เช้าอันเป็นปกติของฉันมีอันต้องเปลี่ยนไปในวันหนึ่ง เมื่อวันที่ฉันได้พบกับเขาโดยบังเอิญย้อนไปก่อนหน้านี้ 2 วัน..
พนักงานออฟฟิตหญิงตัวเล็กๆ อย่างฉัน ก็เหมือนทั่วไปต้องตื่นแต่เช้าเพื่อต้องไปทำงานให้ทันเวลาตามปกติทุกวัน ฉันหลีกเลี่ยงการจราจรบนท้องถนนด้วยการโดยสารเรือคลองแสนแสบกับเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเราพักที่คอนโดมิเนียมที่เดียวกันย่านบางกะปิ เราจะมาลงเรือด้วยกันเกือบทุกวันที่ท่าเรือเดอะมอลล์บางกะปินั่นเอง เธอชื่อส้ม ส่วนฉัน อ้อย...
วันนี้ก็เช่นเคยฉันมารอส้มอยู่ที่หน้าคอนโดฯ ส้มเป็นพนักงานศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือที่เซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนฉันก็อยู่กับออฟฟิตบริษัททัวร์ที่นั่นเช่นกัน ส้มเดินออกจากลิฟท์มาแล้วเธอมาในชุดฟอร์มที่เห็นจนชินตาทุกวัน
"ช้าจริงนะหล่อน จะแต่งตัวนานอะไรนักหนายะ" ฉันทักเพื่อน
"แหม!..ไม่ได้สิคนโสดอย่างฉันต้องให้ดูดีหน่อย ไม่เหมือนเธอนี่ มีพี่รุทอยู่ด้วยแล้วนี่" ส้มย้อน
"ไม่เกี่ยวเลยส้ม ถึงมีพี่รุทหรือไม่มีฉันก็แต่งตัวไม่นานเหมือนเธอหรอกย่ะ" ฉันพูดกับเพื่อนพร้อมออกเดินจากหน้าคอนโดไปพร้อมกับเธอ เราเดินตัดผ่านห้างเดอะมอลล์มาทางด้านหลังไปยังท่าเรือ
"เฮ้ยอ้อย!..วันนี้ที่นี่มันมิดไนท์เซลล์นี่หว่า เลิกงานมาดูของกันมั้ย" ส้มชักชวนระหว่างที่กำลังเดินผ่านเดอะมอลล์ และเธอคงเหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาประกาศ
"เหรอ เออ ดีซิ..แล้วเอาไงล่ะฉันเลิกงานก่อนแก ให้ฉันรอแกที่นู่นหรือว่ามารอแกที่นี่เลย"
"เออ แกรอฉันที่นู่นแล้วกันอ้อยแล้วค่อยมานี่พร้อมกัน" ส้มบอกฉัน
"เออ ได้" ฉันรับคำเพื่อน และเราก็เดินคุยกันเรื่อยเปื่อยจนมาถึงท่าเรือ ที่ท่าเรือคนรอเรือกันค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเช้า ช่วงเวลาที่รีบเร่งของหลายคน บางคนไม่กล้าที่จะโดยสารเรือเพราะหลายๆ เหตุผล บ้างก็รังเกียจน้ำคลองแสนแสบแสนคันแห่งนี้ บ้างก็ว่าเรือวิ่งน่ากลัว บ้างก็ว่ายน้ำไม่เป็น แต่สำหรับฉันแล้วก็เหมือนอีกหลายๆ คนที่ในตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อได้โดยสารเรือนี่เป็นประจำแล้วความสะดวก เร็วไม่มีการติดเหมือนรถ ก็ทดแทนทุกอย่างให้ความรู้สึกกังวลเรื่องน่ากลัวเหล่านั้นหมดไป ในช่วงเช้าเช่นนี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานกันส่วนมากและนักเรียนนักศึกษาบ้าง แออัดบ้างแย่งกันลงบ้างแต่ทุกคนก็รู้จังหวะดี จะมีบ้างที่นานๆ ครั้งจะพลาดทำรองเท้าหล่นบ้างหรืออย่างร้ายแรงก็ตกน้ำไปเลย แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าได้รับอันตรายกันแต่อย่างใดนอกจากเปียก! และอาย!
ในระหว่างที่รอเรือจะมาเทียบนั้นฉันมักจะยืนหลังส้ม เพราะจะได้คอยตามลงไปให้ได้นั่งแถวเดียวกัน เรือจะมีที่นั่งเป็นไม้ในลักษณะพาดขวางกลางเรือเป็นแถว
ๆ และมีที่ให้ยืนบริเวณห้องเครื่องตรงกลางลำเรือ ซึ่งถ้าที่นั่งเต็มก็ต้องไปยืนอัดแน่นกันตรงนั้น ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้ด้วย เป็นประจำที่ต้องไปเบียดเสียดกันตรงนั้น
ฉันหันไปดูวี่แววของเรือที่จะมา แล้วสายตาฉันก็ไปพบกับใครคนหนึ่ง ชายผิวขาวสูงพอสมควร หน้าตาหล่อเชียว เขาเหมือนดาราคนหนึ่ง คนที่ฉันชอบมากซะด้วย เขาใส่แว่นตาดำ เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสบาย ๆ ฉันรีบสะกิดเพื่อนสาวแล้วบุ้ยหน้าไปทางผู้ชายคนนั้น เขายืนอยู่หลังผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ผมยาวสวยหุ่นดีไม่แน่ใจว่ามาด้วยกันหรือป่าว เขาหันมาเห็นเราสองคนมองอยู่ เขาเลยหลบสายตาไปทางอื่น เรือก็มาพอดี คนเริ่มขยับไปที่ริมท่า เรือเทียบท่า กระเป๋าเรือกระโดดมาเอาเชือกพันไว้กับหลักที่ท่าเรืออย่างแข็งขัน คนทยอยลงเรือตามปกติ ส้มเดินเบียดเฉียงไปทางที่ว่างด้านหน้าซึ่งบังเอิญมีที่นั่ง ฉันจำต้องรีบเดินตามให้ทันก่อนที่จะเสียตำแหน่งว่างไป แต่ยังไม่ลืมที่จะหันไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง เขาก้าวลงไปยืนตามผู้หญิงผมยาวคนนั้น เขาเองก็เหลือบมองมาทางฉัน! แต่ฉันต้องหลบตามาเพื่อลงนั่งตรงที่ว่าง
ข้าง ๆ ส้ม เรือออกจากท่า ฉันหันไปมองด้านหลังบริเวณห้องเครื่องคนยืนกันเต็มไปหมดไม่เห็นเขาซะแล้ว ตอนนั้นฉันแอบปลื้มใจเล็กๆ ที่เขาเองก็เหลียวมามองฉัน ฉันคงปิ๊งเขาเข้าบ้างแล้ว
เรือแล่นมาถึงประตูน้ำ ฉันตั้งใจไว้ระหว่างทางว่าจะต้องดักแอบมองเขาอีกครั้ง เพราะอาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ได้แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรไปไกล ขอแค่ได้เห็นหนุ่มหล่อถูกใจให้ชื่นใจตามประสา อย่าคิดว่ามีแต่คุณผู้ชายนะที่ชอบมองสาวๆ สวยๆ ผู้หญิงก็ชอบมองผู้ชายหล่อๆ ถูกใจเหมือนกัน ฉันก้าวขึ้นท่าออกจากเรือ หยุดรอดู ส้มเห็นคงพอรู้ใจฉันเลยไม่ได้ดึงฉันให้รีบเดินไป จริงๆ แล้วการยืนอยู่ที่ท่าเรือ ประตูน้ำช่วงที่เรือเพิ่งเทียบท่า ช่างทุลักทุเลเพราะคนจะรีบเดินกันเยอะมาก... ไม่พบเขา..ฉันยืนจนคนบนท่าเดินไปหมด เขาคงขึ้นท่าอื่นไปก่อนหน้านี้ วันนั้นก็ผ่านไปกับความประทับใจเล็ก ๆ
อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้.. เช้าวันใหม่อีกวัน ก็เหมือนเคยฉันมาที่ท่าเรือพร้อมส้ม เราคุยกันเบาๆ ด้วยเรื่องทั่วไปขณะที่รออยู่ตรงนั้น จู่ๆ ส้มใช้ศอกกระทุ้งเบา ๆ ที่ข้างลำตัวฉันเหมือนมีอะไรจะบอก ฉันมองหน้าเธอ เธอส่งสายตาเป็นนัยให้มองไปด้านหลัง ฉันเหลียวไปมอง แทบไม่เชื่อสายตา เขาผู้ชายคนเมื่อวาน ฉันหันหน้ากลับอย่างเร็ว แอบยิ้มกับส้ม เขาคงตั้งใจมายืน ตอนที่ฉันเหลือบไปมองเขาทำหน้าเรียบเฉย ฉันเหลือบไปมองเขาอีกครั้ง เห็นสายตาเขามองไปทางอื่นผ่านแว่นตาดำเพราะเรายืนใกล้กันเหลือเกิน ฉันหันกลับมองหน้าเพื่อนของฉัน ส้มปิดปากหัวเราะคิกคักเบา ๆ คนเดียว ส่วนฉันนะเหรอ ได้แต่ยืนหน้าแดง อยากกรี๊ดดังๆ
เรือมาแล้วตอนนี้ฉันต้องไม่สนใจเขาชั่วคราวมีสมาธิอยู่ที่เท้าที่จะก้าวลงเรือ ก้าวลงตามหลังเพื่อนสาวของฉันลงเรือ คนแน่นมากต้องได้ยืนที่ห้องเครื่องซะแล้ววันนี้ ฉันกับส้มเบียดไปยืนด้วยกันส้มยืนอยู่หน้าฉัน เราต้องจับเชือก ที่ขึงไว้ยาวตามลำเรือ ในขณะที่ยืนได้ที่แล้ว แขนหนึ่งที่จับเชือกอยู่เช่นกันนั้นแนบมาที่บริเวณหัวไหล่ฉัน ฉันหันไปมอง เขานั่นเอง! เขายืนชิดกับฉันจากด้านหลัง เรือแล่นไป คนเบียดเสียดกัน แขนเขาไหล่ฉัน ความรู้สึกฉันไปที่ไหล่รับสัมผัสแผ่วเบาจากต้นแขนเขาซึ่งอาจเป็นได้ว่าเข้าไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ก็เหมือนเขาจะขยับให้มันมาแนบชิด นี่ฉันกำลังรู้สึกอะไร! นอกใจพี่รุท! ไม่..มันคงไม่ร้ายแรงขนาดนั้น แค่ความรู้สึกตอนนี้ ตามใจตัวเอง ไม่เสียหาย.. ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหาย..ฉันนึกในใจ
เรือชะลอรับคนที่ท่าวัดกลางเป็นท่าที่ต่อจากท่าเดอะมอลเมื่อครู่ เราเบียดชิดกันมากขึ้นรู้สึกว่าตัวเขาแนบอิงฉันจากด้านหลังเรือเคลื่อนออก ฉันปล่อยให้แรงส่งจากเรือเบียดตัวเขาโดยธรรมชาติจากแรงเรือ แหมมารยาหญิงนิดหน่อย.. หลังฉันแนบที่อกเขา แขนที่เขาจับเชือกต้นแขนนั้นยิ่งแนบชิดหัวไหล่ หัวของฉันแทบจะพิงแขนเขา ความรู้สึกของฉันประหนึ่งได้ถูกเขาโอบกอดจากด้านหลัง ฉันปล่อยให้ความรู้สึกแห่งสัมผัสไหลผ่านไปยังเขาตอนนี้เขารู้สึกยังไงบ้างนะ ฉันพยายามยืนนิ่ง เรือเคลื่อนไป แน่นอนการโคลงเคลงของเรือทำให้เรา..เอ๊ะ หรือฉันคนเดียว..รู้สึกเปรียบดังได้เต้นรำแอบอิงไออุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ในความรู้สึก เรือมาถึงแถวหน้ารามคนลงมาเยอะกว่าเดิมทุกคนต่างคนต่างเบียดกันแน่นมากขึ้น ไม่มีใครเกรงใจหรือต่อว่า เพราะเป็นสภาพธรรมดาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน แต่ฉันรู้สึกมีเพียงเรา ถึงตอนนี้ฉันสัมผัสได้ถึงมือหนึ่งของเขา เหมือนอยู่ที่เอวช่วงสะโพกของฉันเขาคงแสร้งทำเป็นโดนเพียงสัมผัสแผ่วเบา รสสัมผัสแห่งการรู้สึกและรับรู้ช่างแสนวิเศษ ลมที่โชยพัดเพราะการเคลื่อนที่ของเรือพัดเอาผมของฉันไปกระทบเบา ๆ คงเป็นที่ใบหน้าเขา ทำให้รู้สึกได้ว่าเราอยู่ใกล้กันเหลือเกิน ยามเรือจอดท่า ฉันรู้สึกได้ถึง ลมหายใจเขาที่รดข้างหูมาจนถึงต้นคอของฉันเคลิบเคลิ้มน่าหลงไหลไม่น้อย ยิ่งขนลุกตื่นเต้นเมื่อรู้สึกได้ว่าเขาหายใจแรงขึ้นประหนึ่งพยายามสูดอากาศดอม ดมกลิ่นผม กลิ่นกายจากฉัน ฉันปล่อยให้ตัวฉันแนบเขาอย่างไม่อาย คงทำได้แค่นี้ที่รู้สึกและคงไม่ได้ไม่ผิดอะไรหนักหนา สำหรับหญิงธรรมดาอย่างฉันที่ยังคงมีความรู้สึกแบบสามัญ...
ช่างเป็นการเดินทางที่แสนใกล้กว่าทุกวัน เขาเริ่มผละตัวออกห่างเมื่อใกล้ถึงท่า นานา เรือเทียบจอดเขาก้าวออกไป แม้ไม่ได้หันไปมองเลยแม้เพียงนิดฉันก็รู้ว่าเขาคงขึ้นที่ท่านี้เป็นแน่ คนลงเยอะพอสมควร มิอาจทำใจหันไปมองเขาได้ ความรู้สึกที่กำลังจะหายไป ตอนนี้รู้สึกเหมือนไม่มีใครยืนใกล้ฉันอีกเลย ฉันทอดหายใจยาว มองไปเบื้องหน้าท่าประตูน้ำที่ใกล้ถึง..ผ่านไปแล้ว ..เพียงแค่ความรู้สึกเล็กน้อยที่จากไป..ความทรงจำ...
เรือเทียบจอดท่าประตูน้ำ ฉันรีบก้าวขึ้นท่าเดินนำหน้าส้มไปอย่างรีบเร่งและเข้าสู่วิถีแห่งเวลาของฉันอีกครั้ง ทำงาน!..งานซ้ำซากที่ยังรอฉันอยู่
"อ้อย!.." ส้มคงเรียกฉันให้ชะลอเธอคงเดินตามไม่ทันฉันหยุดแล้วเธอก็พูดต่อ "อะไรเนี่ย!..ที่กระโปรงเธอ" ฉันหันไปมองเพื่อนเธอหน้าตื่นสายตาเธอจ้อง
มาบริเวณก้นของฉัน ฉันเหลียวตัวมองไปที่เดียวกับที่ตาส้มจดจ้อง ตายแล้ว! น้ำกามจากไอ้โรคจิต! ไอ้บ้าเมื่อกี้นี้มัน...
อย่างที่ได้เล่ามามันเป็นเช้าที่ทำให้ฉันต้องรู้สึกเปลี่ยนไปแบบไม่เคยลืม ทั้งขยะแขยงและอายคนมากมาย จบดีกว่าค่ะทนเล่าต่อไม่ไหว..
-----------------------------------------------------------
อ่านเอาสนุกๆ นะครับ อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่นๆ ได้ที่บล๊อกกลุ่มเรื่องสั้นเลยครับ
จากคุณ :
Untrue
- [
2 พ.ค. 50 12:35:39
]