เช้าวานนี้ เหล่าสีกากีต่างควบน่อง พุ่งไปยังเคหสถานของเศรษฐีหนุ่มโสดคนหนึ่ง
ทันทีที่ได้รับแจ้งจากแม่ค้าร้านชำรายหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในย่านบ้านเศรษฐี ว่าแถวบ้านของเธอมีกลิ่นไม่ดีเกิดขึ้น ตำรวจก็แข็งขันปั่นเท้ากันอย่างไม่คิดชีวิต
เมื่อแรกมาถึงที่พำนักของเศรษฐี เหล่าตำรวจก็งุ่นง่าน และเรียกหายาดมจากแม่ค้ากันให้เสียงหลง
หือ... ทำไมกลิ่นมันเหม็นตุ่ยๆอย่างนี้ล่ะ ตำรวจท่านหนึ่งถามขึ้น พลางเอานิ้วชี้และนิ้วโป้งอุดสองรูจมูกไปพลาง พร้อมทำหน้าบู้บี้
ก็เพราะกลิ่นนี้แหละจ้า ที่ทำให้อิฉันต้องโทรเรียกคุณตำหนวดมา แม่ค้าก็หน้าบู้บี้ไม่แพ้ตำรวจ
.
.
หลังจากงุ่นง่านอยู่นาน เหล่าตำรวจต่างตัดสินใจพังประตูบ้านของเศรษฐี (ทราบภายหลังว่าชื่อสมชาย) ดังโครม !
สภาพภายในบ้านดูปกติ ไม่มีสภาพการต่อสู้ ไม่มีสภาพการรื้อค้น แต่กลิ่นนั่น...
ตำรวจเดินเท้าก้าวตามกันเป็นลูกเป็ด มุ่งตรงสู่ห้องนอนของสมชาย
ล็อค ! จ่าดำเกิงหันมารายงานนาย หลังจากพยามหมุนลูกบิดประตูห้องนอน หมวดสุเนตรวิ่งดิ่งไปที่หน้าต่างที่เปิดกว้าง ท่ามกลางกลุ่มสายตาที่มองหมวดด้วยความสนเท่ห์
หมวดสุเนตรอัดอากาศเข้าปวดเต็มสูบ แล้ววิ่งตัวตรงใช้ตัวเองกระแทกเข้ากับประตูห้องนอนอย่างจัง หวังว่าประตูจะเปิดผัวะออกในครั้งเดียว อนิจจา... ประตูไม่เปิด หมวดสุเนตรกระดอนบึ๋งออกจากประตู และนอนฟุบกับพื้นด้วยใบหน้าเหยเกอันเกิดจากการจุกหน่วงๆที่ลิ้นปี่
ตึก ๆ ๆ ๆ เสียงเท้าซอยยิกขึ้นบันไดมา นี่ค่าคุณตำหนวด อิฉันเห็นพวงกุญแจนี้วางอยู่ตรงโต๊ะทำงาน ลองดูสิคะ เผื่อว่าจะเปิดได้ .... คุณป้าแม่ค้านี่ใช่ย่อย
แกรก ชั้วะ ! ประตูห้องนอนเปิดออกอย่างง่ายดายด้วยกุญแจดอกแรก เหล่าตำรวจกรูกันเข้าไปในห้องนอนอันโอ่โถง ปล่อยให้หมวดสุเนตรนอนทำหน้าเหยเกอยู่เพียงเดียวดาย
สภาพห้องนอน แสดงให้เห็นถึงความทุรนทุราย ใครกันหนอช่างใจร้าย ทำกับสมชายได้ลงคอ และคนร้ายมุ่งปะสงค์ต่อสิ่งใดกันแน่
กลิ่นฉึ่งๆ กรุ่นอวลละไมอยู่ในห้อง คุณตำรวจและคุณป้าแม่ค้าต่างทำหน้าที่โดยมิได้รังเกียจต่อกลิ่น เพียงแต่ว่า ต่างคนต่างมีอาการวิงเวียนจนแทบสลบเท่านั้น
ก่อนที่ทั้งหมดจะสิ้นสมประดี หมวดสุเนตรก็ทำการโทรแจ้งโรงพยาบาลให้มารับคนทั้งหมด(รวมทั้งตัวหมวดเองด้วย) ไปบำบัดรักษาด่วน หลังจากนั้น หมวดสุเนตรก็กลับไปนอนทำหน้าเหยเกต่อ
.
.
ณ โรงพยาบาล สมชายลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองโดนสายยางเสียบร่างกายอยู่หลายสาย สมชายงุนงงยิ่งแล้วและวูบเผลอนึกว่าตัวเองตายแล้วไปเกิดเป็นหุ่นกระบอก
สมชายพยามคิดหวนคะนึงถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้...
ย้อนอดีตไปสองวัน สมชายหิวข้าวมาก หิวจนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่พอมองนาฬิกาแล้ว มันยังไม่ถึงเวลาทานข้าวนี่นา และแล้วความทรงจำก็ขาดตอน ! กระนั้น สมชายก็พยายามเรียกความทรงจำกลับมา
กำลังเรียกความทรงจำอยู่เพลินๆ จ่าดำเกิงก็เดินหิ้วถุงน้ำเกลือเข้ามาหา ด้วยดวงหน้าที่ซีดเซียว จ่าดำเกิง... แม้ยามนี้จะอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเป็นหนักหนา นั่นก็มิใช่เหตุผลที่จะทำให้เขาละทิ้งหน้าที่ไปได้
ตื่นแล้วหรือคุณสมชาย จ่าดำเกิงทักทายด้วยเสียงแหบพร่า
สมชายไม่ตอบ เพราะไม่รู้จักจ่าดำเกิง ทั้งนี้... จ่า... มาในสภาพคนไข้เสื้อสีฟ้า ไม่ผิดไปจากเขา แล้วจะให้เขาพูดจากับคนแปลกหน้าได้อย่างไร ก็ในเมื่อมารดาสอนว่า อย่าพูดกับคนแปลกหน้า
ดูเหมือนจ่าจะรู้ตัว จ่าเลยงัดบัตรตำรวจออกมาแสดง พร้อมแนะนำตัวเอง การสนทนาจึงเริ่มต้นขึ้น
ใครทำร้ายคุณหรือ คุณสมชาย ทำไมสภาพที่เมื่อพวกเราเห็นคุณ คุณถึงจมอุดมความอนาถเยี่ยงนั้น ? จ่าดำเกิงพูดพลางขนลุกพลาง เมื่อนึกถึงภาพในวันนั้น...
.
.
สภาพสมชายตัวซีด หน้าซีด ตาเหลือก นอนคว่ำหน้าจมกองอุจาระเปียก และกองอาเจียน ที่พุ่งทะลวงออกทั้งทางทวารบนและทวารล่าง แล้วไหนจะกลิ่นมหากาฬนั่นอีกเล่า ขณะนั้นเอง จ่าดำเกิงก็มีท่าทีเซเล็กน้อย แต่ด้วยชาติตำรวจ เขาจึงเกาะขอบเตียงพยุงตัวเองไว้ได้ทัน
สมชายบุ้ยปาก เชิญจ่าดำเกิงให้เอียงหน้าเข้ามาใกล้ๆ ซุบซิบ ๆ ๆ ๆ ๆ
หลังจากฟังคำซุบซิบจบ จ่าดำเกิงก็ดึงสายน้ำเกลือและกระชากเสื้อคนป่วยออก ภายในปรากฏชุดตำรวจเต็มยศ จ่าดำเกิงวิ่งเซๆออกจากโรงพยาบาลไป
เขาทะยานสู่บ้านสมชาย จ่าดำเกิงกระโจนเข้าห้องนอนของสมชายโดยไม่หวั่นเกรงต่อกลิ่นมหากาฬ
จ่าดำเกิงหันซ้าย หันขวา สายตาสอดส่ายหาหลักฐานเด็ด อะฮ่า !
.
.
จ่า... ผู้ยิ่งยง หอบหลักฐานมาที่โรงพยาบาล ตรงมายังเตียงของสมชาย
นี่ใช่ไหม คุณสมชาย จ่าดำเกิงถามเสียงหลงด้วยอาการหอบหืด
คะ ครับ ครับ สมชายกอบหลักฐานมาจากมือจ่า ด้วยน้ำตาที่คลอหน่วย
จ่าครับ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ทำไมมันไม่ตีเวลาบอกว่าหกโมงเย็นเสียที สมชายคร่ำครวญน้ำตาไหลพราก
จ่าดำเกิงงงมาก คุณสมชาย โปรดให้การที่ละเอียดกว่านี้สักนิด เพื่อประโยชน์ต่อรูปคดี
ตั้งแต่อ้อน แต่ออก เกล้ากระผมจะทานมื้อเดียว และมื้อนั้นคือมื้อหกโมงเย็น คุณแม่สอนว่า ทานน้อยตายยาก ทานมากตายง่าย เกล้ากระผมมิอาจทำผิดต่อมารดา สมชายสะอื้นไห้
จ่าดำเกิงกัดฟันถามต่อ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคดีนี้หรือคุณ
เกี่ยวอย่างแรงเลยขอรับ จ่าดูดิ... ยื่นนาฬิกาแทบจะกระแทกหน้าจ่าดำเกิง
จ่ามองนาฬิกาโดยรวม จับมันขึ้นมาพลิกซ้ายพลิกขวา เพื่อหาจดหมาย ลายแทง ที่อาจซ่อนอยู่ข้างหลังนาฬิกา ... ก็ไม่พบสิ่งดังที่กล่าวมา
จ่าดำเกิงมองสมชายด้วยสายตาเครียดๆ สมชายพลิกตัวผินหน้าไปทางตรงข้ามกับจ่า ไม่มีใครเข้าใจผม เสียงพูดตัดพ้อ ทำให้จ่าดำเกิงต้องสอบสวนด้วยวิธีที่อ่อนละมุน เขาเอื้อมมือจับบ่าสมชายแล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
โดยไม่หันมาสบตาจ่า จ่าช่วยสืบให้ผมทีว่า นาฬิกา ทำไมมันไม่ตีหกโมงเย็นมาสองสามวันแล้ว ใครทำอะไรมันครับ
จ่าดำเกิงขมวดคิ้วพยายามจะเข้าใจสมชาย ทันใดนั้น นาฬิกาในห้องคนไข้ก็ติ๊กตอก บอกเวลาว่าบ่ายสามโมง จ่ารีบจับนาฬิกาหลักฐานขึ้นเล็งเทียบเวลา
... โถ เวร นาฬิกาหลักฐานมันหยุดอยู่ที่เที่ยงสิบห้านาที นั่นหมายความว่า นาฬิกาถ่านหมด !
จ่าดำเกิงสะกิดสีข้างสมชายดังแกรก สมชายหันตามแรงสะกิด คุณเคยนึกถึง คำว่า ถ่านหมด บ้างหรือเปล่า
ไม่เคยครับ สมชายตอบทันควัน
ทำไมไม่นึกว่านาฬิกาจะถ่านหมดบ้าง จ่ารุกคืบ
เพราะมันไม่เคยหมดเลยครับ... ตลอดชีวิตผม สมชายกล่าวหนักแน่น
แต่นาฬิกานี่ถ่านหมดนะ นาฬิกาตายน่ะ เข้าใจไหม หื้อ...????? จ่าเครียดหนัก
นาฬิกาผมตาย ตายอีกแล้วหรือนี่ ตายอีกแล้วววววว.... สมชายร้องไห้จ้า ตีอกชกหัวของตัวเองอย่างหนักมือ
จ่าดำเกิงตกใจตาเหลือก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสมชายกันแน่ จำดำเกิงใช้กำลังอันเหลือน้อยนิด เข้าชาร์ทร่างของสมชายให้สงบจิตสงบใจ
เฮือก ๆ ๆ ๆ นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือ จ่าดำเกิงตะโกนเสียงแผ่ว เพราะหมดแรง
บ้าก็บ้าวะ เมื่อเดือนก่อน แม่นมของผมก็เพิ่งสิ้นชีพไป นี่ถึงคราวนาฬิกาคู่ใจผมต้องสิ้นชีพอีกแล้วหรือ นี่มันอะไรก๊านนนน... โฮ.... สงสารสมชายจัง
เอ่อ ผมเสียใจด้วยนะคุณสมชาย ... เดี่ยวก่อน ตอนที่แม่นมอยู่ แม่นมทำทุกอย่างให้คุณใช่ไหม ดูเหมือนจ่า จะเกิดพุทธิปัญญา
ใช่ครับ สมชายตอบเสียงเศร้า
จ่าดำเกิงหายออกจากห้องคนไข้ไป และกลับมาพร้อมถ่านไฟฉาย เขาทำการเปลี่ยนถ่านฯ และปรับเวลาที่ตัวนาฬิกา
อะ นาฬิกาคุณฟื้นแล้วนะ และต่อไปนี้คุณจะได้กินข้าวตรงเวลาเสียที อย่าลืมล่ะ ว่านาฬิกาของคุณก็ต้องกินอาหารนะ อย่าลืมเปลี่ยนถ่านให้มันด้วยล่ะ เดี๋ยวมันตายอีก พูดจบ จ่าดำเกิงก็เขี่ยสมชายให้ลงจากเตียง พร้อมดึงสายระโยงระยางออกจากตัวสมชาย
จ่าดำเกิงขึ้นนอนที่เตียงแทนสมชาย เสียบสายยางทั้งหมดเข้าตัว นอนหายใจรวยริน และหลับไปอย่างหมดห่วง
ส่วนสมชายก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงจ่าดำเกิง จิ๊กเงินมาได้สองร้อยบาท ก็คลานเข่าออกไปที่ร้านอาหารของโรงพยาล นั่งจ้องนาฬิกา จนได้เวลาหกโมงเย็นจึงสั่งอาหารมาทานอย่างตื้นตันใจ
เป็นอันปิดคดีแดง !
.....................................................................
[ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานของปิยธิดาหรือโสมรัศมีตามกฏหมาย หากพบเห็นการลอกเลียน ดัดแปลง หรือการใดอันถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดแจ้งปิยธิดาที่ anne1081009@yahoo.com ขอบพระคุณ]
แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 50 11:43:08
จากคุณ :
โสมรัศมี
- [
7 พ.ค. 50 17:51:42
]