Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ชู้จำเป็น ( 2 )

    มาติดตามกันต่อนะครับว่า หนุ่มโสด กับ สาวน้อยสามีเผลอข้างบ้าน จะลงเอยอย่างไร

    อยากให้อ่าน ชู้จำเป็น ( 1 ) กันเสียก่อนที่จะอ่าน ชู้จำเป็น ( 2 ) นะครับ เพื่อให้ได้อรรถรสที่ครบถ้วน

    ขอบคุณจริงๆครับที่ติดตาม..... แล้วจะเขียนมาแปะอีกเรื่อยๆนะครับ
    ________________________________________

    ลิ้งค์ที่เคยแปะไว้ครับ
    ชู้จำเป็น ( 1 )http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5487968/W5487968.html

    ครอบครัวหรรษา
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5496573/W5496573.html
    ________________________________________

    ชู้จำเป็น ( 2 )

    ผมเดินอ้อมไปเข้าบ้านเธอ  ตามเธอขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ซึ่งดูแล้วก็พบว่าตู้เตียงข้าวของอะไรๆก็เข้าที่ดีอยู่แล้ว มองไม่เห็นอันใดที่จะต้องเคลื่อนย้ายเลยสักนิด  

    “ไหนครับ ให้ผมยกอะไรครับ”   ผมยืนเด๋อด๋าอยู่กลางห้องนอนก่อนหันไปถามเธอ

    ปานดาวกำลังปิดประตูห้องอย่างช้าๆลงกลอนและกดที่ลูกบิดแล้วหันมองมาที่ผม เธอไม่เอ่ยคำใดได้แต่ยืนพิงประตูมองผมอยู่อย่างนั้น  ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ บัดนี้เมื่อเห็นท่าทีของเธอ หัวใจที่เคยสงบกลับเต้นสูบฉีดอย่างเต็มกำลังจนรู้สึกได้ถึงโลหิตที่พลุ่งพล่านไปทั่วกาย
    ยิ่งไปกว่านั้นความร้อนรุ่มที่ปะทุขึ้นมากลับเพิ่มทวีคูณ  เพราะขณะนี้ปานดาวกำลังปลดกระดุมชุดนอนที่บางเบาของเธอออกทีละเม็ด ทีละเม็ดอย่างแช่มช้า ผมรู้ทันทีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น  

    “คุณปอคะ ฉันเหงาเหลือเกิน”   เธอพูดขณะเสื้อนอนบางเบาหล่นไปกองที่พื้น
    “.........................................”   ผมพูดไม่ออก  สามีคงไม่มีเวลาให้เธอจริงๆ

    ปานดาวหรือสาวสวยข้างบ้านที่ถือว่าเป็นสาวในฝันของผมเลยก็ว่าได้  กำลังย่างเข้าหาผมช้าๆ  ในสมองของผมกำลังเกิดศึกรบราฆ่าฟันกันระหว่างศีลธรรมอันดีกับความชั่ว มันตีกันปนเปจนผมร้อนหัว  แต่ด้วยแรงใจที่ปรารถณาศีลธรรมถูกความชั่วตีแตกกระจายพ่ายจนตกเป็นเมืองขึ้นไปในที่สุด  แม้จะรู้ว่าไม่ถูกต้องแต่ความอดทนของผมก็สิ้นสุดลงในทันทีที่ปานดาวสวมกอดผมไว้เต็มอ้อมแขน

    พายุอารมณ์ชายโสดเช่นผมถาโถมเข้าใส่หญิงสาวผู้อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้  มันพัดกระหน่ำเสียจนเราสองคนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง ไฟรักชั่วคราวลุกโหมกระพืออยู่นาน มันเร่าร้อนรุนแรงประหนึ่งจะหลอมละลายผมกับเธอเข้าเป็นคนเดียวกัน ..........จนในที่สุดทุกอย่างก็สงบลง

    “ผมแอบชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยรู้ไหม ปานดาว”
    “หรือคะ ปอ  คุณชอบฉันตรงไหน ?”
    “ทั้งตัวเลย”   ผมลากเสียงยาวและหยิกแก้มนิ่มๆของเธอเล่น เธอหัวเราะคิกคัก
    “ปอต้องมาหาฉันบ่อยๆนะ รู้ไหม”  
    “เฮ้อ......  ถึงผมจะชอบคุณแต่ก็อดนึกผิดต่อสามีคุณไม่ได้”
    “อย่าคิดถึงเลยค่ะ เขาไม่มีเวลาให้ฉันเองนี่นา ธุระเขามากเหลือเกินบางคืนไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ  ฉันต้องการคนรักคนดูแลเอาใจใส่นะคะ”
    “คุณพูดเหมือนกับตลอดเวลาที่อยู่กันมา เขาไม่เคยใส่ใจคุณเลย”  

    เธอมีสีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัดทันทีที่ผมพูดประโยคนั้น  ผมจึงดึงเธอเข้ามาสวมกอดก่อนที่เธอจะลุกไปอาบน้ำ

    ผมลุกขึ้นเดินไปดูรูปเธอกับสามีที่แขวนอยู่บนผนัง เห็นแล้วรู้สึกบาปในใจอย่างไรชอบกล ผมมองไปเรื่อยเปื่อยจนสายตาสะดุดเข้ากับบางสิ่งสีดำเป็นเงาที่ถูกซุกไว้ใต้ผ้าขนหนูที่อยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าซึ่งปิดไม่สนิท  ผมดึงลิ้นชักยกผ้าขนหนูออกจนเห็นปืนกระบอกเขื่อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นของสามีเธอ ผมบังเกิดความรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมากะทันหัน รีบขยับมันให้วางอยู่ในลักษณะเดิมก่อนกระโดดตัวลอยขึ้นไปบนเตียง เพราะประจวบเหมาะที่ปานดาวเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี  

    “ปานดาว คุณกานต์เขาขี้หึงไหมจ๊ะ”
    “ถามทำไมหรือคะ นึกกลัวขึ้นมาหรือไง”   เธอนั่งลงส่องกระจกเช็ดตัวพลางพูดต่อไป
    “พี่กานต์เป็นคนขี้หึงมาก  เท่าที่ฉันรู้นะ........”   เธอหันหน้ามาเหมือนจะให้ผมฟังได้ชัดๆ

    “สมัยก่อนนะตอนที่เราอยู่บ้านหลังเก่า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาแอบชอบฉัน เขาแอบมาคุยกับฉันที่รั้วข้างบ้านทุกครั้งที่พี่กานต์ไม่อยู่บ้าน จนวันหนึ่งนะ เขากลับเร็วเลยมาเห็นเข้า พ่อหนุ่มนั่นตกใจรีบวิ่งหนี ส่วนพี่กานต์วิ่งตามสุดฝีเท้าเลย วิ่งหายกันไปทั้งสองคน เขากลับมาเล่าให้ฟังว่า ตามพ่อหนุ่มนั่นไปถึงบ้านวิ่งเข้าไปซ้อมเขาถึงในบ้านเลย ตั้งแต่นั้นมาพ่อหนุ่มนั่นก็หายไปเลย”  

    “นั่นแค่แอบคุยกันนะ แล้วผมล่ะ....”
    “ฮะๆๆ อย่าคิดมากเลยเขาไม่รู้หรอกน่า”   ผมไม่มั่นใจเหมือนเธอเลยจริงๆ

    หลังจากวันนั้นผมกับเธอก็แอบเจอกันเป็นประจำ ทุกๆครั้งความรู้สึกเป็นบาปในใจของผมเพิ่มพูนขึ้นเหมือนดินพอกหางหมู และนั่นทำให้ผมได้พบว่า มันเป็นจริงตามที่เธอพูด สามีเธอไม่ค่อยมีเวลาดูแลเธอเลยจริงๆเขาหายไปบ่อยครั้ง หนักสุดถึงกับไม่กลับบ้านสองวันเต็ม ผมสงสารปานดาวชู้รักจึงยอมทำบาปต่อไป จนกระทั่งวันแห่งฝันร้ายที่ผมไม่อยากเจอก็ได้มาถึง

    คืนหนึ่งที่ผมกับเธอพบเจอกันเหมือนจะเป็นปกติ สามีเธอบอกว่าจะขึ้นเชียงใหม่ เรากำลังพอดรักกันเช่นเดิม อย่างไม่คาดฝันสามีเธอหวนกลับมาด้วยเหตุใดก็ไม่อาจรู้ได้ เสียงรถยนต์ดับเครื่องลงที่หน้าบ้าน  ตามด้วยเสียงไขกุญแจเปิดประตูเดินเข้ามาในบ้าน มันรวดเร็วเสียจนผมไม่ทันได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น

    “เร็วๆเข้าพี่ปอ รีบไปหาที่ซ่อน เร็วๆๆๆ !!!”  

    ผมลุกลี้ลุกลนวิ่งแก้ผ้าโทงๆลงไปชั้นล่าง ในความมืดนั่นผมหันรีหันขวางคิดอะไรไม่ออก จะหนีออกทางประตูหลังก็คงไม่ทันแล้ว สามีปานดาวอยู่ภายในบ้านแล้ว เขาจะต้องได้ยินเสียงหากเปิดประตูด้านหลัง  เวลาหมดลงผมตัดสินใจวิ่งเข้าไปในครัวไปหลบอยู่ที่ซอกตู้เย็นข้างกำแพง  ปานดาวทะลึ่งกายตามลงมาโดยลืมสำรวจตัวเธอเอง

    “คุณพี่ !!  ทำ..ทำไมกลับมาอีกล่ะคะ ลืมอะไรหรือคะ”   เธอบังคับเสียงไม่ให้สั่น
    “ลืมของนิดหน่อยน่ะ.....  เอ๊ะ !!  นั่นทำไมหัวยุ่งเหยิงแบบนั้นล่ะ ไปคลุกอะไรมา”  

    แม้จะมืดสลัวแต่สายตาของสามีเธอกลับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ

    “นะ....ไหนคะ ....ก็  ก็ ฉันนอนแล้วนี่คะ”   ถึงตอนนี้เธอบังคับเสียงไม่ได้เสียแล้ว
    “ฮึ !!  ท่าทางจะนอนดิ้น  พักนี้เธอไม่ติดละครแล้วหรือ นี่ยังไม่ทันสามทุ่มทำไมรีบนอนเหลือเกิน”   ผมนั่งแอบเหงื่อแตกอยู่ที่ซอกข้างตู้เย็นในครัวภาวนาให้เธออย่าส่อพิรุธไปกว่าเดิม

    “นี่มันอะไรกัน  ท่าทางดาวแปลกเหลือเกินนะ”
    “อะ..อะ....อะไรคะ ก็ไม่มีอะไรนี่คะ พี่”   หญิงสาวพูดเอียงคอยิ้มปากสั่น
    “ไหน มันมีอะไร !!”

    ผมสะดุ้งกับน้ำเสียงดุดันเกรี้ยวกราดนั่น  สามีเธอเดินหน้านิ่วไปเปิดไฟที่ห้องรับแขก แสงไฟขับไล่ความมืดมิด ทุกอย่างในห้องรับแขกเป็นปกติ แต่เขายังไม่หยุดแค่นั้น ชายวัยกลางคนรีบถลาขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน เปิดไฟสว่างไปทั่วแต่ก็ไม่พบอะไร มีเสียงรื้อข้าวของดังลงมา บางทีเขาอาจรื้อเอาปืนมาเหน็บไว้แล้วก็ได้  เสียงรื้อข้าวของเงียบไป  ตามด้วยเสียงฝีเท้าที่เดินกลับลงมาชั้นล่าง  เขาหยุดมองหน้าภรรยาซึ่งเธอก็เผลอหลบตาโดยไม่รู้ตัว  แล้วเสียงฝีเท้าก็เดินตึงตังเข้ามาในครัว ผมหลับตาปี๋คุ้ดคู้อยู่ตรงที่ซ่อนเสียวสันหลังอยู่ครามครัน

    ทันใดแสงไฟในห้องครัวก็สว่างขึ้น ผมเห็นหน้าตาเคร่งครึมของคุณกานต์มองมาที่ร่างล่อนจ้อนของผมที่นั่งเบียดตัวอยู่ในซอกข้างตู้เย็น  หัวใจหายวาบ  ผมไม่ทราบว่าจะทำสีหน้าแบบไหนดี

    “คุณปอ  นี่คุณ !!!........”   ผมคิดได้ทันทีว่าต้องหนี ผมคิดได้แค่นั้นจริงๆ  

    ผมยันกายลุกขึ้นรีบวิ่งถลาออกจากห้องครัวหัวไหล่ปะทะกับสามีปานดาวแรงจนเขาเซไปชนตู้เก็บของล้มลง ขวดโหลหลากหลายแตกกระจายเกลื่อน  เขาผวากายตามผมออกไป โชคไม่เข้าข้าง  ผมสะดุดล้มลงจนทำให้แจกันลายครามใบใหญ่ตกแตกกระจายเสียงดั่งสนั่น ไม่เพียงเท่านั้น แท่นหินอ่อนที่ตั้งแจกันลายครามนั่นยังล้มเอนไปปะทะกับตู้ปลาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ  มันหล่นลงสู่พื้นแตกกระจาย น้ำนองไปทั่วห้องรับแขก ปลาเล็กปลาน้อยออกมาดิ้นกันอยู่ไหวๆ

    ปานดาวได้แต่ยืนมองตะลึง  สามีของเธอคว้าที่ขาของผมซึ่งผมก็ดิ้นสุดกำลังจนหลุดพ้น ลุกขึ้นยืนวิ่งออกไปทางประตูบ้าน  แต่ผมยังหนีไม่พ้น  คุณกานต์ยังคงวิ่งตามผมออกไปนอกบ้าน ผมพาตัวเองแล่นฉิวไปทางหลังบ้านของผมเอง  รีบเปิดประตูเข้าไปข้างในพยายามจะปิดประตูแต่ก็ถูกเขายึดเอาไว้  เรายื้อยุดฉุดกระชากจนผมกระเด็นหงายหลังกลิ้งลงไปนอนอยู่บนพื้นบ้าน  ผมรู้สึกเจ็บที่หลังจนยากที่จะลุกขึ้นได้

    คุณกานต์ก้าวตามเข้ามาในบ้านมองจ้องที่ร่างเปลือยเปล่าของผมด้วยสายตาดุดัน มือของเขาเอื้อมไปปิดประตูกดลูกบิดและลงกลอน  ทันใดเสียงของปานดาวบวกกับเสียงทุบประตูก็ดังขึ้น

    “พี่กานต์ !!  พี่ปอ !! อย่าตีกันเลย !!  เปิดประตูสิ เปิดประตู!!”   ปานดาวกระแทกประตูและส่งเสียงอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเธอหยุดนิ่งเพราะเสียงดังน่ากลัวของสามีเธอ
    “เงียบไปเลย นังดาว !! พี่ขอจัดการไอ้นี่ก่อน  กลับไปเก็บบ้านให้เรียบร้อย ไป!!!”   เขาหันไปตวาดใส่ที่ประตู  มันชะงัดนักเธอไม่กล้าอาละวาดอีก ตอนนี้เธอกลัวสามีที่สุดในโลก รีบวิ่งแจ้นกลับไปทำตามที่สามีสั่ง

    คุณกานต์ประสานมือเข้าหากันหักนิ้วตัวเองดัง กร้อบ แกร้บ ค่อยๆหันกลับมามองผมที่นอนแผ่หลาสิ้นสภาพอยู่ตอนนี้ เขาค่อยๆเดินมาหาผมช้าๆ ผมสะท้านกายเผลอยกมือขึ้นมาบดบังที่ใบหน้าตามสัญชาติญาณการป้องกันตัว แล้วความรู้สึกทั้งหลายทั้งมวลก็มลายไป ผมตกตะลึงคลายมือออกจากท่ากำบังพยายามดิ้นรนเสือกสนกายถอยร่นไปให้ห่างจากเขา

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ !! อย่าขัดขืน !!”   ชายกลางคนสั่งผมเสียงกริ้ว
    “เฮ้ย...อะไรวะเนี่ย”  

    ผมทั้งกลัวทั้งตกใจออกแรงดิ้นถอยหนีต่อไป

    “ยังไม่หยุดอีก !! จะยอมดีๆหรือไม่พ่อหนุ่ม”   เขาพูดสองพยางค์หลังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลจนผมผวา

    “ไม่!! ไม่!!”  
    “ไม่งั้นหรือ  .....อยากเข้าคุกหรือยังไง!!”
    “อะไรกัน ผมไม่ได้ฆ่าใครตายนะ”

    “ฮึๆๆ แกทำข้าวของบ้านฉันพังขนาดนั้น ข้อหาบุกรุกแม้จะไม่ร้ายแรงแต่แกจะยอมรับมันไหมล่ะ อยู่นิ่งๆเสียโดยดี!!”
    “คุณ...คุณกานต์อย่านะครับ !!”

    “ยังอีก !! จะให้ฉันแจ้งตำรวจหรือไงว่าแกบุกรุกบ้านฉันทำลายข้าวของพังพินาศ แถมยังแอบเป็นชู้กับเมียฉันอีก  โทษฐานบุกรุกบ้านคนอื่นจำคุกหนึ่งปีปรับอีกสองพัน แต่ถ้าเป็นกลางคืนแบบนี้ล่ะก็โทษหนักสุดห้าปีปรับอีกหนึ่งหมื่นหรือทั้งสองอย่าง แกรับได้ไหมล่ะ  อยากลองดูไหม !!  ฮึๆๆ บางทีถ้าแกไปอยู่ในคุกสักปีสองปีแกอาจเจอเรื่องสนุกมากกว่านี้ก็ได้นะ ฮะๆๆ”

    ผมคิดตามคำพูดของคุณกานต์แล้วก็เห็นจริงดังที่เขาว่า ผมไม่อยากถูกจับแม้จะเป็นข้อหาไม่ร้ายแรงแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ผมหมดอนาคตลงได้ง่ายๆ ผมจำใจผ่อนคลายตัวเองถอนใจออกมาอย่างสิ้นเรี่ยวแรงกับเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับผมขณะนี้  ผมได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าทำไมปานดาวถึงมีอารมณ์ที่เหงาหงอยเพียงนั้น สามีของเธอคงปฎิบัติต่อเธอได้ไม่เต็มที่และดีได้เท่ากับผม ทำไมสามีของเธอถึงไม่ค่อยได้กลับบ้านมานอนกับเธอ

    “ดีมาก ....แล้วอย่าไปบอกใครล่ะ”   เขาเน้นเสียงขู่

    แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 50 16:48:25

    จากคุณ : JADAKISS - [ 13 มิ.ย. 50 16:39:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom