Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    [[บันทึกสีจางกับความทรงจำแสนเหงา]]....ช่วยวิจารณ์หน่อยค่ะว่าเขียนเป็นยังไงบ้าง...อยากทราบความคิดเห็นค่ะ((เรื่องสั้น))

    คุณเคยมั๊ย   เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้มันช่างอ้างว้างเหน็บหนาว  ทำไมเราต้องเกิดมาเพื่อเผชิญกับความเงียบเหงาเดียวดายอันแสนจะโหดร้าย
       
    ตัวฉันเองก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง  ที่มีวิถีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป  เมื่อถึงวัยเรียนก็เล่าเรียนไปตามแต่ที่พ่อแม่จะส่งเสีย  ตะเกียกตะกายตั้งหน้าตั้งตาเรียนไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร  เมื่อสำเร็จการศึกษาฉันก็กระโดดเข้ามาอยู่ในวงล้อมของคำว่า  "มนุษย์เงินเดือน " ทำงานเหมือนเครื่องจักรที่ถูกตั้งระบบเอาไว้  ติดอยู่ในวังวนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น  รอบๆกายของฉันมีผู้คนมากมายผ่านเข้ามา  แม้พวกเขาจะพยายามนำเสนอตัวเองให้ฉันดูว่าเป็นคนดีกันขนาดไหน  แต่สิ่งที่ฉันสัมผัสได้ก็คือการแก่งแย่งแข่งขัน  ชิงดีชิงเด่น  ความเสแสร้ง  หลอกลวง  ความเอารัดเอาเปรียบ  และเหยียบย่ำคนที่พลาดล้ม  แต่ทุกคนก็ใส่หน้ากากปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้อย่างแนบเนียนมิดชิด  การกระทำของพวกเขาเหล่านี้สร้างความรู้สึกสะอิดสะเอียนและรังเกลียดที่จะเสวนาด้วย  จนตัวฉันเองถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหัวรั้น  ใจแคบ ขวางโลก  ชอบเดินทวนเข็มนาฬิกา  ทำตัวทวนกระแสในขณะที่คนอื่นๆต่างก็เดินตามเข็มนาฬิกากันทั้งนั้น
     
    ฉันจึงเหมือนมีชีวิตอยู่เพียงลำพัง  ไปไหนก็ไปคนเดียว  ใช้ชีวิตไปตามแต่ความเหงาจะบัญชา  และหลับทั้งน้ำตาทุกคืนวัน  โลกนี้ทำไมช่างโหดร้ายกับฉันนักนะ?  มีใครจะตอบคำถามนี้ให้กับฉันได้บ้าง  สิ่งที่ฉันได้รับคือความเงียบไม่มีเสียงตอบ  ฉันยังจะหวังให้ใครที่ไหนมาตอบคำถามโง่ๆของฉันล่ะ  ก็ในเมื่อตอนนี้ฉันอยู่กับตัวเองนี่นา……
       
    เมื่อฉันโตพอที่จะเรียนรู้กับคำว่าความรัก  ฉันก็คิดว่าความรักมันช่างหอมหวานน่าลิ้มลอง  มองมันเหมือนขนมหวานหลากสีสัน  "ความรักสำหรับฉันเหมือนสิ่งเสพติด"  เมื่อได้สัมผัสกับมันแล้วก็ยากยิ่งนักที่จะถอนตัวถอนใจไปจากมันได้  ฉันถลำลึกไปกับมัน หลงระเริงไปกับมัน

    เมื่อความรักมาเคาะประตูเรียกฉัน  ฉันรีบเปิดประตูต้อนรับมันด้วยความยินดี  

    แต่….ความรักก็อยู่กับฉันเพียงไม่นาน  คล้ายคนหลงทางที่มาเยือนยามวิกาล  มาเพียงเพื่อจะขออาหารกินประทังชีวิต  ขอน้ำดื่มดับกระหาย  ขอเครื่องนุ่งห่มไว้คลุมกายเพื่อบรรเทาความเหน็บหนาวของราตรีกาล  และเมื่อฉันหยิบยื่นสิ่งเหล่านั้นให้เขาด้วยความเต็มใจ  เขาเพียงแค่กล่าวคำขอบคุณด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา  และหันหลังเดินจากฉันไป  ทิ้งไว้เพียงความผิดหวังและเสียใจ  ไม่มีแม้แต่คำร่ำลา  คนแล้วคนเล่าที่แวะเวียนมาสร้างแผลใจให้กับฉัน
    สิ่งที่ฉันได้รับมันทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวฉันนั้นเกิดมาจากคำสาปแช่งของเทพเจ้า  ท่านคงประทานพรให้กับคนอื่นไปเสียหมดสิ้น  จนไม่มีเหลือพอที่จะจ่ายแจกพรแห่งความรักให้ฉันได้  ดังนั้นพรที่ท่านประทานให้ฉันมาคือความผิดหวังเสียใจอยู่ร่ำไป


    ฉันแอบหวังอยู่เสมอๆว่า  เมื่อฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้า  ฉันจะได้พบกับคนๆหนึ่งนอนอยู่ข้างๆกายฉัน  กล่าวคำว่าอรุณสวัสดิ์….ตื่นแล้วหรือ?  แล้วยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน  เขาจะอยู่เคียงข้างฉันในยามที่ฉันไม่มีใคร  คอยปลอบใจเมื่อฉันท้อแท้  เป็นกำลังใจยามฉันอ่อนแอ  คอยดูแลยามฉันเจ็บป่วย  เป็นมิตรแท้ที่เดินเคียงคู่กันไป  อยู่เคียงข้างฉันตลอดไปตราบจนกว่าลมหายใจของฉันจะสิ้นสุด…..


    คนๆนี้จะต้องก้าวเดินไปพร้อมๆกับฉัน  ไม่นำหน้าและไม่ตามหลังฉัน  เพราะฉันกลัวว่าหากเขาเดินนำหน้าฉันไป  ฉันอาจจะก้าวตามเขาไม่ทัน  ฉันจะรู้สึกเหนื่อยทุกครั้งที่ต้องไล่ตามอะไรซักอย่าง  ฉันไม่ปรารถนาที่จะมองเห็นเพียงเบื้องหลังของเขา  และเช่นกันฉันก็ไม่อยากให้เขาต้องเดินตามหลังฉันเพราะฉันกลัวว่าเมื่อฉันหันกลับไปมองแล้วจะพบว่าเขาได้หายไปแล้ว  หายไปจากชีวิตฉันอย่างไม่มีทางหวนกลับมาได้  ดังนั้นฉันจึงยินดีที่จะก้าวเดินไปพร้อมๆกัน  เพื่อที่ฉันจะได้รับรู้ว่าเขาอยู่ข้างๆฉันไม่ได้ไปไหนไกลจากฉันเลย


    แต่….ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ฉันพบพานอยู่ทุกวันเมื่อฉันลืมตาตื่นขึ้นคือผนังห้องที่ว่างเปล่า  รอบๆตัวของฉันคือความเงียบเหงา  บรรยากาศรอบกายคือความมืดมิด  ทุกๆวันฉันตื่นขึ้นมาเพื่อจะรับรู้กับความเป็นจริงว่าแท้จริงแล้ว…ฉันยังคงไม่มีใคร…


    และเพียงแค่ฉันก้าวขาออกจากชายคาบ้านฉันก็พบกับถนนที่ทอดยาว  กับแสงสีเทาของเช้ามืด  ฉันสูดลมหายใจเพื่อรวบรวมความกล้า…ความกล้าอะไรน่ะหรือ?  ก็กล้าพอที่จะทำให้ฉันเดินคนเดียวบนถนนสายนี้ยังไงล่ะ  ในขณะที่คนอื่นๆต่างก็เดินเคียงคู่กันไป  บ้างก็เดินไปเป็นหมู่คณะ  หากแต่ว่าฉันกลับต้องเดินคนเดียวทุกวัน  เดินไป…ไกลออกไปเรื่อยๆ  


    เดินเข้าไปหาอ้อมกอดของมนุษย์หน้ากากที่ฉาบรอยยิ้มบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ไว้อย่างสดสวย  แต่จะมีใครรู้บ้างว่าภายในหน้ากากนั้นมีดวงตามาดร้ายและรอยยิ้มแห่งความเหี้ยมโหดซ่อนอยู่  ในมือที่ไขว้หลังอยู่นั้นมีมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด  รอคอยและพร้อมที่จะจ้วงแทงทางด้านหลังเมื่อฉันเผลออยู่ตลอดเวลา


    ทุกวันนี้ฉันมีเพียงความเหงาและหยดน้ำตาเป็นเพื่อนแท้ที่ซื่อสัตย์  พวกเขาไม่เคยทอดทิ้งฉันไปไหน  ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน  พวกเขาเหล่านี้มักจะแวะเวียนมาทักทายฉันทุกครั้งเมื่อฉันอยู่คนเดียว…


    และแล้วในวันหนึ่ง….วันที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม  ฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก  บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกศัลย์อาดูร  ฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าฟ้ากำลังร้องไห้สงสารฉันที่ต้องอยู่อย่างอาภัพอับวาสนา  ในขณะที่คนอื่นๆต่างวิ่งหนีหาที่กำบังเพื่อไม่ให้ร่างกายของตนต้องเปียกปอน  แต่ฉันกลับก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง  และร่วมร่ำไห้ไปกับฟากฟ้า  ในความเหน็บหนาวของน้ำฝน  ฉันได้ค้นพบความอบอุ่นอันยิ่งใหญ่ของน้ำตา  ฉันคลี่ยิ้มให้และกล่าวคำขอบคุณให้กับมันอย่างจริงใจ   ที่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันอบอุ่นขึ้นท่ามกลางความเย็นเยียบหนาวเหน็บ  ขอบคุณที่มันกรุณาเดินมาเป็นเพื่อนฉันจนถึงประตูบ้าน  บ้านที่มีญาติพี่น้องอยู่รายล้อม  แต่บางครั้งพวกเขาเหล่านั้นกลับกลายเป็นใครที่ฉันไม่เคยรู้จักเลยซักนิด  


    …ฉันเดินตัวเปียกปอนผ่านคนเหล่านั้นไป  แล้วค่อยๆเปิดประตูห้องของฉัน  ห้องที่ฉันเรียกมันว่า " อาณาจักรแห่งความเหงา "  ภายในมืดมิดมีเพียงแสงจากสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบเพียงชั่วครู่ก็เลือนหายไป  เมื่อฉันเปิดไฟห้องทั้งห้องก็สว่างไสวขึ้น  ตรงเก้าอี้ตัวเก่าที่ฉันใช้นั่งครวญคร่ำโหยหาความรัก  พร่ำรำพันว่าฉันเหงาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น  บัดนี้กลับปรากฏร่างของใครบางคนที่มองดูเลือนลางนั่งอยู่  เขาหันมาส่งยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน  ยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้ฉันเพื่อที่ฉันจะได้ใช้ห่อหุ้มร่างกายที่กำลังสั่นเทา  สายตาที่เขามองมาที่ฉันเต็มไปด้วยความอาทร  หวังดี  และจริงใจ  เขาเอ่ยปากถามฉันด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลรื่นหูว่า
    "กลับมาแล้วหรือ?…เป็นยังไงบ้างเหนื่อยหรือเปล่า?…เบื่อมากมั๊ย?  ต้องเจอกับสิ่งเลวร้ายอะไรมาบ้าง? เล่าให้เราฟังบ้างจะได้ไหม?"  
    ฉันพยักหน้ารับแล้วบอกกับเขาว่าฉันเหนื่อยเหลือเกิน  เวลานี้ฉันท้อแท้จนแทบสิ้นกำลัง  ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย  แม้แต่ตัวของฉันเอง  ทุกคนที่ฉันพบเจอต่างหยิบยื่นแต่ความผิดหวัง  โกหกหลอกลวง  สร้างความเจ็บปวดให้กับฉันอย่างร้ายกาจ  พลันร่างกายของฉันก็อ่อนยวบหมดสิ้นเรี่ยวแรง  ฉันเหนื่อยกับการที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนไปตามกฏเกณฑ์และกระแสสังคมอันฟอนเฟะ  เขาคนนั้นช้อนร่างของฉันไว้ด้วยลำแขนอันแข็งแกร่งก่อนที่ตัวฉันจะร่วงลงถึงพื้นเช่นลูกนกปีกหักที่พยายามจะฝืนบิน  และบอกกับฉันว่า
    "ถ้าเหนื่อยนักก็หลับตาพักผ่อนซะ  นอนหลับให้สบายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะ  เราจะอยู่ข้างๆ  จะอยู่เป็นเพื่อนไม่หนีไปไหน"
       "จริงเหรอ  สัญญานะ"
    ฉันถามเขาอย่างไม่แน่ใจ  พลางเรียกร้องคำสัญญาจากเขา
    "สัญญา  จะไม่ทิ้งไปไหนจริงๆ  จะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเธอจะไม่ต้องการ"
    คำพูดเพียงแค่นี้  มันก็ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย  ฉันซุกตัวกับอกอุ่นๆของเขาเหมือนลูกนกเล็กๆที่ขนยังไม่ขึ้นซุกตัวหาไออุ่นจากใต้ปีกแม่ของมัน  ฉันหลับตาลงพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลรินเป็นทาง  ตอนนี้ฉันอยากหลับอยู่อย่างนี้ไม่อยากตื่นมาแล้วต้องพบกับความว่างเปล่า  อยากหลับตาอยู่เช่นนี้แต่สามารถสัมผัสได้ว่ายังมีเขาอยู่ข้างๆคอยโอบกอดฉันไว้  ปกป้องฉันเมื่อยามมีภัย  และคอยเช็ดน้ำตาให้ฉันด้วยมืออันแผ่วเบาของเขา…


       หลังจากวันนั้นเมื่อถึงเวลาเลิกงานฉันจะรีบกลับบ้าน  เพราะฉันรู้ดีว่าเขาคนนั้นรอคอยฉันอยู่  รอที่จะให้ฉันกลับมาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ  ทั้งสุขและทุกข์  เขาจะคอยปลอบโยนและเป็นกำลังใจให้ฉัน  คอยซับน้ำตาให้ฉันในเวลาที่ฉันถูกอดีตอันขมขื่นย้อนกลับมาทำร้ายฉันให้เจ็บปวดทุรนทุราย  และโอบกอดยามฉันหลับตานอน  เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าฉันจะพบว่าเขานอนอยู่เคียงข้างฉัน  จุมพิศฉันเบาๆอย่างอ่อนหวาน  แล้วเอ่ยคำว่า
       "อรุณสวัสดิ์…ตื่นแล้วหรือ  เมื่อคืนฝันดีหรือเปล่า"
    แล้วยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน  เมื่อใดที่ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหมดเรี่ยวสิ้นแรง  เขาจะดึงมือของฉันไปกุมไว้แล้วบีบอย่างแผ่วเบานุ่มนวล  ถ่ายทอดพลังและความกล้าให้กับฉัน  กระซิบข้างๆหูของฉันว่าให้ต่อสู้กับคืนวันอันโหดร้ายต่อไปอย่างกล้าหาญมั่นคง  เขาจะปรากฏกายต่อหน้าฉันทุกครั้งเมื่อฉันรู้สึกเหงาและจากฉันไปยามที่ฉันมีความสุข  โดยที่เขาคนนี้ไม่เคยร้องขอสิ่งตอบแทนจากฉันเลยซักครั้ง  ฉันจะรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยทุกครั้งเมื่อมีเขาอยู่เคียงข้าง


     …แต่ฉันก็รู้ดีว่าเขาคนนี้ไม่มีตัวตนเป็นแค่เพียงคนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการที่หลอมรวมจากความเหงาของฉัน  ตราบใดที่ความเหงายังแทรกซึมเข้าไปอยู่ในกระแสเลือดซอกซอนเข้าไปในทุกอณูของลมหายใจเขาก็จะยังคงอยู่กับฉัน  แต่เมื่อใดที่ฉันค้นพบกับความสุขร่างกายของเขาจะค่อยๆสูญสลายกลายเป็นฝุ่นละอองสีรุ้งที่แสนงดงามและปลิวกระจายหายไปในสายลม…


       …หากเขาคนนั้นมีตัวตนจริงๆฉันจะไล่คว้าเขาเอาไว้  ไม่มีทางปล่อยให้เขาหลุดลอยไป  จะอยู่กับเขาทั้งยามหลับและยามตื่น  ฉันจะรักเขาให้มากที่สุดเท่าที่หัวใจของฉันจะรักใครสักคนได้   ทุกคืนก่อนจะนอนฉันก็เฝ้าแต่พร่ำขอและอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ท่านเมตตาส่งคนๆนั้น  คนที่มีตัวตนจริงๆ  มีเลือดเนื้อมีลมหายใจ  และมีจิตวิญญาณ  ที่ฉันสามารถแตะต้องสัมผัสได้มาให้กับฉันเสียทีเถิด   อย่าได้ใจร้ายกับฉันนักเลย  ฉันสัญญาว่าจะรักเขาให้มากๆและจะไม่มีวันทำให้เขาผิดหวังเสียใจเป็นอันขาด  ถ้าคำขอร้องของฉันสัมฤทธิ์ผล  ฉันคงจะหลับตานอนด้วยรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความสุขฉันคงจะหลับฝันดี  หลังจากที่เมื่อก่อนนี้เพียงแค่ฉันปิดเปลือกตาลงฉันก็ต้องเผชิญกับฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนให้ผวาตื่น…


       …ทุกวันนี้ไม่ว่าฉันจะเดินไปทางไหน  ฉันจะคอยมองหาด้วยความหวังว่าเขาคนนั้นอาจจะกำลังยืนคอยฉันอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง  แต่ในความเป็นจริงก็คือฉันยังอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้าง  ไม่มีคนในฝัน  มีแต่ความจริงอันแสนโหดร้ายเหมือนเช่นเคย…


    …แต่ใครจะรู้  บางทีฉันอาจจะเจอคนๆนั้นแล้วก็ได้  เพียงแต่ว่าบนเส้นทางที่เราเดินฉันเลี้ยวไปทางซ้าย  ส่วนเขาเลี้ยวไปทางขวา  ฉันเดินขึ้นสะพานลอยแต่เขาข้ามทางม้าลายด้านล่าง  ฉันอาจนั่งรถเมล์อยู่ทางด้านหน้าแต่เขายืนห้อยโหนอยู่ทางด้านหลัง  และบางทีเราอาจจะเดินสวนกันอยู่แทบทุกวี่วัน  ตอนนี้ฉันก็ได้แต่รอคอยวันที่สวรรค์เห็นใจฉันเมื่อไหร่ฉันก็คงได้พบกับเขาคนนั้นเสียที                  …จบบนทึกของคนขี้เหงา…                  
                                                                                              …เค้าโครงเรื่องจริงจากความเหงาของ…
                                                                                                                      "ตะแบกสีม่วง"
                                …เรียงร้อยตัวอักษรถ่ายทอดเป็นเรื่องราวโดย…
                                    "ว่านสี่ทิศ"

    จากคุณ : คลับซ่าส์ - [ 13 มิ.ย. 50 17:51:09 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom