กระดิ่งเล็กๆที่แขวนอยู่ริมหน้าต่าง กำลังส่งเสียงกังวานไปทั่วบริเวณ แรงลมกระทบกับต้นไม้และใบไม้กวัดแกว่งไปมา ราวกับกำลังเต้นตามจังหวะเสียงเพลง "เพลงจากสายลม" มันกำลังบรรเลงขึ้นอีกครั้ง เสียงของมันช่างไพเราะจับใจยิ่งนัก เหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงของความฝัน ไม่นานสายฝนบางๆ ก็ตกมาปะทะกับกระจกใส เห็นหยดน้ำเกาะเป็นเม็ดเล็กๆ ราวกับกำลังวาดลวดลายใหม่ให้กับกระจก จนกระทั่งเม็ดฝนนับร้อยนับพันต่างกระจายไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี
สายฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ปรางค์เดินไปที่หน้าต่างและเอื้อมมือไปปิดหน้าต่าง เสียงที่ดังเมื่อครู่ ก็ถูกปิดกั้นโดยกระจกใส ซึ่งตอนนี้ได้ยินเพียงเสียงอื้ออึ้งเท่านั้น ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปรางค์แปลกใจที่ตอนนี้เป็นเวลา ตี 2 แล้ว แต่กลับมีคนโทรเข้ามาที่โทรศัพท์บ้านของเธอ ปรางค์รีบเดินไปที่โทรศัพท์ เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่ที่หลับไปแล้วจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาซะก่อน
"สวัสดีค่ะ" เสียงใสๆ ของเธอดังขึ้น เมื่อเธอยกหูโทรศัพท์ขึ้น
หลังจากที่เสียงของเธอจบลง เธอก็กำลังรอฟังเสียงจากปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่มีคลื่นเสียงใดๆ ส่งผ่านมายังโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือ
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบโทรจากไหนค่ะ" เสียงของปรางค์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่เจ้าของเสียงที่กำลังรอฟังนั้น ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มบทสนทนาเลย ตอนนี้เป็นเวลา ตี 2 แล้วนาฬิกาลูกตุ้มโบราณที่ถูกใช้งานมาหลายปี ก็เริ่มทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง เสียงของมันแทรกผ่านเสียงของสายฝนที่กำลังตกลงมาอย่างหนัก บรรยากาศตอนนี้มันแปลกๆ ชอบกล ปรางค์จึงตัดสินใจพูดกับคู่สนทนาทางโทรศัพท์อีกครั้ง
"เอ่อ..ถ้าคุณไม่พูดจะวางสายแล้วนะค่ะ"
ในขณะที่เธอกำลังจะวางสายอยู่แล้ว ก็มีเสียงดังออกมาจากโทรศัพท์
"เดี๋ยวก่อนสิครับ คุณผู้หญิงจะรีบวางไปไหนล่ะครับ"
พอได้ยินเสียงที่ลอดผ่านโทรศัพท์ ปรางค์ก็รู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร และโล่งอกที่รู้ว่าไม่ใช่โทรศัพท์โรคจิตที่ไหน เขาคือ "ก้อง" เพื่อนร่วมห้องที่คอยกวนประสาทเธอนั่นเอง
"นายนั่นเอง มีธุรอะไรไม่ทราบ ถึงได้โทรมากวนชาวบ้านเขาดึกๆ ดื่นๆ อย่างนี้ "
"ก็ ฉันรู้ว่าเธอยังไม่นอน ใช่ม่ะ"
"แล้วฉันจะนอนไม่นอน มันเกี่ยวไรกับนายด้วย หัดเกรงใจคนอื่นเขาบ้างสิ"
"เออๆ รู้แล้วล่ะน่า ยัยบ้าบ่นอยู่ได้ ขี้บ่นชะมัด..." ก้องพูดสวนขึ้นมา
"นี่ๆ อย่ามาว่าฉันจะได้มั้ย นายต่างหากที่เป็นคนผิดน่ะ"
"เฮ้ย.."
"หยุดเลยนะ ฉันขี้เกียจะทะเลาะกับนาย"
"ขอโทษ.." ก้องทำเสียงเศร้า
ปรางค์ถอนหายใจ "นายมันก็อย่างนี้ทุกที.. เลย มีอะไรก็ว่ามาสิ "
ก้องนิ่งไปสักพัก ปรางค์จึงพูดขึ้น
"เป็นอะไรไปอีกล่ะ"
"ป่าว.. ไม่มีอะไรหรอก"
"อะไร..ของนาย เออ..โทรมาก็ดีแล้ว พรุ่งนี่สอบย่อยอ่านหนังสือบ้างรึยัง.."
"แค่สอบย่อยไม่เห็นต้องอ่านหนังสือเลยนี่น่า สบายอยู่แล้ว"
"จ้า...พ่อคนเก่ง ถ้าตกแล้วอย่ามาขอร้องให้ฉันติวให้ล่ะกัน "
"น่า..ยังไงฉันก็มีเธอคอยติวให้อยู่แล้ว ไม่กลัวหรอกน่า"
"นี่..ฉันอยากรู้จริงๆ ถ้านายไม่มีฉัน นายจะเป็นยังไง "
ก้องนิ่งไปพักหนึ่ง "ก็...คงจะคิดถึงล่ะมั้ง"
คำตอบของก้องทำให้ปรางค์นิ่งไป
"ฮ้า..ว่าไงนะ นายเนี่ยนะจะคิดถึงฉัน นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"
"ยัยบ้า ฉันล้อเล่น ใครจะไปคิดถึงคนติ๊งต๊องอย่างเธอล่ะ"
"ว่าไงนะ...นี่นาย.."
ยังไม่ทันที่ปรางค์จะได้พูดต่อ ก้องก็รีบตัดบท
"ฉันไปนอนล่ะ ง่วงแล้ว บาย.."
เสียงจากปลายสายดัง ตู๊ด.. ตู๊ด.. ตู๊ด เป็นระยะ
"นายบ้าเอ๊ย กวนประสาทจริง ๆ เลย"
ปรางค์วางโทรศัพท์ลง และเดินกลับไปที่ห้อง ปรางค์เดินเข้าไปในห้องและเปิดลิ้นชักเล็กๆของโต๊ะเขียนหนังสือ แสงจากโคมไฟทำให้มองเห็นสมุดเล่มเล็กๆ ที่ปรางค์หยิบมันออกมาจากลิ้นชัก
23/05/2006
02.11 น.
คิดถึง...
เสียงสายฝนข้างนอกเริ่มลดจังหวะช้าลง และนี่ก็เป็นข้อความที่สั้นที่สุดในไดอารี่ของปรางค์ ตั้งแต่ที่เธอเริ่มเขียนไดอารี่มา จะมีคำไหนที่สั้นกว่าคำนี้อีกรึเปล่าน่า.. ไม่มีใครบอกได้ นอกจากความรู้สึกของพวกเขาเอง
จากคุณ :
ปรางค์ปราย
- [
27 พ.ค. 50 01:33:30
A:124.120.0.217 X:
]