กาลชั่วนิรันดร เป็นหนึ่งในคำพูดที่คนเรามักหยิบมันขึ้นมาเอ่ยอ้าง ความหมายของมันไม่มีอะไรมากไปกว่าคำโฆษณาอันหลอกลวง ปราศจากความจริง
ซึ่งโดยแท้จริง ถ่องแท้ชัดเจน ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย คำนี้เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คำ ที่จะไม่มีวันเป็นจริงได้
ไม่มีสิ่งใดอยู่ชั่วนิรันดร
++++++++++++++++++
กระดาษใบนั้นถูกหยิบขึ้นมาเพ่งมองนับครั้งไม่ถ้วน เสียงหัวเราะคำพูดคุยเล็กๆ ไหลเล็ดลอดผ่านมวลอากาศสะท้อนไปมาในห้องทำงาน เขาวางกระดาษลงบนโต๊ะ แล้วหยิบมันขึ้นอีกครั้งก่อนจะพลิกกลับด้านแล้ววางลง ในเกือบจะทันทีประตูห้องเปิดออก
สมศักดิ์บอกว่า ผอ. ต้องการพบผม ชายที่ก้าวเข้ามาในห้องพูดขึ้น
ผมอยากให้คุณเปลี่ยนป้ายหน้าโรงเรียน เอาวันนี้เลยนะ
ครับ ชายคนเดิมรับคำ การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการ ดังนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะขัดแย้ง
แล้วป้ายใหม่เอาแค่ตัวหนังสือก็พอนะ พูดเสร็จก็แสร้งก้มหน้าเปิดแฟ้มเอกสารออกมาเซ็น ชายคนเดิมพูดรับคำเบาๆ ก่อนจะเดินออกไป
เมื่อประตูห้องปิด เขาหยิบพลิกกระดาษใบนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง แต่แรกมันแค่ความสงสัย ต่อมาภายหลังอุบัติรถชนแปดครั้งในรอบสัปดาห์ความสงสัยถูกปัดเป่า นี่จะเป็นอื่นใดไม่ได้ เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าตนเองจะเป็นผู้ค้นพบมัน กระดาษไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือรูปถ่ายบนกระดาษ เขากดโทรศัพท์ไปยังเลขหมายที่ไม่เคยถูกบรรจุในสารบบใดๆ และทันทีที่มีคนรับสาย
ผมพบสิ่งที่เราตามหาแล้ว ช่วยส่งคนมาตรวจสอบด้วย
++++++++++++++++++++
ชายผู้นี้มืดมนไร้ที่มา เหมือนจ้องมองท้องฟ้ายามราตรีกาล ณ จุดหนึ่งคล้ายกับเห็นจุดสิ้นสุด แต่พอเพ่งมองไปก็พบว่ายังมีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่อีก
นารันน์เผชิญหน้ากับศัตรูผู้มุ่งร้ายมานับไม่ถ้วน แต่ทันทีที่ชายผู้นี้ใช้พลังอำนาจบางอย่างเปิดเผยการอำพรางตัวของนารันน์ ม้วนกระแสพลังทำให้เธอต้องตัวสั่นเทาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ในความน่าหวั่นเกรงนั้นแฝงด้วยสำนึกบางอย่างที่นารันน์ไม่เคยสัมผัส และยากจะเข้าใจได้
สิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ น่ากลัวกว่าความน่าหวั่นเกรงที่เห็นอย่างเปิดเผย
นารันน์หงุดหงิดที่เจ้านายของเธอ บอกให้พาแขกผู้นี้เข้าบ้าน เธอไม่เดินนำหน้า กลับจงใจเดินตามหลังราวผู้คุ้มที่ไม่ยอมให้นักโทษหลบหนี นารันน์เชื่อว่าหากมีอะไรผิดปกติ สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นคือ การสิ้นสุดชีวิตของชายผู้นี้ และอย่างแน่นอนเธอไม่รีรอที่จะหยิบยื่นความตายให้หากพบท่าทีส่อพิรุธ
ชายเบื้องหน้าก้มลงถอดรองเท้าหน้าประตูบ้าน แมวสีกระโดดจากอ้อมแขนของเขา เดินย่างเยื้องมาเข้ามาใกล้ และเหลือบตามองเธอ ส่วนหางที่ยาวผิดปกตินั้นเคลื่อนไหวไปมาคล้ายผืนผ้าที่ต้องลม
ปิช เขาเรียกชื่อแมว ก่อนจะอุ้มมันอีกครั้ง ชั่วเสี้ยวขณะหนึ่งตาคู่นั้นเหลือบมองดูนารันน์ เธอกำนัลเขาด้วยนัยน์อันเย็นชา แต่เขาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเดินต่อเข้าไปในตัวบ้าน
เกือบจะเหมือนกันทุกหลัง สำหรับบ้านผู้ที่ครอบครอง ตัวบ้านสวยงามวิจิตรถูกสร้างขึ้นด้วยอำนาจของผู้ครอบครองเหรียญตรา ไม่มีอะไรเป็นจริงในโลกของเธอ แต่มันก็เป็นจริงในโลกของมนุษย์ ทันทีที่ชายผู้นั้นก้าวพ้นขอบธรณีประตูเข้าไป ผ่านสิงโตหินจำลองขนาดเล็กคู่หนึ่งซึ่งตั้งอยู่หน้าประตู ตามปกติแล้วมันจะเป็นรูปสลักที่ปิดตา ต่อเมื่อมีสิ่งที่เป็นอันตรายก้าวผ่านเท่านั้นมันถึงจะลืมตาขึ้น
และตอนนี้ มันก็ลืมตาขึ้น
เสียงขู่คำรามดังขึ้นจากสิ่งโตหิน เสียงนั้นจะดังมากขึ้นตามวัตถุสิ่งของที่ผ่านเข้าไปเพื่อบ่งบอกระดับความอันตราย เสียงจะได้ยินเฉพาะเธอและเจ้านายเท่านั้น ชายเบื้องหน้าขณะจะก้าวเดินต่อก็ชะงัก และแลเหลือบมองสิงโตอย่างประหลาดใจ ทำราวกับว่าเขาได้ยินเสียงด้วย
เมื่อได้บทสรุปสำหรับข้อสงสัย นารันน์ค่อยกางฝ่ามือออกอย่างช้าๆ เล็บสีขาววาววับแหลมคมงอกเงยขึ้นมาบนนิ้วทั้งสิบยาวกว่าสามคืบ
ชายผู้นี้เป็นตัวอันตราย และไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ชีวิตจะต้องถูกยุติใต้กรงเล็บนี้
+++++++++++
จากคุณ :
egotech
- [
10 มิ.ย. 50 00:11:05
]