Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    พระเจดีย์ไทยในวัดเล่งเน่ยยี่ รายงานความคืบหน้า

    พระเจดีย์ไทยในวัดเล่งเน่ยยี่ รายงานความคืบหน้า

    ท่านที่ไม่เคยทราบมาก่อนรายละเอียดตามลิงก์ครับ เรื่องย่อๆก็มีอยู่ว่าทางวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)  จะมีการปรับภูมิทัศน์ภายในวัด โดยการรื้อพระเจดีย์โบราณทิ้ง  ซึ่งในนั้นมีอัฐิของท่านซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้างวัด พระเจดีย์จารึกวันที่บรรจุอัฐิ  รัชศกกวงซี่ที่ 17 คือปี ค.ศ.1892  ถึงปัจจุบันก็ 115 ปีแล้ว  

    ท่านเจ้าของอัฐิในพระเจดีย์เป็นเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์ชิงของประเทศจีน  อพยพลี้ภัยการเมืองเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า  ร.3  ท่านในพระเจดีย์จึงได้เปลี่ยนชื่อ ให้คนเรียกท่านว่า “ฉี่หยี่กง” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นจึงได้ถือว่าตนเป็นพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีราชวงศ์จักรี  ถือว่าเป็นคนไทยคนหนึ่ง  จึงได้สร้างพระเจดีย์ทรงไทยไว้บรรจุอัฐิแทนที่การสร้างฮวงซุ้ยแบบจีน  

    คุณ kris skulprach  กรุณาส่งเมล์มาอีกครั้งนะครับ  ด้วยความซุ่มซ่ามของผมเองทำให้เมล์ของคุณหายไป ขออภัยด้วยครับ  

    เหล่าบรรดาญาติครับ  กรุณาเมล์มาอีกครั้งนะครับ  ผมจะส่งแบบฟอร์มให้กรอกเพื่อทำสาแหรกตระกูลใหม่ครับ

    ส่วนผู้สังเกตุการณ์ที่สนใจ  และผู้สนับสนุนทั้งหลายครับ กรุณาทิ้งเมล์ไว้ด้วยครับ  เมื่อหนังสือฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้วผมจะส่งให้กับท่านผู้ลงเมล์ขอรับหนังสือไว้นะครับ

    รบกวนท่านที่ได้อ่านบทความนี้ กรุณาเถอะครับ สละเวลาอันมีค่าของท่าน ช่วยบริจาคหนึ่งความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ด้วยครับ  ขอบพระคุณยิ่ง

    จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ผมได้รับน้ำใจอันอบอุ่นยิ่งจากญาติมิตรที่ผมไม่เคยรู้จัก  ได้รับกำลังใจอย่างต่อเนื่องจากผู้คนบนโลกไซเบอร์นี้  ขอบคุณครับที่ทำให้ผมไม่ได้รู้สึกว่าต้องต่อสู้เพียงลำพัง  


    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5284041/W5284041.html    สาแหรกตระกูลครับ

    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5277476/K5277476.html

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5278081/W5278081.html#4

    http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5278478/E5278478.html


    หลังจากหนังสือพิมพ์มติชนได้ลงเรื่องการคัดค้านการทุบพระเจดีย์ไทยในวัดเล่งเน่ยยี่   ฉบับวันที่ 2 พฤษภาคม  ยังความไม่พอใจแก่ทางวัดเป็นอย่างยิ่ง  พระครูวินัยธร วิศษฎ์ ถึงกับซีร็อกซ์เก็บไว้เป็นตั้ง

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมา  ลูกหลานส่วนหนึ่งได้รวมตัวกันเพื่อขอเจรจากับทางวัด(นอกจากนี้มีพี่อติพร  จากนิตยสาร Tropical home and culture living  ซึ่งทำเกี่ยวกับบ้านและวัฒนธรรมการอยู่อาศัย  ได้ติดตามกรณีนี้และเดินทางมาจากเชียงใหม่บังเอิญมาในวันที่20 พอดี ผมเลยเชิญให้อยู่ร่วมการเจรจา)   พระครูวินัยธร ปฏิเสธไม่ให้เข้าพบเจ้าอาวาสโดยเด็ดขาด    “ไม่คุยแล้ว ทุบอย่างเดียว มติกรรมการออกมาแล้ว เปลี่ยนไม่ได้”

    ฝ่ายลูกหลานก็ยืนยันหนักแน่นว่าต้องการเจรจา  พระครูวินัยธร ยื่นข้อเสนอว่า  “ถ้าจะคุยจะต้องคุยกับกรรมการวัด และภายใต้หัวข้อที่ว่าลูกหลานจะยอมให้ทุบพระเจดีย์  แล้วถ้ามีนายเทียนชัย ร่วมด้วยไม่มีการเจรจา”
    (คุณเทียนชัย จึงแย้มปิ่น เป็นตัวแทนกลุ่มเข้าร้องเรียนกับมติชนในคัดค้านการทุบพระเจดีย์ครับ)

    ฝ่ายลูกหลานยืนยันว่า  “จะไม่มีการยอมให้ทุบเจดีย์ก่อนการเจรจาเด็ดขาด  ทางกรมศิลปากรก็ออกหนังสือคำสั่งห้ามทุบพระเจดีย์ไว้ ถ้ามีการขัดคำสั่ง  สุดท้ายศาลตัดสินโทษจำคุกจะว่ายังไง  เราไม่ได้อยากให้เจ้าอาวาสติดคุก เราแค่อยากรักษาพระเจดีย์ไว้เท่านั้น  ขอให้เจ้าอาวาสเจรจา  เพื่อหาข้อยุติที่ยอมรับได้ทั้งฝ่าย”

    พระครูวินัยธรว่า  “หลวงพี่สั่งทุบเอง  ถ้าจะติดคุก หลวงพี่ติดคุกเอง  เจ้าอาวาสไม่ต้องติด”
    (ตามกฎหมายเจ้าอาวาสปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้  การติดคุกแทนนี่ผมว่ากฎหมายประเทศไหนก็ไม่มีนะครับ  แม้พระครูจะเป็นผู้สั่งทุบ  แต่สถานการณ์นี้เจ้าอาวาสต้องเป็นผู้รับผิดชอบ)

    ในที่สุดพระครูวินัยธรก็ตามกรรมการวัดมาเจรจา  คือนายปกรณ์ ก้อนแก้ว  (ผมได้พบกรรมการวัดอีกคนที่ทราบเรื่อง  แต่ไม่ยอมเข้าร่วมการเจรจา)  

    ตัวแทนฝ่ายวัดก็มีเพียงนายปกรณ์ ก้อนแก้ว กับอาจารย์ในโรงเรียนวัดมังกร รวมเป็น 2 คน เท่านั้น
    ฝ่ายลูกหลาน รวม 9 คน และมีผู้ติดตามเหตุการณ์ซึ่งเป็นคนกลางอีก 1 คน

    การเจรจาเริ่มจากขอทราบแผนการของวัดที่จะปรับภูมิทัศน์  อันเป็นเหตุจะต้องทุบพระเจดีย์   ตามแผนผังพระเจดีย์อยู่สุดริมที่ดิน  ซึ่งจะก่อสร้างเป็นตึกสองชั้น  

    ฝ่ายญาติเสนอทางออกคือ       1.  อาคารนี้จะเว้นที่บริเวณพระเจดีย์ไว้ก็ได้  เนื้อที่ก็จะเสียไปไม่มาก  เพราะด้าน
         ข้างต้องเว้นที่ไว้สร้างเตาเผาอีก
                        2.  อาคารจะสร้างคร่อมพระเจดีย์ไปก็ได้  

    แต่นายปกรณ์ไม่ยินยอม  บอกว่า   “ต้องทุบอย่างเดียวเท่านั้น  ถ้าเก็บพระเจดีย์ไว้มันจะขัดทัศนียภาพโดยรวม   คิดว่าการเจรจานี่จะคุยว่าถ้าทุบแล้วอยากจะเก็บอัฐิไว้ในวัด  จะไว้ตรงไหนได้ลองมาดูกัน  ”

    ลูกหลานก็บอกว่า   “ขอชื่อสถาปนิกของทางวัด  เราจะติดต่อสถาปนิกสยามให้หารือกับสถาปนิกของวัดว่าจะหาทางออกที่ดีต่อทุกฝ่ายได้อย่างไรบ้าง”

    นายปกรณ์ก็ไม่ยอม ปฏิเสธท่าเดียว  สุดท้ายไม่ยอมเจรจากับพวกจึงแย้มปิ่น เพราะเห็นว่ากล่อมไม่ได้  

    พอพวกจึงแย้มปิ่นออกจากการเจรจาก็เริ่มเกลี้ยกล่อมลูกหลานที่เหลือ  ซึ่งก็ยืนยันไม่ยอมให้ทุบเจดีย์ การเจรจาจึงจบลงโดยที่ยังไม่มีผลแต่อย่างใด

    หากวัดมีความจริงใจที่จะหาทางออกร่วมกันจริง  เราคงได้ข้อยุติที่สวยงามกับทุกฝ่ายแล้ว  เมล์ผมครับ chinainsiam@yahoo.com

    แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 50 16:34:35

    แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 50 16:34:28

     
     

    จากคุณ : chinainsiam - [ 23 พ.ค. 50 16:29:36 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom