ช่วงเวลาไหนของวัน ที่คุณชอบที่สุด
สำหรับฉัน หากเป็นเมื่อก่อน คงมีสองคำตอบ
คำตอบแรก คือยามค่ำคืน ที่พระอาทิตย์ได้หายลับไปจากฟากฟ้า เหลือแต่ความสงบ แสงดาว และแสงจันทร์อ่อนๆนวลตา เวลาค่ำคืน โดยเฉพาะในคืนที่พระจันทร์ออกมาทักทายอย่างกลมโตเต็มดวง มักจะทำให้ฉันสบายใจ จนเผลอนั่งยิ้มอยู่คนเดียวให้กับพระจันทร์อยู่บ่อยครั้ง
คำตอบที่สอง คือยามเช้า ที่แสงแดดอ่อนๆเพิ่งเริ่มโลมเลียผืนโลก หลังจากสลัดความขี้เซาออกจากตัวแล้ว ฉันมักจะเริ่มต้นวันด้วยน้ำแก้วโตหนึ่งแก้ว และการออกกำลังกายในสวน ช่วงเวลายามเช้าในสวนมักจะเปี่ยมไปด้วยความสดชื่นร่มเย็น ต้นไม้ใบหญ้าอิ่มเอมไปด้วยน้ำค้าง หมู่แมลงบินวนหยอกล้อดอกไม้สวย เหล่านกเริ่มออกหากินพร้อมส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว กิจกรรมการออกกำลังกายในสวนของฉัน ดำเนินไปท่ามกลางควมเนิบนาบของบรรยากาศ อาจจะดูขัดกันบ้างเหมือนเต้นฮิปฮอปประกอบเพลงแจ๊ซ แต่ฉันกลับรู้สึกสนุกมากกว่าการออกกำลังกายในห้องกระจกของคลับใหญ่ในห้างกลางกรุง
แต่คำตอบของฉันก็ต้องเปลี่ยนไป หลังจากเรื่องราวเล็กๆบางอย่างได้ผ่านเข้ามา เช้าวันหนึ่งเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ขณะที่ฉันกำลังนอนยกน้ำหนัก สายตาก็ได้เหลือบไปเห็นรังนกเล็กๆวางตัวอยู่บนกิ่งต้นมะเฟือง ภายในรังนกนั้น มีเจ้าตัวเล็กสองตัวโผล่หน้ามาให้เห็นเพียงเสี้ยวหนึ่ง มันคงกำลังรอคอยการกลับมาของผู้เป็นแม่ ฉันออกกำลังไปพลางชำเลืองดูเจ้าตัวเล็กทั้งสองเป็นระยะ ด้วยความเป็นห่วงว่ามันจะต้องรอเก้อหรือไม่ แต่ไม่นานนัก การรอคอยของเจ้าตัวเล็กทั้งสองและฉันก็สิ้นสุดลง นกอีแพรดผู้เป็นแม่บินโฉบกลับรังพร้อมอาหารในปาก เจ้าตัวเล็กส่งเสียงดีใจพร้อมรับอาหารจากปากแม่ ฉันยิ้ม นึกขอบคุณเจ้านกทั้งสาม ที่ให้ฉันได้เริ่มต้นวันด้วยภาพที่งดงามเช่นนี้
หลังจากวันนั้น อีกหลายเช้าที่ฉันได้เฝ้ารอคอยการกลับมาของคุณแม่อีแพรดร่วมกับอีแพรดน้อยทั้งสอง ด้วยอาหารที่แม่คาบมาให้ทุกเช้า เจ้าตัวเล็กก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนเริ่มคับรังเล็กๆของมันภายในเวลาเพียงสิบกว่าวัน แล้วเช้าวันหนึ่ง ฉันก็เหลือบไปพบเพียงแต่รังอันว่างเปล่า เจ้าอีแพรดน้อยคงโตเป็นหนุ่มและจากรังของมันไปแล้ว ไม่มีเงาของอีแพรดน้อย ไม่มีเสียงของคุณแม่อีแพรดที่คุ้นเคย ช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นในยามเช้าถูกแทนที่ด้วยความว่างเปล่า ฉันเฝ้ามองรังร้างพร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ
เจ้าอีแพรดหนุ่มน้อยจะรู้สึกอย่างไรบ้างนะที่ต้องทิ้งรังไป มันจะรู้สึกอย่างไรที่มีเวลาได้อยู่กับแม่ผู้ให้กำเนิดแค่สิบกว่าวันเท่านั้น แล้วก็ต้องออกไปเผชิญโลกหาอาหารด้วยตนเอง ไม่ว่าจะอยากหรือไม่ก็ตาม มันจะมีโอกาสได้บอกลาและบอกรักคุณแม่อีแพรดในวันสุดท้าย ก่อนจากกันหรือไม่ คงเป็นวิถีของนกอีแพรดที่ฉันไม่มีวันจะรู้คำตอบ แต่จริงๆแล้ววิถีของคน บางครั้งก็คงไม่ต่างกันเท่าใด การพลัดพรากเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรชีวิตที่ไม่ว่าคนหรือนกก็ไม่อาจปฏิเสธได้
หลังจากเหตุการณ์นกอีแพรด ช่วงเวลาที่ฉันชอบที่สุดของวันก็เปลี่ยนไป
ทุกช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับคนที่รักต่างหาก คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เพราะฉันไม่มีวันรู้ได้ ว่าวัฏจักรของการเปลี่ยนแปลงจะมาถึงเมื่อไร
ไม่ว่าคำตอบของคุณสำหรับคำถามที่ฉันตั้งประเด็นไว้ จะเป็นช่วงไหน อย่าลืมที่จะแบ่งเวลาสักช่วงหนึ่งของวันให้คนที่รักคุณ
I see trees of green, red roses too
I see them bloom, for me and you
And I think to myself, what a wonderful world
I see skies of blue, and clouds of white
The bright blessed day, the dark sacred night
And I think to myself, what a wonderful world
The colors of the rainbow, so pretty in the sky
Are also on the faces, of people going by
I see friends shaking hands, sayin' "how do you do?"
They're really sayin' "I love you"
I hear babies cryin', I watch them grow
They'll learn much more, than I'll ever know
And I think to myself, what a wonderful world
Yes I think to myself, what a wonderful world
จากคุณ :
Cafe_noir
- [
19 พ.ค. 50 23:26:22
]