ชีวิตผมกับปลาสวยงาม ภาค1
จริงๆ แล้วชีวิตผมเติบโตมา ก็พอรู้เรื่องบ้างแล้ว ตอนนั้นบ้านของผมอยู่ บางขุนนท์ คุณพ่อมีอาชีพเพาะพันธุ์ปลาทอง ปลาเกล็ดแก้ว ปลารักเร่ดำ ปลาลูกโป่ง ปลาหางนกยูง และปลากัดจีน ขายผมจำได้ลางๆ ว่าตอนนั้นผมยังเดินไม่เก่งเลยด้วยซ้ำไป
ไม่นานคุณพ่อของผมก็ย้ายบ้านและมาอยู่ที่ตลิ่งชัน พร้อมกับเปลี่ยนอาชีพ เป็นการเพาะต้นไม้ขาย อาทิ โกสน บอนสี บอนไซ จนคุณพ่อของผมได้รับรางวัลการประกวดต้นไม้จากหลายแห่ง ทำให้คุณพ่อผมยึดอาชีพนั้นเรื่อยมา ในที่สุดก็มีร้านเป็นของตัวเอง อยู่ที่สวนจตุจักร พร้อมกับขายอุปกรณ์การเกษตรไปในตัวด้วย ร้านของคุณพ่อผมในเวลานั้นตั้งอยู่ที่โครงการ 2 ในตลาดนัดสวนจตุจักร ทุกๆ อาทิตย์ ผมกับพี่สาว คุณแม่ พวกเราจะมาช่วยกันขายของที่สวนจตุจักร เปิดร้านเวลา 8 โมง เริ่มเก็บอีกทีก็ 5 โมงเย็น แต่ส่วนใหญ่คุณพ่อของผม จะมาเริ่มจัดของเพื่อเตรียมตัวขายในทุกๆวันศุกร์ พร้อมกับลงของใหม่ๆ เพื่อขายในวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้าหากผมและพี่สาว มีเวลาและไม่ติดเรียนก็จะตามคุณพ่อมาเพื่อจัดร้าน ผมคลุกคลีอยู่กับที่สวนจตุจักรมาตั้งแต่สวนจตุจักรเริ่มต้น ร้านทุกร้านยังไม่มีประตูเหล็กเหมือนในปัจจุบัน ทุกๆ ร้านยังใช้ประตูไม้ไผ่กันอยู่เลย ทุกๆครั้งทุกอาทิตย์หลังจาก ร้านของคุณพ่อผมใกล้จะปิด ผมจะรีบดูเวลาใกล้ 5 โมงเย็นผมก็จะแอบเข้าไปในตลาดขาย สัตว์เลี้ยง เพราะในสวนจตุจักรผมเดินมาแยะ แต่ไม่มีที่ไหนถูกใจเท่าโซน สัตว์เลี้ยง ทั้งปลา กระรอก สุนัข กระต่าย นก งู แมลงหายาก และสัตว์นาๆชนิดอีกมากมาย ค่อนข้างถูกใจเด็กในตอนนั้นอย่างผมพอสมควร เพราะทุกครั้งจะขอตังคุณแม่ เข้าไปเดินช็อบปิ้งสัตว์เลี้ยงเอากับบ้านเกือบทุกอาทิตย์ ทุกๆอาทิตย์ผมจะได้ปลา และสัตว์อื่นๆ กลับบ้านแบบไม่ซ้ำกันเลย จำได้ว่าสัตว์เลี้ยงที่ผมซื้อตัวแรกในชีวิต คือ ปลากัดจีน ชีวิตผมเป็นแบบนี้มาหลายปี จนผมเรียน ป.ว.ช
ในที่สุดกรุงเทพมหานครมีนโยบายจะสร้างรถไฟลอยฟ้า โดยทำผ่านสวน จตุจักร ทำให้ร้านของคุณพ่อของผมและ โครงการ 2 เกือบครึ่ง โดนรถไฟฟ้าเต็มๆ ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วด้วย ทำให้ครอบครัวของผม ลงความเห็นกันว่า จะเลิกกิจการและให้คนอื่นเช่าต่อ ในโครงการใหม่ที่กรุงเทพมหานครจัดที่ให้ใหม่คือ โครงการในฝันในสวนจตุจักร ใกล้ๆ ร้านอาหารโถพลู ใกล้ๆ ตลาดซันเดย์ ปัจจุบันร้านของคุณพ่อ ยังอยู่เหมือนเดิม ให้คนอื่นเช่าอยู่ ผมไปเก็บตังค่าเช่าทุกๆ เดือนแทนคุณพ่อและพี่สาว ชีวิตผมในช่วงนั้นลืมเรื่องปลาไปนานพอสมควร เพราะสนใจดนตรีและบ้าเห่ออยู่เป็นพักใหญ่ เป็นเวลาเกือบ 1 ปี 1 ปีผ่านไป ทำให้ผมลองคิดย้อนมาว่า เราน่าจะกลับมาเลี้ยงปลาอีกครั้ง เลยมีความคิดว่าจะเลี้ยงปลาอะไรดีละที่จะทำให้ได้ตังด้วย เลยไปเดินหาซื้อหนังสือแถวบ้าน ไปเจอหนังสือปลาสวยงามเล่มนึงมีเรื่องปลาหางนกยูงค่อนข้างมาก เพราะกระแสปลาหางนกยูงในเวลานั้นแรงพอสมควร เป็นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ ผมเลยคิดว่าปลาหางนกยูงนี้แหละ ที่เราจะเริ่มต้นลองเลี้ยงและมีความคิดที่จะเพาะพันธุ์เกิดขึ้นในหัวของผม ผมเริ่มต้นทันที โดยคิดว่าจะหาความรู้จากไหนดีล่ะ เลยเปิดอินเตอร์เน็ตศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง พร้อมกับซื้อหนังสือเกี่ยวกับปลาหางนกยูง และวีซีดีเรื่อง สายพันธุ์ปลาเพื่อนำมาศึกษา หลังจากนั้นผมจึงควักกระเป๋าเงินเก็บของผมในตอนนั้น ออกมาซื้อตู้ 20 นิ้ว 20 ใบ กระมังใหญ่ 30 ใบ บ่อปูน 5 บ่อ เครื่องอ็อก ซิเจน และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย หลังจากอุปกรณ์ทุกอย่างครบแล้ว ผมจึงออกตระเวนหาสายพันธุ์ปลาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงเรื่องสายพันธุ์ ทั้งที่ฟาร์ม และสวนจตุจักร และสนามหลวง2 หลังจากที่ควานหาซื้อมาได้จนครบแล้ว ในบ้านผม ตอนนี้มีพ่อ-แม่พันธุ์หางนกยูงมากกว่า 10 สายพันธุ์ อาทิ เรดอะมิโน่ เจแป้นบูล เยอร์มันฟูลแพลนตินัม ชิลี คิงคร็อบบร้าเยลโล มอสโคบูล อเมกันไวด์พิ้ง ทั้งฟินและสวอนโล ผมนำเข้ามาบ้านโดยมีจุดมุ่งหมาย คือ เพาะพันธุ์ เวลาผ่านไป 5 เดือน ช่วงนั้นเข้าหน้าหนาวพอดี ทำให้พ่อ-แม่พันธุ์หางนกยูงในบ้านของผม ตายเรียบ ไม่เหลือซักตัว เพราะโรคเปื่อยลุมเล่นงาน เงินที่ลงไปทั้งหมดกลายเป็นศูนย์ในพริบตา ผมยังไม่ย่อถ้อ เริ่มต่อเลยครับ คิดว่าเราอาจะทำอะไรไม่ดีก็ได้มั้ง หรือ สายพันธุ์ที่ได้มาอาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควร เลยออกตระเวนหาใหม่ คราวนี้หนักกว่าเดิม ลงทุนไปมากกว่าเดิมและที่สำคัญเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ผมมี สุดท้ายแล้วปลาที่สั่งซื้อมาทั้งหมดด้วยเงินก้อนสุดท้ายของผมก็ไปไม่รอด ซึ่ง เพราะด้วยผมยังมือใหม่และไม่มีประสบการณ์ ทำให้ผลที่ออกมาเป็นแบบนี้ เล่นเอาผมมึนพอสมควรเรียกว่าน้ำตาซึมเลยก็ว่าได้คับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ่อปลา มันเป็นน้ำตาของลูกผู้ชายจริงๆ ผมเลยทิ้งทุกอย่างและคิดว่าต่อไปนี้ เรื่องปลาพอกันทีไม่เอาแล้ว เลี้ยงแล้วตายแทนที่จะได้เงินกลับเอาเงินไปเผาเล่นๆซ่ะอย่างนั้น
เวลาผ่านไปได้ 5 เดือนเต็ม ผมได้ย้ายบ้านจากย่านตลิ่งชัน มาอยู่ย่านบางใหญ่ เมืองนนทบุรี หลังจากมาอยู่ในบางใหญ่ได้ไม่นาน ทำให้ผมได้รู้จักกับ พี่ท่านนึง ชื่อ พี่โก๋ปลากัดเก่งเมืองนนท์ ที่เลี้ยงปลากัดเก่งแบบมืออาชีพ ซึ่งบ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก ทำให้ผมในตอนนั้นเกิดอารมณ์อยากเลี้ยงปลากัดขึ้นมาทันที นี่คือจุดเริ่มต้นระหว่างปลากัดกับผมอีกครั้ง ผมจึงเข้าๆ ออกๆ บ้านพี่โก๋บ่อยครั้ง จนรู้เทคนิคการเลี้ยงปลากัดเก่งขึ้นมากมาย จนในที่สุดผมก็ขอซื้อปลากัดเก่งคู่แรกจากพี่โก๋ ปกติแล้วปลากัดเก่งของพี่โก๋จะเป็นปลากัดจากทางภาคใต้ จากกันตัง ทับสะแก และประจวบ ผมเลยขอซื้อปลากัดเก่งจากพี่โก๋เพื่อนำมาเพาะและคิดขยายพันธุ์อีกครั้ง ตลอดจนค้นคว้าหาข้อมูลจากหนังสือปลากัดหลายๆ เล่ม และวีซีดีสอนการเลี้ยง จนในที่สุดผมก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างที่เคยเลี้ยงปลาหางนกยูงออกมาใช้กับปลากัด ปลากัดถูกเพาะพันธุ์มากมาย จนในที่สุดก็ล้นบ้าน ทำให้ผมต้องสั่งเหลี่ยมปลากัดเข้าบ้านกว่า 800 ใบเพื่อเอามาฟอร์มปลา หลังจากปลาล้นบ้านผมเลยมีโอกาส ได้เอาปลากัดประกาศขายลงอินเตอร์เน็ตครั้งแรก ในเว็บ efish2u.com ซึ่งปัจจุบันเว็บนี้ปิดตัวลงไปแล้วครับ ลูกค้าที่ซื้อปลาผมให้การตอบรับดีพอสมควร ราคามีตั้งแต่ 50 บาทถึง 500 บาท เป็นปลากัดเก่งทั้งหมด หลังจากทำแบบนี้ได้ 2 ปี ผมก็เลิกเลี้ยงปลากัดเก่ง เพราะการเลี้ยงปลากัดเก่งนั้นเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ทำให้ผมคิดว่าจะทำยังไงดีล่ะ เลยคิดว่างั้นเปลี่ยนมาทำปลากัดสวยงามแล้วกัน ปลากัดสวยงามนี่แหละที่เราจะเลี้ยงเพราะเลิกเลี้ยงปลากัดไม่ได้ ใจเรายังรักปลากัดอยู่ เพราะดวงผมคงถูกกับปลากัดสวยงามมากที่สุด ผมจึงออกตระเวนหาหนังสือปลากัดสวยงามมาอ่านอีก ทั้งเข้าเว็บไซด์ปลากัดสวยงาม ทั้งไทยและต่างประเทศ จนในที่สุดก็เจอ ปลากัดตัวสีแดงสด จากเว็บไซด์ ของพี่โด่ง 2002 หรือในเว็บชื่อ http://www. dong2002.com พี่โด่ง 2002 ทำให้ผมได้รู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับปลากัด ตลอดจนเทคนิคต่างๆ พี่โด่งให้คำสอนผมที่ดีมากๆ แล้วก็ทำให้ผมเกิดกิเลสขึ้นมาทันที เพราะสีแดงนั้นถูกใจผมจิงๆ ผมจึงออกตระเวนหาปลากัดสีแดงจากสวนจตุจักรมาเพาะเลี้ยง หาแล้ว หาอีก ไม่เจอที่ถูกใจเลย แล้วความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั้น ทำให้ผมเจอปลากัดสีแดงตัวโปรดเข้าจนได้ เป็นปลาจากในลังโฟมธรรมดาตัวละ 20 บาท ผมได้ซื้อมา 2 ตัว หลังจากนั้นผมออกเดินตระเวนหาตัวเมีย จากในสวนจตุจักรจนมาได้ปลากัดตัวเมียสีแดงที่ร้านพี่แมว ซึ่งเป็นเพียงปลากัดตัวเมียตัวละ 50 บาท เลี้ยงรวมๆกันจนผมได้เอามาเพาะและขยายพันธุ์และรักษาสายและพัฒนา สายพันธุ์จนถึงทุกวันนี้
จบ ภาค1
พอดีผมเพิ่งเริ่มเขียนครั้งแรกอ่ะคับถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยคับผม
นักเขียนมือใหม่
แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 50 11:01:57