นิทานเหล่านี้เป็นเรื่องสมมุติแต่งขึ้นมั้ง อาจจะเกี่ยวข้องกับบุคคล สมาคม หรือรัฐบาลใด ๆ หากชื่อของตัวละครหรือสถานที่ จงใจไปพ้องกับผู้ใดผู้หนึ่ง หรือสถานที่ใดที่หนึ่ง ผู้เขียนก็ขอเผ่นไปจากที่นี้
วรรค ๑ พระราชบัญญัติค้าปลีกค้าส่ง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5293048/W5293048.html
วรรค ๒ พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5340760/W5340760.html
วรรค ๓ ฮวงจุ้ยต่ออายุ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5343795/W5343795.html
วรรค ๔ นกโง่ ลิงโง่ และคนโง่
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5352224/W5352224.html
วรรค ๕ ด่าเพราะอยากดัง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5357568/W5357568.html
~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~~:~
~:~ ก็ผมเป็นวีรบุรุษ(โว้ย) ~:~
หลังจากพวกมนุษย์กลับไปแล้ว เหล่านกกระจาบว่ายากซึ่งพากันบินหนีเมื่อถูกรุกรานก็กลับมาเข้ารัง ด้วยทิฐิของพวกมัน จึงไม่แม้แต่จะกล่าวคำขอบคุณต่อพ่อนก ลูกนกผู้ตามมาทีหลังได้เห็นเหตุการณ์ส่วนนี้เกิดความไม่พอใจ จึงเข้าไปหาพ่อของมัน
พ่อจ๋า พ่อไม่เข็ดหรืออย่างไรจึงเทียวทำคุณแก่ผู้ที่ทำคุณไม่ขึ้นเหล่านี้
ลูกเอ๋ย คำว่าเข็ดหลาบ หรือท้อถอยไม่มีในผู้ซึ่งทำดีโดยไม่หวังผลหรอกนะลูก.. พ่อนกตอบอย่างใจเย็น ...ถ้าลูกหวังผลจากการทำดี ว่าเขาจะตอบแทนเราอย่างนั้นอย่างนี้ หากการณ์ไม่เป็นไปดังหวัง ผู้ที่เดือดเนื้อร้อนใจจะเป็นใครไปเสียล่ะลูก
แต่พ่อจ๋า ลูกห้ามความคิดเช่นนั้นมิได้ดอก ลูกเองก็ยังเป็นนกปุถุชน ย่อมไม่อาจหักใจข่มความโกรธได้
พ่อนกฟังดังนั้นจึงครุ่นคิดอุบายสำหรับลูกของตน
ลูกเอ๋ย อันว่าโทสะนั้น แม้พระโมคคัลลานะก่อนที่จะสำเร็จมรรคผลเป็นพระอรหันต์ ก็เป็นผู้ถือตัวมักโกรธ กระทั่งพระพุทธเจ้าต้องประทานโอวาทสามข้อจึงสามารถสงบระงับ แม้กระนั้นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดกว่าพระโมคคัลลานะก็มีในอดีตกาลมาแล้ว
ลูกนกเกิดความสนใจในเรื่องราวจึงอ้อนวอนให้พ่อนกเล่าให้ฟัง พ่อนกกระจาบไม่อาจขัดลูกนกได้จึงต้องสาธกนิทานซึ่งเขาอ้างว่าเป็นเรื่องจริงอีกครั้ง
กาลครั้งนั้น พระเจ้าเหลิ่ยมครองกรุงสารขัณฑ์...
อันกรุงสารขัณฑ์นั้น มีข้าศึกรุกรานอยู่ตลอดเวลาหาความสงบมิได้ ด้วยพระเจ้าแผ่นดินปกครองอย่างไม่เป็นธรรม โกงสะพัดสะบัดช่อ กินตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเสาเข็มตึก
ยุคนั้น พระเจ้าเหลิ่ยมประมาทต่อกองกำลังข้าศึก ถึงขนาดออกปากว่าศัตรูนั้นเป็นเพียงโจรกระจอก แล้วโปรดเกล้าฯให้ถอนกำลังทแกล้วทหารชำนาญศึกออกจากพื้นที่ พร้อมส่งกองกำลังรักษาการภายในวังอันอ่อนประสบการณ์ลงไปแทน
พวกอริราชศัตรูยิ้มหวาน เพราะมีหมูให้เคี้ยวเล่น ๆ นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารทหารองครักษ์ไม่เว้นแต่ละวัน พวกโจรนั้นกำเริบถึงขนาดยกพวกล้อมค่ายกองกำลังรักษาการ แล้วถล่มจนตายเรียบไม่มีเหลือ
จากปัญหาคาราคาซังมานานหลายประการ ทำให้พระเจ้าเหลิ่ยมมีอันกระเด็นจากราชสมบัติ ด้วยเหล่าแม่ทัพนายกองระดับสูงรวมพลังกันทำการยึดอำนาจ แล้วแต่งตั้งให้พระเจ้าเต่าขึ้นครองราชย์เป็นพระราชาหุ่นเชิดแทน
ด้านแม่ทัพลึกลับ ขอเรียกว่าบิ๊กปังล่ะกัน ก็ได้แก้ไขนโยบายอันผิดพลาดมานับแต่ยุคพระเจ้าเหลิ่ยม ด้วยการส่งกำลังทหารชาญศึกลงสู่สมรภูมิ แลในการนี้ก็ได้ส่งลูกน้องคู่ใจที่มีนามสมมุติว่า.. บิ๊กสะพรึบ
บิ๊กปัง : ลื๊อจงลงไปถล่มไพรีให้พินาศย่อยยับ จะเอาเม็ดเงินอัดฉีดเท่าไหร่อั๊วก็ไม่ว่า ขอให้ผลงานดูดีกว่าอ้ายเหลิ่ยมก็แล้วกัน
บิ๊กสะพรึบ : ขอรับท่าน กระผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่ก่อนไปนี่ผมขอขึ้นเงินเดือนตัวเองหน่อยได้ไหมขอรับ ไว้เป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา ค่าเข้าบาร์เคล้าอีหนูผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน และอื่น ๆ อีกจิปาถะ
บิ๊กปัง : (ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง) เออ...ลื๊อได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ ดีล่ะอั๊วจะถือโอกาสนี้ขึ้นเงินเดือนให้ตัวอั๊วเองและคนสนิทของอั๊วให้หมด หลังจากที่ไอ้เหลิ่ยมเอาเงินไปถลุงกับโครงการเพื่อคนจน ๆ มาช้านาน
บิ๊กสะพรึบ : ดีเลยครับท่าน ยังไงก็ไม่มีใครว่าอะไรท่านอยู่แล้วที่ตอบแทนตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะว่าท่านคือวีรบุรุษผู้กอบกู้แผ่นดินให้พ้นจากมหาภัยพิบัติ
บิ๊กปัง : (เท้าสะเอวหัวเราะอย่างลำพอง) เฮือะ ฮ่า ๆๆๆ ใช่แล้ว อั๊ว..ไม่สิ พวกเราทั้งหมดคือวีรบุรุษ
บิ๊กสะพรึบ : (ตวัดลิ้นยาวสามวาเลียบู๊ตหนังของบิ๊กปังแล้วถวายบังคมลา)
สถานการณ์ชายแดนยังทรง ๆ ทรุด ๆ แม้ว่าจะใช้ความพยายามมากสักเท่าไหร่ บางสำนักก็กล่าวว่าพระเจ้าเต่า(ภายใต้การควบคุมของบิ๊กปัง) เดินมาถูกทางแล้ว แต่บางสำนักก็ไม่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้
ขณะเดียวกันที่ตลาดแฮรอดด์แห่งกรุงลอนดอน...
แม่ขา เอมจะเอากระโปรงชุดนี้ค่ะ ดูสิคะลดตั้งสิบห้าเปอร์เซ็นต์เชียวแน่ะ
อดีตมเหสีขมวดขนงแล้วเอ่ยวาจาถามธิดาสุดรัก แล้วมันเหลือราคาเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ
ธิดาเอมพลิกป้ายดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็เหลือแสนปอนด์เองน่ะค่ะ แม่ซื้อให้หนูนะคะ
ต๊าย! หญิงอ้อทาบอกอย่างตกใจ วางมันลงเลยนะลูก ราคาแค่แสนเดียวอย่าไปจับ เสนียดของถูก ๆ จะขึ้นมือเอา
ธิดาเอมเพิ่งสำนึกได้ว่ามันเป็นของสำหรับพวกคนจน ๆ ใช้กัน ก็ร้องอี๋แล้วทิ้งมันลงที่เดิม จากนั้นโผเข้ามากอดแขนพระมารดา
แม่ขา แล้วป๊ะล่ะคะ ไปไหนแล้ว
คุณหญิง..เอ๊ยพระมเหสีหันซ้ายแลขวา เอ๊ะ เมื่อกี้ก็เห็นอยู่แว๊บ ๆ นี่ เดี๋ยวเหอะ ถ้ารู้ว่าแอบไปอี๋อ๋อกะสาวอังกฤษเอ๊าะ ๆ ล่ะแม่จะบิดให้เนื้อเขียว
พักเรื่องราวของอดีตพระราชาไว้ชั่วคราว หลังจากที่บิ๊กสะพรึบลงไปปฏิบัติงานทางใต้ได้สักพัก ก็เกิดเบื่อหน่าย เพราะสถานบันเทิงเริงรมย์ในเขตสามตำบลชายแดนมิยักกะเปิดสักแห่ง จึงออกคำสั่งเรียกบุษบกแก้วรุ่นโบอิ้ง ๗๗๗ (ใครจะเอาเลขไปแทงหวยก็ไม่ว่านะ) มาใช้นั่งกลับไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิททั้งหลาย
ขบวนแห่บุษบกอลังการงานสร้างนัก ว่ากันว่ารัศมีจากประกายทองคำของเครื่องประดับนางรำในขบวน ถึงกับสาดส่องไปไกลเป็นรัศมีสามโยชน์
เช้ารุ่งขึ้น ขบวนลูกสมุนเจ้ากรมข่าวซึ่งทราบการกลับมาของบิ๊กสะพรึบ จึงพากันไปดักล้อมรอสัมภาษณ์ที่หน้าทำเนียบ..เอ๊ยวังหลัง
ท่านครับ ได้ข่าวว่าท่านนำบุษบกของรัฐมาใช้นั่งกลับเป็นการส่วนตัวเชียวหรือครับ
บิ๊กสะพรึบหน้ายุ่ง
เฮ้ย คุณมาจากกรมข่าวไหนนี่ มาถามผมแบบนี้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
ไม่ใช่จากสปป.ลาวก็แล้วกันครับ แล้วผมก็ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงด้วย แค่ทำหน้าที่เสนอความจริงให้สังคมรับรู้เท่านั้นเอง
ท่านคะ นักข่าวสาวอีกคนยื่นไมค์จ่อเข้ามาบ้าง สรุปว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่าคะที่บุษบกโบอิ้ง ๗๗๗ บินมาโดยมีท่านเป็นผู้โดยสารเพียงผู้เดียว
คุณจะบ้าหรือเปล่า บิ๊กสะพรึบตวาดแว้ด ถ้าไม่มีนักบินกับแอร์โฮสเตสแล้วผมจะนั่งมาได้ยังไงเล่า
แปลว่าท่านยอมรับแล้วใช่ไหมครับว่าเอาพาหนะของราชการมาใช้ในเรื่องส่วนตัว
บิ๊กสะพรึบชักหน้าเขียวเมื่อถูกจี้ซ้ำ ๆ
ผมไปปฏิบัติงานนะคุณ ผมลงใต้เสี่ยงอันตรายตั้งไม่รู้เท่าไหร่ เสียสละตั้งมากตั้งมาย จะเรียกว่าเป็นวีรบุรุษเลยก็ว่าได้ แล้ววีรบุรุษอย่างผมเนี่ยจะไม่มีสิทธิ์นั่งโบอิ้ง ๗๗๗ กลับสารขัณฑ์เลยรึไง
รุ่งเช้า ราชกิจจานุเบกษากว่าสิบฉบับก็ตีพิมพ์ด้วยข้อความเย้ยหยัน
บิ๊กสะพรึบลั่น ตนเป็น วีรบุรุษ
วีรบุรุษแห่ง คมช. กลับสารขัณฑ์แล้ว
บิ๊กสะพรึบ วีรบุรุษ ที่โลก(ไม่)ต้องการ
ภายในห้องประชุมลับสุดยอด
ยึ๊ย..! บิ๊กสะพรึบขยำราชกิจจาฯที่มีพาดหัวตัวเป้งพาดพิงเขาอยู่ ไอ้พวกนักข่าวเวรนี่แม่-น่าจะตายห่-ไปซะให้หมด
เฮ้ย ใจเย็นน่า บิ๊กปังปลอบขวัญลูกน้อง เดี๋ยวลื๊อก็ไปแก้ข่าวเอาก็ได้นี่
แต่บิ๊กสะพรึบยังไม่เย็นอยู่ดี แล้วทำไมกระผมจะต้องแก้ด้วย ใคร ๆ ก็รู้ว่ากระผมน่ะทำคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินตั้งมากมาย ทั้งเป็นมือขวาที่ช่วยให้ท่านปฏิวัติสำเร็จ ทั้งเสียสละทำงานเพื่อชาติ ลงไปเสี่ยงภัยอันตรายกับปัจจามิตรในแดนใต้ ทำไมไม่มีใครเห็นความดีของกระผมบ้างเลย
ไม่เอาน่า ยังไงอั๊วก็เห็นความดีของลื๊ออยู่นา ไม่งั้นไม่ขึ้นเงินเดือนให้หรอก แล้วนี่มาโวยวายกับอั๊วด้วยเรื่องนี้จะเอาเงินเดือนขึ้นอีกเท่าไหร่ล่ะ
แหะแหะ บิ๊กสะพรึบหัวเราะแห้ง ๆ เมื่อเจ้านายรู้ทัน ก็ไม่มากหรอกขอรับ แค่แสนสองแสนก็พอ
เออ ได้ ๆๆ เรามันคนกันเองอยู่แล้ว อีกอย่างเงินพวกนี้ไม่ใช่เงินอั๊วสักหน่อย เอาไปแบ่งกันใช้อั๊วไม่เดือดร้อน ฮ่าๆๆๆ
ทั้งคู่ประสานเสียงหัวเราะภายในห้องประชุมลับ
หลังจากความพยายามอย่างหนักในการออกมาแก้ตัวของบิ๊กสะพรึบ ปรากฏว่าสำนักกรมข่าวส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อน้ำยาอยู่ดี ทั้งยังตอดเล็กตอดน้อยจนบิ๊กสะพรึบเจ็บจำไปนาน
เวลานั้น เกจิใหญ่แห่งสภากาแฟหน้าปากซอยได้วิจารณ์บิ๊กสะพรึบว่า
คำพูดส่อความคิด ความคิดส่อการกระทำ
เมื่อหลุดปากเอ่ยถ้อยอันสะท้อนความคิดแล้ว
จะแก้ไขอย่างไรใครก็ไม่เชื่อ
เพราะสันดานของมนุษย์นั้น
มีธรรมดาคือความขุดไม่ออกถอนไม่ขึ้น
หาได้เปลี่ยนแปรไปตามลมปากไม่
พ่อนกจบสาธกนิทานและเสริมว่า
คนเก่งจริงไม่โอ้อวด คนดีจริงไม่ทวงบุญคุณ
เพราะผู้โอ้อวดและทวงบุญคุณนั้น ท่านว่าดีแต่ปาก
หากบิ๊กสะพรึบอยากเป็นวีรบุรุษ ก็ลองศึกษากรณีครูจูหลิง พลตำรวจเอกนพดล รวมทั้งผู้ซึ่งเสียสละชีวิตในหน้าที่ไปในเขตอันตรายดูบ้าง เผื่อจะได้สำนึกว่า วีรบุรุษที่แท้จริงคืออะไร
ถ้าลูกไปโกรธพวกนกว่ายากเหล่านั้น ด้วยเหตุที่พวกเขาไม่เห็นความดีของพ่อ ลูกก็ไม่ต่างอะไรไปจากบิ๊กสะพรึบเลย
พ่อนกประกาศสัจจะ และกล่าวว่าบิ๊กปังกับบิ๊กสะพรึบในกาลนั้น กลับมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในบ้านเมือง ณ กาลนี้ ส่วนเกจิอาจารย์ประจำสภากาแฟก็ได้แก่พ่อนกกระจาบนั่นแล..
ลูกนกกล่าวคำสาธุการ ได้ดวงตาเห็นธรรม และละโทสะที่มีต่อฝูงนกคะนองได้ในที่สุด
ขอโทษนะฮะที่หายไปนาน เน็ตมันเน่าไปอาทิตย์นึง เลยไม่รู้นิทานจะอินเทรนด์อยู่หรือเปล่า =_=" ตอนนี้เขียนไว้อีกสามสี่ตอนแล้วฮะ แต่ยังระบายไม่ทัน ช่วงนี้อาจจะลงถี่ ๆ หน่อย *-*
คาถาของเทวดาฮาเจง ๆ
// เรียกว่า 'เจ้เบียบ' ก็พอม้าง(คับ) ไม่ต้องใส่ชื่อเต็ม(ยศ)ขนาดนั้น
จากคุณ : โก้ (เซโก้4)
----> เรียกไม่เต็มยศเดี๋ยวเจ๊แกงอนเอานา โฮะๆๆ
ขยันจังหมู่นี้
จากคุณ : scottie
------> เดี๋ยวสักพักก็ขี้เกียจฮะ มหาลัยจะเปิดแระ
ครั้งนั้น พระเจ้าพิกาชูครองกรุงโปเกมอน >> เอ่อ ... ทำไปได้ - - เหอๆๆ
จากคุณ : QuaOs
-------> ช่วงนี้ผมกะลังติดเกมโปเกมอนฮะ กดเกมบอยเล่นทั้งวันกะพี่ แข่งกันว่าใครจะอัพเวลไวกว่า เลยนึกครึ้มเอามาเป็นพระเจ้าปิ๊กาจู๊
จากคุณ :
Innocent&Pure
- [
7 พ.ค. 50 14:31:57
]