Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    --[หมาขี้เรื้อน!!!]--

    เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก.ตอหลด.ตอแร๋

    สิ่งต่าง ๆ มากมายผ่านเข้ามาในชีวิตอันเฮงซวย ชีวิตนี้ของผม มีทั้งดี แล้วก็ไม่ดีปะปนกันไป
    ประสบการณ์สอนคน นี่เป็นเรื่องจริง มันสอนผมได้มากเลยทีเดียว

    หลาย ๆ ครั้ง เมื่อผมยังมีไฟ เป็นวัยรุ่นไฟแรง หรือไม่ก็ยังไม่เจนโลกเพียงพอ
    ผมบอกตัวเองไว้เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ถ้าเรามีความพยายามเสียอย่าง

    แต่เวลาผ่านไป สิ่งต่าง ๆ ปะทะเข้ามา มันสอนผมได้ว่าสิ่งที่ผมคิดมันไม่เป็นจริงเสมอไป
    คนเราต้องเจียมตัว และ อยู่ในที่ ๆ คนอย่างเราควรอยู่!!!


    เปรียบตัวเองได้กับหมาน้อยตัวนึง มีขี้เรื้อนขึ้นทั้งตัว เป็นหมาหน้าตาขี้เหร่
    ไม่มีใครอยากได้ไปเลี้ยง หมาตัวนี้ อาศัยอยู่ข้างสนามบินสุวรรณภูมิ!!!
    สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก....

    แน่นอน มันก็ได้อยู่แค่ข้าง ๆ บางวันมันก็ต้องวิ่งหนีรถที่วิ่งเข้าวิ่งออกจากสนามบิน
    หลายครั้งที่มันพยายามข้ามถนน เพื่อที่จะไปอีกฝั่งนึง เผื่อว่าจะมีอะไรให้มันกินบ้าง

    แต่ก็ต้องชอกช้ำกลับมา โดนรถเฉี่ยวบ้าง โดนบีบแตรไล่บ้าง
    มีหลายครั้งเหมือนกันที่อีกเพียงไม่กี่ก้าว มันก็จะข้ามไปอีกฝั่งนึงได้แล้ว
    แต่ก็ต้องวิ่งแจ้นกลับมา เพราะมีคนถือไม้มาไล่!!!!!

    เค้าไล่มันทำไม ที่เค้าไล่มันเพราะมันเป็น หมาขี้เรื้อน หมาไม่มีชาติตระกูล
    ไม่มีปลอกคอ ไม่มีเจ้าของ ไม่มีอาหารดี ๆ กิน ไม่มีที่นอนเป็นหลักแหล่ง
    พ่อแม่มัน มันยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่จำความได้ มันก็เกิดอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว

    นั่นแหล่ะ หมาตัวนี้จึงกลัวกับการที่จะข้ามไปอีกฝั่งนึง

    นานวันเข้า มันก็เริ่มรู้ตัวเองว่า ที่ ๆ มันควรอยู่ คือฝั่งนี้ ไม่ใช่อีกฝั่งนึง
    จนวันนึง มันแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า มันเห็นเครื่องบินลำนึง
    ทาปีกสีขาว หางสีแดง ข้าง ๆ เครื่องทาสีฟ้าสดใส!!!

    หมาขี้เรื้อนตัวนั้น ไม่รู้ว่า สิ่งนั้นคืออะไร เพราะขนาดข้ามถนนยังไม่ได้
    แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่มันเห็นนั่นคือ เครื่องบิน!!!

    หมาน้อยหลงไหลในสิ่งที่มันเห็น มันจะคอยนั่งชะเง้อคอมองเครื่องบินลำนั้นอยู่ทุกวัน
    จนมันจำได้ว่า เวลาใดที่เครื่องบินลำนี้จะขึ้น และก็จะบินผ่านหัวมันไป

    ความต้องการของมันเริ่มเพิ่มมากขึ้น มันอยากเข้าไปเห็นเครื่องบินลำนั้นใกล้ ๆ
    แต่จะทำยังไง ในเมื่อ แม้กระทั่งอีกฝั่งนึงมันก็ยังข้ามไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
    มันนั่งจับจ้องอยู่ริมถนน พลันสายตาของมันก็ไปสะดุดอยู่ที่หมาน้อยน่ารักตัวนึง
    เป็นหมาพันธฺดี มีปลอกคอสีชมพู ตัดขนอย่างดี ยื่นหัวออกมาจากหน้าต่างรถที่วิ่งผ่านไป

    หมาตัวนั้นหันมามองด้วยสายตาเหยียดหยาม จนกระทั่งรถคันนั้นเลี้ยวเข้าสนามบินไป
    รถไปจอดตรงที่จอดรถฝั่งตรงกันข้าม มันเห็นหมาตัวนั้นถูกจูงอย่างสง่าผ่าเผย
    วิ่งเชิดหน้าตามเจ้าของเข้าไปในสนามบิน เข้าไปใกล้กับเครื่องบินลำที่มันหลงไหล

    มันมองตามด้วยความอิจฉา พลางคิดว่า ทำอย่างไร มันถึงจะไปที่นั่นได้
    คิดไปคิดมา ใช่แล้ว เนื้อตัวของมันสกปรก ไม่มีใครอยากต้อนรับ
    หน้าตามันไม่ดี ไม่น่ารัก ผอมกระหร่อง ถ้าไปในสภาพอย่างนี้
    มีหวังโดนไล่กลับมาอีกแน่ ๆ

    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หมาตัวนี้ ก็พยายามรักษาตัวเอง เอาตัวไปคลุกฝุ่น
    เพื่อกำจัดขี้เรื้อนออกไปจากตัว ลงไปว่ายน้ำที่บ่อน้ำครำข้าง ๆ เพื่อทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ

    แน่นอน ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะบ่อนั่น มันก็สกปรกพอกัน!!!!

    มันพยายามกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เผื่อจะได้อ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นมาบ้าง
    ความพยายามเป็นผลขึ้นมานิดนึง เมื่อขนของมันเริ่มขึ้นมาเป็นหย่อม ๆ
    เวลาผ่านไป ขี้เรื้อนบนตัวของมันก็ค่อย ๆ หายไป ตามความเข้าใจของมัน

    ขนเริ่มมากขึ้น

    มันส่องเงาตัวเองในบ่อน้ำครำแห่งเดิม "อืมมม ใช้ได้แล้ว"
    แต่เหมือนจะขาดอะไรไปอย่างนึง อะไรน๊า

    ใช่ล่ะ ปลอกคอ มันยังไม่มีปลอกคอ

    มันเดินตะเวณไปรอบ ๆ ไปเจอเข้ากับเชือกฟางสีแดงเส้นหนึ่ง
    มันพยายามจะเอาเชือกฟางเส้นนั้น มาผูกรอบคอตัวเองให้ได้
    แต่หมา ไม่ใช่คน มันผูกเองไม่ได้ จนในที่สุดมันก็จนปัญญาที่จะเอาเชือกฟางเส้นนั้น
    มาผูกเข้ากับคอตัวเอง มันเดินคาบเชือกฟาง หมดอาลัยตายอยาก เดินคอตกไปเรื่อย ๆ
    จนไปเจอเข้ากับขอทานคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ในสถานีขนส่งฝั่งที่มันอาศัยอยู่

    ขอทานหันมาเป็น ก็แปลกใจ ที่เห็นหมาตัวนี้เดินคาบเชือกฟางติดปากมาด้วย
    ด้วยความสงสาร ขอทานจึงโยนเศษขนมให้มัน มันจ้องมองด้วยความสงสัย
    แต่จนแล้วจนรอด มันก็ไม่ยอมปล่อยเชือกฟางออกจากปากมัน!!!!

    มันเดินมานั่งใกล้ ๆ ขอทานพลางส่งสายตา เพราะมันพูดไม่ได้
    ในสายตาของมัน อ่านได้ว่า "ผูกปลอกคอให้หน่อย"

    "เอ็งจะให้ข้าทำอะไร"
    "งึ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ" มันส่งเสียง พลางคายเชือกฟางไว้ตรงหน้า แล้วเอาจมูกดุน ๆ ให้ขอทาน

    "ให้เชือกข้าทำไม" ขอทานเอ่ยปากถาม
    "งึ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ" มันส่งเสียงอีกครั้ง พร้อมทั้งล้มตัวลงนอนกับพื้น พยายามไสหัวของมันมาใกล้ๆ

    "จะให้ข้าผูกเชือกนี่กับคอเอ็งเร๊อะ!!!"
    "งึ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" มันพยุงตัวลุกขึ้นนั่งทันที พลางยื่นคอมาให้ขอทาน

    "ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ" เออเว้ย อยากมีปลอกคอกับเค้าด้วย มา ๆ เดี๋ยวข้าผูกให้

    ว่าแล้วขอทานก็ผูกเชือกเข้ากับคอของมัน "อ่ะ เสร็จแล้ว"
    มันส่งเสียงขอบคุณขอทานคนนั้น พลางเดินกลับไปที่บ่อน้ำครำบ่อเดิม
    มันส่องลงไปในบ่อ เห็นเงาตัวเองมีปลอกคออย่างที่มันตั้งใจ

    มันพร้อมแล้ว สำหรับการข้ามฝั่งไปหาเครื่องบินลำที่มันรัก

    ........................................................


    หมาตัวนั้น ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ริมถนน ที่มีรถวิ่งสวนกันไปมาไม่ได้ขาดสาย
    มันเคยโดนรถชนมาแล้วครั้งนึง แต่คราวนี้ มันตั้งปณิธานไว้แล้วว่ามันจะต้องข้ามไปให้ได้

    มันกะจังหวะ แล้วก็หลับตาวิ่งออกไปอย่างสุดแรง!!!!

    เอี๊ยดดดดดดดดด เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด

    "ไอ้หมาบ้า" เสียงก่นด่าออกมาจากรถที่เบรกกันตัวโก่ง เมื่อมีหมาวิ่งตัดหน้า

    มันลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมสำรวจไปรอบ ๆ ใช่แล้วมันทำสำเร็จ
    มันข้ามมาอีกฝั่งนึงจนได้ คราวนี้มันไม่ต้องกลัวอะไร ปลอกคอมันก็มี
    ขนมันก็มีแล้ว ตัวมันก็ไม่ผอมกระหร่องเหมือนเมื่อก่อน

    มันเดินอย่างสง่าผ่าเผย ตรงเข้าไปในสนามบินแห่งนั้น!!!!!

    .............................................................

    มันมองไปที่เครื่องบินลำที่มันเฝ้ามองมานาน มันเดินตรงไปที่นั่น
    เดินตรงไป ตรงไป ตรงไป........... ในที่สุดมันก็จะได้เจอกับสิ่งที่มันเฝ้ามองมานานแล้ว

    "เฮ้ย ใครปล่อยให้หมาจรจัดเข้ามาเดินในนี้วะ" เสียงของพนักงานสนามบินดังโวยวายขึ้น

    หลังจากนั้น มือนับไม่ถ้วนก็พากันมาจับที่ตัวของหมาตัวนั้น
    มันพยายามดิ้นอย่างสุดแรง เพื่อที่จะไปที่เครื่องบินลำนั้นให้ได้
    แต่ทว่าไม่เป็นผล มันโดนเอาตะกร้อครอบปาก โดนเชือกผูกที่ขาทั้ง 4

    มันโดนลากออกมานอกตัวสนามบิน

    "แหม เผลอไม่ได้เลยนะมรึง" เสียงของเจ้าหน้าที่สนามบินบ่น
    "เผลอแป๊ปเดียว ข้ามฝั่งมาแล้ว โน่น กลับไปอยู่ที่ของเอ็งโน่น อย่าสะเอ่อข้ามมาอีก"

    ว่าแล้ว เจ้าหน้าที่สนามบิน 2 คนที่ลากมันมา ก็พาตัวข้ามฝั่งกลับมาที่ ๆ มันเคยอยู่
    ถอดตะกร้อครอบปากออก ตัดเชือกที่ผูกขาทั้ง 4 ข้าง แล้วโยนมันเข้าไปในป่าข้างทาง

    ............................................................

    หมาตัวเดิม นั่งอยู่ริมถนนฝั่งเดิม มีขี้เรื้อนขึ้นเต็มตัว ผอมกระหร่องไม่ต่างอะไรกับตอนแรก
    มันนั่งมองเครื่องบินลำที่มันหมายปอง มันนั่งแหงนมองอยู่อย่างนั้น
    มันมอง ทั้ง ๆ ที่เครื่องบินลำนั้น ไม่เคยใส่ใจมันเลยด้วยซ้ำ
    หลาย ๆ ครั้งที่มันเห่า เผื่อเครื่องบินลำนั้นจะได้ยิน แต่ก็ไร้การตอบสนอง

    ...........................................................

    และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้หมาตัวนั้นรู้ว่า

    มันควรอยู่ในที่ ๆ มันควรอยู่ อย่าทะลึ่ง เอาตัวไปอยู่ในที่ ๆ ไม่ควร
    แล้วเครื่องบิน มันก็เป็นเครื่องบินวันยังค่ำ แม้ว่ามันจะส่งเสียงให้ได้ยินบ้าง
    แต่ก็อย่างหวัง ว่าเครื่องบิน จะรับมันขึ้นไปด้วย

    เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวก็คือการนั่งแหงนมองเครื่องบินลำนั้นต่อไปเรื่อย ๆ

    นั่งมองมันไปเหอะ!!!! อย่าทะลึ่งอยากขึ้นเครื่องบิน!!!!




    สมันน้อย เบอร์ 14

    จากคุณ : สมันน้อย เบอร์ 14 - [ 8 มิ.ย. 50 11:52:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom