Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    อาคันตุกะยามราตรี

    **มาขัดตาทัพเรื่องยาว ติดรีไร้ท์งานเก่าอยู่ครับ คงโดดเรื่องที่ลงอีกหลายวัน **
    +++++++++++++++++++
    เรื่องสั้น : อาคันตุกะยามราตรี

    เขารู้สึกตัวตื่นสายตายังพร่ามัว ต้องหลับตาลงสักครู่แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นใหม่ ภาพในห้องเริ่มชัดเจน เหมือนเป็นห้องพยาบาลมีเขาอยู่เพียงลำพัง เสื้อผ้าที่สวมก็เป็นชุดคนไข้ ปลายเตียงมีเสื้อผ้าคุ้นตาน่าจะเป็นของเขาวางพับไว้ เตียงถัดไปพบเสื้อกราวน์ของแพทย์แขวนราวม่านอยู่หนึ่งตัว เหลือบดูเวลาที่ข้อมือเป็นเวลายี่สิบเอ็ดนาฬิกาหนึ่งนาที

                   เขาเป็นอะไรถึงมานอนอยู่ที่นี่…

                   แล้วที่นี่ที่ไหน…

                   โรงพยาบาลอย่างนั้นหรือ ?

    หนุ่มวัยสี่สิบพยายามทบทวนต้นสายปลายเหตุยังนึกไม่ออก สมองมึนงงไปหมด ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับตนเอง เขาควรให้เวลาสมองได้พักคลายอาการนั้นเสียก่อนจะดีกว่า ระหว่างนี้ลองออกไปสำรวจข้างนอกว่าเป็นที่ไหนกันแน่ แต่การออกไปทั้งชุดที่ใส่อยู่คงดูไม่ ’เนียน’ เท่าใด

    เขาจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่ ปลดเสื้อกราวน์จากเตียงใกล้กันมาสวมทับ ประตูเปิดปิดอัตโนมัติหลังพ้นห้องออกมา เรียกความสนใจให้หันกลับไปมองอีกครั้ง จึงพบตัวหนังสือเหนือประตูมีข้อความว่า…

                    ห้องปฐมพยาบาล บริษัท พิพัฒน์จักรยาน จำกัด

                  “จักรยาน…เคยได้ยินคำนี้ที่ไหน” เขาพึมพำผ่านป้ายห้องน้ำไป จนเห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินมา สวมชุดช่างมีสีเปรอะเต็มตัว เขาปั้นหน้ายิ้มจังหวะสวนทางกัน

    “เอ๊ะ! ผมไม่คุ้นหน้าหมอเลย มาใหม่เวรแรกหรือเปล่าครับ” ชายในชุดช่างหันมาทัก
       
    “เอ้อ…ครับ ผมเพิ่งมาวันนี้วันแรก” เขาตามน้ำไป พยายามข่มความตื่นเต้นไว้ “อ้า…ยังไม่รู้จักที่ทางที่นี่ อยากเดินดูสักหน่อยครับ”

    “ตอนนี้เหลือแผนกช่างสีกับช่างเชื่อมเท่านั้นที่ยังเปิดทำงานอยู่ ส่วนอื่นปิดหมดแล้วครับ ถ้าหมอแค่อยากรู้จักสถานที่ละก็ ผมแนะให้เดินตรงไปจะเห็นบอร์ดแผนที่ของบริษัทแสดงไว้อย่างละเอียด มีป้ายลูกศรบอกอะไรอยู่ทางไหนไว้เสร็จ ผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน ไม่ไหวแล้วอูย
    …” พนักงานคนนั้นผละไปอย่างรีบร้อน

    เขาเดินไปตามคำบอกได้พบบอร์ดแผนที่จริงๆ ตรงทางแยกจะไปซ้ายหรือขวา และยังมีข้อมูลภาพถ่ายบางส่วนนำมาติดไว้ในบอร์ด เป็นรูปแผงโซลาร์เซลบนหลังคาอาคาร หรือตามพื้นที่โล่งแจ้งถูกกั้นเป็นเขตหวงห้าม

    “ที่นี่ใช้แต่พลังงานแสงอาทิตย์ น่าทึ่งจริงๆ” นึกชมแล้วเลื่อนสายตาไปที่ป้ายต่างๆ
     
    “โชว์รูมขวา แผนกลูกค้าสัมพันธ์ขวา การเงิน / บัญชีขวา ห้องแกลเลอรี่ขวา ห้องประธานบริหารขวา สนามทดลองขับขี่ซ้าย ร้านค้าเครื่องดื่มซ้าย โรงพ่นสี โรงเชื่อมซ้าย…”

                   อ่านป้ายลูกศรอยู่หลายรายการ ก่อนตัดสินใจเดินเลี้ยวขวาพบห้องโชว์รูม แม้ยังไม่ได้เข้าไปแค่มองผ่านกระจกก็ถึงกับอึ้ง ในนั้นมีจักรยานมากมายตั้งแต่คันเล็กๆไปจนถึงคันใหญ่ สำหรับนักกีฬาก็หลายรุ่นหลากแบบ สีสันสวยงามผสมผสานการดีไซน์ตัวถังทันสมัย ขนาดเขายังอยากเป็นเจ้าของสักคัน

    “สวยๆทั้งนั้นเลย”

    เขามาหยุดหน้าห้องโชว์รูม ปรากฏว่าประตูเปิดค้างไว้เหมือนมีคนอยู่ จึงออกอาการลังเลแต่ก็ก้าวเข้าไปสำรวจอย่างระวัง ถึงด้านในสุดไม่มีใคร กลับพบทางเชื่อมต่อไปยังแผนกลูกค้าสัมพันธ์ แผนกการเงิน/บัญชี ห้องแกลเลอรี่และห้องประธานบริหาร ประตูทุกห้องเปิดค้างไว้เพื่อระบายความ อับชื้นให้พัดลมดูดอากาศด้านบนดูดออกไป ที่สะดุดตาคงเป็นห้องท้ายสุด มีร่างใครบางคนอยู่ที่นั่น

    ความอยากรู้ทำให้เขามาหยุดอยู่ข้างห้องประธานบริหาร เสียงสนทนาดังลอดออกมา เขาลอบมองเข้าไปพบหญิงสาวหน้าตาดีสวมชุดดำ กำลังคุยโทรศัพท์มือถือโดยมีคู่สายอยู่ในจอดิจิตอล ผ่านทางกล้องขนาดเล็กในตัว หล่อนถือโทรศัพท์ไว้ตรงหน้าเพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นหน้าเช่นกัน  

    “ร.ป.ภ.ไปพบเขาสลบอยู่ที่สวนพักผ่อนหลังโรงงานค่ะคุณพ่อ สภาพนอนแช่น้ำในบ่อเลี้ยงปลาเงินปลาทอง ไม่รู้เข้ามายังไง” สาวชุดดำบอกกับคู่สายในจอภาพ เป็นชายสูงอายุใส่แว่นสายตา ผมสีดอกเลา

    “ถ้าเข้ามาไม่มีใครเห็นก็ขโมยแน่ๆ คงจะแอบปีนรั้วด้านหลังแล้วพลาดหล่นลงมาน็อคพื้นล่ะสิ”
     
    “เป็นไปได้ค่ะ หรือไม่ก็โดนฟ้าผ่าเล่นงานจนตกลงมา เพราะก่อนหน้านี้ฝนตกหนักมาก มีฟ้าลงหลังโรงงานติดๆกันสามสี่ครั้ง ร.ป.ภ.ไปเช็คกล้องวงจรปิดที่เกิดเสียเลยเจอเขา”

    “ถ้าโดนฟ้าผ่าจริงคงเลี้ยงไม่โตแล้วหละ หาก
    รอดนะ ไม่เป็นเจ้าชายนิทราก็จำความอะไรไม่ได้”

    “คุณพ่อช่วยเช็คสมองเขาให้ทีได้มั้ยคะ ถ้าไม่เป็นอะไรมากถึงขั้นนั้น จะได้รู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร”

    ผู้เป็นพ่อในจอภาพหรี่ตามองลอดแว่นยิ้มล้อลูกสาวที่ยังโสด ถึงอายุสัมผัสเลขสามนำหน้ามาห้าปี

                  “สนใจเจ้าหัวขโมยคนนี้เหรอ”

                  “คุณพ่อก้อ…แก้วยังเศร้าที่เพิ่งเสียคุณปู่ไปนะคะ” ลูกสาวติง “แล้วยังไม่เคยคิดเรื่องคู่เลยด้วยซ้ำ แต่…ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะกับชายแปลกหน้าคนนี้ เห็นแล้วรู้สึกต้องชะตายังไงไม่รู้สิ ไม่แน่นะ คุณพ่อเห็นอาจจะรู้สึกอย่างแก้วก็ได้”

    “ไม่ยิงคลิบหรือรูปมาให้พ่อดูหน้าล่ะ”

    “ลืมถ่ายค่ะ อีกเดี๋ยวจะยิงไปให้นะคะ”

    “แล้วจะพาหมอนั่นมาหาพ่อเมื่อไหร่ จะได้เตรียมเครื่องมือไว้”

    “อีกครึ่งชั่วโมงค่ะ แก้วต้องแวะปั๊มโซลาร์เซลเปลี่ยนแบตฯรถใหม่ก่อน ของเก่าชักจะเก็บไฟไม่อยู่แล้วเวลาแผงโซลาร์เซลทำงาน”

    เขาแอบฟังอยู่นาน ประติดประต่อเรื่องราวแล้วน่าจะเป็นตัวเขาที่ถูกพูดถึง คำบางคำฟังไม่คุ้นเลยสักนิด มีด้วยหรือปั๊มโซลาร์เซล…แล้วปั๊มน้ำมันล่ะ…?  

    เสียงฝีเท้าในห้องตรงมาที่ประตู เขาถอยกรูดเข้าไปหลบในห้องใกล้สุด ได้ยินเสียงสั่งการแว่วทางโทรศัพท์ให้ ร.ป.ภ.ปิดห้องปิดไฟทั้งหมด และขนย้ายคนไข้ขึ้นรถตู้ให้ด้วย

    ชายหนุ่มในคราบหมอเห็นหล่อนเดินผ่านไป จึงหันมาสนใจภายในห้องแกลเลอรี่ มีจักรยานรูปทรงแปลกๆหลายคันนำมาโชว์ไว้ กับบางสิ่งที่ทำให้เขาตะลึงงันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ฉวยโอกาสหยิบข้าวของต่างๆในห้องดูเพื่อให้แน่ใจ แล้วผลุนผลันออกมายืนหันรีหันขวางอยู่หน้าโชว์รูม ทั้งที่ยังตกใจไม่หาย

    “ไม่ได้…เราอยู่ที่นี่ไม่ได้…ต้องรีบกลับไป…แล้วจะกลับยังไง…” เขาพูดพร้อมกลอกตาไปมาเหมือนคนเสียสติ

                   ฉับพลันนั้นเอง…ท้องฟ้าเริ่มแปรปรวน ลมฝนที่หยุดไปได้หวนมาใหม่ ฟ้าแลบแปลบๆอยู่ตลอดเวลา แลเห็นเมฆดำใหญ่สองกลุ่มลอยต่ำเข้าหากัน รวมตัวปั่นเป็นงวงช้างราวกับพายุในท้องทะเล

                  เปรี้ยงงง…!

                  เสียงกัมปนาทจากฟ้าผ่าซ้ำลงมา มันเป็นปรากฏการณ์ประหลาดที่ช่วยให้เขาจำต้นสายปลายเหตุได้มากขึ้น

    เขาเร่งฝีเท้าไปตามทางเดิน ถึงทางแยกเดิมมีบอร์ดแสดงแผนที่ต้องรีบหลบเข้าเงามืดหลังพุ่มไม้ พบสาวในชุดดำกำลังฟังรายงานจาก ร.ป.ภ.สองคนตรงหัวมุมอาคารโชว์รูม

    “เขาไม่อยู่ในห้องปฐมพยาบาลครับคุณพิกุลแก้ว คงจะฟื้นแล้วหลบหนีไป พบเสื้อผ้าเปลี่ยนทิ้งไว้”

    “เสื้อของด็อกเตอร์พิสุทธิ์หายไปด้วยครับ”

    “เขาเอาเสื้อคุณพ่อไปทำไมกัน” หล่อนนิ่งคิดแล้วออกคำสั่งให้ ร.ป.ภ.ช่วยกันค้นหาเผื่อจะพบ “ถ้าเจอตัวพาไปที่ห้องปฐมพยาบาลก่อนนะคะ และอย่าทำร้ายเขา”

    “ครับ” ร.ป.ภ. รับคำแล้วแยกย้ายกันทำหน้าที่

    เพียงสิบนาทีผ่านไป หญิงในชุดไว้ทุกข์ได้รับรายงานจาก ร.ป.ภ.พบเสื้อด็อกเตอร์พิสุทธิ์ตกอยู่หลังโรงงานใกล้บ่อเลี้ยงปลา คาดว่าชายแปลกหน้าคงปีนรั้วออกไปแล้ว

    +++++++++++++++

        “อ้าว…พี่ ไหนว่าจะไปดูฟ้าผ่าหลังโรงงานไม่ใช่หรือคะ ทำไมกลับมาเร็วจัง เห็นเพิ่งออกไปตะกี้นี้ ลืมอะไรหรือเปล่า”

                   พัชรีทักสามีขณะนำลูกเพิ่งคลอดได้หนึ่งสัปดาห์ลงเปลในห้องทำงาน อยู่หลังโชว์รูมรถจักรยานภายใต้ชื่อ บริษัท จักรยานไทย จำกัด

    “ไหน…พัชว่าไงนะ เมื่อกี๊พี่เพิ่งออกไปงั้นหรือ”
    หนุ่มวัยสี่สิบทวนคำถามให้มั่นใจว่าฟังไม่ผิด จนต้องพลิกข้อมือดูนาฬิกา มันบอกเวลาสามทุ่มสองนาที

    ม่านตาเขาขยายกว้าง เป็นไปได้อย่างไรที่เวลาเดินปกติเหมือนเขาไม่ได้ไปไหน นาฬิกาบนผนังในห้องอีกเรือนก็ยืนยันเวลาเดียวกัน แล้วที่เขาไปมานั่นล่ะคืออะไร…?

    “ค่ะ พี่บอกให้พัชกับลูกอยู่ในนี้ พี่จะไปดูว่าฟ้าผ่าอะไรโครมๆหลังโรงงานเรา” หญิงสาวเงยหน้าชี้แจง เพิ่งสังเกตสามีเปียกโชกทั้งตัว “แล้วพี่ไปทำอะไรมาถึงเปียกไปหมด”

    “คือ…พี่ลื่นตกลงไปในบ่อเลี้ยงปลาน่ะ” เขาบอกด้วยสีหน้าตื่นๆ เมื่อนึกถึงบอร์ดในห้องแกลเลอรีที่จำได้ติดตา เป็นบอร์ดผู้บริหารบริษัท พิพัฒน์จักรยาน จำกัด สืบต่อกันมา…

    นายพิชิต ชนะชัย ผู้ก่อตั้ง รูปเป็นชายชราผมขาวโพลน

                  นายพิพัฒน์ ชนะชัย บุตรชายนายพิชิต รูปเป็นหนุ่มใหญ่สวมสูทแลภูมิฐาน

                  ด็อกเตอร์พิสุทธิ์ ชนะชัย บุตรชายนายพิพัฒน์ รูปในวัยปัจจุบันสวมแว่นสายตา ผมสีดอกเลา ตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร

                  นางสาวพิกุลแก้ว ชนะชัย บุตรสาวด็อกเตอร์พิสุทธิ์ รูปในวัยปัจจุบันสามสิบห้าปี ตำแหน่งประธานบริหาร

                  “เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่ะพี่ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” พัชรีนำชุดใหม่พร้อมผ้าเช็ดตัวมายื่นให้ เขาสะดุ้งเล็กน้อย ยิ้มเจื่อนๆก่อนจะรับเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำในห้องทำงาน  

                  เพียงพ้นสายตาภรรยา ชายหนุ่มรีบล้วงกระเป๋ากางเกงดึงของสิ่งหนึ่งออกมา มันคือปฏิทินพกพาขนาดบัตรเครดิต ระบุพุทธศักราช 2650

                  “เรายังไม่อยากเชื่อ…แล้วใครจะเชื่อเรา…ต้องหาว่าเราบ้าแน่ๆ ให้ใครรู้ไม่ได้แม้แต่...พัช" เขาตัดใจทิ้งปฏิทินลงโถส้วมกดชักโครกหายไปกับตา เร่งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาชวนภรรยากลับบ้าน

                   “พัชว่าจะชวนพี่อยู่พอดี เราต้องกลับไปเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม เสี่ยโรจน์จะมาพรุ่งนี้”
               
                   “เสี่ยโรจน์…” เขาทวนชื่อ ทรุดกายนั่งโซฟาออกจะงงๆไม่เข้าใจที่ภรรยาพูด “เสี่ยจะมาทำอะไรหรือพัช”

                  พัชรีก้มคว้าลูกอ่อนขึ้นจากเปลมาอุ้มไว้แนบอกเตรียมกลับบ้าน สายตามองสามีให้นึกฉงนในคำถาม

    จากคุณ : พรพชร - [ 9 พ.ค. 50 22:43:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom