ตอนที่ 31 : นางเอก
ตามแบบฉบับของละครน้ำเน่าบ้านเราแม่ผัวลูกสะใภ้ น้อยมากที่จะกินเส้นกัน ยกเว้นคนที่แม่หมายมั่นปั้นมือที่จะให้เป็นลูกสะใภ้ แม่จะรักประหนึ่งเป็นลูกสาวของตัวเอง แต่เจ้าลูกชายตัวดีก็ไปรักผู้หญิงคนอื่นจนทำให้แม่ และนางอิจฉาออกงิ้วกันเมามัน เสียงกรี๊ดลั่นจอ...
หนวกหู คุณณนนท์เธอพูดเปล่าเมื่อไหร่กัน หยิบรีโมทได้ก็หันไปปิดทีวีเฉย
ไอ้ยื่น....
ทำไม จะทำไมแป้น หนวกหูรำคาญ ไร้สาระ ดูอยู่ได้ ละครน้ำเน่า
ก็ดูเผื่อเอาไปประกอบกับการใช้ในชีวิตจริงไง เพราะตอนนี้ฉันเป็นขวัญใจคุณนายดารณี เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ที่คุณนายรักเหมือนลูกสาว แต่เจ้าลูกชายของคุณนายหาได้ใยดีไม่ เหมือนละครเด๊ะเลยแก
นี่คุณไปซี้กับแม่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่
ก็ตอนแกไปทำงาน ตอนที่แกเอาฉันไปปล่อยไว้ที่รีสอร์ท ตอนจะขึ้นบ้านใหม่ ตอนหัดทำกับข้าว ตอนพาแม่ไปดูต้นไม้ และตอนอื่นๆ ที่แกไม่ได้อยู่ในฉาก อ่ะ
โอเคแป้น พอละ ผมรู้แล้วว่าคุณซี้กับแม่ผม แต่ อ๊ะ...อย่าเพิ่งได้ใจ เพราะต่อให้คุณสนิทกับแม่แค่ไหนก็ไม่ได้หมายความว่าแม่จะบังคับอะไรผมได้หรอกนะจะบอกให้
ฉันไม่ได้โง่นิ เฌลลีปรายหางตาค้อนให้ แต่พอความเงียบเข้าครอบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดมากก็เลยลอง เหวี่ยงแห ดูเสียหน่อย
สงสัยว่าฉันจะทำให้แกลำบากใจหลายเรื่อง หลายราว ก้าวล้ำเส้นมากไปรึปล่า ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องกังวลใจ เป็นไปไม่ได้ ก็คือ เป็นไปไม่ได้ เชื่อเหอะ ฉันไม่พยายามในสิ่งที่มันไม่มีโอกาสหรอก เหนื่อย... แต่สำหรับมิตรภาพ กับแก กับแม่และครอบครัว ฉันก็เพียงแค่รู้สึกดี ทำโน่นทำนี่เพราะอยากทำ ฉันเป็นอย่างนั้นเอง - ไม่ชอบไม่ทำ ไม่อยากทำก็บังคับฉันไม่ได้ ถ้าอยากทำฉันจะเสนอตัวเข้าไปเอง ไม่ต้องขอร้องให้เหนื่อยด้วย
คุณบอกแม่ว่าถ้าผมมีคนรักแล้วคุณจะเลิกคบผมเป็นเพื่อนเหรอ อ๊ะ ปลาติดแฮะ
อ้าว... คุณนายดารณี เล่นว่าที่ลูกสะใภ้ด้านหลังนะเนี่ย... อันที่จริงความเป็นเพื่อน ยังไงมันก็เปลี่ยนไม่ได้ ที่พูดแบบนั้น อันที่จริงมันเป็นแค่เหตุผลของคนที่ไม่มีเหตุผล เพราะในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วก็ต้องเป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ สิ ถึงจะเรียกว่าเพื่อนกันจริงๆ ฉันแค่ต้องปรับขอบเขตตัวเองให้เหลือแค่ เท่าที่ควรจะเป็นเท่านั้นเอง เฮ้ย แต่แกไม่ต้องเป็นห่วง บอกแล้ว ไม่ทำอะไรเกินกว่าที่เหมาะควรอยู่แล้วฉันเป็นเพื่อน และยังเป็นแค่เพื่อน และจะเป็นแค่เพื่อน อย่างที่อยากให้เป็น ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล แม่เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ฉันเคารพ... เหมือนแม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำตัวเหมือนละครน้ำเน่าเข้าทางแม่...อย่าคิดไปไกล - เพราะมันจะทำให้เข้าใจกันผิด เชื่อเถอะ, ฉันเป็นลูกที่ไม่ได้อยู่กับแม่ตลอดมา ถ้ามีใครสักคนมาทำให้เรารู้สึกเหมือนมีแม่ ทำไม ฉันจะไม่ตื่นเต้น ดีใจ... ลูกชายของแม่ ต้องเลือกใครสักคนที่ไม่ทำให้แม่ผิดหวัง ลูกสาวของแม่ ก็เหมือนกัน ถ้าจะเลือกใครสักคน, มีหรือจะให้เขาเลือกเราฝ่ายเดียว
แม่เล่าเรื่องของผมให้คุณฟังหรือเปล่า
เยอะแยะ จำไม่ไหว แต่แกไม่ต้องห่วงหรอก แม่ทุกคนรักลูกและธรรมดาที่ย่อมจะต้องปกป้องลูกเหมือนแม่จงอางหวงไข่ คุณนายดารณีน่ะอภิชาติมารดามาก ขอบอก
ผมเคยพาใครคนหนึ่งมาให้แม่รู้จักในฐานะคนรัก ณนนท์ตัดสินใจเล่าเรื่องสำคัญให้เฌลลีฟัง
อ่าฮะ แล้วแม่ก็บอกว่า แม่ยังไม่พร้อมสำหรับลูกสะใภ้คนนี้
คุณรู้ด้วยเหรอ
ก็ เออสิ รู้มานานแล้วด้วย แต่มันไม่ใช่เรื่องของฉันนี่ แล้วยังเรื่องน้องที่ทำงาน อ๊ะ ใครนะ คนที่ทำกระเป๋าตังค์หายแล้วแกไปรับ ส่งเค้าน่ะ ชื่อน้องอะไรนะ ภาณินี ใช่ไหม คนนี้ฉันเคยเจอนี่ น่ารักดี ได้ยินว่าสนิทกันด้วยนี่ เออแล้วก็สาวพยาบาลที่เป็นแรงบันดาลให้แกเกิดอยากไปดัดฟันเจ็ดสีเจ็ดศอกนั่นด้วย เป็นพยาบาลซะเปล่า ดันยุให้ไปดัดฟัน รู้ก็รู้ว่าแกต้องซ่อมเข่า เพราะเล่นบาสมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ผลของการเล่นกีฬาหนักๆ คือหัวเข่ามีปัญหาจนแก่อย่างนี้แหละ
เฮ่ยๆ ข้อมูลนี้แม่ไม่รู้เฟ้ย อย่ามาใส่ร้ายแม่ผม ไปรู้มาจากใคร บอกมา ณนนท์คาดคั้น
อัจฉริยะระดับเทพ สนใจทำไม เรื่องเล็กแค่นี้ ฉันก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องสาวๆ แกเท่าไหร่นักหรอกจะบอกให้ รู้แล้วทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้นะ อย่าหลุดปากให้ได้ยิน
ทำไม... จะทำอะไรผม
เปล๊า... แค่ฉันรู้แล้วฉันจะเสียใจ ก็เท่านั้นเอง
แล้วแม่พูดอะไรถึงผมอีก
ไม่นี่ ส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องน้องเล็กมากกว่า แม่แค่บอกว่าแม่รักลูกทุกคนเท่ากันหมด แต่ลูกแต่ละคนมักจะคิดว่าแม่ลำเอียงเสมอ อ้อ แม่ถามฉันว่าฉันกับแกเป็นแฟนกันเหรอ ฉันเลยบอกว่าเปล่าค่ะ เป็นเพื่อนสนิทเพราะลูกชายแม่ไม่รักหนู เขาบอกว่าหนูแก่ ค่ะ แล้วคุณนายดารณีก็หัวเราะ ฉันเลยพูดต่อว่า ไม่เป็นไรค่ะเพราะหนูชินแล้ว ไม่ได้เป็นลูกสะใภ้ เป็นลูกสาวก็ยังดี ประโยคที่ทำให้ณนนท์ถึงกับแหกปากลั่นบ้าน
เฮ้ย พูดอย่างนั้นทำไม
เอ๋า แล้วจะให้พูดยังไงล่ะ ก็มันจริงนี่ ฉันพูดผิดตรงไหน ตอนที่ไปส่งขึ้นเครื่องน่ะ คุณนายดารณีบอกว่ามากรุงเทพฯ คราวหน้าจะเอาน้ำพริกกุ้งเสียบมาฝากฉัน
คุณไม่กินเผ็ดนี่ อ่ะ จำได้อีกว่าเฌลลีไม่ชอบกินเผ็ด
แล้วแกจะให้ฉันบอกแม่แกว่า หนูไม่กิน เหรอ นอกจากจะอดเป็นลูกสะใภ้แล้วคงได้อดเป็นลูกสาวอีกตำแหน่ง ชักเริ่มมีมารยาตามแบบฉบับตัวอิจฉาในละครบ้างแล้ว
คุณรู้ทุกเรื่องแล้ว ยังคิดจะคบผมอยู่อีกเหรอ
เอ๊า ไอ้นี่... พูดแปลกๆ เพราะรู้น่ะสิ ฉันถึงได้รู้ว่าฉันยอมรับเรื่องพวกนี้ได้มากน้อยในระดับไหน อุปสรรคความรักของฉันไม่ใช่ผู้หญิงต่างๆ ทั้งหลายนี่หรอก แต่อุปสรรคของฉันคือ เพราะแกไม่รักฉันต่างหาก
คุณน่ะ คิดเองหมดเลยนะ ในเมื่อคุณรู้จักผมดีขนาดนี้ ผมยังต้องพูดอะไรอีก
พูดในสิ่งที่แกรู้สึกสิ
ก็ผมรักคุณแบบเพื่อนจริงๆ นี่นา แต่ความรักของผมที่มีให้คุณน่ะ มันจะไม่มีวันเปลี่ยนหรอกนะ เราจะเป็นเพื่อนกันจนแก่ตายกันไปข้าง คุณสัญญาแล้วนี่ว่าจะทำร้านหนังสือด้วยกันตอนแก่
ฉันไม่ได้ลืมสัญญานะ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ถ้าแกมีครอบครัวแกก็ต้องเลือกครอบครัว แน่ล่ะ เพราะตอนนี้แกยังไม่มีผู้หญิงคนนั้น ไม่มีคนที่แกรักเขามากพอที่จะยอมสละความฝันของตัวเอง แต่สักวันหนึ่ง แกก็ต้องมีใครคนนั้น และฉันไปเสียแต่วันนี้มันจะไม่ดีกว่า รอให้ถึงวันที่แกมีครอบครัว ซึ่งมันเจ็บปวดกว่าเยอะหรือ
งั้นเรื่องที่จะไปเรียนต่อ ก็เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะหนีผมไปเท่านั้นเอง
ก็ใช่สิยะ แหม...ทีเรื่องอย่างนี้ล่ะโง่
โธ่ เฌล ทำไมคุณไม่บอกผม
บอกแล้วไง บอกไปแล้วทำให้แกรักฉันขึ้นมาหรือไง เปล่า... ฉันว่าฉันรู้จักแกดี แกยินดีที่จะเห็นคนอื่นมีความสุข ต่อให้แกต้องเจ็บปวดเสียใจแค่ไหนก็ตามที แกจะไม่มีวันขวาง ถ้าทางเลือกนั้นคือทางที่แกเห็นว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายมีความก้าวหน้าและมีความสุขกว่าอยู่กับแก ทั้งๆ ที่บางทีคนคนนั้นก็อยากให้แกห้ามจะแย่ แต่แกก็คิดเอาเองว่า มันเหมาะแล้ว
ผมเสียใจ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แกก็รู้ดี... ฉันไปเรียนต่อ เพราะฉันเลือก แต่ที่น้องยุ้ยเลือกน้องกลาง ไม่ใช่เพราะเค้าไม่รักแก แต่เพราะแกต่างหาก แกรักเค้าแต่แกไม่เคยพูดสักคำ ไม่เคยแสดงให้เค้ารู้ถึงความรู้สึก ต่อให้เป็นคนที่พูดไม่เก่ง แสดงออกไม่เป็น แต่ไม่ใช่เย็นชาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาเลยแบบนี้
คุณรู้เรื่องยุ้ย
ใช่ ฉันรู้ และรู้มานานพอกับระยะเวลาที่เจ็บปวดนั่นแหละ แต่ที่แกไม่รู้ก็คือสาเหตุที่น้องยุ้ยกับน้องกลางเลิกกันไม่ได้มาจากคนอื่นเลย แต่มันเป็นเพราะน้องยุ้ยตัดใจจากแกไม่ได้ และเหตุผลเดียวที่แกไม่รักฉันเลยก็เพราะเหตุผลเดียวกัน... แกตัดใจจากน้องยุ้ยไม่ได้
.....
ฉันมีเวลาที่นี่เหลือแค่ ห้าสิบหกวันเท่านั้น นับแล้วมันสั้นมาก ที่ฉันจะได้อยู่กับแก และมันจะเหลือแค่สี่สิบเอ็ดวัน เพราะฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ก่อนที่จะออกเดินทางปลายเดือนหน้า
มันช้าไปใช่ไหมที่ผมจะขอร้องให้คุณอยู่
ไม่ ไม่ช้าไป ตราบใดที่แกรู้ว่าแกคิดอะไรอยู่... มันไม่มีวันสายด้วย
แต่คุณก็คิดว่าผมควรจะกลับไปหายุ้ย
ถามหัวใจตัวเองสิ ระหว่างคนรักเก่า กับคนที่ไม่เคยรักเลย... หัวใจต้องการใคร
* * * * *
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
28 พ.ค. 50 09:59:43
]