ชายคนที่นั่งอยู่ในแจ้สคลับ กำลังดื่มวิสกี้กับน้ำเปล่า
ท่าทางของเขาดูคล้ายเมฆที่ลอยนิ่ง รอแรงลมพัดไปได้ทุกเมื่อ
ผมอิจฉาเขา
เป็นความรู้สึกที่ผมมีต่อเขา บริสุทธิ์สะอาด ปราศจากสิ่งปลอมปน
ผมอยากเปลี่ยนกับเขา
เป็นความต้องการที่ชัดเจนและแน่นอนที่สุดของผม
หลังจากภรรยาของผมเสียชีวิตและผมได้พบกับเขาในงานศพ
....
มองผ่านกระจกห้องไอซียูเข้าไป ร่างนั้นมีเพียงสัญญาณชีพเตือนให้รู้ว่าระบบต่างๆในร่างกายยังทำงาน ดวงตาของเธอปิดสนิท ผ้าพันแผลพันรอบศีรษะและอีกหลายแห่ง ทุกอย่างยังอยู่ครบ ยกเว้นเพียงแค่สติ เป็นสิ่งเดียวของเธอที่ผมอยากได้คืนมามากที่สุด ผมมาเยี่ยมเธอทุกวันตั้งแต่เธอเข้าโรงพยาบาลด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
ชายวัยหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม หวีผมไม่เข้าทรง ท่าทางไม่ค่อยน่าเชื่อถือว่าเป็นหมอผ่าตัดฝีมือเยี่ยมออกมาจากห้องไอซียู เขานั่งลงข้างผม ควักบุหรี่ออกมาทำท่าจะจุดสูบแล้วเก็บลงกระเป๋าเสื้อกาวน์
ขอบใจมากที่มาเยี่ยมเธอทุกวัน เขาบอกผม
ไม่เป็นไรหรอกเพื่อน ฉันเป็นห่วงเธอก็จริง แต่เป็นห่วงนายมากกว่า ผมตอบ
เราไม่เป็นไรหรอก สองเดือนผ่านไป อะไรอะไร ก็เริ่มเข้าสู่สภาพปรกติ ญาติฝ่ายเธอก็ไม่ค่อยแวะมาเยี่ยมแล้ว เราเองก็ตื่นมาทำงานได้ตามเดิม รักษาคนไข้เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เหมือนเรื่องราวที่แสนโศกเศร้าตอนนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ราวกับว่าน้ำตาที่เสียไปเป็นสิ่งจอมปลอม ถ้าจะมีอะไรที่ผิดปรกติ ก็คงเป็น...นาย
ฉัน ? ..
ใช่สิ มีเพื่อนรักที่ไหนบ้างวะ แอบมาพบภรรยาของเพื่อนได้ทุกวัน ..
เขาทำหน้าคล้ายฝืนยิ้มให้ผม ทำให้ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป
เฮ้ย อย่าทำหน้าเครียดน่า พูดเล่น หยอกนิดหน่อยทำเป็นคิดมาก เมื่อก่อนเธอชอบพูดว่า ถ้าไม่มาแต่งงานกับเรา ผู้ชายอีกคนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยได้ ก็เป็นนายเท่านั้น นึกถึงเรื่องนี้ทีไร เราอยากดึงสายเครื่องช่วยหายใจของเธอออกทุกที
น้ำเสียงค่อนข้างจริงจังและซีเรียส ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าเขาเคยทำเรื่องแบบนั้นจริงหรือเปล่า
พูดเล่นเว้ย...พูดเล่นจริงๆ ไม่ต้องคิดมาก คนที่ผิดมันคือตัวเราเอง เราไม่มีเวลาให้เธอ เอาแต่เข้าเวรที่โรงพยาบาล ผ่าตัด ผ่าตัด แล้วก็ผ่าตัด พอวันที่สำนึกขึ้นมาได้ ก็อยากให้ของขวัญให้เธอดีใจ
เขาตบบ่าผมแรงๆ หวังช่วยไล่ความไม่สบายใจ แล้วพูดต่อว่า
ไม่น่าเลยจริงๆ เราไม่น่าซื้อรถยนต์ให้เธอเลยจริงๆ ที่จริง เราน่าจะเป็นคนขับรถให้เธอเอง หรือไม่ก็ปล่อยให้เธอใช้บริการเพื่อนสนิทที่พ่วงหน้าที่คนขับรถเหมือนเดิมจะดีกว่า
ที่แท้ ..นายกลัวฉันจะลำบาก ผมให้ความเห็น เดาวัตถุประสงค์ของเขา
เปล่าหรอก เราไม่ได้เป็นห่วงนายขนาดนั้น เรารู้ดีว่านายเต็มใจทำแบบนั้น นายไปรับไปส่งเธอตั้งแต่ก่อนที่เรากับเธอจะแต่งงานกัน จนกระทั่งหลังแต่งงาน ความจริงนายไม่ควรทำแบบนั้นเลย
ฉันรู้ดี ...ตอนที่เธอโทรมา ฉันก็ปฏิเสธทุกครั้ง หาสาเหตุมาบอกปัดเท่าที่จะทำได้ แต่เธอว่า เธอบอกนายแล้ว และไม่มีปัญหาอะไรนี่ ผมเถียง
ทำไมนายไม่คิดว่าเธอพูดโกหกบ้างล่ะ ..
เธอเคยโกหกพวกเราหรือไง ตอนที่เธอบอกฉันว่าเลือกนาย นั่นมันเป็นคำพูดโกหกหรือไงกัน
ผมลุกขึ้นยืน บางส่วนของผมไม่ค่อยพอใจนักที่เหมือนถูกสอบสวนในสิ่งที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกอย่างที่ทำเป็นไปในฐานะเพื่อนเท่านั้น เขาหลบหน้าลงในอุ้งมือ ถูศีรษะจนผมยุ่งเหยิง
เรารู้ เราขอโทษ นายกับเธอไม่มีความประพฤติที่ผิดศีลธรรมใดๆ เธอเล่าให้เราฟังทุกครั้งว่าไปไหนและทำอะไรกับนายมาบ้าง เธอว่าตอนที่สนุกที่สุดคือวันที่นายพาเธอไปแจ้สคลับ แล้วนักร้องขอให้เธอขึ้นไปร้องเพลงสดๆ จริงสิ คืนนั้นเธอร้องเพลงอะไรนะ
เรือนแพ เวอร์ชั่นแจ้ส
เขาขำนิดๆค่อยคุยต่อ
เพลงโปรดของเธอเลยนะนั่นน่ะ
เหรอ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย แต่คืนนั้น เสียงปรบมือเกรียวกราวทั่วทั้งร้านเลยนะ
แล้วนายทำอะไรอยู่ ตอนที่เธอร้องเพลงบนเวที ?
..กินเหล้า แล้วก็...เอ่อ...พยายามขอเบอร์โทรเด็กเสิร์ฟ ผมตอบ
อะไรกัน นายจีบเด็กเสิร์ฟตอนที่ควงสาวสวยไปเที่ยวสองต่อสอง แถมเป็นตอนที่เธอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที นายไม่ให้เกียรติภรรยาของเราเลยนี่ เขาทำเสียงจริงจัง
เธอเป็นภรรยานาย ฉันรู้ดี เธอร้องเพลงบนเวทีเสร็จ คนฟังปรบมือ ฉันกินเหล้าแล้วก็คุยกับเธอ สี่ทุ่มก็พาเธอไปส่งบ้านกลับไปสู่อ้อมกอดของผู้ชายที่เธอเลือกแล้ว เวลาประมาณห้าทุ่มครึ่งก็ขับรถกลับบ้าน ฉันยังโสดนะเว้ย จะให้นอนกอดหมอนข้างทุกคืนคงไม่ไหวหรอก
เสียงหัวเราะดังขึ้นข้างๆห้องไอซียู เราสองคนไม่ได้คุยกันแบบนี้นานมาก ตั้งแต่เขาแต่งงานกับเธอ ความเป็นเพื่อนไม่เคยเปลี่ยนแปลงเพียงแต่สถานะที่เปลี่ยนไปอาจทำให้พวกเราหลงลืมกันไปบ้าง
ฉันขอโทษนะ ผมยืนขึ้นแล้วค่อยพูดกับเขา
มันไม่ใช่ความผิดของนาย เราบอกนายหลายครั้งแล้ว ก็เหมือนที่ตำรวจบอกเราแล้วว่าสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงาน
ถ้าฉันขับรถระวังมากกว่านี้ เธอคงไม่ต้องมานอนอยู่ในห้องไอซียู
ช่างเถอะ บนท้องถนนอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ก็ยังดีที่นายไม่ต้องนอนในห้องไอซียูอีกคน
ผมถกแขนเสื้อข้างซ้ายดูแผลเย็บยาวเหยียดที่เพิ่งหายสนิทได้ไม่นาน
จริงสิ ...คืนนั้นนายมากับใคร ? เราเห็นไม่ค่อยชัด ตอนนั้นกำลังรีบ เลยไม่ได้เข้าไปทัก เขาถาม
เด็กเสิร์ฟที่แจ้สคลับ คืนนั้น ...ฉันได้เบอร์โทรมาเพราะบอกไปว่า มากินข้าวกับภรรยาเก่าเป็นมื้อสุดท้าย
เด็กคนนั้นสวยดีนะ แล้วคิดจริงจังหรือเปล่า ความจริงนายก็น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว เขาให้ความเห็น
เธอก็ชอบพูดแบบนั้น เอาแต่บอกว่าให้ฉันรีบมีครอบครัว จะได้เลิกรบกวนฉันเสียที
ผมมองเข้าไปในห้องไอซียูอีกรอบ สัญญาณชีพของเธอกระตุกนิดหน่อยแต่ยังไม่ขาดช่วง เขามองตามผมเข้าไปเช่นกัน เสียงประกาศตามตัวเขาดังขึ้น เขาอำลาผมโดยบอกว่ามีคนไข้ฉุกเฉิน อุบัติเหตุรถชนกัน คันที่อาการหนัก คนขับเป็นผู้หญิงและตั้งครรภ์ได้สองเดือน เขามองเข้าไปในห้องไอซียูอีกครั้ง ตบบ่าผมแล้วรีบวิ่งหายไปทางอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน เขาเป็นศัลยแพทย์ฝีมือดี
คืนที่เกิดอุบัติเหตุ ผมคุยกับเธอทางโทรศัพท์ก่อนเกิดเรื่อง เราคุยกันเรื่องที่เขากำลังจะเป็นพ่อคน เธอขอร้องให้ปิดไว้เป็นความลับ ผมเดาว่าเธออยากให้เขาแปลกใจ อายุครรภ์ของเธอสองเดือนกว่า ผมเคยได้ยินมาว่าแพทย์มักจะไม่ค่อยสนใจอาการของคนในครอบครัว สงสัยจะเป็นเรื่องจริง เพราะเขาคิดว่าเธออาเจียนแน่นท้องเพราะโรคกระเพาะ หลังจากนั้น เธอขอให้ผมไปพบที่แจ้สคลับ
เส้นทางที่ตรงไปห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินห่างจากห้องไอซียูไม่กี่ร้อยเมตร สะดวกแก่การช่วยชีวิต แค่ชีวิตไม่รวมสติ ผมมองตามหลังเขาที่วิ่งจากไปด้วยความรีบร้อน คืนนั้นเขาก็รีบร้อน สภาพของเขาดีขึ้นเยอะ ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ เขาชอบพูดเสมอว่า ถ้าคืนนั้นเขาลงมือผ่าตัดเอง ตอนนี้ เธอจะจำเป็นต้องอาศัยเครืองพยุงชีพอยู่ไหม
...เราอยากได้ยินเสียงของเธออีกครั้ง ก่อนเธอจากไป ถ้าเราผ่าตัดเธอเองในคืนนั้น แล้วคิดว่าเธอไม่น่าจะรอด เราจะถามเธอว่าจะเอาอย่างไร จะสู้ หรือ จะถอย แต่ตอนนี้ เวลานี้ ถ้าเธอจะจากไป คงไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้ได้ยิน
การที่คนรักจากไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเป็นความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด คนที่เหลืออยู่ก็ต้องกล้ำกลืนทำใจ ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยา
ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเขา เราพบกันที่แจ้สคลับสองต่อสอง ผมกับเขาต่างรู้ดีว่าเราสองคนรู้สึกกับเธออย่างไร เรื่องของคนสามคนที่วันหนึ่งต้องกลายเป็นสอง เอาออกไปแค่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ลบออก
...ถ้าไม่มีเขา ฉันคงจะเลือกเธอเป็นเจ้าบ่าว และถ้าวันหนึ่ง ฉันไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ฉันอยากให้เธอช่วยดูแลเขาด้วย
โบราณเคยเล่าว่าอย่าพูดเป็นลาง ผมน่าจะให้เธอตบปากตัวเองหนักๆ
เย็นนี้ ผมคงไปกินข้าวกับเด็กเสิร์ฟที่แจ้สคลับตามปรกติ เราคบกันตั้งแต่เธอเข้าห้องไอซียู ดังนั้น จึงมีวันครบรอบการคบกันที่จดจำได้ง่าย วันคบกันของเราคือวันที่เธอเข้าไอซียู
หากเธอจากไปในวันใดวันหนึ่ง โดยไม่มีสติกลับมาแล้ว ต้องถือว่า ผมโชคดีกว่าเขามาก
ผมมีช่วงเวลาการบอกลาจากคนรักที่ไม่มีวันใช้ชีวิตร่วมกัน
เมื่อก่อนเธอชอบพูดว่า ถ้าไม่มาแต่งงานกับเรา ผู้ชายอีกคนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยได้ ก็เป็นนายเท่านั้น นึกถึงเรื่องนี้ทีไร เราอยากดึงสายเครื่องช่วยหายใจของเธอออกทุกที
คำพูดของเขา แว่วในสำนึกเพียงชั่วพริบตา ตอนได้ยินคำพูดนั้น บางส่วนของผมก็อยากให้เขาทำแบบนั้น ไม่ใช่เพื่อให้เธอพ้นทุกข์ แต่เพื่อให้ผมได้รู้สึกว่า
ผมชนะ ....
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
9 พ.ค. 50 19:48:44
]