Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ** ลาก่อนสุดที่รัก หมดเวลาแล้ว....**

    ชายคนที่นั่งอยู่ในแจ้สคลับ  กำลังดื่มวิสกี้กับน้ำเปล่า

    ท่าทางของเขาดูคล้ายเมฆที่ลอยนิ่ง รอแรงลมพัดไปได้ทุกเมื่อ

             “ ผมอิจฉาเขา  ”

    เป็นความรู้สึกที่ผมมีต่อเขา บริสุทธิ์สะอาด  ปราศจากสิ่งปลอมปน  

    “ ผมอยากเปลี่ยนกับเขา ”

    เป็นความต้องการที่ชัดเจนและแน่นอนที่สุดของผม  

    หลังจากภรรยาของผมเสียชีวิตและผมได้พบกับเขาในงานศพ

    ....

    มองผ่านกระจกห้องไอซียูเข้าไป  ร่างนั้นมีเพียงสัญญาณชีพเตือนให้รู้ว่าระบบต่างๆในร่างกายยังทำงาน  ดวงตาของเธอปิดสนิท ผ้าพันแผลพันรอบศีรษะและอีกหลายแห่ง  ทุกอย่างยังอยู่ครบ ยกเว้นเพียงแค่สติ  เป็นสิ่งเดียวของเธอที่ผมอยากได้คืนมามากที่สุด   ผมมาเยี่ยมเธอทุกวันตั้งแต่เธอเข้าโรงพยาบาลด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์  

    ชายวัยหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม หวีผมไม่เข้าทรง  ท่าทางไม่ค่อยน่าเชื่อถือว่าเป็นหมอผ่าตัดฝีมือเยี่ยมออกมาจากห้องไอซียู   เขานั่งลงข้างผม  ควักบุหรี่ออกมาทำท่าจะจุดสูบแล้วเก็บลงกระเป๋าเสื้อกาวน์

    “ ขอบใจมากที่มาเยี่ยมเธอทุกวัน ” เขาบอกผม

    “ ไม่เป็นไรหรอกเพื่อน  ฉันเป็นห่วงเธอก็จริง แต่เป็นห่วงนายมากกว่า ” ผมตอบ

    “  เราไม่เป็นไรหรอก  สองเดือนผ่านไป อะไรอะไร ก็เริ่มเข้าสู่สภาพปรกติ  ญาติฝ่ายเธอก็ไม่ค่อยแวะมาเยี่ยมแล้ว   เราเองก็ตื่นมาทำงานได้ตามเดิม  รักษาคนไข้เหมือนเดิม  ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  เหมือนเรื่องราวที่แสนโศกเศร้าตอนนั้นไม่เคยเกิดขึ้น   ราวกับว่าน้ำตาที่เสียไปเป็นสิ่งจอมปลอม  ถ้าจะมีอะไรที่ผิดปรกติ  ก็คงเป็น...นาย ”

    “ ฉัน ? ..”

    “  ใช่สิ มีเพื่อนรักที่ไหนบ้างวะ แอบมาพบภรรยาของเพื่อนได้ทุกวัน ..”

    เขาทำหน้าคล้ายฝืนยิ้มให้ผม  ทำให้ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไป

    “ เฮ้ย อย่าทำหน้าเครียดน่า  พูดเล่น  หยอกนิดหน่อยทำเป็นคิดมาก  เมื่อก่อนเธอชอบพูดว่า ถ้าไม่มาแต่งงานกับเรา  ผู้ชายอีกคนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยได้   ก็เป็นนายเท่านั้น  นึกถึงเรื่องนี้ทีไร  เราอยากดึงสายเครื่องช่วยหายใจของเธอออกทุกที ”    

    น้ำเสียงค่อนข้างจริงจังและซีเรียส ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าเขาเคยทำเรื่องแบบนั้นจริงหรือเปล่า

    “ …พูดเล่นเว้ย...พูดเล่นจริงๆ  ไม่ต้องคิดมาก  คนที่ผิดมันคือตัวเราเอง  เราไม่มีเวลาให้เธอ  เอาแต่เข้าเวรที่โรงพยาบาล  ผ่าตัด ผ่าตัด แล้วก็ผ่าตัด   พอวันที่สำนึกขึ้นมาได้   ก็อยากให้ของขวัญให้เธอดีใจ  ”

    เขาตบบ่าผมแรงๆ  หวังช่วยไล่ความไม่สบายใจ  แล้วพูดต่อว่า

    “ ไม่น่าเลยจริงๆ  เราไม่น่าซื้อรถยนต์ให้เธอเลยจริงๆ   ที่จริง  เราน่าจะเป็นคนขับรถให้เธอเอง  หรือไม่ก็ปล่อยให้เธอใช้บริการเพื่อนสนิทที่พ่วงหน้าที่คนขับรถเหมือนเดิมจะดีกว่า ”

    “ ที่แท้ ..นายกลัวฉันจะลำบาก ” ผมให้ความเห็น เดาวัตถุประสงค์ของเขา

    “ เปล่าหรอก  เราไม่ได้เป็นห่วงนายขนาดนั้น   เรารู้ดีว่านายเต็มใจทำแบบนั้น   นายไปรับไปส่งเธอตั้งแต่ก่อนที่เรากับเธอจะแต่งงานกัน จนกระทั่งหลังแต่งงาน  ความจริงนายไม่ควรทำแบบนั้นเลย ”

    “ ฉันรู้ดี ...ตอนที่เธอโทรมา  ฉันก็ปฏิเสธทุกครั้ง  หาสาเหตุมาบอกปัดเท่าที่จะทำได้  แต่เธอว่า  เธอบอกนายแล้ว และไม่มีปัญหาอะไรนี่ ”  ผมเถียง

    “ ทำไมนายไม่คิดว่าเธอพูดโกหกบ้างล่ะ ..”

    “ เธอเคยโกหกพวกเราหรือไง  ตอนที่เธอบอกฉันว่าเลือกนาย นั่นมันเป็นคำพูดโกหกหรือไงกัน ”

    ผมลุกขึ้นยืน บางส่วนของผมไม่ค่อยพอใจนักที่เหมือนถูกสอบสวนในสิ่งที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ  ทุกอย่างที่ทำเป็นไปในฐานะเพื่อนเท่านั้น  เขาหลบหน้าลงในอุ้งมือ  ถูศีรษะจนผมยุ่งเหยิง

    “ เรารู้ เราขอโทษ  นายกับเธอไม่มีความประพฤติที่ผิดศีลธรรมใดๆ  เธอเล่าให้เราฟังทุกครั้งว่าไปไหนและทำอะไรกับนายมาบ้าง   เธอว่าตอนที่สนุกที่สุดคือวันที่นายพาเธอไปแจ้สคลับ แล้วนักร้องขอให้เธอขึ้นไปร้องเพลงสดๆ  จริงสิ คืนนั้นเธอร้องเพลงอะไรนะ ”

    “ เรือนแพ เวอร์ชั่นแจ้ส ”

    เขาขำนิดๆค่อยคุยต่อ

    “ เพลงโปรดของเธอเลยนะนั่นน่ะ ”  

    “ เหรอ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย  แต่คืนนั้น เสียงปรบมือเกรียวกราวทั่วทั้งร้านเลยนะ ”

    “ แล้วนายทำอะไรอยู่  ตอนที่เธอร้องเพลงบนเวที ? ”

    “ ..กินเหล้า แล้วก็...เอ่อ...พยายามขอเบอร์โทรเด็กเสิร์ฟ  ” ผมตอบ

    “ อะไรกัน นายจีบเด็กเสิร์ฟตอนที่ควงสาวสวยไปเที่ยวสองต่อสอง แถมเป็นตอนที่เธอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที นายไม่ให้เกียรติภรรยาของเราเลยนี่ ”  เขาทำเสียงจริงจัง  

    “ เธอเป็นภรรยานาย  ฉันรู้ดี  เธอร้องเพลงบนเวทีเสร็จ  คนฟังปรบมือ  ฉันกินเหล้าแล้วก็คุยกับเธอ  สี่ทุ่มก็พาเธอไปส่งบ้านกลับไปสู่อ้อมกอดของผู้ชายที่เธอเลือกแล้ว   เวลาประมาณห้าทุ่มครึ่งก็ขับรถกลับบ้าน   ฉันยังโสดนะเว้ย  จะให้นอนกอดหมอนข้างทุกคืนคงไม่ไหวหรอก ”

    เสียงหัวเราะดังขึ้นข้างๆห้องไอซียู  เราสองคนไม่ได้คุยกันแบบนี้นานมาก ตั้งแต่เขาแต่งงานกับเธอ  ความเป็นเพื่อนไม่เคยเปลี่ยนแปลงเพียงแต่สถานะที่เปลี่ยนไปอาจทำให้พวกเราหลงลืมกันไปบ้าง

    “ ฉันขอโทษนะ ” ผมยืนขึ้นแล้วค่อยพูดกับเขา

    “ มันไม่ใช่ความผิดของนาย  เราบอกนายหลายครั้งแล้ว ก็เหมือนที่ตำรวจบอกเราแล้วว่าสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงาน  ”

    “  ถ้าฉันขับรถระวังมากกว่านี้ เธอคงไม่ต้องมานอนอยู่ในห้องไอซียู  ”

    “ ช่างเถอะ บนท้องถนนอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ก็ยังดีที่นายไม่ต้องนอนในห้องไอซียูอีกคน ”

    ผมถกแขนเสื้อข้างซ้ายดูแผลเย็บยาวเหยียดที่เพิ่งหายสนิทได้ไม่นาน  

    “ จริงสิ ...คืนนั้นนายมากับใคร  ?  เราเห็นไม่ค่อยชัด ตอนนั้นกำลังรีบ เลยไม่ได้เข้าไปทัก” เขาถาม

    “ เด็กเสิร์ฟที่แจ้สคลับ  คืนนั้น ...ฉันได้เบอร์โทรมาเพราะบอกไปว่า  มากินข้าวกับภรรยาเก่าเป็นมื้อสุดท้าย ”

    “ เด็กคนนั้นสวยดีนะ  แล้วคิดจริงจังหรือเปล่า   ความจริงนายก็น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว ”  เขาให้ความเห็น
    “ เธอก็ชอบพูดแบบนั้น  เอาแต่บอกว่าให้ฉันรีบมีครอบครัว จะได้เลิกรบกวนฉันเสียที ”

    ผมมองเข้าไปในห้องไอซียูอีกรอบ  สัญญาณชีพของเธอกระตุกนิดหน่อยแต่ยังไม่ขาดช่วง  เขามองตามผมเข้าไปเช่นกัน  เสียงประกาศตามตัวเขาดังขึ้น  เขาอำลาผมโดยบอกว่ามีคนไข้ฉุกเฉิน อุบัติเหตุรถชนกัน  คันที่อาการหนัก  คนขับเป็นผู้หญิงและตั้งครรภ์ได้สองเดือน  เขามองเข้าไปในห้องไอซียูอีกครั้ง  ตบบ่าผมแล้วรีบวิ่งหายไปทางอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน  เขาเป็นศัลยแพทย์ฝีมือดี

    คืนที่เกิดอุบัติเหตุ  ผมคุยกับเธอทางโทรศัพท์ก่อนเกิดเรื่อง  เราคุยกันเรื่องที่เขากำลังจะเป็นพ่อคน เธอขอร้องให้ปิดไว้เป็นความลับ  ผมเดาว่าเธออยากให้เขาแปลกใจ   อายุครรภ์ของเธอสองเดือนกว่า  ผมเคยได้ยินมาว่าแพทย์มักจะไม่ค่อยสนใจอาการของคนในครอบครัว  สงสัยจะเป็นเรื่องจริง  เพราะเขาคิดว่าเธออาเจียนแน่นท้องเพราะโรคกระเพาะ   หลังจากนั้น เธอขอให้ผมไปพบที่แจ้สคลับ

    เส้นทางที่ตรงไปห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินห่างจากห้องไอซียูไม่กี่ร้อยเมตร สะดวกแก่การช่วยชีวิต  แค่ชีวิตไม่รวมสติ  ผมมองตามหลังเขาที่วิ่งจากไปด้วยความรีบร้อน  คืนนั้นเขาก็รีบร้อน  สภาพของเขาดีขึ้นเยอะ ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ  เขาชอบพูดเสมอว่า  ถ้าคืนนั้นเขาลงมือผ่าตัดเอง ตอนนี้  เธอจะจำเป็นต้องอาศัยเครืองพยุงชีพอยู่ไหม  
    “  ...เราอยากได้ยินเสียงของเธออีกครั้ง ก่อนเธอจากไป   ถ้าเราผ่าตัดเธอเองในคืนนั้น แล้วคิดว่าเธอไม่น่าจะรอด  เราจะถามเธอว่าจะเอาอย่างไร จะสู้ หรือ จะถอย   แต่ตอนนี้ เวลานี้  ถ้าเธอจะจากไป คงไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้ได้ยิน ”

    การที่คนรักจากไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเป็นความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด  คนที่เหลืออยู่ก็ต้องกล้ำกลืนทำใจ  ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยา

     ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเขา  เราพบกันที่แจ้สคลับสองต่อสอง  ผมกับเขาต่างรู้ดีว่าเราสองคนรู้สึกกับเธออย่างไร  เรื่องของคนสามคนที่วันหนึ่งต้องกลายเป็นสอง  เอาออกไปแค่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ลบออก  

    “ ...ถ้าไม่มีเขา  ฉันคงจะเลือกเธอเป็นเจ้าบ่าว และถ้าวันหนึ่ง ฉันไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว  ฉันอยากให้เธอช่วยดูแลเขาด้วย ”  

    โบราณเคยเล่าว่าอย่าพูดเป็นลาง ผมน่าจะให้เธอตบปากตัวเองหนักๆ  

    เย็นนี้ ผมคงไปกินข้าวกับเด็กเสิร์ฟที่แจ้สคลับตามปรกติ  เราคบกันตั้งแต่เธอเข้าห้องไอซียู  ดังนั้น จึงมีวันครบรอบการคบกันที่จดจำได้ง่าย   วันคบกันของเราคือวันที่เธอเข้าไอซียู

    หากเธอจากไปในวันใดวันหนึ่ง โดยไม่มีสติกลับมาแล้ว ต้องถือว่า ผมโชคดีกว่าเขามาก

    ผมมีช่วงเวลาการบอกลาจากคนรักที่ไม่มีวันใช้ชีวิตร่วมกัน    
     
    “ …เมื่อก่อนเธอชอบพูดว่า ถ้าไม่มาแต่งงานกับเรา  ผู้ชายอีกคนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยได้   ก็เป็นนายเท่านั้น  นึกถึงเรื่องนี้ทีไร  เราอยากดึงสายเครื่องช่วยหายใจของเธอออกทุกที …”

    คำพูดของเขา แว่วในสำนึกเพียงชั่วพริบตา  ตอนได้ยินคำพูดนั้น บางส่วนของผมก็อยากให้เขาทำแบบนั้น ไม่ใช่เพื่อให้เธอพ้นทุกข์  แต่เพื่อให้ผมได้รู้สึกว่า

    ผมชนะ ....

    จากคุณ : กาแฟสอง - [ 9 พ.ค. 50 19:48:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom