ช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ฉันต้องเหยียบย่ำผ่านเขตแดนห้าประเทศ ทั้งเต็มใจและจำใจ โดยมีเพื่อนร่วมทางผู้ซื่อสัตย์ เป็นเยลลี่ก้อนกลมสีม่วงที่ถูกโรงงานตั้งชื่อให้ว่าโยโย่
ในครั้งแรกที่ฉันพกพาโยโย่ไปด้วย ก็เพียงเพื่อหวังพึ่งพาโยโย่ยามท้องว่าง แต่ไปๆมาๆ ตลอดการเดินทาง ท้องแทบไม่มีโอกาสจะได้ว่าง เจ้าโยโย่ก็เลยได้ไปเที่ยวเล่นและกลับบ้านพร้อมกันโดยปริยาย กว่าจะรู้ตัวอีกที เจ้าโยโย่ก็ได้ไมล์สะสมเป็นของตัวเองไปไม่น้อย
คืนหนึ่งในห้องที่สองทางปีกขวาของโรงแรมใหญ่กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขณะที่ฉันกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น
เจ้าโยโย่ก็เอ่ยทักขึ้นมาว่า "เหนื่อยล่ะสิ ก็ไม่รู้จะบินไปบินมาให้เหนื่อยเล่นทำไม"
ฉันตอบเจ้าโยโย่กลับไปว่า "ฉันหลงรักการเดินทางมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล นอกหรือในประเทศ หรือแม้แต่ที่ๆเคยไปแล้วหลายครั้งหลายครา ก็ยังมีสิ่งใหม่ๆให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ"
"นอกจากได้เรียนรู้อะไรใหม่แล้ว การเดินทางยังเป็นยาสลายอีโก้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งเราเห็นโลกใบกว้างมากเท่าไร เราก็จะสำนึกได้ถึงความเล็กระดับไมครอนของตัวตนเราเท่านั้น"
โยโย่ทำท่าเหมือนเข้าใจ ด้วยการพยักหน้ากลมๆสีม่วงของมัน แล้วถามฉันต่อว่า
"แล้วตั้งแต่เดินทางมา ชอบที่ไหนที่สุดล่ะ"
"อืม... ตอบยากนะ แต่ละที่ ก็มีเสน่ห์ไปคนละแบบ นิวซีแลนด์ก็เหมือนผู้หญิงสวยหวานทุกมุมมอง ญี่ปุ่นเหมือนเคยเป็นแฟนกันตอนชั้นมัธยมต้น เวียนนาเหมือนfirst dateที่ลืมไม่ลง อเมริกาอาจจะผูกพันเหมือนเพื่อนสนิทที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมากันระยะหนึ่ง อังกฤษเหมือนคนที่เคยฝันถึงตั้งแต่เด็ก ออสเตรเลียเหมือนคนที่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยในบั้นปลาย จีนเหมือนคนที่เคยนอนร้องไห้ด้วยกันยามค่ำคืน"
โยโยขมวดคิ้วโล้นๆแล้วถามต่อว่า "ฟังดูหลายใจจัง แล้วมีที่ไหนที่อยากไป แต่ยังไม่เคยไปไหม"
ฉันนอนมองเพดานเปล่า พลางคิดหาคำตอบให้เจ้าโยโย่ขี้สงสัย
ที่ไหนกันนะ ที่ฉันอยากไป แต่ยังไม่เคยได้ไป
อยู่ๆภาพเพดานเบื้องหน้าก็พร่ามัวขึ้น เหมือนมีฟิล์มหนาเคลือบกระจกตา
"มีอยู่ที่หนึ่ง อยู่ใกล้ๆ ขนาดก็แค่หนึ่งกำมือ แต่แสนจะซับซ้อน และฉันก็ไม่เคยเข้าถึงสักที"
เสียงหวานๆของคุณป้า Charlene ดังก้องขึ้นในโสตประสาท
"I've been to paradise but I never been to me"
จากคุณ :
Cafe_noir
- [
4 พ.ค. 50 22:12:59
]