Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    นกกระจาบแห่งสุวรรณภูมิ วรรค ๙ -:- คิดอย่างไรให้ใจเป็นสุข(๒) -:- [นิทานชาดกยุคไซเบอร์]

    นิทานเหล่านี้เป็นเรื่องสมมุติแต่งขึ้นมั้ง  อาจจะเกี่ยวข้องกับบุคคล  สมาคม  หรือรัฐบาลใด ๆ  หากชื่อของตัวละครหรือสถานที่  จงใจไปพ้องกับผู้ใดผู้หนึ่ง  หรือสถานที่ใดที่หนึ่ง  ผู้เขียนก็ขอเผ่นไปจากที่นี้




    ~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~

    วรรคก่อนหน้า


    วรรค ๑  พระราชบัญญัติค้าปลีกค้าส่ง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5293048/W5293048.html

    วรรค ๒  พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5340760/W5340760.html

    วรรค ๓  ฮวงจุ้ยต่ออายุ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5343795/W5343795.html

    วรรค ๔  นกโง่  ลิงโง่  และคนโง่
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5352224/W5352224.html

    วรรค ๕  ด่าเพราะอยากดัง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5357568/W5357568.html

    วรรค ๖  ก็ผมเป็นวีรบุรุษ(โว้ย)
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5385042/W5385042.html

    วรรค ๗  แสงธรรมหลอน
    http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5388958/Y5388958.html

    วรรค ๘  คิดอย่างไรให้ใจเป็นสุข(๑)
    http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5391704/Y5391704.html


    ~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~:~




    ~:~ คิดอย่างไรให้ใจเป็นสุข (2) ~:~



    วันรุ่งขึ้น  เหล่ามนุษย์หารือกัน  และตกลงว่าจะมาแต่หัววัน  เพื่อจะได้มิถูกพ่อนกล่อหลอกเอาไว้อีก  ทว่าพ่อนกกระจาบคาดการณ์ไว้แล้ว  จึงมารอในเวลาเดียวกับที่พวกเขาปีนขึ้นมาบนหลังคา  พวกมนุษย์ประหลาดใจที่ได้ยินเสียงพ่อนกสนทนากับลูกอีก


    “ลูกเอ๋ย  เมื่อวานนี้เราคุยกันเรื่องการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลใช่หรือไม่”

    “ใช่จ้ะพ่อ”

    “แต่นั่นเป็นเพียงวิธีคิดทางโลกนะลูก  ยังไม่สามารถใช้งานได้จริงในการระงับกิเลส  อันได้แก่ความบ้าในกามสุขทั้งหลาย”

    ลูกนกตีหน้าฉงน

    “แล้วมีอีกหรือจ๊ะพ่อ”

    “มีสิลูก  ลูกทราบหรือไม่  ว่าคาถาบาทใดที่ทำให้พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรเลื่อมใสในตัวพระพุทธเจ้า”

    “อ๋อ...”  ลูกนกลากเสียงยาว  “ใช่อันนี้หรือเปล่าจ๊ะพ่อ  ‘ธรรมใดเกิดแต่เหตุ  พระผู้มีพระภาคสอนถึงเหตุแห่งธรรมนั้น  และการดับไปแห่งธรรมนั้น ’ ”  ลูกนกฉุกคิดได้ด้วยปัญญาไวจึงกล่าวเสริมว่า  “หรือนี่จะเป็นหลักแห่งเหตุและผลทางธรรมที่พ่อกล่าวถึงจ๊ะ”

    “หึหึ  ฉลาดจริงเชียวลูกพ่อ  หลักนี้เรียกว่า  ปฏิจจสมุปบาท  แปลว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นโดยอาศัยกันและกันอย่างต่อเนื่อง

    ยกตัวอย่างเช่น  หากคนตำบลหนึ่ง ๆ ขายเสียง  พื้นที่นั้นก็จะได้ ส.ส. ที่ฉ้อโกงเป็นนิสัย  เมื่อคนประเภทนั้นจำนวนมากมารวมกันในสภา  ก็จะออกนโยบายทั้งหลายที่เอื้อต่อการโกงกิน  เมื่อบ้านเมืองถูกโกงกินมาก ๆ เข้าก็จะทรุดหนัก  เศรษฐกิจทรุดงานก็จะไม่มีให้คนทำ  ข้าวยากหมากแพง  แล้วก็ส่งผลกระทบมายังชาวบ้านที่ขายเสียงอีกครั้ง

    ในทางธรรมก็มีสิ่งที่กระทบเกี่ยวเนื่องเป็นทอด ๆ เช่นกัน  ซึ่งหากผู้ใดขัดขวางวัฏจักรนี้จุดใดจุดหนึ่งย่อมระงับความอยากได้อยากมี  ป้องกันมิให้ตนจมอยู่กับความบ้าในกามลาภยศอำนาจชื่อเสียง  ดังเช่นที่เคยมีตัวอย่างมาในอดีตกาลเมื่อนานมาแล้ว”

    ลูกนกอยากฟังเรื่องราวนั้น  จึงอ้อนวอนให้พ่อนกกระจาบเล่าให้ฟัง  ซึ่งพ่อนกก็ไม่ขัด  สาธกนิทานอันเขาอ้างว่าเป็นเรื่องจริงขึ้นมา





    กาลครั้งนั้นมีมาณพหนุ่มอยู่ห้าคน  ทั้งห้านี้เป็นสหายกันแลออกท่องเที่ยวไปด้วยกันอยู่เสมอ  


    มีอยู่วันหนึ่ง  ห้าสหายเดินผ่านศาสนสถานของศาสนาปาโป๊ก  ณ สถานที่นั้นจัดงานมีเสียงอึกทึกครึกโครม  แล้วก็มีเสียงฮือฮาดังอย่างน่าสนใจนัก  หนึ่งในห้าสหายสนใจเรื่องครึกครื้น  จึงชักชวนเพื่อนเข้าไปชมดู  อีกสี่คนก็ไม่ขัดจึงพากันเดินเข้าไปในบริเวณวัดแห่งนั้น

    คนแรกแม้ได้ยินเสียงเป่าปากโห่ฮาน่าสนุก  แต่ก็ไม่เงยหน้าขึ้นดู  เพราะเขาเป็นสมณะ  ซึ่งมีวินัยบัญญัติว่ายามเดินผ่านละแวกบ้านจักทอดสายตาลงต่ำไม่แลมองอะไรเป็นพิเศษ  จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น  และไม่ได้เก็บเอามาเป็นอารมณ์

    คนที่สองหันไปมอง  เห็นโคโยทตี้สาวสวยเต้นอยู่บนเวที  โคโยทตี้นางนั้นเปลื้องผ้าออกทีละชิ้น..ทีละชิ้น  ท่ามกลางสายตาของคณะสงฆ์และญาติโยมในงาน  แต่ให้บังเอิญว่ามาณพหนุ่มคนที่สองนั้นเป็นสูตินรีแพทย์  เห็นของแบบนี้จนชินแล้ว  จึงมองสตรีเพศร่างเปลือยเปล่าดุจต้นไม้ใบหญ้า  ไม่มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น

    คนที่สามหันมองตามเพื่อน  เห็นเนื้อนมไข่เต็มสองตา  เกิดความรู้สึกว่าสวยดี  น่ารักดี  แต่บังเอิญให้หมอนี่เป็นเพลย์บอย  มีสตรีผ่านมือมามาก  เมื่อเห็นนางผู้นั้นก็นึกเปรียบเทียบว่า  ทรวดทรงไม่อึ๋มเท่าน้องอั้ม  หน้าตาก็ไม่สะสวยเท่าน้องพอลล่า  จึงไม่คิดจะจดจำใส่ใจ

    คนที่สี่มองเห็นสาวงามเปลือยกายก็เกิดความรู้สึกว่า  สวยดี  หุ่นดี  และจดจำหมายรู้ไว้ในใจ  ด้วยในชีวิตของเขาไม่ค่อยมีผู้หญิงแก้ผ้าให้ดูบ่อยนัก  แต่บังเอิญว่าหมอนี่เป็นเกย์  จึงไม่เอาความคิดนั้น ๆ ไปปรุงแต่งต่อเพิ่มเติม

    ส่วนคนสุดท้ายเป็นชายแท้ทั้งแท่ง  เห็นแล้วเกิดความรู้สึกตื่นเต้น  ละสายตาไปไม่ได้  ก็ปลีกตัวจากกลุ่มเพื่อนไปเกาะขอบเวที  อีกสี่คนนั้นไม่รู้ว่าเพื่อนแวะข้างทางจึงพากันไปต่อ




    รุ่งเช้าขึ้น  สี่สหายก็พบเพื่อนอยู่บนพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์

    ‘ไอ้หื่นบุกปล้ำโคโยทตี้ลูกสาวเจ้าพ่อ  เจอไข้โป้งดับอนาถ’

    แล้วก็มีภาพเล็ก ๆ ของชายหนุ่มคนที่ห้าประกอบข่าว  คนทั้งสี่เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เกิดความเศร้าโศกเสียใจ  แล้วพากันไปรับศพเพื่อนมาฌาปนกิจตามประเพณี





    สาธกนิทานจบลงพร้อมอรรถาอธิบายเพิ่มเติมของพ่อนก

    “รูปก่อเกิดเวทนา  เวทนาก่อเกิดสัญญา  สัญญาก่อเกิดสังขาร  สังขารก่อเกิดวิญญาณ  วิญญาณก่อเกิดภพ  ภพก่อเกิดชาติ  ชาติก่อเกิดรูป  วนเป็นวัฏจักรไปไม่สิ้นสุด

    คนแรกนั้นรูปไม่เข้ามากระทบ  จึงไม่ก่อเกิดสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นตามมา

    คนที่สองรูปกระทบตา  แต่ไม่เกิดความรู้สึกชอบใจไม่ชอบใจใด ๆ  ตัดได้ที่เวทนาจึงไม่ก่อเกิดสัญญา
     
    คนที่สามรูปกระทบตา  เกิดเวทนาว่าสวยดี  น่ารักดี  แต่ไม่จดจำเอาไว้  จึงตัดได้ที่สัญญาไม่ก่อเกิดสังขาร
     
    คนที่สี่รูปกระทบตา  เกิดเวทนาเหมือนคนที่สาม  เกิดความจำได้หมายรู้ว่าเป็นของแปลก  แต่ไม่เอาไปปรุงแต่งในความคิดต่อว่าตนอยากจะทำอย่างนู้นอย่างนี้กับสตรีผู้นั้น  เป็นการตัดได้ที่สังขาร  ทำให้ไม่เกิดกามกิเลส

    ส่วนคนที่ห้า  เลยเถิดไปถึงขั้นปรุงแต่งว่าตนจะทำอย่างนั้นอย่างนี้  ก่อเกิดตัวกิเลสเข้าเกาะกุม  และแปรออกเป็นการกระทำที่ผิดธรรมนองคลองธรรม”

    “พ่อจ๋า  ถึงลูกจะทราบแล้วว่ากระบวนการก่อเกิดกิเลสทั้งหลายเป็นไปเช่นนี้  แต่มันตัดยากเหลือเกินจ้ะ  นี่ถ้าหากมีนกตัวเมียสวย ๆ มาทอดสะพานให้ลูกตอนนี้  ลูกก็คงอดมิได้ที่จะไปทำความรู้จักมักคุ้น”

    “ลูกเอ๋ย”  พ่อนกตอบด้วยน้ำเสียงปรานี  “อันว่าปุถุชนนกธรรมดาจะหักดิบกิเลสไปเลยนั้นเป็นของยาก  แต่หากไม่เริ่มฝึกฝนที่จะละมันเสียแต่ตอนนี้  แล้วจะสามารถควบคุมจิตใจของเราตามต้องการได้อย่างไรเล่าลูก  หากลูกมองเห็น  ก็จงห้ามอย่าให้เกิดความรู้สึกชอบใจไม่ชอบใจ  หากห้ามมิได้ก็อย่าเก็บมาจดจำ  หากไม่อาจห้ามความจำได้หมายรู้  ก็จงอย่าคิดฟุ้งซ่านปรุงแต่งต่อ  ลองทำเช่นนี้ดูบ่อย ๆ   ลูกจะพบว่าการตัดอกหักใจจากของอันเป็นที่รักที่ชอบใจนั้นง่ายขึ้นทุกที

    แม้นมนุษย์รู้หลักปฏิจจสมุปบาทและนำไปปฏิบัติแล้วไซร้  ไม่ช้าไม่นานสังคมของพวกเขาก็จะสงบสุข  หนังสือพิมพ์ก็จะไม่มีข่าวฆ่าข่มขืน  ข่าวการปล้นร้านทอง  หรือแม้แต่กิเลสตัวใหญ่ ๆ ระดับชาติ  ได้แก่ความอยากได้อยากมีดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้  ก็อาจละอาจวางกระทั่งนำไปสู่ความสงบสุขในที่สุด”

    “แต่พ่อจ๋า”  ลูกนกขัด  “ถึงมนุษย์จะรู้  แต่ยากนักที่จะหาผู้อยากปฏิบัติ  เพราะเขาคิดว่าความอยากได้อยากมีทั้งหลายเป็นความสุข  แล้วหลักปฏิจจสมุปบาทจะใช้ได้กับผู้ซึ่งยังมีผงธุลีในดวงตามากเหล่านั้นหรือจ๊ะ”

    “จริงเช่นนั้นล่ะลูกเอ๋ย  พ่อจึงจะกล่าวถึงวิธีที่สองในหัวข้อการคิดอย่างไรให้ใจเป็นสุขต่อ  เพื่อให้ผู้ซึ่งยังยึดติดกับความสุขแบบปุถุชน  สามารถบรรเทาความลุ่มหลงมัวเมาในโลกธรรมได้”

    “มนุษย์โดยทั่วไปนั้น  มักมองเรื่องราวต่าง ๆ เพียงแง่เดียว  สิ่งใดรักก็มองเฉพาะแง่ที่ชอบใจ  สิ่งใดเกลียดก็หาแต่แง่ที่ไม่ชอบใจมาขบคิด”  พ่อนกเกริ่น  “อย่างคำพังเพยโบราณว่าไว้ว่า  ‘ยามรักน้ำต้มผักก็ยังหวาน  แต่ยามร้าวรานน้ำตาลก็ยังขม’  นี่แสดงถึงการที่มนุษย์ยึดจับเฉพาะแง่ใดแง่หนึ่งที่ตนพอใจจะคิด

    และที่พ่อจะกล่าวถึงได้แก่  วิธีที่สอง  คือการคิดหลายแง่  ซึ่งในอดีตกาลนั้นก็มีผู้ได้ยึดวิธีคิดเช่นนี้เพื่อทำให้ใจของตนสงบสุขไม่ว้าวุ่นมาแล้ว”

    ลูกนกอยากรู้เรื่องในอดีต  จึงอ้อนวอนให้พ่อนกเล่าให้ฟัง  พ่อนกจึงสาธกนิทานอันเขาอ้างว่าเป็นความจริงขึ้นมาอีกเรื่อง

    แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 50 10:33:17

    จากคุณ : Innocent&Pure - [ 10 พ.ค. 50 10:21:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom