รุ่งอรุณแห่งการรอคอย
ปลายเดือนมีนาคม อากาศร้อนอบอ้าว ท้องฟ้าและก้อนเมฆดูจะเป็นใจเบิกทางให้แก่แสงอาทิตย์ร้อนระอุสาดส่อง สายลมโบกพัดโชยเอากลิ่นแห่งฤดูร้อนลอยมา และด้วยอำนาจของแสงอาทิตย์ที่จัดจ้านนี้เองที่ทำให้ไอลมที่ควรจะให้ความเย็นสบาย กลับกลายเป็นอบอ้าวไป
เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่ทราบที่มีนลอบถอนหายใจ เธอยกแก้วกาแฟที่เริ่มจะเย็นชืดขึ้นดื่ม และพบว่ามันพร่องไปเกือบก้นถ้วยแล้ว อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศในร้าน ไม่อาจต้านทานอุณหภูมิที่ร้อนระอุจากภายนอกได้เลย มีนปาดเหงื่อจางๆที่ผุดพรายขึ้นบริเวณหน้าผาก น่าแปลกที่กายนั้นรู้สึกร้อน แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนมีเกล็ดน้ำแข็งมาเกาะกุม จากแค่เพียงรอยบาง เป็นหนาขึ้น และหนาขึ้นทุกที
อีกครั้ง... ที่เขาผิดเวลานัดกับเธอ เวลาแห่งการรอคอยต้องถูกยืดออกไปอย่างไม่ต้องการ ความน้อยใจที่ปะปนอยู่ในห้วงดำมืดของความรู้สึกมีมากกว่าความโกรธเคือง และแทบจะนึกหวั่นใจทุกครั้งไปที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังก่อนเวลานัดของเราจะมาถึง
มีน เดี๋ยวพี่ต้องเลิกงานช้าสักหน่อยนะ พอดีมีงานด่วนเข้ามา
นานไหมคะ
เธอกลั้นใจถาม ทั้งยังพยายามควบคุมน้ำเสียงที่สั่นพร่าให้เป็นปกติที่สุด
สักชั่วโมงหนึ่ง
ครู่หนึ่งกว่าเขาจะตอบ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนคอยลุ้นอยู่ทุกชั่วโมงยามที่เขาเงียบไปเพราะครุ่นคิด และใจก็หล่นวูบเมื่อได้ยินคำตอบ
เสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่โทรหา เขากล่าวต่อ
โอเคค่ะ ไม่เป็นไร
เป็นคำปด ผสมกับความรู้สึกหลอกลวงที่เธอกล่าวออกไป... ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ? ไม่จริงเลยสักนิด ใครว่าเธอไม่เป็นไร อยากจะร้องไห้ อัดอั้นตันใจจะแย่แล้ว ทำไมเขาถึงชอบปล่อยให้เธอรออยู่เรื่อย เธอเกลียดการรอคอย เกลียดความรู้สึกของการรอคอย เขาไม่รู้เลยหรือไรว่า การรอคอยมันสร้างความทรมานแก่จิตใจเพียงใด
ยิ่งคิด ก็ยิ่งน้อยใจ และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองสำคัญน้อยลงไปทุกที วูบหนึ่งเธอรู้สึกว่า พอแล้ว ทำไมต้องทน ทำไมต้องรอ มีผู้ชายอีกมากมายที่เธอไม่จำเป็นต้องรอเขา และเขาเหล่านั้นคงมีเวลาให้เธอได้มากมายเท่าที่เธอต้องการ คอยเอาใจเธอได้มากพออย่างที่เธอสมควรจะได้รับเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปเขาได้กัน
มองออกไปนอกกระจกร้าน เห็นคู่รักเดินเกาะเกี่ยวกุมมือกันอย่างไม่ยอมให้มีสิ่งใดแยกจาก เธอเองก็มีช่วงเวลาแบบนั้น แต่ช่างน้อยนิดเหลือเกิน เพราะส่วนใหญ่แล้ว มือของเขาคงใช้จับปากกาทำงานเสียมากกว่า
เห็นผู้คนสวมกอด โดยที่ไม่ใส่ใจต่อสายตาคนรอบข้าง บางทีพวกเขาคงร้างห่างกันไปนาน และเพิ่งมีโอกาสได้พบกัน เธอเอง ถึงแม้ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันกับเขา แต่ก็อยากได้รับการสวมกอดอย่างที่เคยได้รับบ่อยๆเฉกเมื่อวันวาน หากทว่าตอนนี้ อ้อมกอดของเขาคงไม่ว่างพอจะโอบกอดเธอ ด้วยการงานมากมายที่เขามุ่งหวังกอบโกย
นึกถึงรอยจุมพิตครั้งแรกที่จรดสัมผัสแผ่วเบาลงที่หน้าผากแล้ว เธอก็โหยหาอยากให้เขาจูบเธอเบาๆอย่างนั้นอีกสักครั้ง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อตอนนี้ริมฝีปากของเขาคงมัวแต่ขยับเจรจากับการงานไปเสียหมด
ตั้งแต่เธอมีเขา เธอไม่เคยรู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวอีกเลย แต่เวลานี้เธอเริ่มรู้สึกว้าเหว่ กับเวลาแห่งความว่างเปล่ามากมายที่รุมเร้าเกาะกินหัวใจและชีวิตเธอ ไม่มีเวลามากมายที่เธออยากครอบครองเท่าที่เธอต้องการอีกต่อไปแล้ว มีแต่เวลาอันน้อยนิดที่เธอเองก็เดาไม่ได้เลยว่า มันจะหมดไปเมื่อไหร่
ขอโทษนะคะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม คือทุกที่เต็มหมดเลยน่ะค่ะ
มีนสะดุ้งนิดๆ ก่อนพยักหน้าลง ขณะหันหน้ากลับมายังต้นเสียงที่เอ่ยทักที่กำลังทรุดกายนั่งลงยังฝั่งตรงกันข้าม
ค่ะ เชิญค่ะ
อ้าว...!!!
จากคุณ :
MeiDong
- [
3 พ.ค. 50 23:17:31
]