โอย! ปวดหัวจริง ๆ เลย ฉันเบื่อกับงานที่ทำนี่ซะเหลือเกิน แต่ก็ยังต้องทนทำอยู่ด้วยเหตุผลบางประการ
วันนี้ก็เหมือนเดิมทุก ๆ วันน่าเบื่อ แต่แล้ว
ความน่าเบื่อก็หายไป มีความรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาแทน
เมื่อฉันรับสายโทรศัพท์ลูกค้าท่านนึง
" หนูช่วยป้าด้วย ป้าอยากรู้ว่าลูกชายป้าส่งเมลล์ไปหาใครบ้างตอนไหนเวลาเท่าไหร่ " คุณป้าบอกเมลล์ของลูกชายมา
ฉันบอกกับคุณป้าไปว่า "ต้องขอโทษด้วยค่ะ
นั่นคือข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า ทางเราคงไม่สามารถ
เข้าไปตรวจสอบได้ " ทั้ง ๆ ที่ถ้าจะดูจริง ๆ ก็ดูได้ถ้าทราบ user/password
" ขอร้องเถอะหนูป้ามีความจำเป็นจริง ๆ "
ถึงอย่างไร ฉันก็พยายามที่จะหาเหตุผลแจ้งว่าไม่ได้อยู่ดี ไม่ใช่ไม่อยากช่วย
แต่บางครั้งมันก็เกินหน้าที่ (ตอนนั้นสามัญสำนึกในการอยากช่วยเหลือยังไม่
เกิดขึ้น ทำเพียงตามกรอบหน้าที่เท่านั้น)
เมื่อฉันชี้แจงว่าทำได้แค่ไหนแล้ว กำลังจะวางสาย คุณป้าก็พูดขึ้นว่า
" ลูกชายป้าถูกฆ่าตาย ป้าแค่อยากจะตามหาคนที่มันฆ่าลูกป้า "
ฉันอึ้งไปในทันที
ขณะเดียวกัน สามัญสำนึกในการอยากช่วยเหลือก็พลันเกิดขึ้น
และคำถามมากมายก็เกิดขึ้นในหัว พร้อม ๆ กับการอยากรู้อยากเห็น (เรื่อง
ของคนอื่น) ก็ตามมา
คำพูดต่าง ๆ ของคุณป้าก็พรั่งพรูออกมา แทบจะฟังไม่ทัน
" เอ่อ คุณป้าค่ะใจเย็น ๆ ค่ะ ยังไงดิฉันจะพยายามช่วยเต็มที่
นะค่ะ คุณป้าจำ password ที่จะเข้าเมลล์ของลูกค้าชายคุณป้า
ได้ไหมค่ะ"
" ป้าไม่รู้หรอก ป้ามีแต่เมลล์เนี่ย "
โอย ความยุ่งยากเกิดขึ้นอีกแล้ว ฉันคิด แต่สามัญสำนึกที่ดี
ยังมีมากกว่า
" ป้าค่ะหนูว่า (ฉันเปลี่ยนสรรพนามจากดิฉันเป็นหนูซะเลย)
เอ่อ..คุณป้าทราบเบอร์มือถือของลูกชายคุณป้าอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ
ลองโทรไปที่ callcenter เครือข่ายมือถือที่ลูกชายคุณป้าใช้ดูซิค่ะ
แล้วลองขอข้อมูลการโทรเข้าโทรออกดู ถ้าเค้าไม่สามารถเปิดเผยก็ ขอหนังสือแจ้งความจากตำรวจไปยื่นขอ น่าจะได้นะค่ะ" ฉันแนะนำคุณป้า
" ป้าไปแจ้งความแล้ว หลายเดือนแล้วไม่มีอะไรคืบหน้าเลย "
น้ำเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้
" แล้วป้าก็เคยโทรไปแล้วตามที่หนูว่า เค้าคุยไม่รู้เรื่องเลย
ป้ามืดแปดด้านไปหมดแล้วเนี่ย " ฉันว่าฉันได้ยินเสียงสะอื้นนะ
เอาละว่ะ ถ้าจะช่วยก็ขอให้ถึงที่สุดละกัน
" คุณป้าค่ะ สะดวกแจ้งเบอร์ลูกชายคุณป้าให้หนูได้ไหมค่ะ
หนูจะลองโทรไปสอบถามที่เครือข่ายมือถือให้ "
คุณป้าบอกเบอร์ และเครือข่ายที่ลูกชายใช้งานมาให้
เราคุยรายละเอียดกันพักใหญ่ แล้วฉันสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า
ถ้าได้เรื่องยังไงจะรีบติดต่อกลับไป โดยคุณป้าบอกเบอร์บ้านที่ติดต่อสะดวกให้
โดยที่ฉันก็ลืมถามเบอร์มือถือคุณป้าไว้
หลังจากที่ฉันโทรไปที่เครือข่ายมือถือ แจ้งในสิ่งที่ต้องการ
โดยไม่ได้แจ้งความจริงทั้งหมด แต่อ้างว่าเป็นญาติ
ตัวเองที่ประสบเหตุ เสียง callcenter แสดงความเห็นใจและ
กระตือรื้อร้นอยากช่วยเหลือพอสมควร (ฟังจากน้ำเสียง)
พอฉันทราบขั้นตอนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเบื้องต้น จึงโทรไปหาคุณป้า
เพื่อแจ้งควาบคืบหน้าในทันที
" สวัสดีค่ะ เรียนสายคุณ...ค่ะ " เสียงตอบรับปลายสายเป็นเสียง
ผู้ชาย " ที่นี่ไม่มีคนชื่อนี้นะครับ " ฉันทวนเบอร์อีกสองรอบก็รับได้การปฏิเสธ
เสียงชายคนนั้นเข้มขึ้น คงรำคาญฉันเข้าแล้ว
" คุณไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เหรอค่ะ "
" เอ๊ะ! คุณผมบอกแล้วไงว่าไม่รู้จัก จะเปลี่ยนเบอร์แล้วเนี่ย
อะไรกันนักกันหนา นี่คุณรู้ไหมในรอบหลายวันมานี่ มีคนโทร
เข้าที่เบอร์บ้านนี้เพื่อถามหาผู้หญิงคนเนี้ยหลายคนแล้วนะ พวกคุณเป็น โรคจิตกันหรือไง "
พูดจบก็กระแทกหูดังโครม โอ๊ย ปวดหูเป็นบ้า พูดดี ๆ ก็ได้นี่นา ใครจะรู้เล่าว่ามีคนโทรหาคุณหลายครั้งเนี่ย ฉันคิด
ฉันเริ่มคิดหนัก ฉันว่าฉันทวนเบอร์หลายรอบแล้วนะกับคุณป้าท่านนั้น
หรือว่าป้าแกจะเป็นพวกโรคจิต ก็เพราะผู้ชายคนนั้นบอกว่า มีคนโทรถาม
หาชื่อนี้หลายคนแล้ว โอ้ลั่นลา แปลว่าฉันถูกหลอกเหรอเนี่ย แล้วถ้าเกิดว่า
เป็นเรื่องจริงหละ เฮ้อได้แต่สั่นหัวไปมา ฉันลองโทรเข้ามือถือลูกชายคุณป้า
........ฝากข้อความตลอด.....เฮ้อ.............จบเห่...........
จนบัดนี้ฉันก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี ว่า
................ฉันถูกคุณป้าอำ...หรือฉันจดเบอร์ผิดกันแน่.............เฮ้อ!...
แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 50 12:01:57
จากคุณ :
ตติตา
- [
24 มิ.ย. 50 23:01:18
]