เรื่อง จันทร์ไรของคนอับ-ปี
การดำเนินชีวิตตามความรู้สึกและอารมณ์
จนได้พบสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิตและจุดจบของชีวิต
คุณเคยเดินไปแล้วผ่านหมาหลายๆตัว อยู่ๆมันก็วิ่งเข้ามาหายังกับว่าคุณเป็นหัวขโมย สายตามันจ้องเหมือนกับเราเป็นผู้ร้าย ศัตรูคู่อาฆาต เสียงคำรามออกจากปากที่มีเขี้ยวแหลม น้ำลายไหลยืดออกจากซอกฟัน เราเดินหนีมันยิ่งส่งเสียงดังขึ้นหลายเท่าตัว หาไม้มาไล่ มันก็หนีออกไปไม่นานแต่มันกลับมาพร้อมกับฝูงที่ใหญ่ขึ้น ส่งเสียงทั้งเห่าและหอน ปากที่อ้ากว้างคอยจะงับที่ต้นขาเมื่อเราเผลอ มันก็เหมือนกรรมเวรนั่นหละ ใครว่าเรื่องพรรนี้มันจะไม่ตามเราทัน มันจะติดข้างหลังเราอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าตอนกิน เยี่ยวหรือนอนหลับ คอยเป็นเงาบาปที่จะออกมาทวงหนี้แค้นของตัวคุณเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันจำไม่ได้หรอกว่าทำสิ่งชั่วร้ายอะไรบ้าง ถึงแม้ฉันจะเอ่ยปากบอกทุกผู้คนเสมอว่าตัวฉันไม่ใช่คนดี และไม่ใช่คนชั่ว มดสักตัวฉันยังไม่ฆ่าเลยแล้วจะไปทำร้ายใครได้ แต่สิ่งที่บอกว่าไม่ผิดในความคิดฉัน มันอาจจะทำร้ายใครหลายๆคนโดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลยก็ได้ และมันก็จะกลับมาหาตัวฉันทุกครั้งที่มันมีโอกาสแก้แค้น ทุกครั้งที่มันวกกลับมาหา ก็ทำให้ฉันคิดได้กับสิ่งที่เคยทำมาเสมอ มันอาจไม่ได้ผิด แต่มันก็ไม่ได้ดี ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เพื่อไปแก้ปัญหาที่ผ่านมาให้มันดีขึ้น ตัวฉันก็ยังสองจิตสองใจ ถ้าฉันไม่ได้ทำมันทุกวันนี้ฉันคงไม่คิดได้ ไม่รู้ถึงผลลัพธ์สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ชีวิตของคนเราสั้นนัก สั้นเหมือนลมหายใจที่ เอาเข้าแล้วปล่อยออก ฉันจะใช้ชีวิตช่วงสั้นๆที่เหลือได้แก้ไข ไม่ใช่สิ ทำสิ่งดีๆให้คนที่รักฉันและอยู่เคียงข้างฉัน อย่างน้อยมันอาจจะช่วยลดบาปที่ฉันเคยทำไปบ้าง
เมื่อก่อนฉันยังเด็กพอที่จะทำสิ่งโง่เง่า แต่ก็ดีกว่าที่จะมานั่งโหยหาว่ามันขาดอะไร แต่แล้วชีวิตสุดท้ายตัวฉันเองกับต้องมานั่งเสียใจกับการทำสิ่งงี่เง่า ฉันว่าถ้าเราจะเขียนจะไรสักเรื่องเขียนอะไรสักอย่าง มันไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับเรื่องของชีวิตคน เพราะคนเรานี่หละมีสีสันที่สุด คนได้ผ่านร้อนผ่านหนาว ได้สุขได้ร้องไห้เสียใจ แต่มันก็แค่ชีวิตคน จะมีเรื่องราวของคนสักกี่คนที่จะเป็นความทรงจำ และต่อไปนี้ลองมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนธรรมดาคนนึง ที่อาจจะพอน่าจดจำได้บ้าง
ฉันนั่งมองตั๋วรถไฟ ขบวนที่77 ราคา 256 บาท เที่ยวเวลา 17.45 นาฬิกา ปลายทาง สุราษธานี อีกไม่กี่นาทีฉันก็จะได้ออกไปจากกรุงเทพ เมืองหลวงที่ฉันเคยชินกับมัน เมืองที่ไม่มีใครรู้จักฉัน เมืองที่ฉันเหมือนคนล่องหนไม่มีใครใส่ใจ ฉันเหมือนกับคนหลายล้านคนทั่วประเทศที่มาแสวงหาความศรีวิลัย ความรุ่งเรื่อง แต่สุดท้ายสิ่งที่ฉันได้พบและค้นเจอคือ ตัวตนของฉันเอง
ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขบวนรถด่วนเที่ยวเวลา 17.45 นาฬิกา ออกจากสถานีหัวลำโพง ถึงสถานีปลายทางนราธิวาส จอดที่ชานชลาที่ 9
สิ้นเสียงประชาสัมพันธ์ ฉันก็แบกเป้ใบเล็กๆไว้บนบ่า เดินตรงไปยังโบกี้รถไฟชั้นสามที่ฉันชอบนั่งเวลาเดินทางไปเที่ยวไหนไกลๆคนเดียว อย่างน้อยก็ไม่ได้พาใครมาลำบาก ฉันยกกระเป๋าขึ้นเก็บไว้ตรงชั้นวางเหนือหัว แล้วนั่งลงตรงที่นั่งริมหน้าต่าง
รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานี เป็นการเริ่มการเดินทาง ฉันนั่งมองออกไปข้างนอก ทำไมช่วงนี้ฉันถึงคิดถึงบ้านบ่อยครั้ง แต่การเดินทางครั้งนี้รถไม่ได้พาฉันกลับบ้าน รถไฟจอดรับผู้โดยสารในสถานีต่างๆของกรุงเทพ ช่วงเวลาที่รถกำลังเดินทางไปจุดมุ่งหมายนั้น พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน แสงสว่างกำลังจะหมดไป ฉันมองเห็นบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากรางรถไฟไปไม่ไกลนัก มันยิ่งตอกย้ำจิตใต้สำนึกให้ฉันคิดถึงบ้านมากขึ้น บ้านที่ฉันจากมานาน นานจนฉันจำไม่ได้ว่าฉันเคยมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้กลับ ฉันลืมสิ่งดีๆที่เคยเกิดที่นั้น ลืมใครบางคนที่รอฉันอยู่ ความทรงจำของฉันในวันนี้ มีแต่สิ่งโหดร้าย ความห่างเหินและหดหู่
ฉันเกิดมาในครอบครัวคนชั้นปลานกลาง เป็นลูกคนเล็ก ที่พ่อรับราชการตำรวจและมีแม่เป็นแม่บ้านรับจ้างทั่วไป บ้านไม้สองชั้นใต้ถุนสูงเป็นบ้านที่ครอบครัวฉันอาศัยอยู่ ด้านล่างจะมีเตียงอันใหญ่ที่ทำจากเศษไม้เหลือหลังจากสร้างบ้าน เป็นเสมือนห้องรับแขกไว้ต้อนรับผู้คนที่มาเยี่ยมเยือนและเอาไว้ทานข้าวร่วมกันในตอนเย็น ข้างๆมีเล้าหมูเลี้ยงไว้เป็นรายได้เสริม ใกล้ๆกันจะมีเล้าไก่ มันอาจไม่ใช่ซะทีเดียว แค่เอาไม้มาเรียงๆพอให้ไก่ได้เกาะตอนนอนหลับกลางคืน ติดๆกันมีต้นชมพู่ และต้นบักหูดในภาษาบ้านฉัน แต่เรียกมะขวิดในกรุงเทพ ลูกมันใหญ่เหมือนผลส้มเอาไว้ใส่ลาบวัวลาบหมูตอนแม่ทำกับข้าว หน้าบ้านมีต้นมะม่วงที่เวลามันออกผลไม่ว่าสุกหรือดิบมันก็จะยังคงความเปรี้ยวไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่น้าแปลกใจคือบ้านฉันไม่มีทางเข้าหน้าบ้านต้องอาศัย ตรอกเล็กๆที่ดินติดกันเป็นทางหลัก กว้างแค่เมตรกว่าๆสำหรับเดินเข้าออกและให้รถมอร์เตอร์ไซด์เก่าๆของพ่อสามารถขี่เข้าออกได้เท่านั้น เหมือนกับเหตุการณ์ต่างมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานความทรงจำเก่ามันผุดขึ้นมาเตือนรากเหง้าของฉัน
แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 50 09:41:40
แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 13:56:04
จากคุณ :
charmmower
- [
21 มิ.ย. 50 13:52:34
]