ความคิดเห็นที่ 1 ๒๖ มิถุนายน วันสุนทรภู่ ขอรับ “สุนทรภู่ : มหากวีกระฎุมพี” แหะ แหะ ขอรับ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๘๕ จึงถือโอกาสกราบครูไปพร้อมกันด้วย ขอรับ “สุนทรภู่” ขึ้นชื่อว่าเป็น “นักเลงทำเพลงยาว” และได้ชื่อว่า เป็น “นักกลอน” เพราะเหตุว่า เขียนกลอนเป็นล่ำเป็นสัน กระทั่งพัฒนา “กลอนตลาด” มาจัดระเบียบเสียใหม่ ด้วยสัมผัสแบบแพรวพราว ทั้ง “สัมผัสใน-สัมผัสนอก” จนได้ชื่อว่า เป็นกลอนแบบ “สุนทรภู่” และเพราะ “สุนทรภู่” เขียนกลอนเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงมีบรรดากวีทั้งใหญ่และไม่ใหญ่ มาค่อนแคะ ในทำนองว่า “สุนทรภู่” เขียน “โคลง” ไม่เป็น มีเกร็ดประวัติศาสตร์ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เล่าไว้ตอนหนึ่ง ประมาณว่า... “สุนทรภู่” ถูกสบประมาทจากศิษย์ (บางแห่ง ระบุว่า เป็น นายนรินทร์ธิเบศร์ (อิน)...) ว่า แต่งได้แต่กลอน แต่งโคลงไม่เป็น “สุนทรภู่” ก็เลยตอบไปเป็น “โคลงสี่สุภาพ” ว่า            ๏เฉน็งไอ จึ่งเว้า             วู่กา เผ้าแก่ทู่            รูกับกาว เมิงแต่ยา          มู่ไร้            ปิดเซ็นจะมู่ซา               เคราทู่ นี่เฮย            เฉะแต่จะตอบให้            ช่วยมี้พมังระณอฯ            (๏ไฉนเอ็งจึ่งเว้า            ว่ากู ผู้แก่เฒ่า              ราวกับกูมาแต่เยิง         ไม่รู้              เป็นศิษย์จะมาสู้            ครูเฒ่า              ชอบแต่จะเตะให้           ชีพม้วยมรณังฯ) บางสำนวนก็ว่า...              ๏ เฉน็งไอมาเวิ่งเว้า         วู่กา               รูกับกาวเมิงแต่ยา           มู่ไร้               ปิดเซ็นจะมู่ซา               เคราทู่               เฉะแต่จะตอบห้วยไม้      หลิ่งกล้นกลนถนางฯ               (๏ไฉนเอ็งจึ่งเว้า             ว่ากู                ราวกับกูมาแต่เยิง           ไม่รู้                เป็นศิษย์จะมาสู้              ครูเฒ่า                ชอบแต่จะเตะให้ม้วย        หล่นกลิ้งกลางถนนฯ) และบางสำนวน ก็ว่า..                ๏ เฉน็งไอจึ่งเว้า               วู่กา                 รูกับกาวเมิงแต่ยา            มู่ไร้                 ปิดเซ็นจะมู่ซา                เคราทู่                 เดะพ่อเตี๋ยวหิ้นใด้            มอดม้วยมังรณอฯ                 (๏ไฉนเอ็งจึ่งเว้า              ว่ากู                   ราวกับกูมาแต่เยิง           ไม่รู้                   เป็นศิษย์จะมาสู้              ครูเฒ่า                   เดี๋ยวพ่อเตะให้ดิ้น            มอดม้วยมรณังฯ) ข้อสังเกตคือ นอกจาก “สุนทรภู่” จะตอบเป็น “โคลงสี่สุภาพ” แล้ว โคลงที่ตอบ ยังเลือกใช้เป็น “โคลงคำผวน” แถมยังเป็น "โคลงคำผวน" ที่เป็น “โคลงสี่สุภาพ” แบบต้องตามแบบแผนเสียด้วย ขอรับ และ “สุนทรภู่” ก็พิสูจน์ให้เห็นกันแบบชัด ๆ โดยไม่ต้องชี้ชัด ใน “นิราศสุพรรณ” ที่เขียนเป็นคำโคลง ที่สำคัญก็คือ “นิราศสุพรรณ” ยังมีลักษณะที่แตกต่างจากโคลงอื่น ๆ โดยลักษณะของการเลือกการใช้ความ และการใช้คำ รวมไปถึงการใช้สัมผัสอย่างแพรวพราวอย่าง “กลอน” เสียด้วย ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ เพราะ “เรื่องเก่าไม่เล่าก็ลืม” ถือเป็นการล้อมวงสนทนา ประสากันเอง แบบ “อาศรมชาวโคลง” นะ ขอรับ ใครใคร่เขียน ก็เขียน ไม่ว่าจะเขียนโคลงหรือเขียนอื่น ๆ ใครใคร่เขียนก็เขียน ไม่ว่าจะเขียนเรื่อง “สุนทรภู่” หรือเรื่องอื่น ๆ ใครใคร่อ่าน ก็อ่าน ใครใคร่พูดคุย ก็คุย ตามสบายด้วยหัวใจสบาย ๆ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ ทุกท่าน ปล. ก่อนไป ปล. ๑ ในยุค "สุนทรภู่" ดูจะไม่มีมาตรฐานแบ่งแยก ว่าอย่างใด เป็น "นักกลอน" อย่างใด เป็น "กวี" แต่มักเรียกรวม ๆ ว่า "นักกลอน" ตกมาถึงยุคปัจจุบัน ดูจะพยายามหามาตรฐาน แบ่งว่า อย่างนั้นเป็น "นักกลอน" อย่างนั้น เป็น "กวี" แปลกอยู่ที่ ในยุคปัจจุบัน เช่นกัน ที่ "สุนทรภู่" ซึ่งเป็น "นักกลอน" กลับได้รับยกย่อง ไม่เพียงแค่การเป็น "กวีรัตนโกสินทร์" หากแต่ยังเป็น "มหากวี" เสียด้วย โอ.... ช่างเข้าใจได้จริง ๆ ปล. ๒ ฝาก LINK “กองทุนสุนทรภู่” ที่มีเรื่องราวมาก ๆ หลายหลากให้ติดตาม เพื่อการแลกเปลี่ยนสำหรับ "โลกทัศน์" ที่กว้างไกลรอบด้าน ขอรับ ที่นี่ ขอรับ http://www.sunthonphu.com/ เรื่องราวดี ๆ หลากหลายมากมาย อาทิ -สุนทรภู่  มหากวีกระฏุมพี เกิดวังหลัง ผู้ดีบางกอก  มีวิชารู้เท่าทันโลก http://www.sunthonphu.com/index.php?option=com_content&task=view&id=15&Itemid=29 -กุฏิสุนทรภู่ http://www.sunthonphu.com/index.php?option=com_content&task=view&id=23&Itemid=29 -"ราชการลับ" ในนิราศเมืองแกลง http://www.sunthonphu.com/index.php?option=com_content&task=view&id=21&Itemid=29 -"โคตรญาติ" สุนทรภู่ http://www.sunthonphu.com/index.php?option=com_content&task=view&id=19&Itemid=29 -การเมืองเรื่องสุนทรภู่ อยู่ในอำนาจการเมือง http://www.sunthonphu.com/index.php?option=com_content&task=view&id=18&Itemid=29 แหะ แหะ ขอรับ มาแหล้ว ก็ไปแหล้ว ชะแวบ ไปล่ะ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 19:06:23 จากคุณ : นายทิวา - [ 8 มิ.ย. 50 18:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า    ดาดาว สัมผัสจัดเจนพราว       พร่างแพร้ว โคลงครูภู่แผกชาว       ชนชื่อ ลือเอย ศิษย์นบจบนิ้วแล้ว        รฦกข้าวิชาครู     (ค่า) ผมข้องใจอยู่ว่าโคลง เฉนงไอฯ นั้นมีที่มาจากไหนกันแน่ เพราะโคลงสุนทรภู่นั้นมีลักษณะเฉพาะ ในขณะที่โคลงบทนี้ไม่มีวี่แววว่าเป็นโคลงแบบสุนทรภู่เลยแม้แต่น้อย ไม่ค่อยจะเชื่อว่าเป็นงานครูจริงครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 9 มิ.ย. 50 00:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แวะเยี่ยมเยียนอย่างเดียวก่อน ณ คืนนี้ มิอาจมีกลอนดีมาฝากให้ อีกเรื่องโคลงยังมิขึ้นที่หัวใจ จึงมาเฮ "เฉนงไอ" ได้เฮฮา สวัสดีทุกท่านชาวอาศรม ขอบคุณ นายทิวา แวะเยี่ยมกระทู้ด้วยค่ะ แล้วจะเข้าไปดูลิงค์ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 9 มิ.ย. 50 00:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรียน ท่านสหาย นายทิวา ไม่กลอน ไม่โคลง ขออนุญาต ฉ่อย ดังนี้ ขอรับ . . . . . . ยี่สิบหก มิถุนา บูชาครู ก็ให้โลก รับรู้ ครูของเรา ละ สิ ล ปิ น วรรณกรรม ยามตกยาก ก็พึ่งปาก พึ่งตัว ละก็ไม่กลัวเขา ก็ขอให้เขียน ก็ขอให้ร้อง ก็ขอให้ได้ รำ ก็จักอวด ความงาม ชะ. . . อร่ามเรา ก็ขอให้มีเว ที ที่ฉันจะ แสดง ก็รับรองว่าจะแข่ง ประชันเจ้า ถึงแม้นตัว เขียนกลอน มาก็น้อยนิด แต่ถือตน ว่าเป็นศิษย์ ครูภู่เขา ถึงครูพัก ลักจำ ละแต่ก็ย้ำสัมผัส ก็ค่อยเพียร ค่อยหัด ถึงยากแต่ก็เอา มาคราวัน รํฦก ถึงคุณครู ฉันขอกราบ เชิดชู ท่านสุนทร ภู่ ค รู ข อ ง เ ร า . . . . . . . (มีแถม) ถึงว่าพอศอนี้ จักมีกวีหลากหลาย ฉันก็ก็ยัง สะบาย เพรรรราะเขียนกลอนอย่างเราเรา . . . . . . เอ่ชา. . . เอ๊ช้า. . . ชา. . . ละฉ่าชา. . . .หน็อยแม่. . . .เอย. . . บูชาครู ดังนี้ ขอรับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 9 มิ.ย. 50 01:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลงรสเสน่ห์ล้น          อภัยมณี   นิราศสุพรรณสุนทรีย์         ยิ่งแท้   ไพจิตรพิสิฐศรี                 สุภาษิต สอนหญิง   เริงร่ำลำนำกวีแล้              ลึกล้ำวรรณศิลป์   ผลงานของสุนทรภู่เป็นอีกหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ทำให้ผมหันมาชอบบทกวี   น่าเสียดายที่ปัจจุบันมีแต่เสื่อมลงเสื่อมลง          ขอให้ร้อยกรองจงเจริญญญ..เอิน..เอินนน.... จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย - [ 9 มิ.ย. 50 09:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ๏ เมืองแกลงแต่งเรื่องร้าง       นิราศรัก ครูท่านเกลากลอนอัก              ขระร้อย สืบศิลป์ศาตร์ชนประจักษ์       สู่ปัจ  จุบันแฮ เรารุ่นหลังผู้น้อย                      แน่วเน้นพินิจตาม ๚ นิราศเมืองแกลง ของ สุนทรภู่ พิมพ์ใหม่ จำหน่ายเพื่อสมทบทุน กองทุนสุนทรภู่ สุจิตต์ วงษ์เทศ : บรรณาธิการ หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือที่วัดเทพธิดาราม จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 9 มิ.ย. 50 12:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไปนั่งเงียบๆที่กุฏิซึ่งสุนทรภู่เคยจำพรรษาที่นั่น ... ห้องเล็กๆ แคบๆ พอกันฝนกันแดด ได้พักนอน มองไปข้างนอกผ่านหน้าต่างบานเล็ก มีต้นไม้ ต้นลั่นทมในวัด สมัยก่อนไม่รู้จะมีสภาพอย่างไร ถ้าได้ที่สงบๆ มีความพอเพียงรอบตัว ก็คงจะทำให้กวีผลิตงานดีๆออกมาได้แบบนี้เองสินะ..อืม.. จากคุณ : podduang-pk - [ 9 มิ.ย. 50 14:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หนู ศ. อนุโมทนา แล ขอ กราบ คุณครู สุจิตต์ วงศ์เทศ เปนอย่างยิ่ง ในการเผยแพร่ วรรณกรรม ของท่านครู นะ ขอรับ. นิราศ เมืองแกลง นี้ ดูเหมือนว่า จักเปน นิราศ เรื่องต้น ต้น รึเปล่า คะ พี่เคยมี ปกแข็ง ที่พิมพ์ ตั้งก๊ะก่อน พี่เกิด ค่ะ แต่. . . หายไปไหนก็ไม่ทราบ แฮ่. . . . . ดังนี้ ขอรับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 9 มิ.ย. 50 16:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรียนนิราศหลายเรื่องแล้ว.............ง่วงนอน ตอนเด็กคุณครูสอน..................เบื่อซ้ำ เห็นคุณค่าโคลงกลอน............ตอนแก่ เพลินอ่านเพียรเขียนย้ำ........ยากแท้ยังทน จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 9 มิ.ย. 50 19:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อดไปงานวันที่ 7 ยังเสียดายอยู่มิรู้หาย สวัสดีเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯทุกท่านครับ มาร่วมรำลึกถึงท่านครู สุนทรภู่ด้วยคนครับ เอาของเก่ามาลงก่อน ๏ สุนทรกลอนภู่ถ้อย โคลงทวน ยลแยบแบบกระบวน บทตั้ง นิราศนำร่ำหาหวน โหยเทวษ ยังอยู่ยอยศยั้ง อย่างได้ใครเสมอ ๏ คำสุนทรกลอนครูท่านภู่เขียน เป็นบทเรียนสอนอ่านการภาษา จากเด็กจ้อยค่อยคัดหัดปัญญา รู้คุณค่าคำไทยในคำกลอน "แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ฯ" ยังผ่องผุดพรายแจ้งแห่งอักษร "บ้างชมป่าช้าปี่ทีละครฯ" ทุกบทตอนก้องขลังดังกังวาน "เดือนช่วงดวงเด่นฟ้าดาดาวฯ"แจ่ม ก็วับแวมแอร่มรุ่งพุ่งไพศาล "หวาดประหวัดสตรีฤดีดาล" ระรินซ่านซึ้งใจหาใดมี ไม่ต้องค้นว่าครูอยู่ที่ไหน ทั้งรูปปั้นพิพิธภัณฑ์ใดในทุกที่ ทุกอักษรกลอนครูคนรู้ดี ถึงพันปีผ่านไปใครจะลืม?๚ ส่วนที่อยู่ในอัญประกาศ นำมาจากวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณีตอนพระฤๅษีสอนสุดสาคร นิราศพระบาท นิราศสุพรรณและพระอภัยมณีตอนพระอภัยเป่าปี่ให้สามพราหมณ์ฟังตามลำดับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 9 มิ.ย. 50 22:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สำเนียงเพราะเสนาะพริ้ง.......เพลินเสียง มธุรสวาทเรียง....................รื่นริ้ว สุนทรภู่ครูเพียง..................รัตนะ กวีแล น้อมศิระผจงจรดนิ้ว.............กราบไหว้สรรเสริญ ฯ จากคุณ : แสนสุขสม - [ 10 มิ.ย. 50 10:19:48 A:58.8.78.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ย่องๆ มาแอบๆ อ่านข้อความอุ่นๆ ค่า .... จากคุณ : จันทร์เพ็ญ จันทนา (Pen Writer) - [ 10 มิ.ย. 50 10:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 @ เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า.......ดาดาว จรูญจรัสรัศมีพราว..............พร่างพร้อย คือครูภู่แวววาว..................กว่ากี่...กวีเอย สรรค์ซร่างวางคำร้อย..........อะคร้าวราวสวรรค์ฯ จากคุณ : ศาลายา (ศาลายา) - [ 10 มิ.ย. 50 19:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ท่านนายทิวา และมิตรสหายชาวโคลงทุกๆท่าน ครับ สุนทรภู่ท่านผู้..................ครูกลอน จารจดเป็นอนุสรณ์...........ฝากหล้า โคลงกลอนร่ายอักษร.......กล่อมโลก ยี่สิบหกมิถุนาฯข้า........คารวะด้วยจริงใจ เขียนแบบฝืดๆครับ จากคุณ : เกรียงไกร (huaboonsan) - [ 11 มิ.ย. 50 11:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงคราวหยกสิบหี้...มิยอ เราท่านไหย้กรวอ...พ่วงหลู้ นับถือจึ่งเหยียดกอ...ทูคร่าน งงเต๊กเง็กตงสู้...พื้นฟลิกคำโคลง -------------------------------- ปินไกหลู้ตันกลางวอน จากคุณ : sugarhut - [ 11 มิ.ย. 50 12:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยี่สิบหกมิถุนามาถึงแล้ว เป็นวันเกิดกวีแก้ว สุนทรภู่ กวีไทยยกให้เป็นบรมครู ทุกคนรู้รำลึกไว้ในใจตน เมื่อปีกลายเหล่าสหายจัดงานหรู เทิดคุณครูให้ปรากฏทุกแห่งหน อาศรมโคลงชวนร่วมบุญอุ่นกมล เพื่อนมากล้นวัดเทพธิดามาชุมนุม ดูดูเหมือนไม่นานผ่านมาถึง ยังคำนึงทุกคราวล้วนสาวหนุ่ม ทั้งกวีน้อยใหญ่ไปประชุม ศาลาไทยไม่กลุ้มสำเร็จดี แล้วปีนี้เมื่อไรจะได้ข่าว บอกเรื่องราวล่วงหน้ามาที่นี่ อาศรมโคลงคงจัดได้ให้เข้าที ตัวผมมีแต่แรงใจให้หมดเอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 11 มิ.ย. 50 18:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เคารพ  รู้ถูกต้อง.......สมควร คิดต่าง  คมชี้ชวน......พี่น้อง อารมณ์  ข่มเนียนนวล..นับค่า รู้ศัพท์    ดี-เก่า-ก้อง....ปู่ชี้ ดีเสมอ จากคุณ : KAVINT - [ 11 มิ.ย. 50 20:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #๑๖ ท่านลุงเจียวต้าย เห็นด้วยครับ ปีนี้จะมีงานอีกไหมหนอ จะรอด้วยดวงใจ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 12 มิ.ย. 50 04:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดูเป็นเรื่องแปลกแท้ ............ คนเรา ตอนอยู่ว่าโฉดเขลา ............ ชั่วร้าย ไม่ถือเยี่ยงย่างเอา .............. เป็นแบบ สิ้นชีพความคิดย้าย ............. จากร้ายเป็นดี หลายท่านที่มุ่งสร้าง ............ สิ่งดี อาจถูกคนโจมตี ................. กล่าวอ้าง อย่าท้ออย่าจรลี ................. หนีห่าง นาพ่อ ที่สุดความดีจะล้าง .............. เรื่องร้ายมลายสูญ จากคุณ : แดงน้อยหน่อย (Little Red) - [ 12 มิ.ย. 50 08:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ดีชั่วตัวย่อมรู้                  อยู่เอง กระจอกบอกโฉงเฉง         เฉียบชั้น โกงกินว่าตรงเผง             พับผ่า น้าเอย ตลบแตลงอย่างนั้น          น่าไหม้อายหรือ? จากคุณ : CrazyHOrse - [ 13 มิ.ย. 50 10:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ด้วยเป็นลูก เป็นหลานท่านสุนทร จึงคืนค่ำขับกลอนแล้วนอนฝัน รักสุนทรีย์ศัพท์เสียงมาเรียงกัน ใจทั้งดวงผูกพันกับบทกลอน. สวัสดีเด้อ. จากคุณ : Ar@p - [ 13 มิ.ย. 50 17:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มะลิถูกถักร้อย...เรียงพวง เกาะกลุ่มขาวนวลยวง...ผ่องแผ้ว มาลัยเสี่ยงทายดวง...โยนลิ่ว รอพี่ชายพลายแก้ว...เกี่ยวไว้ในกร นอนฝันหวังใฝ่คว้า...พลายงาม คิดครุ่นทุกโมงยาม...เยี่ยงแท้ ตกใจตื่นรีบถาม...ผองเพื่อน คนหล่อยืนยิ้มแต้...หลบหน้าไปไหน เกลอมองขำแทบกลิ้ง...โอยตาย ไอ้นี่ยังไม่วาย...วุ่นว้า กลางวันหลับน้ำลาย...ไหลยืด นาแม่ พอตื่นยังเป็นบ้า...บ่นใบ้ถึงชาย ------------------------------------------ เฟื่องฝัน ในวัน ร้อนระอุ เจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 14 มิ.ย. 50 12:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยินดุริยร้อย                    สำเนียงสวรรค์ ไหววูบสรรพางค์พรรณ      เพริดผลุ้ง หวิวลมแทรกเสียดกรรณ    กรอ่อน กรเอย แล้วจะพายข้ามคุ้ง           รักนี้ได้จะใด จากคุณ : CrazyHOrse - [ 14 มิ.ย. 50 14:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดี ขอรับ ทุกท่าน แหะ แหะ ตั้งกระทู้เสร็จ กระป่ม ก็หายหัวไปตามเคย ขอรับ แหะ แหะ แบบว่า งานมันรุมน่ะ ขอรับ เข้ามาแหล้ว ก็ถือโอกาสสวัสดีทักทาย เพื่อนพ้องน้องพี่ ชาวอาศรมฯ แบบรวม ๆ เน้อ ขอรับ แล้วก็ถือโอกาส เสวนากับ คุณ CrazyHOrse เล็ก ๆ แลกเปลี่ยนความเห็นในเชิงส่วนตัว ว่าด้วยโคลง "เฉน็งไอ" น่าคิด ขอรับ ตามที่ คุณ CrazyHOrse ให้ข้อสังเกตว่า อาจจะไม่ใช่ "สุนทรภู่" เขียน แต่ก็มีข้อน่าสังเกต ๒ - ๓ ประการ ขอรับ -งานของ "สุนทรภู่" ส่วนใหญ่เป็น "กลอน" ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด และเจ้าตัวเองก็ยืนยันถึงความเป็น "นักเลงเพลงยาว" ถึงขนาด "เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร" เลยทีเดียวเจียว -งานของ "สุนทรภู่" ที่เป็น "คำโคลง" มีเพียง "นิราศสุพรรณ" ที่ว่ากันว่า เขียนขึ้นเพื่อยืนยันว่า สามารถเขียนโคลงได้ และเขียนได้ดี โดยแนวทางของตัวเอง (บางความเห็นในวงวิชาการ-วรรณคดี ยังเห็นว่า "สุนทรภู่" ไม่ใช่นักโคลง โดยมองผ่านงาน "นิราศสุพรรณ") -น่าเชื่อว่า โคลง "เฉน็งไอ" เขียนขึ้นก่อน "นิราศสุพรรณ" และในขณะว่าโคลงชิ้นดังกล่าว "สุนทรภู่" เพียงแสดงให้เห็นว่า "เขียนเป็น" และแสดงทักษะของการ "เขียนเป็น" ให้เหนือชั้นโดยการเขียนเป็น "โคลงคำผวน" (ซึ่งเป็นคนละกรณีโดยสิ้นเชิง กับการมอง "ลีลาโคลง" ผ่าน "นิราศสุพรรณ" แล้วสรุปว่า ถ้าเป็นโคลง "สุนทรภู่" ต้องใช้ลีลาโคลงแบบ "นิราศสุพรรณ" เท่านั้น) หมายเหตุ : รายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับงานของ "สุนทรภู่" ดูได้จาก -http://www.thaipoet.net/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=thaipoetnet&thispage=&No=222273 (สมาคมนักกลอนฯ) อ้างอิงจาก http://www.sunthonphu.com/index.php?option=com_content&task=view&id=24&Itemid=29 (กองทุนสุนทรภู่) แหะ แหะ ขอรับ ขออนุญาตแลกเปลี่ยน แบบความเห็นส่วนตัวเล็ก ๆ นะ ขอรับ พร้อม ๆ กับความรู้สึกดี ต่อการตั้งข้อสังเกตของ คุณ CrazyHOrse ที่ให้ข้อสังเกต อันทำให้เกิดการแปลกเปลี่ยนต่อยอดทัศนะ-มุมมอง อย่างรอบด้านและหลากหลาย ขอรับ คุยเสร็จแล้ว ก็เผ่นล่ะ อิอิ ไปล่ะ ชะแวบ จากคุณ : นายทิวา - [ 14 มิ.ย. 50 15:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับ พี่ทิวา และทุกท่านครับ แวะเอากลอนเด็กๆ ในเว็บบอร์ดที่ไปเจอมาฝากครับ เด็กเขียนกันเล่น และไม่เกี่ยวกับเว็บกลอนเลย มีอีกหลายบทแต่ตามหาไม่เจอ แหะๆ ดังนี้ครับ ๐ เมื่อคืนฝันเห็นนางฟ้า ท่านถามว่าอยากได้อะไรไหม ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ บ้าหรือไง ไปเลยไป ผมจะนอน ... ผมว่าสัมผัสเป็นวิญญานของคนไทยไปซะแล้ว ไม่ว่าการสัมผัสอักษรจะมีต้นกำเนิดมาจากไหน ดูเด็กๆ เขียนเล่นๆ แค่ใส่สัมผัส และมีความสามารถใช้คำ ก็สามารถโดนใจได้เลย ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่าร้อยกรองไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน แต่ผมว่ามันซึมอยู่ในสายเลือดของทุกคนนะ ต้องขอบคุณ คุณครู ทั้งอดีตปัจจุบัน ที่สร้างสรรค์และสั่งสอน ทำให้ความงามของร้อยกรองสืบต่อมา แหะๆ หายหัวไปนานครับ แวะมาเยี่ยมทุกท่านครับ ---------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 14 มิ.ย. 50 16:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ xers ซื้อ. . .ขอรับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 14 มิ.ย. 50 16:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นานๆ ผ่านมาค่ะ (นานๆ แต่งโคลงที ก็แวะมาที สนิมเกาะเห็นๆ แหะ แหะ) ร่ายโคลงกันเถิดพ้อง.........เพื่อนไทย ยามถิ่นร้อนเป็นไฟ............อย่าล้า ชวนกันอยู่ด้วยใจ..............เกาะติด กันเฮย ริมขอบจออย่าช้า..............ร่ำร้องกลอนกวี ๚ จากคุณ : ไร้นาม - [ 14 มิ.ย. 50 22:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีครับ พี่ทิวา และทุกท่านครับ ๐ ยินดุริยย้อย               ส่งสำเนียง ไหวกระเพื่อมดังเพียง      จ่อมจ้อม หวิวยามสดับเสียง           เพียงทิพย์ แล้วก็ผายลมล้อม           อบห้องสุขาสวรรค์ ฯ ๐ มีหัวเราะร้องไห้มีตายเกิด ดูเอาเถิดโลกนี้มีสองด้าน ใครที่ทุกข์ช้ำใจจากเมื่อวาน อีกไม่นานวันวานคืออะไร ? ขออนุญาต คุณแคซี่ฯ ล้อโคลงหน่อยน้าา เห็นเขียนโคลงได้สวยดีครับ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยครับ ท่านพี่พจน์ ไม่ขายให้ไปเลยฟรีๆฮับ อิอิ -------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 15 มิ.ย. 50 00:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ^ ^ แม้แต่กลิ่นก็ยังบรรยาย ติดเป็นกิจวัตรจริงๆ พี่ชายเรา สวัสดีทุกท่านค่ะ สีน้ำน้อย ว่า อาศรมมันหงอยๆ น้อ จากคุณ : sugarhut - [ 15 มิ.ย. 50 11:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มองมวลเมฆหม่นบนผืนฟ้า โค้งรุ้งอำภาสีสดใส แดดอ่อนระยิบลอดกิ่งใบ หมู่ปลาน้อยใหญ่ไล่ฮุบแมง ช่วงนี้ฝนตกเป็นหย่อม ๆ อากาศกำลังสบาย คล้ายกับจะง่วงในตอนบ่าย แฮ่.... คิดถึงกันวันละนิด เอาหัวใจมาชิดกันสักหน่อย สวรรค์น้อย ๆ อยู่ในวงส้มตำ ฮี่ๆๆ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 15 มิ.ย. 50 13:33:18 A:unknown X:202.129.0.74, 202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อาศรมซึมสุดหง้อย         ง้อยหงอย สมาชิกห่ายขึ๊นดอย        เหร่อว้า ลมท่านเซ่อร์ผายคอย      ลอยตลบ อยู่นี่แล รีบกลับมาอย่าช้า           กลิ่นปลาร้ากะลังจะจาง กรึ๋ยๆ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 15 มิ.ย. 50 19:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สีน้ำน้อย ไม่หงอย ดอก เจ้าค่ะ กลิ่น ผาย อีตาบ้า นั่นน่ะ มันยัง อบอวล. . . . . . บ้า จริง จริง ต้องเอามัน นะ ไอ้หนู . . . . . . . . . . . . . . . ขออนุญาต คุณ แคซี่ ฯ ขอรับ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . นายเซอร์    พี่ยินดุริย์ยะย้อย                  สำเนียง ไหวกระเพื่อมดังเพียง            จ่อมจ้อง กลิ่นกรุ่นอีกสดับเสียง            แทบชัก บังอาจผายลมต้อง                หวดเท้าเตะมัน. ดังนี้ ขอรับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 16 มิ.ย. 50 02:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 33 . . . . ป่ากเป่าลมเป่าแล้ว.................เป็นเลย บอกว่าข้าฯจักเฉย.............................เฉื่อยช้า ไฉนใครแกว่งปากเปรย......................ยวนยั่ว..ยกฤๅ ฤๅว่ายึดทรัพย์ข้าฯ............................ก่นแกล้งรังแก ... . . . .ปากแปรข้าฯจักลุ้น..................เลิกไว ปากหนึ่งบอกคำไฉน........................ยั่วเย้ย ปากเอยว่าคำไกล........................... เจียนคลั่ง....แล้วเฮย ดูกลั่นดูเกลียดเฟ้ย..........................ฟากฟ้างุนงง....                                         tiki_ทิกิ                            เขียนเมื่อจบหนังจีนรอบดึกช่องสาม                       เลยได้แถมดูข่าวพาดหัวพรุ่งนี้มากมาย ก็เลยแวะมาแปะไว้ด้วยต่างหน้าค่ะ สวัสดีชาวอาศรมทุกท่านค่ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 16 มิ.ย. 50 04:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชุมนักผักตบซ้อน.................บอนแซง บอนสุพรรณหั่นแกง..............อร่อยแท้ บอนบางกอกดอกแสลง.........เหลือแล่  แม่เอย บอนปากยากจะแก้.................ไม่สิ้นลิ้นบอน โคลงนิราศสุพรรณ :  สุนทรภู่ จากคุณ : กวินทรากร - [ 16 มิ.ย. 50 12:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ยินเสียงพระพี่ย้อย...ลงถัง นุชเร่งรีบระวัง...กลิ่นกล้า ยกแพรเกี่ยวกรบัง...ลมถ่าย กาลชั่วหยิบตาช้า...ใช่ต้านดังปอง เอาด้วยคน แฮะๆๆๆ ดีนะเวลาคุยทอสับไม่มีกลิ่น ไม่งั้นสงสัยกลิ่นอวลอาศรมตามสาย เริ่มต้นจากคนข้างบนนั้นแล จากคุณ : sugarhut - [ 16 มิ.ย. 50 18:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ๏ คิดถึง ๏ คิดถึงเคยชิดใกล้...ผูกพันธ์ แม้ผ่านกาลนานวัน....ไป่ร้าง ยังคนึงคิดถึงกัน........ไม่ห่าง นาพ่อ ดวงจิตมิเคยคว้าง.......เม่นมั่นอยู่เสมอ ฯ (มั่น=โทโทษ) ๏ ผ่านมาเพียงวุ่นว้า.....ในใจ กาลผ่านใช่ผ่านไป.......จากนี้ ฝันฝากหากห่างไกล......วานส่ง ถึงนา ขอจิตมั่นช่วยชี้............ผูกไว้สิ่งหวัง ฯ ๏ ขอฝากส่งรักนี้.........ส่งถึง ขอจิตพี่คำนึง..............แน่แท้ ขอดวงจิตที่ตรึง............คงอยู่ ขอพี่อย่าพ่ายแพ้...........สิ่งเร้าหทัยเสมอ ฯ ..................... จากคุณ : กรวี - [ 16 มิ.ย. 50 21:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หงอยเหงาซึมหม่นเศร้า...จังแน ใครใคร่มาเทคแคร์...ช่วยแจ้ง เอาใจใส่ดูแล...กันหน่อย อย่าปล่อยกระทู้แล้ง...เหี่ยวแห้งคนเชย จากคุณ : sugarhut - [ 17 มิ.ย. 50 13:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ...บทกวี จาก คมทวน คันธนู ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้...                      "เพราะหัวใจไร้สามารถด้วยบาดเจ็บ                         จึงขอบคุณทุก ๆ เวบที่ส่งช่วย                         ยังรอเวลาว่าสักช่วงสัจธรรมจักอำนวย                         ให้หายป่วยหายเป็นเหมือนเช่นเดิม" เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๐   ได้ไปเยี่ยม น้าหน่อย "คมทวน คันธนู"   ที่ห้อง ๖๐๕ ชั้น ๖ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น   น้าหน่อย ดีขึ้นมาก และสดชื่นขึ้นมาก   ทั้งร่างกายและจิตใจดีขึ้นอย่างมากครับ   คงเหลือเพียงร่างกายซีกซ้าย ที่ยังต้องรอการรักษาต่อเนื่องอยู่   น้าหน่อย บอกทีเล่นทีจริงว่า สัก ๑ - ๒ สัปดาห์ จะเดินออกจากโรงพยาบาล และลุยงานต่อไปด้วยครับ   เพื่อนพ้องน้องพี่ จากหลายภาคส่วน ยังแวะเวียนไปเยี่ยมและส่งกำลังใจให้ น้าหน่อย อย่างสม่ำเสมอครับ   และหลาย ๆ ท่าน ก็ได้เขียนข้อความส่งกำลังใจให้ น้าหน่อย ในสมุดเยี่ยม ที่ได้จัดเตรียมไว้ด้วยครับ   น้าหน่อย ได้เขียนบทกวีข้างต้น และฝากความขอบคุณผ่านบทกวีชิ้นนี้ มาให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ส่งกำลังใจด้วยครับ   ร่วมกันเป็นกำลังใจให้กับ "คมทวน คันธนู" เพื่อให้หายจากอาการเจ็บป่วย และกลับมาสร้างสรรค์งานในหลากรูปแบบต่อไปนะครับ   //.........................๛   หมายเหตุ : (อ่านรายละเอียดก่อนหน้านี้ได้ที่นี่)   ข่าวการป่วยของ คมทวน คันธนู   http://www.thaipoet.net/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=thaipoetnet&thispage=&No=217296   ..ร่วมส่งกำลังใจ ให้ กวีซีไรต์ “คมทวน คันธนู” หลังผ่าตัดสมอง..   http://www.oknation.net/blog/naitiwa/2007/06/01/entry-1   //..........................๛ จากคุณ : นายทิวา - [ 17 มิ.ย. 50 22:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอให้หายไวไวค่ะ คุณทิวา ฝากบอกกำลังใจให้ด้วย จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 18 มิ.ย. 50 02:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เชื่อว่าความทุกข์ ความเจ็บ ความไข้ อยู่คู่กับคนดีได้ไม่นานหรอกค่ะ... แล้วอาหน่อยก็ต้องหายและแข็งแรงดังเดิม นี่คงเป็นบททดสอบของสวรรค์อีกบทหนึ่งเท่านั้น... หากผ่านไปได้เราก็แกร่งขึ้น เป็นกำลังใจนะค่ะ... ๏ อธิษฐานบอกฝากฟ้า......ส่งไป ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน...........ที่นี้ ช่วยอาหน่อยหายไว.........ไวหน่อย ทุกข์-เจ็บจงหลบลี้...........ผ่านแล้วห่างหาย ฯ ๏ ขอทุกข์อย่าทับซ้อน...........โถมทวี ขอเหตุแห่งความดี.............ช่วยไว้ ขอเดชแห่งพระศรีฯ............เสริมส่ง ขอผ่านจากโรคไซร้............จากนี้สุขสนอง ฯ ...... จากคุณ : . (กรวี) - [ 18 มิ.ย. 50 14:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ฤทธิ์โรคาบ่งชี้...ลายสือ ลายหัตถ์ดูยึกยือ...โยกโย้ บุราณก่อนลายมือ...หวัดว่อง ยามสร่างโรคคงโก้...แกว่งเส้นดังเดิม กรรมใดมาแต่เชื้อ...วงศ์วาน ขอป่นไปในการณ์...บัดนี้ ขอให้ท่านพบพาน...สุขสวัสดิ์ บุญพ่อแม่ช่วยชี้...ส่องให้เห็นแสง จากคุณ : sugarhut - [ 18 มิ.ย. 50 15:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 42 .......                             ... เรื่อง here here ...                   ๏แค่นข่าวคลุ้ง                     ข้ามคืน                   กลิ่นคาวหืน                         กลบให้                   เกลื่อนกลบกลืน                   กลืนกลบ                   ฟุ้งกลบใต้                          จมูกตน                   ๏ข่าวว่า here                      เกลื่อนเมือง                   กรุงเก่าเคือง                        มุดมุ้ง                   here ตัวเหลือง                    กินเด็ก                   น้ำท่วมสะดุ้ง                       เด็กกลัว                   ๏ข่าวว่า here                      ขยายพันธุ์                   กรุงใหม่มัน                         ยึดสิ้น                   นับหมื่นหยัน                        หยามเหยียด                   ไล้แฉกลิ้น                          ตวัดเลีย                   ๏ข่าวว่า here                      อหังการ                   โดยสันดาน                         ดิบ here                    มุ่งระราน                            พาลพล่อย                    โผล่ยั้วเยี้ย                         ย่ำยี                    ๏ข่าวว่า here                      ระดมพล                    เสพซากบน                         ซากเนื้อ                    โสโครกถนน                        เน่าศพ                     ชั่วทิ้งเชื้อ                           ทุกข์ชน                     ๏แค่นข่าวคลุ้ง                     ข้ามคืน                     กรุงเก่ายืน                          ต่ำเตี้ย                     กรุงใหม่กลืน                       เมืองเกลื่อน                     เรื่อง here here                  เกลื่อนเมืองฯ                         ........................................ สวัสดี ขอรับ ว่าไปแหล้ว คำที่เรียกสัตว์จำพวก น้องของตะเข้ พี่ของตุ๊กแก พี่ของจิ้งจก ไม่ใช่คำหยาบเลย ออกจะตรงคำ และก็เรียกกันมาแต่โบราณ แถมยังจัดพวกเข้ากับเพื่อน อย่างตะกวด ที่ฝ่ายตะกวด รักที่แห้ง ส่วนฝ่าย here รักที่ชื้นมากับน้ำ แหม ! ยุคสมัย ทำให้ใคร ๆ ก็รังเกียจ here เอาไปด่าว่ายังไม่พอ ยังเอาไปเปรียบเทียบกับอะไรต่อมิอะไรเสียอีก สงสาร here จริง ๆ เลยครับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดีครับ ปล. อย่าคิดมากมาย กับ "เรื่อง here here" เลยนะ ขอรับ ไปล่ะ เฮ้อ... ปวด-กา-บาน จากคุณ : นายทิวา - [ 18 มิ.ย. 50 22:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอส่งแรงใจให้คุณคมทวน คันธนู ณ ที่นี้อีกครั้ง จากคุณ : เกรียงไกร (huaboonsan) - [ 19 มิ.ย. 50 11:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 44 here อ่ะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าตัวเงินตัวทองนะอาทิวา ดูมันมีค่าอ่ะ... ที่ภาคใต้(บ้านกรวี)เรียกกันว่าแลน สมัยเด็กๆ สมัยเด็กๆบ้านพักกรวีจะติดภูเขา คือเป็นหมู่บ้านเชิงเขา จะมีแลนออกมาเดินเล่นเสมอ ๆ ผู้ใหญ่ชอบจับแลนมาคั่ว ส่วนกรวีกินไข่แลน (อย่าคิดลึก)... ไข่แลนจะมีเปลือกบางและเหนียวอ่ะ ต้องใช้เข็มหรืออะไรแหลมๆเจาะเปลือกไข่ แล้วดูดกินไข่ดิบๆ (ห่ามมากเลยกรวี) ตอนนี้กลัว+สงสาร บาปกรรมจริงๆไม่เอาแล่ว!! ตอนนั้นเห็นผู้ใหญ่ทำก้อทำบ้าง ประกอบกับความเป็นเด็ก  (ห่ามๆ)... เพราะตอนเด็กๆกรวีห่ามแบบลูกผู้ชาย ขึ้นเขา ลงห้วย เข้าป่า เดินป่า เป็นงานอดิเรก ยิงปืนที่ไรถูกก็แต่*หวั้นผลไม้ 5555 ... ยิง*ยางวง ไปโดนหัวงูเพื่อให้มันหลีกทางให้ อยู่บ้านก็ชกมวย ... ว่างๆก็ทำขนมบัวลอย กวนขนม ทำขนมครก แต่เมนูประจำก็บัวลอยอ่ะแหล่ะ... หวั้นผลไม้ คือ ก้านผลไม้เล็กที่โผล่ออกมาจากผลไม้ ยางวง คือ ยางเส้นที่ใช้รัดของ ตอนนี้งานดิเรกคือ แต่งกลอน กวี ปักครอชติช ถักโครเชร์ ถักนิตติ้งอ่ะ เมื่อชีวิตเปลี่ยนแปลง วิถีชีวิตคนเราย่อมเปลี่ยน แต่ความชอบมันยังคงอยู่ในสันดาน 5555 ... ไปล่ะ น้องน้ำตาลเคยบอกว่ามีคนบอกมาว่าพูดมากปากเปียก น้ำลายยืด กรวีเลยกลัว ไปแระ ..รักทุกคนนะค่ะ จุ๊บๆๆๆๆๆ... อิอิอิ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 11:15:39 จากคุณ : . (กรวี) - [ 19 มิ.ย. 50 11:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตะกวดน้ำเรียกเฮี้ย...ทางเหนือ เสียงแทรกจมูกเจือ...ปากอ้า ตะกวดบกสัตว์เครือ...วงศ์ร่วม เราเรียกแลนนะน้า...อร่อยล้ำหวานจริง พี่ไหมน้ำลายยืด มีสีน้ำหน้อยคนเดียวน้อ เพราะพูดมากปากเปียก ตัวแลนบ้านหนูคือตะกวด ตัวเงินตัวทองเรียกเฮี้ย เสียงสูงกว่าหนึ่งคีย์ ขนมไข่หงส์ เขาเรียกไข่เฮี้ย สงสัยไข่มันใกล้กัน งุงุงุงุ ทางภาคเหนือไม่มีตัวไหนหยาบคายเลย เรามีแต่สัตว์มงคลทั้งนั้น แม้แต่สุนัข ยังเป็นชื่อเรียกคนเลย ที่บ้านมียายหมา ยายหมู ยายหมี ไม่เห็นมีใครว่าหยาบน้อ มันเพิ่งจะมาหยาบเพราะวัฒนธรรมผู้ดีตอนหลังนี่เอง จากคุณ : sugarhut - [ 19 มิ.ย. 50 12:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หัวใจ....พระสุนทรฯ..อยู่เหนือกรอบใด     ๑    หายไปวันสองวันฉันคิดถึง บอกคำซึ้งเพื่อนนักกลอน..นอนยังฝัน อ่านนิราศสุนทรภู่เป็นวันวัน จบนิราศสุพรรณโคลงหนึ่งเดียว    ๒      ขอบอกเพื่อนเตือนใจให้สบาย จงผ่อนคลายสี่ร้อยโคลงมิโยงเชี่ยว ท่านสุนทรภู่ผ่อนโคลงปล่อยโยงเกลียว ดูทุกท่าแลเหลียวใช่ลืมลา   ๓     หากพินิจพิศดูพอรู้เรื่อง นิราศเมืองสุพรรณท่านสรรหา ล้วนคำโคลงสี่ขั้นพรรณนา เป็นภาษาสวยอร่ามงามประทาน      ๔      จบนิราศสุพรรณ..ฉันวิเคราะห์ หาลัดเลาะเชื่อมโยงโคลงสมาน กี่เปอร์เซ็นต์เป็นหลักแถลงการณ์ แต่งมนานไม่จะแจ้ง..แหล่งเชื่อมกัน.    ๕     ขอฟันธงตรงหน้า..วาจาข้อย ว่าครูร้อยเสกสร้างอย่างรังสรรค์ ครูยึดหลัก*จินดามณี*ที่รำพัน ครูร้อยผัน โคลงมา..ภาษาดี   ๖     แต่ละบท คำร้อย..ค่อยเพียรพิศ ครูฝึกจิตกำกับนับวิถี ครูเขียนโคลง..โยงภายใน..ถูกพิธี แต่มิชี้โยงนอกบอกใครใคร    ๗      ข้าฯอ่านครบ จบ สี่ร้อยหกสิบสี่ ล้วนคุณงามความดีที่ครูไข ครูเขียนโคลง..เขียนลง..มาด้วยใจ นิราศไซร้..ในเรือ..เมื่อเขียนงาน    ๘ ......ขอกราบเบื้องบาทครูผู้เลิศกลอน ข้ามิวอนลบหลู่กู่สังหาร คำของครูจดจำไว้จดจาร ฉันทลักษณ์พจมานงานโคลงครู... ขอกราบครูสุนทรภู่..ในงานโคลงนิราศสุพรรณ บทประพันธ์๔๖๔ สี่ร้อยหกสิบสี่คำโคลงของครู สอนให้รู้ว่า...ประวัติชีวิตครู...คำของครูที่สั่งสอน อบรมบ่มพร่ำบุคลากรเบื้องหลังที่โยงมา ย่อมมีคุณค่าเหนือ...กรอบ...ยึดโยงใดใด ทิกิ_tiki ขอบคุณ หนังสือ ชีวประวัติสุนทรภู่ที่มีคำประพันธ์โคลงนิราศสุพรรณ ให้ข้าพเจ้าได้ศึกษาวิธีการคิดร้อยคำของครูกลอนซึ่งมาเขียนโคลง... หัวใจ...   หัวใจ....พระสุนทรฯ..อยู่เหนือกรอบใด แต่งเมื่อ 10 ก.ค. 48 - 22:15 เขียนโดย  ทิกิ_tiki ผู้นำกลอนมาลง tiki ข้อความฝากถึง หัวใจ....พระสุนทรฯ..อยู่เหนือกรอบใด 1 : ที่มา http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3591465/W3591465.html#13 .หากเราปิดหูปิดตาเรื่องกฎระเบียบ อะไรเสีย การอ่านงานกวี..ที่ท่านน้อยอกน้อยใจไว้ว่าอย่างนี้... ทำให้เราต้องหยุดคิดว่าดีนักหรือที่จะไป พิจารณ์งานท่านในลำเรือที่วิ่งโยงไป ในลำคลองอันเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ มิใช่ยุคสมัยเรา มีอยู่บทท่านเขียนไว้อย่างนี้ค่ะ  ๓๘    โรง้heeบหนีบอ้อยออด.............แอดเสียง สองข้างรางรองเรียง.................รับน้ำ อ้อยใส่ไล่ควายเคียง.................คู่วิ่ง..เวียนเอย อกพี่นี้ชอกช้ำ...........................เช่นอ้อยย่อยระyum  ๓๙   heeบหันนั่นแหละเหล้..............ตระลาการ ขู่ข่มเหงหักหาญ.....................ห่อนเว้น เข้าพวกคิดอ่านพาล................เอาผิด...พ่อเอย กลheeบหนีบนิดเน้น..................นึกช้ำน้ำใจฯ ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้ นำมาจาก กระทู้ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem78416.html คิดว่า ...คงจะประทังงานเขียนไปได้สักเปลาะหนึ่ง ป.ล.บางคำจำต้องเปลี่ยนที่นี่เพราะเขาแจ้งว่า ไม่สุภาพค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 19 มิ.ย. 50 18:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีทิวาและมิตรสหายทุกท่านครับ หนูกรวีพูดถึง "แลน" อาร์พีนึกถึงอดีตการนานนม  ก่อนที่แม่จะไล่ให้มาเรียน หนังน้ำหนังสือ  เด็กๆ แถวบ้านก๊วนเดียวกันราวๆ ๔๐ คน ไล่ลงมาตั้งแต่ระดับ ชั้นมัธยมต้น ซึ่งมากที่สุด ไปจนถึงอนุบาล และป.๑ ที่หมู่บ้านของเรา มีคลองลึก (ตื้นหน้าแล้ง) มีทะเลสาปที่สวยงาม  มีหาดทรายไกลสุด ลูกตา (สมัยนั้น) ก่อนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสกปรกในปัจจุบัน พวกเรามักเจอกับแลนในตอนเย็นๆ หลังเลิกเรียนตั้งแต่ สามโมงครึ่งเป็นต้นไป   กิจวัตรที่ทำกันประจำก็คือไล่จับมัน แลนเป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วเอาการ พวกเรามักจะไล่ตามมันไม่ทัน จับมันยาก  บางทีมันเล่น ดำน้ำหายไปเลย  พวกเด็กๆ มีผมเป็นต้นต้องดำน้ำตามมันลงไป ลองนึกภาพเด็กๆ เกือบ ยี่สิบ   ดำน้ำล่าแลนซิครับ มันจะชุลมุนขนาดไหน   แลนส่วนใหญ่ที่จับได้ คงเพราะมันเวียนหัว หรือหูอื้อ ทนเสียงเจี้ยวจ้าวของเด็กๆ ไม่ไหว บางทียี่สิบกว่าคนก็ตามจับมันไม่ได้ ต้องให้หมาสี่ห้าตัวไล่ หลายครั้งที่พวกหมาช่วยกัน จับได้  แต่หลายครั้งเหมือนกันที่แลนยึดต้นไม้เป็นสรณะ พวกหมาเลยได้แต่ข่มขู่แสดง อำนาจอยู่ข้างล่าง   จำได้ว่า พวกเด็กๆ (รวมอาร์พีด้วย) เคยเอาไฟเผาต้นไม้จนมันมึน กระโดด ลงมาแล้วหมาก็ฟัดซ้ำ ปัจจุบันผมได้แต่สงสาร "แลน" มันไม่มีที่อยู่ในต่างจังหวัด  ก็เลยเข้ามาอยู่ตาม ซอกซอยในเมืองใหญ่  เวลาผมสงสารแลนพวกนี้ ไม่รู้จะทำอะไรอื่น ก็คงได้แต่ "หย่อนบัตรเลือกตั้ง" แสดงน้ำใจในฐานะเพื่อนร่วมโลกที่จะระลึกถึงกัน.. ผมทำได้แค่นี้จริงๆ จากคุณ : Ar@p - [ 19 มิ.ย. 50 18:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หากพวกแลนได้อ่านที่ Ar@p เขียน คงซึ้งใจจนน้ำตาเล็ด จากคุณ : CrazyHOrse - [ 19 มิ.ย. 50 18:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กร๊ากๆๆๆอาร์พีจบแบบติดตลกอ่ะ..ขำกลิ้งเลย หายหน้าหายตาไปนานเรยอ่ะ...(ไม่ได้คุยว่าจะปรึกษางานการซักกะหน่อย ไม่ปรึกฯแล้วงอลล่ะน่ะ) 555 ล้อเล่น หย่อนบัตรเลือกตั้งให้แลนเนี่ย แหม!!! กรวีก็เคยทำอ่ะ... หนูน้ำตาลแลนแถวนี้(บ้านพักพี่ตะก่อน)มานตัวโต บึกบึนเชียวหล่ะ ตัวมะเมื่อม เพราะมันอยู่บนเขาอ่ะ... แต่แลนเมืองหลวงนี่ มันพลิกลิ้นได้ด้วยอ่ะพี่ว่าน่ะ หุหุหุ วันนี้ได้รับข่าวไม่ค่อยดีอีกแล้ว เรื่องโจรสามจังหวัดภาคใต้ ทำให้คิดว่า ทางการจะรอให้ประชาชนที่บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตหมดไปก่อนหรือ ถึงจะคิดจัดการอะไรที่เด็ดขาดลงไป ส่งทหารไปตายรึปล่าว? มีข่าวฆ่าทหารไม่หยุดไม่หย่อน "ใช่" พวกเขาต้องอดทน เสียสละเพื่อชาติ แต่ก็อย่าลืมว่า พวกเขาก็มีชีวิตจิตใจ พวกเค้ามีคนที่ต้องคอยดูแล ลูก เมีย พ่อ แม่ การที่เรื่องราวเหล่านี้ยังยืดเยื้ออยู่เช่นนี้ คนไทยจะสูญเสียชีวิตคน ดีดี อีกเท่าไหร่ น้ำตาของคนเบื้องหลังอีกเท่าไหร? แล้วชีวิตคนบริสุทธิ์อีกล่ะ?... โดนฆ่าตายทุกวัน ตายกันไม่จบไม่สิ้น รัฐบาลทำอะไรได้บ้างหรือปล่าว? "จัดการขั้นเด็ดขาดได้แล้วน่ะ" คนดีดี ถึงแม้จะแค่หนึ่งคนก้อมีค่า อย่ามัวแต่ทะเลาะ  ชิงดีชิงเด่นกันอยู่เลยนะ  ประเทศชาติมีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องจัดการ... คิดสิว่าคนบริสุทธิ์ที่เสียชีวิตไป  เป็นญาติ  เป็นพี่น้องเรา เราควรหาหนทางเพื่อช่วยพี่น้องเราเหล่านั้น  แก้ไขที่ต้นเหตุไม่ใช่ที่ปลายเหตุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอง  ก็คงไม่สบายพระทัยนัก ที่พสกนิกรของพระองค์ต้องมาประสบชะตากรรมเช่นนี้ "รักพ่ออย่าทำให้พ่อเหนื่อย"เลยนะ  หันหน้ามาทำความเข้าใจกันเพื่อแก้ปัญหาเถอะนะ... ทุกวันนี้ประเทศชาติวุ่นวายพอแล้ว..  อย่าสร้างปัญหากันอีกเลย เราใส่เสื้อเหลืองกันทำไมล่ะ...?  ถามตัวเองสิ   ว่าใส่เพื่อแสดงความจงรักษ์ภักดีหรือแค่แฟชั่น ถ้าคำตอบคือการแสดงความจงรักษ์ภักดี  ทำอะไรเพื่อให้พ่อหลวงของเราสบายใจสักทีเถอะ ...............   ........................ ...... แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 21:24:31 จากคุณ : . (กรวี) - [ 19 มิ.ย. 50 21:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีครับ พี่ทิวา และมิตรสหายทุกท่าน ขออนุญาตเข้ามาพักเหนื่อยหน่อยขอรับ (ยิ้ม) จากคุณ : พิราบเงิน (พิราบเงิน) - [ 19 มิ.ย. 50 21:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 วิงวอนผองพี่น้อง...อาศรม แลนป่าอาจจะตรม...อกไหม้ หากรู้พี่ชื่นชม...ยกย่อง เปรียบสัตว์เป็นคนไซร้...สัตว์นั้นผิดใด --------------------------------------- สงสารแลน อิอิอิ จากคุณ : sugarhut - [ 20 มิ.ย. 50 11:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อิอิ ผ่านเข้ามาอ่านเรื่องแลน เลยนึกขึ้นได้ว่า สมัยเด็กๆตัวเอียดอย่างแรง ผู้ใหญ่ที่บ้านเลยต้มแลนให้ทาน ... แหะๆ หนูเคยกินแลน ... ชะอึ๋ย จากคุณ : จันทร์เหนี่ยว - [ 21 มิ.ย. 50 02:04:12 A:82.83.204.239 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 บรรจงจัดดอกไม้................ธูปเทียน พานพุ่มประดิษฐ์เพียร..........นบไหว้ จากศิษย์ที่เคยเรียน............เขียนอ่าน ก้มกราบรำลึกไว้................ว่าข้ามีครู หวัดดีทุกคนค่ะ วันนี้เจ้าตัวเล็กมีกิจกรรมไหว้ครูที่โรงเรียน สองขวบเนี่ยนะ นึกภาพแล้วอดยิ้มไม่ได้ เตรียมของให้ลูกไปไหว้ครู มีวันนี้กะเขาด้วย ฮ่าๆๆ จากคุณ : หญิงซอมฯ - [ 21 มิ.ย. 50 11:33:59 A:unknown X:202.129.0.74, 202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ต้องค่อย ๆ อ่านที่ละอันค่ะ  กลัวตกหล่น บางอันขำก๊ากกก จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 21 มิ.ย. 50 12:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แสนสงสาร "แลน" น้อย เป็นหนักหนา ถูกเขาว่า ด่าทอ ทุกแห่งหน "แลน" ก็ "แลน" ก้มหน้า ว่าสู้ทน ช่วยหย่อนบัตร อีกสักคน แก้บน "แลน" แหะ แหะ ขอรับ เห็น "แลน" แถว ๆ รัฐสภา ตัวเหลืองวิ่งไปวิ่งมาแถว ๆ ข้างเขาดินวนา ว่าจะไป "แก้บน" เสียหน่อยครับ ไม่รู้ว่า หลวงพ่อท่านจะอยู่วัดหรือเปล่า แหะ แหะ แบบว่า ช่วงนี้ งานคงชุม แหะ แหะ ขอรับ มาแหล้ว ก็ไปแหล้ว ชะแวบล่ะ ปล. ต้อง "แก้บน" ถึงจะได้นะ ขอรับ อย่าไป "แก้ล่าง" ล่ะ ยิ่งช่วงนี้ "ยุงชุม" ไข้เลือดออก กำลังระบาดเสียด้วย เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน อิอิ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 23:57:52 จากคุณ : นายทิวา - [ 21 มิ.ย. 50 23:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ..   วาโยแทนดอกไม้  กระทง มวลเอกภพตลบลง    ห่อไว้ ทินกรดั่งเทียนจง      นำส่ง  กตัญญู ครูภู่พิชญ์พาทไท้     ศิษย์น้อม  สักการฯ .. แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 50 14:25:51 จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 22 มิ.ย. 50 14:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พูดถึงแลน การกินแลน(ด์) ฉบับสีน้ำน้อย เลยถูกปัดฝุ่นมาทำเป็นร้อยกรอง ใครชอบกินแลน ต้องตามไปอ่านการแปรรูปและกินแลน(ด์) นะค่ะ อิอิอิ จากคุณ : sugarhut - [ 22 มิ.ย. 50 15:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยี่สิบหกมิถุนามาใกล้แล้ว ลูกศิษย์ชั้นปลายแถวขอก้มกราบ ส่งความเคารพไปให้ท่านทราบ ไม่จ้วงจาบวิจารณ์งานของครู เขียนเป็นโคลงคิดได้ช้าอย่าริเลย ขอเอื้อนเอ่ยเป็นกลอนไว้ให้หวานหู ฝากแฝงกับอาศรมโคลงคงน่าดู ถึงไม่หรูแต่จากใจที่ใสจริง ยกมือขึ้นวันทาพระตรัยรัตน์ ภัยพิบัติวุ่นวายทั้งหลายสิ่ง จงห่างหายมลายไปไม่ประวิง เรื่องยุ่งขิงจบยังไงก็ไม่ว่า เหล่าคนไทยจักได้หวนคิดถึงครู จอมกวีท่านยังอยู่ในใจหนา เราทั้งมวลล้วนเชิดชูและบูชา ขอวันทาคุณของท่านจนวันตาย........ จากคุณ : เจียวต้าย - [ 23 มิ.ย. 50 13:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 หลังจากที่กรายกระทู้อาทิวาไป แหะๆๆๆ นานพอสมควร ขอเข้าเรื่องน่ะค่ะ... ก่อนที่จะโดนไม้เรียว !!!... อักษรฝากถิ่นนี้.................อาศรม ก้มกราบทั้งประนม.............ยกไหว้ ด้วยจิตคิดชื่นชม................ศิลป์แห่ง กวีนา สานต่อบทกวีไซร้...............รักษ์ไว้ซึ่งสยาม สุนทรภู่ฝากไว้...................บทกวี ศิลป์แห่งอักษรมี................อยู่ยั้ง บรมครูภู่ดั่งศรี....................ส่องซึ่ง สยามแฮ อนุรักษ์อักษรทั้ง.................คู่คล้องชาวสยาม ........ ............... แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 50 15:20:19 จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 23 มิ.ย. 50 15:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ๏ ขอกล่าวคุณภุมราจอมอาลักษณ์ ผู้จำหลักจักรวาลผ่านห้วงหาว "เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร" "แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์" จึงผ่องผุดพรายแจ้งแห่งอักษร "บ้างชมป่าช้าปีทีละคร" ทุกบทตอนก้องขลังดังกังวาน "เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว"แจ่ม ก็วับแวมแอร่มรุ่งพุ่งไพศาล "หวาดประหวัดสตรีฤดีดาล" ระรินซ่านซึ้งใจดุจได้เป็น "อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก" แต่หวานปากกลอนครูอยู่ให้เห็น "ทั้งหนาวนอนไกลนุชสุดจะเย็น" โศกกระเซ็นซึมซาบอาบดวงใจ ข้าผู้หัดจัดเขียนเพียรอักษร เป็นบทกลอนวอนกราบทราบวิสัย จบเทียนธูปบุปผาสุมาลัย ประณตไหว้ครูกลอนด้วยกลอนครู๚๛ ขออนุญาตเอาของเก่ามาเรียบเรียงเขียนใหม่ นบไหว้ครูสุนทรภู่อีกครั้งครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 25 มิ.ย. 50 23:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 @ ยอกรกราบนิ่งไหว้..............วอนครู เขียนติดโคลงล้ำหรู................อย่าช้า เขาเทิดท่านเกรียวกรู..............กลอนส่ง...กันนา ลูกเอกลูกอ้างอ้า...................เอ่ยเอื้อนเยือนโคลง ฯ   กราบครูท่านสุนทรภู่ในวันสุนทรภู่นับแต่เวลานี้ คงไม่ช้าไปนะเจ้าค่ะ # 55   ไหว้ครูด้วยโคลงศิษย์ครูฯ     ยอมือวันทาท่านสุนทรฯ ขอพรกราบครูก่อนตอบใหม่ ขอพรต่อกลอนปัญญาไว ต่อให้ประชาปัญญาดี    เห็นเขาเขียนยอกลอนไหว้วอนนั้น ตัวฉันนั่งนิ่งเฉยมิอึงมี่ หนังสือหนึ่งเล่มเข้มดูดี "โคลงพระราชพิธีทศทวา"...**01      พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ ยศพระเกียรติเลิศเลอสมควรค่า "เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยา บำราบปรปักษ์"นามาสมควรชม      ทรงโตลงแปดร้อยยี่สิบสอง(๘๒๒)บท เขาจารจดเลขโคลงอย่างเหมาะสม ศิษย์สุนทรฯ โด่งดังในสังคม ย้อนคารม"สอนเจ้าฟ้า"มาช้านาน      ยกมือวันทาท่านสุนทร ลูกหลงลืมก่อนอย่าหักหาญ มัวแต่คิดคำโคลงโยงเรื่องการ ขอกราบผ่านกลอนนี้พลีกรรม      tiki_ทิกิ     .**01  โคลงพระราชพิธีทวาทศมาส                      พระนิพนธ์  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  เจ้าฟ้ามหามาลา   กรมพระยาบำราบปรปักษ์ กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์  กรมศิลปากร   พิมพ์เผยแพร่พุทธศักราช ๒๕๔๕ สมเด็จฯเจ้าฟ้าฯ พระองค์นี้ คือ องค์ที่ สุนทรภู่ เขียน เพลงยาวสุภาษิต ถวายเจ้าฟ้าฯ  ที่ท่านไปถวายตัว รับใช้ และ คำนึงหา ไว้มากมายในบทกลอนต่างๆนั้นเอง...   ขออนุญาต ยกกลอนจากกระทู้อื่นมาวางร่วมที่นี่ด้วยอีกครั้งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 08:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โคลงท่านครูอยู่ฟ้า                    อ่าดิน เป็นอนันต์ขวัญกวิน                   ถิ่นแคว้น ยลแยบแบบระบิล                     ระบัด ชัดเอย ศิษย์สักการวารแม้น-                 เมื่อนี้มีครู ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันสุนทรภู่ 09:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย     ลอยสินธุ์ ปวงปุปผะภุมริน             รื่นเคล้า สุนทรภู่ครูวิญ-               ญูปราชญ์ ราชเอย คือรัตนะประดับด้าว         แหล่งหล้าพสุธากวี แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 50 11:03:58 จากคุณ : CrazyHOrse - [ วันสุนทรภู่ 10:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 64 วันสุนทรภู่เช้า...อังคาร บางหมู่เหล่าบนบาน...กราบไหว้ บางคนนิ่งไร้ลาน...ขยับเคลื่อน วันหนึ่งแค่นั้นไซร้...เด็กน้อยว่ากัน ใครคือคนสืบถ้อย...ร้อยกวี ใครสื่อสารงานคีต์...ชาติไว้ ใครรักษ์เหล่าวรรณคดี...สืบต่อ ถามท่านใครตอบได้...ช่วยแจ้งหนูที ----------------------------------------- มีคนไทยกี่คนรู้วันที่ 26 มิถุนายน สำคัญอย่างอะไร จากคุณ : sugarhut - [ วันสุนทรภู่ 14:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดี ขอรับทุกท่าน แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๐ เขาบอกว่า วันนี้ เป็น "วันสุนทรภู่" แต่หนู ๆ หลาย ๆ คน ไม่รู้ ขอรับ แวบงานมาทักทาย ประสา งานชุมเหมือนยุงชุม (ยุงแถว ๆ ตาดโตน ชัยภูมิ ตัวโตและเยอะมาก น่าจับมาคั่วกินเป็นอย่างยิ่ง แหะ แหะ) มาแหล้ว ก็ไปแหล้ว ขอรับ ก่อนไป เอา "อีกหนึ่งเช้าของชีวิต" ที่ไปแอบตั้งกระทู้ทิ้งขว้างไปที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5545395/W5545395.html มเก็บงานไว้ ณ อาศรมฯ ด้วย ขอรับ                  ...อีกเช้าหนึ่งของชีวิต...                ๏ระหว่างทางโค้งตัดป่าเขา                จุดหมายระหว่างเราเพื่อเข้าถึง                ลึกลึกซ่อนซุกทุกคำนึง                ฉุดกระชากลากดึงสงัดงัน                ๏เสียงเมืองกลบเมืองทุกคืนค่ำ                ชินอยู่ประจำชำเราฝัน                ใจเมืองหมดใจให้ยืนยัน                ใจคนก็เช่นกันถูกพันธนา                ๏ระหว่างทางโค้งที่คดเคี้ยว                ใจคนเลาะเลี้ยวและโหยหา                ที่ยลที่ยินด้วยหูตา                จึงตกกระทบใจล้าระหว่างทาง                ๏โน่น ! เจ้าสาวผีเสื้อเธอบินโบก                ขยับปีกข้ามโลกที่กีดขวาง                ข้ามโลกด้วยสองปีกที่บอบบาง                ยอมสิ้นใจกับโลกร้างระหว่างบิน                ๏นั่น ! ไม้เล็กไม้ใหญ่ในผืนป่า                ยืนต้นทายท้าธารน้ำหิน                เสียงป่าใจป่าเต็มแผ่นดิน                และโลกยลยินกับเสียงนั้น                ๏อีกเช้าหนึ่งของชีวิต                ตื่นเพื่อยึดติดกับความฝัน                ระหว่างโลกคดเคี้ยวข้ามคืนวัน                ระหว่างเราก็เช่นกันกับโลกเราฯ                ........................................                อุทยานแห่งชาติตาดโตน ชัยภูมิ                 อาทิตย์ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๐                ......................................... ปล. ๑ ตอบ หนูน้ำตาลไหม้ ที่ว่า "มีคนไทยกี่คนรู้วันที่ ๒๖ มิถุนายน สำคัญอย่างอะไร"   คำตอบก็คือ วันที่ ๒๖ มิถุนายน มีความสำคัญตรงที่ เป็นเวลาก่อนวันหวยออก ๔ วัน แปลว่า มีเวลา ๔ วัน สำหรับหาเลขเด็ด แหะ แหะ ปล. ๒ ภาพประกอบ "ตาดโตน ชัยภูมิ" สีมือของ "ศาลาไทย" ขอบคุณหลาย ๆ ปล. ๓ อีตา จอมยุทธเมรัย เขียน "รหัสนัย" แห่ง ผีเสื้อและแมลงยามเช้า ที่ตาดโตน ไว้ เมื่อไหร่ จะเอาฉบับเต็มมาลงให้เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯ ได้ชมหว่า ปล. ๔ สวัสดีทุก ๆ ท่าน และขออภัย ที่มิได้ทักทายทุก ๆ ท่านแบบเฉพาะเจาะจง ขอรับ ปล. ๕ ไปล่ะ ชะแวบ จากคุณ : นายทิวา - [ วันสุนทรภู่ 16:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ลืมภาพ ขออภัย เข้ามาใหม่ ใส่อีกที "ตาดโตน ชัยภูมิ" จากคุณ : นายทิวา - [ วันสุนทรภู่ 16:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เจ้าสาวผีเสื้อ ---------------- ถึงเจ้าสาวผีเสื้อ ผู้เชื่อรัก มุ่งมั่นทุกน้ำหนักปลายปีกว่าย ทั้งศรัทธาโชติเชื่อมไม่เสื่อมคลาย ยิ่งเชื่อมั่นว่าสุดท้าย รักจีรัง ถึงฉันหนักในเนื้อความเชื่อนั้น ที่เธอยิ่งผูกพัน "มันคือหวัง" แต่บางอารมณ์ดิ่งยิ่งประดัง ทำเอาฉันคลุ้มคลั่งเกินยั้งใจ ฉันคงได้แต่ช่วยอวยพรส่ง ให้ปีกสวยยิ่งยงท่ามแสงใส ทุกวับปีกที่หมายแวกว่ายไป จงสถิตทางไทให้เธอเอง. คิดถึงมิตรสหายทุกท่านครับ. จากคุณ : Ar@p - [ วันสุนทรภู่ 17:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมก็คือคนหนึ่งที่รู้ค่า   ยี่สิบหกมิถุนายังจำได้ เป็นวันเกิดสุนทรภู่นั่นยังไง ตัวกระผม เจียวต้าย จำได้ดี ถึงปีนี้เขาว่าต้านยาเสพติด เคยพิชิตจนแจ่วไปแล้วนี่ แต่ยังหลงเหลือนิดหน่อยไม่ค่อยดี จนวันนี้เขาว่ากลับมาแล้ว ไม่ยักเหมือนคนกวีที่จำได้ สุนทรภู่ครูใหญ่ท่านยังแจ๋ว เป็นจอมครูผู้เทิดไว้ให้ตรงแนว ศิษย์อยู่แถวอาศรมโคลงจรรโลงใจ ต่างเขียนคำร้อยกรองทำนองเสนาะ ล้วนไพเราะเรียบเรียงเสียงสดใส นายทิวานำขบวนชวนใครใคร ทั้งเก่าใหม่คำนับครูท่านภู่เอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ วันสุนทรภู่ 19:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เราคือเจ้าสาวผีเสื้อผู้เชื่อมั่น ว่าฝันนั้นเป็นจริงดั่งมุ่งหมาย ไม่เคยคิดรักหลอกกลอกกลับกลาย และคลี่คลายสิ่งที่รักค่าภักดี เราคือเจ้าสาวผีเสื้อผู้เชื่อมั่น ไม่เคยฝันจะรักใครไปจากนี้ และไม่คิดรักกลับกลอกหลอกชีวี จนฤดีต้องชอกช้ำระกำนัก เราคือเจ้าสาวผีเสื้อผู้เชื่อมั่น ถึง "สัจจะ" กันและกันนั้นแน่นหนัก เชื่อทุกคำที่เขาย้ำด้วยคำภักดิ์ แต่สุดท้ายไม่แน่นหนักรักหลอกกัน แต่ความรักยังอยู่ในใจดวงนี้ ผ่านคืนวันผ่านเดือนปีมิผ่านผัน ยังมีรักยังคงอยู่ทุกวี่วัน ไม่สิ้นฝันด้วยมีรักพักหัวใจ..                         รักน่ะเด็กโง่...     ........................   ***สมมุติว่าตัวเองเป็นนางเอกซะเลย  อิอิอิ   ***อาร์พีนานๆจะเห็นกลอนนุ่มๆของอาร์พีชักกะที... แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 50 14:14:53 จากคุณ : กรวี - [ 27 มิ.ย. 50 14:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ ^ ^ ให้คนข้างบน เจ้าสาวผีเสื้อบินเที่ยวในราวไพร เธอฝันใฝ่อยากเป็นเจ้าผีเสื้อสาว โบกโบยบินไปทั่วผืนพงไพรราว ปีกเจ้าสาวผีเสื้อมีเพื่อราวไพร คอยติดตามดวงตะวันอันแสนโศก หวังว่าโลกจะหมุนตามแสงแดดไหว จึงตีปีกบินติดตามตะวันไป แม้โศกใจแสนหวั่นไหวไม่หวั่นเกรง เจ้าสาวผีเสื้อเป็นเจ้าผีเสื้อสาว งอนพงไพรราวกับ ราวไพรข่มเหง แม้เพลงพิณไพรที่ราวไพรบรรเลง มันคือบทเพลงเพื่อลั่นระฆังวิวาห์ ----------------------------------------- เอิ้ก มาเจอใส่ เจ้าสาว สาวเจ้า ก็เลยขออนุญาต พี่นายฯ นิดหนึ่งนะเจ้าค่ะ ขอแซวพี่ไหมเจ้าค่ะ จากคุณ : สีน้ำหน้อย (sugarhut) - [ 27 มิ.ย. 50 16:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เธอคือสาวผีเสื้อผู้เชื่อมั่น เธอใฝ่ฝันถึงชายผู้อ่อนหวาน ผู้นำเธอสู่คืนวันอันเบิกบาน แล้วไม่นานเธอก็พบพระอภัย อิอิ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 27 มิ.ย. 50 23:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ CrazyHorse มาได้เข้ากับวันสุนทรภู่มากเลยครับ เยี่ยมยุทธฺไม่แปรเปลี่ยน สาวผีเสื้ออย่าเชื่อให้มากนัก จะตกหนักรักใครไว้ครึ่งหมาย เดี๋ยวโดนหลอกจักช้ำน้ำใจตาย ผีเสื้อสมุทรวางวายเพราะปี่อภัยฯ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 28 มิ.ย. 50 05:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 73 กิ๊ซๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ... จากเจ้าสาวผีเสื้อกลายเป็นผีเสื้อสมุทร กรรมตามสนองป่าวเนี่ยที่กรายกระทู้อาทิวา..  กระซิก  กระซิก รุมกันนักเหรอ...  เดี๋ยวมีโพสต์รูปประชันนะ!! เดี๋ยว..มีเฮนะย่ะจะบอกให้ ...   เจ้าน้ำตาลมาให้บีบคอก่อนเลยน่ะ เล่นงี้ใช่ป่ะ..?  ... แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 13:34:27 จากคุณ : กรวี - [ 28 มิ.ย. 50 13:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มณีแปลว่าแก้ว...ถูกไหม สมุทรคืออะไร...พี่น้อง คำตอบทะเลไง...ละท่าน มันเกี่ยวหรือมันข้อง...สอดคล้องอะไร อภัยคือยกแล้ว...โทษทัณฑ์ เป่าปี่ใต้เงาจันทร์...ผ่องแผ้ว อภัยมณีพลัน...สบโชค มีเหตุให้คลาดแคล้ว...พี่น้องผองเกลอ ผีเสื้อคือสัตว์น้อย...บอบบาง กางปีกตามรายทาง...ทั่วหล้า ผีเสื้อสมุทรนาง...ใยใหญ่ มาลักพาชายกล้า...สู่ถ้ำอำไพ ความจริงสีน่ามหน้อย...จะไข อันท่านภู่อำไพ...เพริศแพร้ว กำลังเสพเมรัย...บนเกาะ ยามที่จะคว้าแก้ว...พลาดท่าลงเล ด้วยอายผองเพื่อนล้ำ...เกินเผย จึงกล่าวลมรำเพย...ทั่วแคว้น พัดเสียงปี่ไปเกย...หูยักษ์ ถูกมัดตัวแน่นแฟ้น...ดิ่งใต้สายชล ตกทะเลจ่อมจ้อม...เกือบตาย กลัวว่าต้องอับอาย...พ่ายแพ้ ดีที่ไม่วางวาย...กลางเกาะ เพราะว่ายน้ำบ่เป็นแน้...จึ่งต้องเก็บงำ อ้างผีเสื้อลักอุ้ม...เอาไป มีเงือกงามทรามวัย...เกี่ยวก้อย อันว่าเรื่องจริงใจ...บ่หลอก คือหนึ่งนางร่างน้อย...ว่ายน้ำมาชู เพราะเมามายมากล้น...จนสลบ ยามที่ตื่นมาพบ...เงือกน้อย ดีใจจึ่งเลือนลบ...ความโกรธ ทัณฑ์โทษของจอกแก้ว...จึ่งสิ้นทันควร ท่านสุนทรจึ่งตั้ง...นามอภัย เติมต่อข้างหลังไป...ว่าแก้ว เพื่อเตือนจิตเตือนใจ...คราวก่อน นอนแผ่แต่ไม่แห้ว...เพราะแก้วนำชัย ------------------------------------------------------ เฮฮา ตามประสามุมมองใต้ใบบัว สงสัยว่าพระอภัยจะว่ายน้ำไม่เป็น เพราะแต่ละตอนไม่เห็นพระอภัยท่านว่ายน้ำเลย หงิหงิหงิ กะเลย ได้ต้มโคล้งบ๊องบ๊อง สงสัยว่าสุนทรภู่ท่านอาจมีลับลมคมในกับคนชื่อแก้ว ท่านจึงอภัยมณี อยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นไม่ยักกะอภัย ::beer:: จากคุณ : sugarhut - [ 28 มิ.ย. 50 17:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 75 นิทานคุณน้องสุกรหุตตะละเรื่องนี่เหลือเกินจริงๆ : ) จากคุณ : CrazyHOrse - [ 28 มิ.ย. 50 17:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มานั่งอ่านงานของทุกท่านค่ะ เขียนกันแบบ "มืออาชีพ" จริง ๆ  ข้าพเจ้าขอมาซุกไออุ่นนะคะ พักนี้ไม่ได้เขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเล้ย... เฮ้อ.. ขอขอบคุณทุกท่าน ที่เขียนให้อ่าน จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 28 มิ.ย. 50 20:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 77 นางเงือกน้ำอำไพช้ำใจยิ่ง รักพระอภัยจริงแต่ต้องเศร้า เขาอ้างว้างเขาจึงคิดถึงเรา เจอสุวรรณมาลีเข้าก็เปลี่ยนใจ ทิ้งลูกไว้ในท้องต้องหมองหมาง แล้วจึงเหหันห่างถึงหนไหน ลูกสามขวบก็สุดแลทิ้งแม่ไป โอ้..อกเงือกเลือกไม่ได้ต้องระกำ............ จากคุณ : เจียวต้าย - [ 29 มิ.ย. 50 10:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 78 วันสุนทรภู่เวียนมาอีกคราคาบ จะทำกลอนทำกาพย์ก็อดสู เพียรทำ Blog บอกเล่าเรื่องราวครู จะขอบูชาครูด้วย Blog เอย เพชรพระมหามงกุฎ - พระสุนทรโวหาร (ภู่) อาลักษณ์ขี้เมา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=29-06-2007&group=1&gblog=33 จากคุณ : กัมม์ - [ 29 มิ.ย. 50 13:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คคห 74 ส่วนคนอื่นไม่ยักกะอภัย ส่วนคนอื่นไม่ยักกะอภัย หรือปล่าวนอเจ้าน้ำตาล? จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 29 มิ.ย. 50 14:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เพลงเศร้าองค์อภัย ------------------------------------ เหมือนหมดแรงเป่าปี่วลีรัก องค์อภัยนึกหนักอยู่ในหัว ถูกตะเพิดเอกามาแต่ตัว คนไทยเขาว่าเราชั่วอยู่คนเดียว ตั้งป้อมตะพึดเข้ายึดทรัพย์ คอตอสอโขกสับไปหลายเที่ยว แต่ละดาบแต่ละคราวหนาวจริงเชียว ไม่เหลือเขี้ยวจะต่อสู้กับผู้ใด ที่เคยใหญ่คับฟ้าเมื่อครานั้น มาตีบตันในอกเหมือนหมกไหม้ บารมีที่แก่กล้ามาเสื่อมไป บริวารร้างไร้ไม่ใยดี อนิจจาอำนาจวาสนา พระศุกร์เข้า พระเสาร์มาบนขยี้ หรือชะตาต้องขาดแล้วสิ้นแววดี จะเป่าปี่ต่อไปทำไมกัน องค์อภัยกอดศรีเจ้าปี่รัก สลดเศร้าราวหนักสำลักฝัน เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ใครจะปัน แม้ลูกเมียก็ถูกฟันอยู่ตำตา. 30062550-1 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 50 17:08:24 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 50 16:50:01 จากคุณ : Ar@p - [ 30 มิ.ย. 50 12:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 81 นิทานคุณน้องสุกรหุตตะละเรื่องนี่เหลือเกินจริงๆ : ) จากคุณ : CrazyHOrse --------------------------------- นามสุกรหุตนี้...คือไผ หวังว่าคงอยู่ไกล...นะน้า ร้อนตัวและร้อนใจ...กลัวยิ่ง พี่ท่านเครซี่ม้า...ว่าน้องเป็นหุต ยังบ่อยากเป็นน้องสาวคุณพี่รจนาเด้อค่า ว่าแต่นิทานของสีน้ำน้อยออกจาน่ารักทู๊กเรื่อง คงไม่มีใครว่าหรอกเนอะ หงิหงิหงิ จากคุณ : sugarhut - [ 30 มิ.ย. 50 14:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สุกะระหุตชื่อน้อง    มิใช่ฤๅ สุกะระงามมือ        แม่นแล้ว บูชาว่าหุตถือ        บาลีท่าน แถลงเอย สุกรหุตไม่แคล้ว     ที่เค้าถวายศาล หมูไหว้เจ้านั่นเอง น้องเอ๋ย : ) จากคุณ : CrazyHOrse - [ 30 มิ.ย. 50 23:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 83 พระอภัยวางปี่สุดชีช้ำ แสนระกำเสียท่าน้ำตาไหล เลิกเป็นนักดนตรีที่แดนไกล จำเป็นต้องเปลี่ยนใจไปเล่นบอล. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 1 ก.ค. 50 11:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 84 จะจับหนูนบไหว้...ใครหนอ ควรพะเน้าพะนอ...หน่อยซี้ สุกรหุตแห่งหอ...คานเพชร มีม่อนคานทองนี้...อยู่ค้ำคานเฮย พี่ท่าน สีน้ำน้อย เป็นช้างไหว้เจ้าแทนหมูซะละมั้ง แฮ่ๆๆๆ (เจ้าที่จะไหว้ขอเป็นเจ้าจะเด็ดได้ไหมค่ะ ช๊อบชอบ คนนี้หนูรัก) ------------------------------------------------- เป็นชายเขาร่ายร้อง...ขับขาน กลายร่างกลายสันดาน...ลุกเต้น เป็นหญิงเป่าแตรพาล...หาเรื่อง ลือว่าหญิงเน้นเน้น...ที่บ้ารำวง คุณเจียวต้ายค่ะ เขาว่าสัญชาติญาณ ของผู้หญิงมักจะพูดมากปากเปียก ถ้าใครเขามีอาการชอบเป่าขลุ่ยเป่าปี่ ก็เช่นกันค่ะ มักจะเป็นอาการของผู้หญิง เป็นผู้ชายถ้าหากชอบเป่าปี่เป่าแตรแล้วไม่ใช่นักดนตรีก็น่าสงสัยแล้วค่ะ ------------------------------------------------------- อิอิอิอิ สวัสดีทุกคนค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 15:44:02 จากคุณ : sugarhut - [ 1 ก.ค. 50 15:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เอากิจกรรมมาฝากค่ะ  เผื่อได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวอาศรมฯเจ้าค่ะ.... การประกวดเพลงประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และบทกลอนที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเพื่อนำไปแต่งเพลง     ด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้จัดงาน กึ่งศตวรรณราชภัฏนครศรีธรรมราชเทิดไท้ 80 พรรษามหาราชา ระหว่างวันที่ 14-18 สิงหาคม 2550 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวาระโอกาสอันเป็นมงคล มหาวิทยาลัยจึงได้จัดการประกวดเพลงประจำมหาวิทยาลัยและบทกลอนที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเพื่อนำไปแต่งเป็นบทเพลงชุดใหม่ สำหรับใช้ในโอกาสต่างๆ http://www.nstru.ac.th/portal/news/show_news.php?id=387 ดาวส์โหลดรายละเอีอดได้จากตรงนี้ค่ะ http://www.nstru.ac.th/portal/data_resource/NEWS/2007/DECLARE/FILE/1183082878_034250800.pdf ส่วนการจัดส่งผลงานหากไม่สะดวก  กรวียินดีจะประสานงานให้เจ้าค่ะ... แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 21:40:19 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 50 21:36:52 จากคุณ : กรวี - [ 1 ก.ค. 50 21:29:25 ]

ความคิดเห็นที่ 86 พี่กรวีครับ งานน่าสนใจ แต่ผมคงไม่ไหวหรอก อิอิ คนเมืองคอนเป็นเมืองปราชญ์ ผู้ฉลาดเต็มเมือง พี่สุกรหุต(คิดได้ไงเนี่ย ชื่อนี้ ฮะๆ) เล่น Dirty Joke ป่าวครับเนี่ย หรือผมฟุ้งซ่านไปเอง มาทักทายไม่ให้กระทู้ตกครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 3 ก.ค. 50 23:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 87 โห..หนูโกดประชดไปตามกระแสป่าวอ่ะ  ...   พี่กรวีครับ งานน่าสนใจ แต่ผมคงไม่ไหวหรอก อิอิ คนเมืองคอนเป็นเมืองปราชญ์ ผู้ฉลาดเต็มเมือง จากคุณ : กรวี - [ 4 ก.ค. 50 05:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เจ้าโกฏิดารา พี่เห็นใครแว้บ ๆ ในอะเดย์เล่มล่าสุดหว่า ฮิ ๆ สงสัยตาฝาก เอิ้ก ๏ คิดถึงถิ่นเก่าครั้ง        เคยเรียน ริมฝั่งน้ำหัดเขียน                     เรื่องร้อย สวนศิลป์ร่วมพากเพียร           วิชาครบ         เห็นรุ่นน้องน้อยน้อย                อยู่หน้านิตยสาร ๚ เกี่ยวกันไหมเนี่ย พี่ไหม - กรวี วันก่อนศาลาไทย แว้บไปเยี่ยมลุงหมี่เป็ด (แต่ไม่ได้กินหมี่เป็ด) แถวหาดใหญ่ เลยถ่ายรูปเกาะยอมาฝาก... เอิ้ก ๆ (มือมันซนถ่ายจากมือถือ) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 50 09:26:08 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 4 ก.ค. 50 09:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ชายโกฏิ พี่สีน้ำน้อย เองก็ไม่รู้ ว่าคนตั้งเขาคิดได้ไง แฮะๆๆ ไม่ได้เล่นส่วนโจ๊ก คิดอาวเอง พี่ไม่พูด เอิ้ก จากคุณ : sugarhut - [ 4 ก.ค. 50 10:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ยัยหนู... ลุงหมี่เป็ดเนี่ยอยู่หาดใหญ่เหรอ...  ว้า..ถ้ารู้แต่แรกชวนเที่ยวไปนานแระ  555   ไปนอน  รพ.แถวนั้นเหงาจะตายชัก  รู้งี้ชวนลุงหมี่มาโม้ด้วยกันดีก่า... พี่ก้อมีรูปสะพาณเปรมฯที่พาดผ่านเกาะยออ่ะ  แต่มะได้ถ่ายมุมสูงอ่ะ  ถ่ายบทรถตอนกลับบ้านตอนเย็นๆ  รูปมานอยู่ในโทรศัพท์อ่ะ  มะสามารถส่งมาในคอมฯได้ตอนนี้อ่า  เสียดาย!!  ง้านติดไว้ก่อนแระกานจ้า... จากคุณ : กรวี - [ 4 ก.ค. 50 12:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อยากไปเที่ยวมั่งจัง ตอนนี้แค่เรียนก็จะท่วมหัวแล้วครับ พี่ศาลาเห็นผมด้วยง่า........ เขาถอดเทปผิดนะครับ ไอ้ที่พิลึกพิลั่นในเนื้อเรื่องก็เปิดผ่านๆไปเหอะครับ หงุดหงิดอยู่เนี่ย แหม พี่กรวี ผมหรือจะกล้าประชด ก็ไหนว่าคำโบราณว่า คนดีเมืองสุราษฎร์ ปราชญ์เมืองคอน ขี้ยอนสงขลา ขี้ด่าเมืองตรัง ชังกั้งเมืองลุง ขี้ยุ่งปัตตานี เศรษฐีภูเก็ต ไงครับ จะรอดูภาพทุกท่านนะครับ อาศรมเป็นเงียบๆนะครับ ช่วงนี้ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 00:24:15 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 5 ก.ค. 50 00:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อาทิวาห่างหายอาศรม เหตุเพราะต้องตรมอกไหม้ หรือทำงานจนต้องเหนื่อยใจ จึงไม่โผล่หน้ามาเยือน คิดถึงอาทิวาจังเลย อกเอ๋ยคงต้องหมองเหมือน หัวใจต้องมาเลอะเลือน ใกล้จะฟั่นเฟือนแล้วใจ มีคำถามอย่านึงอยากถาม "ผา hum หด" ไปมาใช่ไหม hum  มันหดจริงจริงหรือไม่ บอกได้ไหมในใจอยากรู้ ***มายิงคำถามแกล้งอาทิวาอ่ะ  เล่นเปิดทู้แล้วหายเข้ากลีบเมฆเลยทำได้ไง  เข้าทำนองหลอกให้อยากแล้วจากไปเรยอ่ะ 5555 ***หนูโกด  รออย่างใจจดใจจ่ออะดิ  จะเติมตังค์วันเกิดก่อนน่ะ  ถึงจะได้จัดการเอารูปลงอ่ะ  รอ..แป๋บน่ะ ***จ๊ากกกกก  ใส่นามแฝงผิดกระทู้ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 16:05:57 จากคุณ : ใยไหม (กรวี) - [ 5 ก.ค. 50 16:03:15 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ทั่นเซอร์พี่หนึ่งนั้น...หายไหน วานพี่นายโปรดไป...จิกด้วย บอกเขาว่าคนไกล...เป็นห่วง (ยางเอย) หายเงียบหรือรักม้วย...ซ่อนน้ำตาแน สาระแนจัง อิอิอิอิ ประกาศ ผู้ดูแลอาศรมหาย จากคุณ : sugarhut - [ 5 ก.ค. 50 16:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สวัสดีพี่ที่วา และทุกท่านเลยครับ ๐ สะระแหน่กลิ่นฉ้อย        หอมฉุน รสชาติเย็นละมุน              ซ่าลิ้น มากด้วยสรรพคุณ             คณานับ ดับพิษร้อนไข้สิ้น              อืดท้องกำจัดหาย ฯ พี่พิราบเงิน '50 เหนื่อยอะไรน่อครับเชิญพักก่อน คุณกัมม์ '78 ขอบคุณครับที่ลงประวัติสุนทรภู่ไว้ครับ มาไม่ทันเรื่องแลนแลน กะผีเสื้อ เอาเรื่องสาระแนไปแทนละกันน่อครับ ปล.๑ ใครส่งโคลงประกวด thaipoet.net เชิญครับ เดือนนี้หัวข้อ นาฏกรรมบนลานกว้างครับ ปล.๒ ไม่มี งิ ------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 7 ก.ค. 50 15:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอารูปมาฝากนู๋โกดกะยัยหนูอ่า สดๆร้อนๆเรยนะ เพิ่งเอาลงตะกี้เอง ถ่ายจากบนรถอ่ะ ตอนขากลับบ้าน เวลาเย็นๆๆๆๆ... จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 7 ก.ค. 50 20:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เฮ้ย!!รูปมะขึ้น เอาใหม่ๆๆๆ จากคุณ : กรวี - [ 7 ก.ค. 50 20:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 97 รูปที่  2  สะพานเปรมฯเช่นกัน จากคุณ : กรวี - [ 7 ก.ค. 50 20:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 98 กล้องมือถือเหรอครับ ไม่ค่อยชัดเลย ขอบคุณพี่กรวีครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 9 ก.ค. 50 00:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สาระแนหน่อมแหน้ม...นะหนอ หอมด่วนโรยลาบลอ...ส้าซ่วม สาระแหน่วางยอ...ลาบแซ่บ ตักใส่ปากกัดกร้วม...เลือดย้อยหนวดเครา ---------------------------------------------- สาระแหน่ แปลว่า หอมด่วน หอมด่วนก็หอมไวไว ไม่ใช่หอมมาม่า หงิหงิหงิ จากคุณ : sugarhut - [ 9 ก.ค. 50 10:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คห.ร้อย ใครที่จะเปิดอาศรมชาวโคลงภาคต่อไป น่าจะขึ้นหัวข้อว่า   "คุยกันเป็นโคลงกลอน" นะครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 10 ก.ค. 50 05:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ต่อกระทู้แบบ "ตามใจป๋า" เอิ้ก ๆ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๘๖ ๏ ๏ ๏ คุยกันเป็นโคลงกลอน ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5594718/W5594718.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - -                      . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 50 11:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ตามใจคนแก่ ทีนี้ใครอยากจะคุยเรื่องอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องมาวิตกว่าจะตรงกับหัวข้อกระทู้หรือไม่ ความจริงแกล้งประชดนายทิวาน่ะครับ อย่าไปบอกแกนะครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 11 ก.ค. 50 10:56:00 ]