 |
๐ ๐ ๐ ๐ ::::: อย่าใช้คำว่า รัก ทำร้าย หัวใจ ::::: ๐ ๐ ๐ ๐
1.
ฉันไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า รู้จักความรัก เป็นอย่างดี ในทางตรงข้าม ฉันกลับรู้สึกว่าสนิทสนมกับความเศร้า อย่างเข้าใจ กลายเป็นว่า ฉันเลือกที่จะเดินจับมือกับความเจ็บปวดเหล่านั้นมากกว่าเงยหน้ามองหาความรัก
แต่ในบางขณะ การรับรู้เรื่องราวจากคนรอบข้าง แม้จะเป็นเพียงเรื่องราว-เรื่องเล่าที่ลอยหอบมากระทบโสตประสาท ฉันก็อดคิด กับเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้น มันคือ ความรัก ???
ฉันไม่ใช่ที่ปรึกษาเรื่องความรัก ไม่ใช่ศิราณีของหัวใจ แม้จะถูกรุ่นพี่ค่อนคอดว่า เป็นผู้เชียวชาญเรื่องความรัก
ไม่เลย...ไม่เลย
ฉันก็แค่คนที่ผิดหวังซ้ำซากกับสิ่งที่ไม่ควรคาดหวัง ฉันก็แค่คนที่ยืนอยู่บนความเจ็บปวดรูปแบบเดิม
ไม่เลย...ไม่เลย
ฉันไม่รู้จักความรักดีพอที่จะรักษามันไว้
2.
ฉันรับรู้เรื่องราวบางเรื่อง ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ละครในโทรทัศน์ บางท่อนของบทเพลง ถ้อยคำในหน้านิยาย และ ...บางเรื่องราวในโลกอินเตอร์เนท ที่พวกเขาเล่าว่า- ความรักทำให้เป็นเช่นนั้น
2.1 คนบางคน ยอมทุมเท ทำทุกสิ่งเพื่อให้คนที่รัก แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวด แต่ปากก็ยังร้องบอกว่า เธอมีความสุขทีได้เห็นคนที่รักมีความสุข ความสุขที่เธอได้ใช้สองมือสร้างให้คนรัก เพราะนั่นคือ รูปแบบความรักที่เธอมอบให้คนที่เธอรัก
2.2 คนบางคน ตีคุณค่าของความรักที่ได้มา จากการกระทำของอีกฝ่าย ความรักคือการให้ กลับกลายเป็นว่า ใคร ให้ได้มากกว่า นั่นคือความรักที่มากมายเช่นกัน จนหลงลืมไปว่า ตัวเองนั้นได้เป็นฝ่ายให้ ใครบ้างหรือไม่
2.3 คนบางคน มองว่า ความรักไม่มีถูกผิด แต่อาจหลงลืมไปว่า บางความรู้สึก ควรเก็บซ่อนไว้ในใจให้มิดชิด หากเมื่อสิ่งที่เรียกว่า ความรักนั้นเกิดขึ้น อาจทำให้ คนที่มีครอบครัวแล้วแตกสลาย ความรัก ไม่มีถูกผิด ทว่า มันมีกรอบของสังคม
2.3 คนบางคน มองว่า ความรัก คือการได้ครอบครอง เมื่อไม่ได้มา ก็อย่ามอบให้ใคร ข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ ทุกเช้า เป็นเรื่องราวโศกเศร้าของเรื่องราวฆาตกรรมเพราะแรงพิศวาส ที่...พวกเขาใช้คำว่ารักมาเป็นเหตุผลในการลงมือ
2.4 คนบางคน เลือกทำร้ายตัวเองให้ปวดเจ็บ กรีดเนื้อตัว - ทำร้ายตนเอง เพื่อประกาศถึงความรักที่มีต่อใครบางคนเมื่อลาจาก ปรารถนาให้อีกฝ่าย จดจำไปชั่วชีวิตที่เหลืออยู่
3. ครั้งหนึ่ง ฉันได้คุยกับจิตแพทย์ ท่านหนึ่ง ผ่านการสัมภาษณ์เพื่อเขียนบทความชิ้นหนึ่ง ฉันไม่ใช่นักสัมภาษณ์มือหนึ่ง จึงมักสร้างความคุ้นเคยกับอีกฝ่ายก่อนสนทนาเป็นเรื่องราว หนึ่งในคำอธิบายง่ายๆที่ตรงใจ
พรหมลิขิต: พระพรหม ท่านลิขิต ให้คนสองคนมาเจอกันแต่ความผูกพันนั่นมันอยู่ที่คนสองคนจะสร้างมัน พรหมลิขิตมีจริงแต่ความรักนั่นมันไม่ได้ถูกกำหนดด้วยพระพรหม
เคยสังเกตไหมว่า ทำไมบางคนอกหักแบบเดิมๆ รูปแบบเดิมๆ เพราะเขาวางวิถีทางดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิม มันจึงเดินจบลงไปตามเช่นนั้น ถ้าว่ากันตามหลักศาสนา ก็ทำอะไรได้เช่นนั้น
เพื่อนที่ไม่เคยพบหน้าในอินเตอร์เนทเล่าประมาณว่า ตามสถิติแล้ว ถ้าใครเคยอกหักรูปแบบไหนก็จะเคยเป็นซ้ำอย่างเดิม เหมือนคนป่วยแล้วมีเชื้ออยู่ในตัวเอง
ฉันเผลอหัวเราะ (ขออภัยจริงๆค่ะ) กับบางเรื่องราวในอินเตอร์เนท
บางคนบอกว่าตัวเองไม่นิยมความเจ็บปวด (มาโซดิมส์) แต่สิ่งที่เขากำลังทำนั่นแหละ ใช่เลย!
โลกเราอุดมไปด้วยคนป่วย
4. ฉันไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า รู้จักความรัก เป็นอย่างดี
ในทางตรงข้าม
ฉันเลือกก่อกำแพงขึ้นมาปิดกันตัวเอง
ด้วยกลัวหัวใจตัวเองจะบอบช้ำและเจ็บปวด ด้วยรูปแบบเดิมๆ
แต่ในขณะเดียวกัน ความรักยังคง งดงาม เหมือนดวงดาวที่เปล่งแสงในตัวเอง
ความรัก อาจไม่ใช่อะไรเลยในชีวิต
แต่อย่าเลย
อย่า
อย่าใช้เหตุผลร้อยแปดพันเก้า ในการการะทำของตัวเอง
เพียงเพราะว่า
ความรักไม่ทำร้ายใคร
มีแต่คนใช้ คำว่า รัก ทำร้าย หัวใจ
จากคุณ :
สายลมอิสระ
- [
14 พ.ค. 50 23:10:27
]
|
|
|
|
|