยู่
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย ราวกับสติสตังค์เพิ่งกลับคืนมา เพราะโดยนิสัยเขาไม่เคยล่วงเกินผู้หญิงโดยไม่จำเป็น
ครับ แล้วรีบปล่อยมือเด็กสาว
หลานสาวเจ้าของไร่รีบหันหลังให้ ก่อนที่เขาจะเห็นใบหน้าแดงจัดเป็นมะเขือเทศ รีบเดินเร็ว ๆ ไปจากตรงนั้นทันทีพร้อมกับอมยิ้มอย่างเขินอายสุดขีด
ระบิลเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานด้วยรอยยิ้ม
อายตัวเองเป็นบ้า!!
นี่เขาลืมตัวพูดอะไรออกไปเนี่ย
??
บอกตัวเองไม่ถูกเลย ว่าทำไมถึงรู้สึกหวั่นไหวกับเธอขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้สึกสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน แม้จะมีสาวสวยหลายคนที่ออกตัวแสดงตนให้ความสนใจเขามากมายแค่ไหนก็ตาม
===============
คุณหนูตะเกียงค่อย ๆ ยกบัวรดน้ำ รดต้นไม้เล็ก ๆ อย่างเบามือ ด้วยความทะนุถนอม เฝ้ามองดูต้นไม้เล็ก ๆ ของเธอมีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างอย่างเอาใจใส่ รดน้ำเสร็จ หยิบสมุดเล็ก ๆ ออกจากกระเป๋าเสื้อ จดบันทึกความเปลี่ยนแปลงของพืชสีเขียวอ่อนตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจะหยิบไม้บันทัดอันเล็กมาวัดความสูงของต้นกระจิ๋วหลิวตรงหน้า บนใบหน้าเธอแต้มรอยยิ้มบาง ๆ อย่างมีความสุขกับสิ่งที่กำลังทำ
ภาพสาวน้อยสาละวนอยู่กับต้นไม้เล็ก ๆ ทำให้ผู้จัดการไร่ตะเกียงไพรเดินมาหยุดอยู่หน้าเรือนเพาะชำอยู่นานแล้ว อดยืนมองเธออย่างชื่นชมไม่ได้ แค่ได้แอบมองเธอก็มีความสุขแล้ว
ดอกแคแอบมองผู้จัดการไร่มายืนอมยิ้มอยู่นานกว่าสิบนาที ไม่เคยเห็นเจ้านายแอบมองผู้หญิงคนไหนอย่างมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย อดอิจฉาคุณหนูตะเกียงไม่ได้ ใจหนึ่งคิดว่าเธอควรจะไปจากตรงนี้ ปล่อยให้นายอันเป็นที่รักของเธอมีความสุขที่ได้มองคุณหนูตะเกียงต่อไป แต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้เหลือเกินว่า ถ้าเข้าไปทักนายตอนนี้ นายจะตีสีหน้ายังไงน้อ
จะแก้ตัวว่าไงน้า
นายคะ!
ระบิลสะดุ้งสุดตัว หันขวับมาที่ต้นเสียง สีหน้าเผือดลงไปทันทีอย่างตกใจ
ทำอะไรอยู่คะ นาย ดอกแคยิงคำถามต่ออย่างรวดเร็วไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัวทัน
คนถูกถามนิ่งอึ้ง ตีสีหน้าไม่ถูก
..!!!
นายมองอะไรอยู่ แอบมองคุณหนูตะเกียงอยู่หรือคะ อีกฝ่ายนิ่งอึ้งราวกับหุ่นขี้ผึ้ง เห็นสีหน้าของเจ้านายตอนนี้แล้วอดขำไม่ได้ เวลาหลุดฟอร์มน่ารักไปอีกแบบ สำหรับเธอไม่ว่าเขาจะอยู่ในอารมณ์ไหน เขาก็ดูดีเสมอในสายตาเธอ
ปะ..เปล่า
เสียงชายหนุ่มตะกุกตะกัก
เปล่าอะไรกันคะ เห็นมายืนมองอยู่นานแล้วค่ะ สิบกว่านาทีแล้วนะคะ ดอกแครีบต้อนเจ้านายให้จนมุม เป็นครั้งแรกที่เห็นเจ้านายของเธอพูดอะไรติด ๆ ขัด ๆ ปกติเขาจะสั่งด้วยถ้อยคำที่หนักแน่น เด็ดขาด ไม่มีลังเลเสมอ
เอ่อ
.คือ
.
ชายหนุ่มอึกอัก ยังไม่ทันแก้ตัวอะไร อีกฝ่ายก็ยิงคำถามตามมาอีก
นายชอบคุณหนูตะเกียงหรือคะ
คำถามนั้นทำให้ผู้จัดการไร่แทบสะอึก!! ถามอะไรตรง ๆ แบบนี้เนี่ย
ขนาดเขายังไม่เคยถามตัวเองด้วยซ้ำ แต่ก็ตอบเด็กสาวใต้บังคับบัญชาสั้น ๆ เพียงคำเดียว
ครับ ผู้จัดการหนุ่มรับคำเอาง่าย ๆ
หัวใจของคนที่ยืนฟังคำตอบของผู้จัดการไร่รู้สึกแปล๊บขึ้นมายังไงไม่รู้ เหมือนหัวใจจะหล่นวูบหายไป แม้จะพอเดาคำตอบไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
ความชอบมีตั้งหลายแบบ สำหรับคุณตะเกียงผมชอบที่เธอมีความอดทน มีความมุมานะในการทำงานอย่างไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ครับ พวกเราหลายคนก็ชอบเธอจริงไหม
ดอกแคอดยิ้มกับคำแก้ตัวต่อมาของผู้จัดการไร่ ร้ายกาจจริง ๆ
ผมก็ชอบดอกแค เพราะดอกแคเป็นเด็กเรียบร้อย ทำงานดี มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะให้งานอะไร ผมมั่นใจว่า ดอกแคจะทำได้ดีเสมอ
คำชมของเขาเล่นเอาหัวใจของสาวน้อยพองโตขึ้นมาทันที แม้จะรู้ดีว่า เป็นคำชมที่ไม่มีความหมายพิเศษอย่างคุณหนูตะเกียงก็ตาม
ว่าแต่ดอกแค อาการป่วยเป็นไงบ้าง ทำไมถึงออกมาเดินคนเดียวซะไกลขนาดนี้ ชายหนุ่มรีบตัดบทเฉไฉถามเรื่องอาการป่วยของเธอก่อนที่จะถูกเด็กสาวซักไซ้ไปมากกว่านี้
ดอกแคยิ้มบาง ๆ เป็นการขอบคุณความห่วงใยจากเจ้านาย
ดีขึ้นแล้วค่ะ ยังเพลีย ๆ อยู่นิดหน่อย เบื่อ ๆ นอนมาหลายวัน เลยออกมาเดินเล่นบ้างค่ะ
ใจจริง เธออยากเห็นหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้ต่างหาก แค่ได้เห็นหน้าเขาก็พอใจแล้ว สำหรับเธอ
สีหน้าดอกแคไม่ค่อยดีนะ เขาเพิ่งสังเกตเห็นใบหน้าเด็กสาวยังซีดเซียวอยู่
สาวน้อยมองเจ้านายด้วยแววตาแสนขอบคุณในความห่วงใย ความต้องการลึก ๆ ของหัวใจที่ฝังอยู่ใต้จิตสำนึกบวกกับความอ่อนล้าของร่างกาย ทำให้อยู่ ๆ ร่างเล็กนั้นทรุดตัวหมดแรงกำลังลงไปเฉย ๆ
ดอกแค!!!
ผู้จัดการไร่รีบเข้าไปประคองร่างคนป่วยไว้ในอ้อมแขน
สาวน้อยยังรู้สึกตัวอยู่ แต่ไม่สามารถบังคับทรงตัวเองไว้ได้ รับรู้ถึงอ้อมแขนอันแข็งแรงที่โอบประคองร่างของเธอเอาไว้ สัมผัสถึงไออุ่นจากตัวชายหนุ่ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และเป็นสุข เธอฝันใฝ่ถึงสิ่งนี้มานาน ที่คงเป็นแค่เพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้นเอง
คุณหนูตะเกียงหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงใครคุยกันอยู่ด้านนอก พลางเดินไปดู ภาพที่เห็นคือ ผู้จัดการไร่กำลังกอดดอกแคไว้
ปากกากับสมุดเล็ก ๆ ที่ถืออยู่ในมือหลุดร่วงหล่นลงกับพื้น!!
แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 50 00:40:12
แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 50 00:36:18
จากคุณ :
ริเศรษฐ์
- [
27 เม.ย. 50 00:09:14
]