ความคิดเห็นที่ 1 แวะมาแก้ ถ้อยโคลง ผิดวรรณยุกต์ ไปหลายตัว หวังว่า เสียงเพลงคงจะทำให้ หายเครียดไปบ้างนะ เจ้าคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 มิ.ย. 50 19:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ..   รวยแล้วช้ำระกำใจมีใครเหมือน ก่อนดาวเดือนเกลื่อนนภาคว้าได้สม โอ้ เดี๋ยวนี้รุ่มฤดีชีวีตรม ของโสมมเทโถมใส่ไร้ราคา   แผ่นดินกว้างร้างไกลไม่อาจกลับ ชื่อย่อยยับอับจนคนน่าหนา กรรมเคยก่อรอคืนได้ใกล้เวลา บวชพระมาฟ้าคงไม่อภัยทาน .. แต่ผมอโหสิ..   สาธุ .. แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 50 15:03:00 จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 25 มิ.ย. 50 21:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มือใครยาว จึงสาวได้ สาวเอา.... คุณ วรุณนฤมล........แปลว่าหญิงงามในหน้าฝน นึกภาพว่าน่าจะงามจริง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 มิ.ย. 50 23:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จะเล่าถึงวันที่ว่าฉันลาบวช ให้คุณทวดชื่นชมสมมุ่งหมาย ท่านอยากเห็นชายผ้าเหลืองประเทืองกาย ก่อนเห็นชายผ้าอ้อมให้ตรอมตรม วันแรกกับสิ่งใหม่ที่ในวัด ฉันเคร่งครัดแผกจริต...ต้องคิดข่ม ใครพบเห็นแล้วล้วนชวนนิยม โยมแม่ชมไม่ขาดปากหายากยล ฉันเรียนรู้เช้าค่ำต้องทำวัตร ปฏิบัติศาสนกิจมิคิดบ่น ปลงอาบัติปัดวิบากให้จากพ้น เพื่อรับผลเป็นวิมุติพุทธคุณ จิตนั้นดีหนีห่างทางกิเลส แต่กายเปรตคอยเขวไปเมถุน ธรรมชาติประกาศกล้ามาทารุณ ธัมมะจุนเจือจางให้วางลง มันสู้กันสองทางอย่างที่ว่า สิ่งไรกล้าก็จะแกร่งเกิดแรงส่ง จึงได้เห็นสิ่งสมมุติพุทธองค์ มีทั้งตรงมีทั้งเบี้ยวเลี้ยวหลงไป ถึงวันลาสิกขาเจ้าอาวาส ท่านประกาศถ้อยคำยังจำได้ “ยิ่งบวชมากยิ่งบาปมากยุ่งยากใจ ทุกสิ่งไซร้ตัวเองสร้าง เพลงกรรม” เขียนสดๆ มาแจมด้วยครับคุณทิกิ จากคุณ : กวนจังแก - [ 25 มิ.ย. 50 23:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^^ มานั่งแป้นแร้น..อ่านอย่างเดียวค่ะ ปล. เห็นคึกคักแบบนี้คุณถึง.. คุณอะไรน๊า..      ที่มีเลขามาด้วยนะค่ะ.. *ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ วันสุนทรภู่ 00:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาแล้วคุณกวน ได้รอยยิ้มอิ่มเอมเกษมสันต์ แปลงโคลงเป็นกลอนนั้นได้เหมาะสม การบวชพระผู้คนยิ่งชื่นชม แต่นักบวชเกินข่มกิเลสกาม    จัดว่ามารเหล่าพาลแสนลิงโลด เป็นสิ่งโปรดยั่วเจ้าคุณฤๅจักข้าม ถึงแปดสิบก็ยังปิ๊งยิ่งสาวงาม เกินจักห้ามข่มกายพ่ายแพ้มัน       เป็นเช่นนั้นพรหมจรรย์ก็มิเหลือ จึงเกิดใหม่เป็นเนื้อตุนาหงัน ถึงชาติก่อนเป็นชายบุญหลายชั้น ผิดกาเมข้อนั้นบุญหล่นโครม       น่าสงสารนะท่านกวนฯ สหาย ทั้งหญิงชายพ่ายแพ้พลังโสม ดูอย่างช้างตกมันวิ่งตระโบม มุดป่าโซมหาเหยื่อเหลือระอา        อันโลภะ โทสะ โมหะร้าย ยังเวียนว่ายสุดหลีกกันทุกหน้า สังสารวัฏฏ์ยืดยาวเหลือคณนา ดูปัญญาพ่ายโมหะ..แพ้นะเรา จบก่อน เดี๋ยวจะไม่จบ พิมพ์หน้าจอตอบประสากวีนิ้วจิ้ม เหมือนกันแหละเจ้าค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 00:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แก้บทนี้หน่อย (เด๊ยวจะไมเชื่อว่าจิ้มหน้าจอจริง) จัดว่ามารเหล่าพาลแสนลิงโลด เป็นสิ่งโปรดยั่วเจ้าคุณฤๅจักข้าม ถึงแปดสิบก็ยังปิ๊งยิ่งสาวงาม เกินจักห้ามข่มกามพ่ายแพ้มัน อ้าว ถูกสัมผัสจริงอยู่ แต่ผิดความหมายเดิม กลับใช้อย่างเดิมก็ได้ค่ะ คือความหมายข่มกาย จัดว่ามารเหล่าพาลแสนลิงโลด เป็นสิ่งโปรดยั่วเจ้าคุณฤๅจักข้าม ถึงแปดสิบก็ยังปิ๊งยิ่งสาวงาม เกินจักห้ามข่มกายพ่ายแพ้มัน แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 50 00:22:47 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 00:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ น้องแจม สีน้ำฟ้า พูดถึงใครหรือคะ ที่มีเลขามาด้วย อือ มีลับลมคมในนะเนี่ย ป.ล.พิมพ์เพิ่ม แจม คืนนี้เฝ้าร้านหรือเปล่า เดี๋ยวมีหนังช่องสาม ตีสามอีกละค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 50 00:24:28 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 00:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ร้อยคำในคืนค่ำ เป็นลำนำแสนสับสน จากใจที่วกวน สื่อถึงคนที่อยู่ไกล พันคำในคืนนี้ ต่อให้มีค่าแค่ไหน เธอคงมิสนใจ เพราะมีใครอยู่ข้างกาย ร้อยคำ พันคำ ล้านคำ เป็นลำนำไร้ความหมาย คนเขียนเหว่ว้าเดียวดาย รอวันตายกับความจริง กี่ร้อย กี่พัน กี่ลำนำ มีไหมสักคำ..ที่ไปถึงเธอ ------------------------------------------------------------- ร้านปิดตั้งกะ 2 ทุ่มค่ะ พี่ทิกิ.. แต่แจมเอ้อระเหย ไม่นอนเอง แหะ แหะ ... ------------------------------------------------------------ เริ่มวันสุนทรภู่แล้วค่ะ.. ซะหน่อยนะ.. ซะหน่อย แต่..หน่อยเดียวนะ.. ----------------------------------------------------------- *ของเก่า เล่าใหม่นะ นึกชื่อออกแล้วค่ะ คิดถึงคุณวศมล  กะคุณที่ใช้ชื่อว่า.. เลขาคุณวศมล (ถ้าเขียนชื่อผิดขออภัย) จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ วันสุนทรภู่ 00:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แจม นึกออกแล้วค่ะ ว่าคล้ายๆนะ ไปกราบท่านสุนทรฯ ไว้กระทู้เก่าแล้วค่ะ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ส่วนนี้...มาเพิ่มเติม..เช้านี้ค่ะแวะเข้ามาแก้ไขข้อมุล คำฝรั่งเศสนิดหน่อย คือ เวลาบอกว่า ฉันเป็นคนอังกฤษ เขาก็บอกว่า เชอ ซวุย  อังแกลส์   แต่ อยู่ในประเทศอังกฤษ ก็ใช้  เชอ อาบี้ต(เตรอะ)  ออง นองแก้ตแตร์ น่ะค่ะ   เลยต้องมาแก้ไขข้อมูลไว้ข้างบนนิดหน่อย เพราะเมื่อวานเร่งๆหน่อย       คนรุ่นใหม่นี้ ไม่ค่อยได้เรียน   กรรรมบท 10// อกุศลกรรมบท 10 บาป บุญ คุณ โทษ และ หิริ โอตตัปปะ สักเท่าไหร่ ซึ่ง เขาก็ โบ้ยกันว่า นั่นมัน  ไว้เกิดเป็นเทวดา พวกผมเป็น คน  จึงไม่สนใจ   ซึ่งโบราณท่านสอนให้ หมายสูงไว้ก่อน ถ้าไม่เกิดเป็นเทวดา ยังหล่นมาเป็นคน ดีกว่าไปเป็นสัตว์ หรือ โอปะปาติกะอื่นในนรกภูมิ  อสุรกายภูมิ เปตะภูมิ เหล่านั้น....          สมัยนี้ เขาอ้างว่า เขาทันสมัย ไม่สนใจ พระพุทธภูมิ องค์ความรู้แห่งพระพุทธเจ้า ซึ่ง แทงทะลุการเกิด ของคน โดยไม่ต้องใช้ กล้อง จุลทรรศน์อย่างสมัยใหม่...         ซึ่งเห็นโอปะปาติกะกำเนิด คือตายจาก อีกภพไปเกิดใหม่ทันที โดยไม่ต้อง ไป หากล้องจับคลื่นความร้อนอย่างสมัยใหม่ ซึ่ง ชาวอังกฤษเอง โดยเฉพาะ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส ท่าน ทรงโปรดการถ่ายรูป วิญญาณด้วยกล้องที่ว่า    เพราะอยู่ในปราสาทเก่าอย่างนั้น           ก็ถ้าเขาจะพิสูจน์ให้เห็น ก็จะโวยวาย กันว่า เป็นอวิชชา เป็น ไสยศาสตร์ พอนักวิทยาศาสตร์ เขาจับคลื่นความร้อน ปรมาณูนี้ได้ ก็ กลับไม่รับพระมหาปัญญาความรู้ของพระพุทธเจ้า... .ซึ่งทรงบัญญัติ คำ ปรมาณูไว้ใน  อภิธรรม  และ หาก นักวิทยาศาสตร์อย่างไอน์สไตน์ หากไม่ได้อ่าน จนแทงทะลุ พุทธธรรมมาแล้วก็อาจไม่ได้พบ ปรมาณูดังว่า..??       เขียนไว้ให้พวกนักการสมัยใหม่ที่ไม่ย่อมยอมเข้าไปค้น   เหตุ และ ผลในทางพุทธศาสนา ว่าด้วยเรื่องกรรม   แต่มัก โวยวายว่า ใครที่พูดเรื่องเหล่านี้ เป็นพวก งมงายไร้สาระ          เขียนไว้เท่านี้แหละค่ะ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ป.ล. มาขอแก้ไข เรื่องคำฝรั่งเศสนี้อีกที  เช้า28 มิถุนายน 2550     เพลงกรรมจาก Anglais นี้ น่าจะใช้ เพลงกรรมจาก L'Anglettere    เสียมากกว่า แต่ก็ผ่านไปแล้วแก้ไขหัวเรื่องไม่ได้ เลย ตก ไวยากรณ์ไปเสียอย่างนั้น หวังว่าท่านอาจารย์ อัมพิกา กับ ท่านอาจารย์ แม่ปู เป็นศรี รัตนเรือง คงไม่ถอนวิชาคืนจากข้าพเจ้าเป็นแน่...              ทำให้คิดถึง บทนี้         เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม..........ดนตรี ห้าวันอักขระหนี....................เนิ่นช้า สามวันจากนารี.....................เป็นอื่น วันหนึ่งเว้นล้างหน้า................อับเศร้าหมองศรี จากโคลงโลกนิติ พระนิพนธ์  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 08:05:33 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 08:01:24 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 50 08:27:47 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 50 08:23:58 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 01:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หัวข้อ:การบ้านการเมืองเรื่องไทยไทย http://cumic.md.chula.ac.th/wwwboard3/messages/10438.html โกงใหญ่ไม่ไว้ช่อง......... เกรงกลัว เลยนา โกงบิดคิดเมามัว ...............แต่ได้ โกงเปนห่อนเห็นตัว ...........โกงร่ำ ไปเอย โกงสนิทปิดเงื่อนไว้ ...........ไม่เว้นวายโกง บทพระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ (เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติพระองค์แรก พ.ศ. 2416 *** พ.ศ. 2429) ที่มา http://cumic.md.chula.ac.th/wwwboard3/messages/10438.html ที่มาของข้าพเจ้าอีกที http://www.pantown.com/board.php?id=11020&area=1&name=board3&topic=82&action=view จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 11:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ::: คัดจาก โคลงสุภาษิตเจ้านาย พระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์ทรงเมื่อในรัชกาลที่ ๕ ::: (หมายเหตุ สะกดตามต้นฉบับพระราชนิพนธ์ *** พระนิพนธ์) บางคนฉลาดล้ำ........ เลิศเหลือ เสียแต่จิตรคิดเจือ ..............บิดเบี้ยว เจรจาจึงฟั่นเฝือ .................ฟังยาก แม้นประมาทฉลาดเลี้ยว...... เล่ห์เหล้นกลโกง ฯ โกงนักจักคบด้วย ..........ผู้ใด ได้ฤา เขาทราบสนัดใคร ..............ห่อนใกล้ โกงชนิดปิดคดใน.............. ภักตร์ซ่อน โกงนา ร้ายยิ่งสิ่งหนีได้ .................รู้เท่าเทียมทัน ฯ บทพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มา http://cumic.md.chula.ac.th/wwwboard3/messages/10438.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 11:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 .. กรรรมบท 10// อกุศลกรรมบท 10 โอย หนูยังไม่ได้เรียนเหมือนกัน ก็ หนูเป็นคนรุ่นใหม่ จบโรงเรียนฝรั่งซะด้วย แง  แง .. กลัวเกิดเป็น โอปะปาติกะ หรือตัวยึกยือ หาอ่านที่ไหนดีครับ บาปหนาตั้งคืบแล้ว  .. กราบประทานอภัย หาให้หนูอ่านทีเถอะครับ .. .. จากคุณ : วรุณนฤมล - [ วันสุนทรภู่ 14:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แค่คิดก็ผิดแล้ว.........เป็นจริง จิตก่อจิตมารสิง.................ส่อเค้า คิดผิดคิดท้วงติง.................ตามติ...ตนนา คิดก่อนเจียรจาเว้า.............แม่นแท้หลีกมาร      พระพุทธท่านตอกย้ำ......มานาน กรรมเก่ากรรมใหม่กาล.........หยุดยั้ง กระทำสิ่งใดพาล.................พาจ่อม ..ทุกข์เฮย ทำแต่บุญมิพลั้ง..................ตกห้วงอบายภูมิ    ยึกยักยุดฉุดไว้ ............. เกินกาล หาเหตุอ้างเบิกบาน..............แอบไว้ ฤ รู้ ปดจะมาน....................เบนเบี่ยง..วันเฮย หวังเผือรอดตลอดได้...........ดั่งนั้นจึงดอง คุณ วรุณนฤมล ถ้าขอจริงก็จะหาให้จริง รอสักหน่อยคะ เพราะข้อเขียนแต่ละท่านน่าจะมีลิขสิทธิ์ จะคัดมาบรรยายภาษาตนเองไปก่อน เกรงจะไม่แน่น ดัง ที่มาที่ไป จากกระทู้พระต่างๆ แต่ก็จะหาให้ค่ะ      สามบทข้างบนนี้ ที่ไปตอบท่านที่ไปตอบกระทู้ที่ thaipoem เลยนำมารวบต่อที่นี่ได้เหมือนกัน http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem104075.html แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 04:43:30 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันสุนทรภู่ 20:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เจ็ดคำที่ว่าไว้               เป็นครู ใส่เอกทำให้ดู              แน่นแฟ้น สี่โทท่านเชิดชู              จำมั่น ครบสี่บาทก็แม้น            แม่นแล้วคือโคลง. จากคุณ : เจียวต้าย - [ วันสุนทรภู่ 21:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16      อ้างอ่านอุดมการณ์อันแน่วแน่ ร่วมแผ่คำสังเวชเศษจากไส้ ช้างตายตัวบัวจะปิดสนิทไย..? ดั่งฝนตกขี้หมูไหล..ให้ระอา       ยังมิหยุดอุตริริจะซื้อ หวังกระพือภาพลักษณ์อันลือค่า เขาจึงสืบจึงค้นผลออกมา หน้าจะหนากี่ฟุตก็สุดทาย....     สงสารไทยใคร่หาปี๊บคลุมหัว แลหาเหล็กคลุมตัวก่อนจะสาย เพราะข่าวซื้อเงินโกฏิ..โตรรต..จะอาย สยามตลบแตลงลายขานโลกลวง        เอออนาถชาติสังเวชเศษกระพี้ กฎุมพีดุจคางคกขึ้นวอ..ร่วง เหล่าอึ่งอ่างตะกวดอวดชั่วปวง คือผลพวง ..ไร้ละอาย..ขายชาติกิน ไปอ่านกระทู้คุณ สดายุ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5551167/W5551167.html เลยออกมาเป็นบทนี้ อีกยาว แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 50 12:38:06 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 27 มิ.ย. 50 12:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .. กราบขอบพระคุณ ครูทิกิ กลอน $$$ ๙๖ บาท ราคาชาย นายวรุณ $$$ หนูได้แก้แล้วขอรับ คุณครู ได้โปรดตรวจให้หนูอีกที่ จักเป็นพระคุณยิ่ง แฮ่   แฮ่ แต่งข้ามคืนก่อนวันไหว้ครูภู่ ปัญญาด้อยติดตลกสับประหงกตกฉันทลักษณ์ จนได้ นับเป็นวาสนา ที่ได้มาเป็นศิษย์คุณครูทิกิ กราบเรียนตรงๆเลยว่า ..อันคำชมสำหรับผมเหมือนอมยิ้ม เมื่อได้ลิ้มตรึงใจอยู่ไม่รู้หาย หวานชื่นหูฟองฟู่จิตจริตสบาย ระรื่นคล้ายเมาสุรา ผมบ้ายอ.. แอ่นแอ้น.. ครูสั่งไว้ ให้เกราใหม่ ในคราวนี้ แก้เจ็ดที เชื่อต้องมี ดีเจ็ดหน ครูแนะนำ จำใส่ใจ ไม่อับจน นฤมลวรุณเมาเกราจนงาม  ทิกิ คือ ครูของข้า ใครกล้าแข่ง มิได้แสร้ง ยกยอ เปล่าปอปั้น สอนแล้วซาบ ซึ้งทันใด ได้ฉับพลัน วิไลวรรณกรรมบรรเจิดเลิศเนื้อกลอน..[b/] .. บทนี้ไซร้ ใช้บูชา มหา ครู .. โอ๊ะ แต่ผิดเป็นครู  กราบขออภัย เกลา   ไม่ใช่   เกรา  ล. ลิง ไซร้ ใส่ ร. เรือ เมื่อเผลอไผล กันเกราไม้ ให้ดอกใบ ได้กลิ่นหอม กลางป่าชื้น รื่นฤทัย คล้ายพยอม เกลา ถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงหัวใจ  อาการขัด เช็ดถู จนดูสะอาด รัวระนาด เล่นเสียง สำเนียงใส ตบแต่งปรับ ขยับเกราะ เพราะจับใจ คือ เกลา ไซร้ ใช้แก้คำ ลำนำกลอน .. ด้วยความเคารพยิ่ง .. แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 50 14:33:55 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 50 14:33:02 จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 27 มิ.ย. 50 14:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ วรุณนฤมล ไปดูมาแล้ว ว่าจะบอกแล้ว แต่ ดีที่คุณแก้มาให้เสียก่อนคะ มีเรื่องระวัง อีกนิด ช่วงสัมผัส          ท้ายบทที่แล้ว ไม่ควรอยุ่หน้า หรือ อยู่ท้ายบาทแรก เป็นอันขาด บางกลอนเห็นอยู่ใน ช่วงหน้าด้วย อย่างตัวเองชอบหลุด สระไอ  ไปเป็นประจำ ต้องหันกลับไป เกลา เป็น จิต  อะไรพวกนี้ เช่นกัน        พยายาม ปรับพยางค์ให้ลง 8 คำไว้ให้แม่นแม่น บางทีก็ต้อง ตัดใจ ทิ้งคำบ้าง ไม่อย่างนั้น มันเป็น 9-10-11-12 อะไรไปโน่น (ออกบ่อย)        พอหัดหา คำใหม่มาแทน เสียงแน่นขึ้น อ่านรื่นไหล ก็ไปดุสัมผัสในอีกที  บางทีมันหาคำสัมผัสในมาใส่ให้รื่นยิ่งขึ้น ได้อีกค่ะ ขอบคุณที่มาอ่าน แต่อย่ายกเป็นครูเลยค่ะ ไปดู อาศรมชาวโคลง ดีกว่า ที่นั่นครูเยอะค่ะ          อีกอย่าง ข้าพเจ้านี้ เขียนแรง ห้วน จัด ไม่ไพเราะอย่างท่านอื่นเขา ยกเว้น อยู่ใน ภวังค์อารมณ์ดื่มด่ำจินตนาการหลุดโลก ไปหน่อย ก็จะได้ หวานๆมากับเขาบ้าง         ขอบคุณอีกทีค่ะ (ภาพนี้ น้องเรนที่ไทยโพมเขาเคยไปใส่กระทู้เขา เลยค้อปไว้ น่าจะมา จากที่พันทิปที่นี่แหละค่ะ ) จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 27 มิ.ย. 50 15:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 .. ขอบพระคุณครับที่เมตตา ส่วนเรื่อง กรรรมบท 10// อกุศลกรรมบท 10 ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมยินดีรอครับ .. S M I L E   A L L   D A Y   L O N G .. จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 27 มิ.ย. 50 22:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณเจียวต้าย เวลาที่ผ่านไปไม่ได้ตอบคงไม่ว่ากันนะคะ เพิ่งเข้ามาสักพัก ไปอ่านเรื่องสั้นมาอยู่ค่ะ ขอขคุณที่แวะเยี่ยมกระทู้นี้ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 มิ.ย. 50 01:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ วรุณนฤมลคะ ขอยกลิงค์มาให้หาข้อมูลเองไปก่อน หากมีข้อข้องใจสงสัยค่อยสอบถามใหม่ค่ะ อกุศลกรรมบถ ๑๐ และ  กุศลกรรมบถ ๑๐ http://www.84000.org/tipitaka/atita100/v.php?B=11&A=6887&Z=6911&pagebreak=0 กุศลกรรมบถ๑๐ ขอให้เจริญในธรรม นะคะ %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%% ป.ล. วันนี้ วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2550 เวลา 16:47 เพื่อความสบายใจในกระทุ้ตอบนี้ ขออนุญาตลบ link ที่เขียนมานี้ และ จะหาวิธีหาด้วยทางอื่นต่อไป ขออภัย แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 50 16:46:23 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 มิ.ย. 50 04:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สรุปสั้นๆเล็กน้อยก่อนว่า http://www.84000.org/tipitaka/atita100/v.php?B=11&A=6887&Z=6911 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค [๓๕๙] อกุศลกรรมบถ ๑๐ อย่าง ๑. ปาณาติบาต         [การยังสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป] ๒. อทินนาทาน       [การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้] ๓. กาเมสุมิจฉาจาร [การประพฤติผิดในกาม] ๔. มุสาวาท             [พูดเท็จ] ๕. ปิสุณาวาจา         [พูดส่อเสียด] ๖. ผรุสวาจา           [พูดคำหยาบ] ๗. สัมผัปปลาป       [พูดเพ้อเจ้อ] ๘. อภิชฌา             [ความโลภอยากได้ของเขา] ๙. พยาบาท           [ความปองร้ายเขา] ๑๐. มิจฉาทิฏฐิ       [ความเห็นผิด] [๓๖๐] กุศลกรรมบถ ๑๐ อย่าง ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี       [เจตนาเครื่องเว้น จากการยังสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป] ๒. อทินนาทานา เวรมณี       [เจตนาเครื่องเว้น จากการถือเอาสิ่งของที่                                 เจ้าของมิได้ให้] ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี   [เจตนาเครื่องเว้น จากการประพฤติผิดในกาม] ๔. มุสาวาทา เวรมณี            [เจตนาเครื่องเว้น จากการพูดเท็จ] ๕. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี     [เจตนาเครื่องเว้น จากการพูดส่อเสียด] ๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี       [เจตนาเครื่องเว้น จากการพูดคำหยาบ] ๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี       [เจตนาเครื่องเว้น จากการพูดเพ้อเจ้อ] ๘. อนภิชฌา                     [ความไม่โลภอยากได้ของเขา] ๙. อัพยาบาท                    [ความไม่ปองร้ายเขา] ๑๐. สัมมาทิฏฐิ                   [ความเห็นชอบ] เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  บรรทัดที่ ๖๘๘๗ - ๖๙๑๑.  หน้าที่  ๒๘๓. http://www.84000.org/tipitaka/atita100/v.php?B=11&A=6887&Z=6911&pagebreak=0       *************************** สำหรับ ข้อที่ควรหาดูเพิ่มคือ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง ๑.  ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน ๒.  สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ๓.  ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา ๔.  อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยการประพฤติถ่อมตนแก่ผู้ใหญ่ ๕.  เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ ๖.  ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ ๗.  ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ ๘.  ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม ๙.  ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม ๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความเห็นให้ตรง ถ้ามีเวลาก็เข้าไปดูเว็บลิงค์นี้ของพี่ดอกแก้วด้วยนะคะ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=10501 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 มิ.ย. 50 05:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อให้อีกนิดจากนวโกวาทค่ะ คุณ วรุณนฤมล http://www.dharma-gateway.com/dhamma/navakovart-index-page.htm นวโกวาท ๔ (ฉบับประชาชน) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส กถาวัตถุคือถ้อยคำที่ควรพูด ๑๐ อย่าง ๑.  อัปปิจฉกถา ถ้อยคำที่ชัดนำให้มีความปรารถนาน้อย ๒.  สันตุฏฐิกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้มีสันโดษ ยินดีด้วยปัจจัยตามมีตามได้ ๓.  ปวิเวกกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้สงัดกายสงัดใจ ๔.  อสังสัคคกถา ถ้อยคำที่ชักนำไม่ให้ระคนด้วยหมู่ ๕.  วิริยารัมภกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ปรารภความเพียร ๖.  สีลกถา ถ้อยคำที่ชัดนำให้ตั้งอยู่ในศีล ๗.  สมาธิกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ทำใจให้สงบ ๘.  ปัญญากถา ถ้อยคำที่ชักนำให้เกิดปัญญา ๙.  วิมุตติกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้ทำใจให้พ้นจากกิเลส ๑๐.  วิมุตติญาณทัสสนกถา ถ้อยคำที่ชักนำให้เกิดความรู้ความเห็นในความที่ใจพ้นจากกิเลส http://www.dharma-gateway.com/dhamma/navakovart-index-page.htm จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 มิ.ย. 50 05:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 วันนี้แวะมา เขียนอะไร ที่ติดขัดในใจหน่อย แต่ก่อน เคยสงสัยว่า ทำไม คนไทยเรียก ประเทศอังกฤษ อ่อ มาดู ฝรั่งเศส(มาอยู่ไทยแต่อยุธยา) เขา เขียน Anglais                                                    Anglettere นี่เลยบางอ้อ  เพราะ ถ้าอ่านตามแนว อังกิ๊ด จะอ่าน่วา อังกละอิ๊ซ                          อ่านเร็วๆ ก็เป็น อังกลิ๊ซ   คือ อังกฤษ นี่แหละ คำว่า ฝรั่งก็เช่นกัน  มาจาก ฝรั่งเศสเรียกตัวเอง Francaise  ฟรังแซ้ส ฟรังเซ้ส คือ ฝรั่งเศสนีเอง แต่ทำไม ลูกผลไม้ เรียก ฝรั่ง ก็ยังเดาไม่ถูก แว่บมาเขียนโน่นนี่ไว้หน้าอื่น เลยมาแวะหน้าที่ ต่อกระทู้สงสัยนี้ไว้หน่อยค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 29 มิ.ย. 50 00:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่ทิกิ ที่นับถือ ขอรับ กระผมมีข้อเพิ่มเติม แลข้อสงสัย ในบางประการ ขอรับ คือ มีประเทศนอก อีกหลายประเทศ ที่ได้เข้ามาติดต่อทางการทูต กับราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ในสมัยโบราณ แลมีชื่อเรียกประเทศ โดย ฅนไทย อย่าง เปน ไท้ย เปน ไทย (นอกจากที่พี่ได้ยกตัวอย่างมาแล้ว) เช่น ญี่ปุ่น มลิกัน วิลันดา เปนต้น รวมทั้งในปรัตยุบัน ที่มีประเทศหลายประเทศ ที่มีชื่อลงท้าย ด้วยคำว่า สถาน อยู่หลายประเทศ (ซึ่งคำว่า สถาน นี้  ฟังดูมันก็ ไท้ย ไทย เช่นกัน นะ ขอรับ) . . . ดังทั้งนั้น ข้อสงสัยของกระผมนั้น จึงต้องขอความกรุณา ให้พี่ช่วยตอบ ว่า คำเหล่านั้น ได้มีที่มา โดย ประการใด . . . . . . . . ขอ พี่ ที่รักยิ่ง ช่วยกรุณา ชี้แนะ ให้ผู้น้อยด้อยปัญญา ได้ทราบบ้างเถิด กระผมจักขอขอบพระคุณยิ่ง ดังนี้ ขอรับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 30 มิ.ย. 50 04:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกทีหนึ่ง คุณ พจนารถ ฯ คำว่า อังกฤษ  มิน่าจะมาจาก English  ซึ่งออกเสียงในภาษาอังกฤษ ว่า อิ๊ง.กลิช หรือ อิ้ง-หลิช ฟังอย่างไร เมื่อไหร่ ก็ไม่เป้น ออง หรือ อัง ได้สักที่ จึงสันนิษฐานว่า มาจาก การเรียกของ ฝรั่งเศสในไทยมาแต่ สมัยอยุธยา คนไทยจึงคุ้นหุจาก ภาษาฝรั่งเศสครั้งกระโน้นเดิมมากกว่า       ส่วน คำที่ท่านถามนั้น ยังไมได้เคยสืบค้นดุ รุ้แต่เพียงว่า ทางนิ รุกติศาสตร์ เห็นว่า รากฐานภาษา สันสกฤต และ ภาษาฝรั่งนั้นมีราก มาจากที่เดียวกัน แต่แตกแยกไปตาม ท้องถิ้น มีความรู้แค่หางอื่ง มิอาจจักไปแสดงความเห็นได้ สงสัยจะถามคนผิดเสียแล้วท่าน           ส่วน อเมริกัน นั้นโดยอิทธิพลอังกฤษมากกว่า           เพราะ เกิดทีหลังแล้ว เพิ่งสองร้อยปีเศษๆ ฝรั่งเศสจะเรียก มะกัน "Etat Unis  " แต่ ตามคำนำหน้า เป็น Les  จึงออกเสียง "เล เซตา ตจยุนี " อะไรทำนองนี้ จึงไม่ใช่อิทธิพลภาษาฝรั่งเศสแน่นอน       ส่วนคำไรเรียกอย่างไร ต้องไปหาค้นเอาตามจดหมายเหตุสมัย รัชกาลที่ สาม ที่ สี่ ที่ห้า ที่หก เป็นต้นมา จะได้เห็นคำเก่าๆมาก         ส่วนประเทศอื่นนั้นมิทราบจริงค่ะ เชิญท่านผู้รู้ท่านอื่นมาแถลง แทนจะดีกว่า จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 1 ก.ค. 50 00:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องเล่าครั้งเก่าก่อน            เกิดกาล เล่ากันมานมนาน                 เลิศล้ำ เหล่าลิงอันธพาล                 ก่อกวน ชาติชน ทนทุกข์ซุกกองเลือด           แห้งเหือด คนดี  ฟังเพลงมาเพลงหนึ่ง            ก็คำนึงถึงบทกลอน มิใช่จะมาสอน                    เพียงขอวอนให้ยินยล เรื่องเล่าแห่งบทเพลง           ที่บรรเลงความเป็นคน ทุกสิ่งที่ผองชน                  ต้องทุกทนทุกชาติไป  เรื่องเล่าแห่งจ่าฝูง               ที่ชักจูงเหล่าชาติชน ให้อยู่อย่างทุกข์ทน               หรือผองชนสุขสบาย เค้าจูงไปทางไหน                 เราก็ไปทั้งใจกาย รู้อยู่ว่าต้องตาย                    จนแก่ตายควายต้องทน จากคุณ : ท่าเรือจ้าง (rake) - [ 3 ก.ค. 50 22:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ ท่าเรือจ้าง ..........ควายน่ะกินหญ้า แต่ไถนาเลี้ยงชาวไทย แทร็กเตอร์น่ะมันไถ กินทั้งเงินและ น้ำมัน .......อูฐทะเลทราย ต่อสู้ลมทนนิรันตร์ รถถังวิ่งประจัญ เลยต้องจมใต้เม็ดทราย      อือ ภาคใครก็ภาคมัน จะเอาธรรมเนียมหิมะมา ประดิษฐานไว้ในธรรมเนียม น้ำฟ้า ปลาดาว     แถม มีฝนเทียมใช้ ให้คนทั้งโลกมาขอเรียน น่ะมันไม่ได้ดอกพ่อคุณแม่คุณ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 50 01:09:04 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 4 ก.ค. 50 01:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จริงค่ะท่านอาจารย์ทิกิ..เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในค.ห.ที่๒๘ นี่แหละค่ะ  ส่วนค.ห.อื่นๆ แว่บมาอ่านอย่างเดียวค่ะ. อ่านไปเอ๋อไปค่ะ..งง งง น่ะค่ะ.. เรื่องธรรมมะ  ธรรมโม นี่ไม่ค่อยเป็นเลย.. เข้าใกล้พระไม่ค่อยได้.. ร้อนค่ะ.. เวลาอยู่ใกล้พระแล้ววางตัวไม่ค่อยถูกค่ะ.. ยิ่งกระโดกกระเดกอยู่ด้วย  มือไม้ไม่รู้จะไปไว้ไหน   จะเดินจะเหินก็ปานว่าไล่ตามควายละค่ะ.. นี่ยังดีนะตอนเด็ก ๆ คำสอนของบุพการีซึมซาบเข้ามาในหัวอยู่มั่งว่า.. ..เวลาเดินผ่านผู้หลักผู้ใหญ่ให้ก้มหลังลง.. ไม่งั้นมีหวัง..ฮะ ฮะ วงแตกแหงๆ แต่แปลกนะคะพอเติบโตขึ้นมาแล้วกลับได้เรียนรู้อีกอย่างนึงว่า.. เดินตามผู้ใหญ่..(น้อง)..หมาไม่กัด ( ก็จำที่ผู้เฒ่าผู้แก่สอนมาค่ะ..) ** แต่ .. (  มันอยู่ตรงนี้ค่ะ ไฮไลท์ค่ะ..)  งู..มันจะกัดเอาน่ะ .. ( เฉพาะบางท่านเท่านั้นนะคะ..และก็เฉพาะเพศพ่อค่ะ )   ข้อนี้เป็นประสบการณ์ตรงที่ได้รับมาน่ะเจ้าค่ะ.. แหะ ๆ ไถลออกนอกเรื่องซะงั้น   ขอบคุณอาจารย์ที่สอนสั่งแนะนำเรื่องการเขียนโคลงนะคะ.. เขียนจบแล้ว  เหนื่อยจังเลยค่ะ..   แต่โคลงนี่ช่วยบรรเทาอาการจิตตกได้จริงๆ นะคะ   โดยเฉพาะสำหรับน้องน้อย ของอาจารย์ทิกิคนนี้..   สังเกตุดูตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ.. ชอบเขียนกลอน จะถนัดแนวทั่วไป เสร็จแล้วพอเวลาแต่งกลอนมาทีไรก็กลายเป็นกลอนเหงาๆเศร้าๆซะเป็นส่วนใหญ่   ยิ่งถ้าช่วงไหนจิตตกไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ..กลายเป็นเพิ่มอาการได้แบบคูณสองเลยค่ะ แต่พอมาเรียนเขียนโคลงกับอาจารย์ทิกิ ท่านกวนฯ ท่านพจนฯ แล้ว   รู้สึกว่าอาการจิตตกมันเจือจางลงค่ะ  ถึงแม้บางทีจะยังคงมีอยู่ แต่ก็ไม่รุนแรงน่ากลัวเหมือนก่อนค่ะ..  ขอบคุณมากมายนะคะ.. ศิษย์น้อยขอคารวะ..         แสงเทียนวอมส่องให้.....................นำทาง น้อยแต่บ่หม่นหมาง................................ส่องแจ้ง แสงใดแจ่มสว่าง....................................ไปกว่า ปัญญ์เฮย แสงต่อครูจุดแจ้ง....................................บ่งชี้ทางปัญญ์ **************************************** พอจะใช้ไปวัดไปวาได้บ้างไหมคะท่านอาจารย์.. ขอคารวะอาจารย์ด้วยดอกไม้ช่องามเจ้าค่ะ.. ปล.ภาพประกอบจาก'net. แต่คำพูดประกอบมาจากประโยคของคุณแจมค่ะ ยืมมาใช้คงไม่ว่ากัน! แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 23:17:21 จากคุณ : ณ กมล - [ 5 ก.ค. 50 23:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ ณ กมล ประเทศไทย เป็นประเทศ เกษตรกรรม ในอากาศร้อนชื้นใกล้ศูนย์สูตร แต่หากไม่ได้บารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราชที่ทรง ประทานพระบรมราชวินิจฉัยการจัดการชลประทานให้ประเทศ        เขื่อนใหญ่สุดของประเทศ กี่เขื่อน กี่ อ่างเก็บน้ำ กี่ฝาย เกิด ในรัชสมัยของพระองค์  คลองส่งน้ำ มากมาย ขยายส่งน้ำไปปิดการ กระทบกระทั่ง ปิดสงครามน้ำ ที่เคยมีบันทึกไว้ใน ปุมประวัติสมุดข่อย แลใบลานทุกภาคไปเกือบหมดสิ้น ที่เคยแย่งน้ำกินใช้กันเป็นคดีความ ได้ ค่อยหดหายไป ด้วยพระบารมี ร่มเย็นแผ่น้ำไปทุกทิศาของพระองค์ บอกได้คำเดียวว่า  หากไม่มีพระบรมปฏิภาณและ พระวิริยะอุตสาหะ อย่างเอนกอนันต์  จะไม่มีประเทศไทยอย่างที่เห็นมันจะกลายเป็นทะเลทรายหมดสิ้น  แต่ด้วยพระบารมีของพระองค์ ประเทศไทยจึง อุดมชุ่มชื้น ผืนแผ่นดินที่ทรงครองด้วย ทศพิธราชธรรมนี้ มีแต่ผลผลิตพืชพันธุ์ ธัญญาหารอันอุดมสมบูรณ์ เป็นสิริมงคลแก่แผ่นดิน และ แก่โลก ของเรา นับไม่ถ้วน          มิหนำซ้ำ ทุกพระราชกรณ๊กิจของพระองค์นั้น มีแต่ประชาชน เป็นผู้รับผลได้ ไม่มีผลเสีย...น้ำท่วมทรง แนะนำ "แก้มลิง " ไม่อย่างนั้น กรุงเทพฯมันไม่เหลือมาห้าหกปีนี่แล้ว   ทรง ดักไว้ด้วยเขื่อนป่าสักชลสิทฺธิ์ และ เขื่อนบางเขื่อน ที่ข้าพเจ้าจำชื่อไม่ได้ แถบ นครนายก ฯลฯ แถบนั้น        ทรงเสียสละ ที่พระบรมราชวัง ที่อนุสาวรีย์พระศรีสุริโยทัยให้น้ำ เข้าไปท่วมปีที่แล้ว 2549  ที่เพิ่งผ่านมาหยกๆ เพื่อลดภาระน้ำท่วมเมือง เศรษฐกิจไทย...       ทรงทำสารพัดอย่างที่บรรยายไม่หมดไม่สิ้น หลายล้านเรื่อง           แต่วันนี้ สลดใจเหลือเกินที่       สัตว์สองเท้าหลายตัวที่ถือกำเนิดบนแผ่นดินไทย กลับ ทำการอัน ห้าวหาญ ร้าวลึก ทำร้ายไทย ด้วยกัน อย่างสาหัส สากรรจ์             สัตว์สองเท้า มีสมอง มีเงิน สารพัดชนิดพวกนี้      ร่วมกับสัตว์สองเท้านอกประเทศ บางประเทศ ที่เห็นแก่เงิน            ทิ่มแทงประเทศไทย ไม่ละเว้น ทุกทางที่เงินใต้กระโปรง ของพวกมันจะทำได้           เงินที่มัน แอบซุกแอบซ่อน ไว้ที่โน่น ที่นี่ เงินที่มัน ฉวยโอกาส เอาในระหว่างมีตำแหน่ง มีอำนาจ เงินที่ควรเป็น"ส่วนกลางของคนไทย" มันสลายไป กับการฉวยโอกาส อำนาจ ตำแหน่งนั้น       บัดนี้ วาระสุดท้ายของการถูกแช่งชัก โดย พระบรมปฐมกษัตริย์ของ ไทย ที่ตราไว้  ด้วยน้ำพิพัฒสัตยา หลายวาระ แห่งการ ขึ้นครองตำแหน่ง จักได้ เห็นกันทั่วแผ่นดิน ไม่ช้า ไม่นาน              เชื่อว่า   "คำสัตย์ปฏิญาณที่ให้ไว้แก่พระสยามเทวาธิราช" ก็ดี แก่พระบูรพกษัตริย์ ปฏิญาณก็ดี จักได้เห็นกันในเร็วๆนี้          ถ้าจำไม่ผิด ก็เคยเห็นฟ้าผ่าเมื่อกลางปีก่อน2549 ลงต้นไม้ในทำเนียบรัฐบาลสมัยที่แล้วมาแล้ว...                  กรรมใครทำไว้อย่างใด                 รับกรรมนั้นกันไปเถิด                  สัตว์ผู้มีกรรมทั้งหลายเอ๋ย จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 6 ก.ค. 50 17:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เติมอีกนิด สมัยเรียนจารึกไทย กับท่านอาจารย์ดร ประเสริฐ ณ นคร ท่านให้ดูประวัติกฎหมายเมืองแพร่ น่าน แถบนั้น เรื่องคดีน้ำระหว่างดินแดน เป็นปึก ให้ดูการวินิจฉัยคดีความฟ้องร้องถึงทำร้าย ร่างกาย แต่ละฝ่าย ฯลฯ อันมาจากคดีแย่งน้ำ เป็นจาก บ้าน  หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และ ประเทศ อย่าง ต้องเคารพ จารีตประเพณีไทยในบรมกาล เห็นว่าหลายร้อยปีแล้วเรื่องตรากฎหมายและคดีความที่ ท่านผุ้ใหญ่ในบ้านเมืองทางฝ่ายกรมศิลป์ ท่านพิจารณา แปล จารึก เหล่านั้นกันมาให้ลูกหลานอ่าน           เมื่อได้อ่านกันแล้ว เทียบกับยุคปัจจุบัน อันมีแต่ "ทุกอย่างมาวางไว้ให้ตรงหน้า ป้อนให้ถึงปาก" กระนี้ สรรพสัตว์ยังมิรู้สำนึกในพระคุณอันมหาศาล ก็ต้องปลง เสียว่า กรรมใครก็กรรมมัน นั้นแหละเป็นดี จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 6 ก.ค. 50 17:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยังติดใจคำว่า อังกฤษ อยู่ดี เปรยกับท่านที่บ้านนักเรียนอเมริกา เขาเล่าให้ฟังว่า ปีก่อน ทักทาย ชาวอังกฤษ ผสมภาษาไทย ว่า ยู อาร์  อัง กริ๊ช ใช่ไหม ? ชาวอังกฤษ คนนั้นดีใจใหญ่ว่า รู้ "คำเก่า" ประเทศเขาได้อย่างไร วันนี้ เลย อดทนค้นคำ ที่ตัวเอง สงสัยว่า ต้องเกี่ยวข้องกับ anglo-saxon  อยู่ แล้วก็เจอ หมวดคำนี้ จริงๆ เลย แวะมาแปะไว้ให้ ท่านที่ มีความสงสัย เกี่ยวเนื่องกันได้อ่านเป็นความรู้เพิ่มอีกค่ะ มาจาก พจนานุกรม MODERN English -Thai Dictionary ไทยวัฒนาพานิช ว่าดังนี้ An gli can = adj.('แอ็งกลิคัน ),เกี่ยวกับศาสนานิกาย Church of England n. ผู้นับถือศาสนานิกาย Church of England ;ขาวอังกฤษ An gli ca nism = n. .('แอ็งกลิคะนิซม ),คำสอนของศาสนานิกาย Church of England An gli cism = n.('แอ็งกลิซิซม ),  สำนวนอังกฤษ,หลักการทั้งหลายอัน                                            เป็นที่ยอมรับของชาวอังกฤษ An gli cize = v.t. .('แอ็งกลิไซซ ),  ทำให้เป็นแบบอังกฤษ An glo  = n (' แอ็งโกล  )ใช้เชื่อมก้บคำอื่นมีความหมายว่า อังกฤษ An glo ma nia = n. (แอ้งโกล' เมเนีย)  ความคลั่งไคล้ เลียนแบบชาว                                                      อังกฤษ An glo ma niac = n.(แอ้งโกล' เมนิแอค)  คนคลั่งไคล้ เลียนแบบชาว                                                      อังกฤษ An glo phile = n. (แอ้งโกล' ไฟล์)  ผู้นิยม อังกฤษ An glo phobe = n. (แอ้งโกล' โฟบ)  ผู้เกลียด อังกฤษ An glo phobia = n. (แอ้งโกล' โฟเบีย)  ความเกลียดกลัว อังกฤษ An glo -Sax on = n.(แอ็งโกล'แซ็คซัน  )คนเผ่าเยอรมันที่ครองประเทศ อังกฤษ  ก่อนที่พวกนอร์มันจะเข้ามามีอำนาจ  ใน ค.ศ.1066  adj. เกี่ยวกับ อังกฤษ  คราวนี้เลยพอได้คำตอบ ของที่มา ใกล้เข้ามานิดหนึ่ง An gli cism = n.('แอ็งกลิซิซม ),  สำนวนอังกฤษ,หลักการทั้งหลายอัน                                            เป็นที่ยอมรับของชาวอังกฤษ An gli cize = v.t. .('แอ็งกลิไซซ ),  ทำให้เป็นแบบอังกฤษ ตรงนี้แหละค่ะ ขอบคุณที่แวะเข้าอ่านนะคะ จากคุณ : n (tiki_ทิกิ) - [ 15 ก.ค. 50 04:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อเช้าแว่วแว่วข่าวเรื่อง นายารัฐมนตรีใหม่ อังกฤษ ฟันโปรเจ็ค " กาสิโน" ณ เมือง แมนซิตี้ อะไรทำนองนั้น แว่วๆ ว่า มติชนฉบับเดียวที่ลงข่าว วันนี้ ก็มีธุระทั้งวัน จะขอเข้าไปหาข่าว แถวมติชนยามดึกมาเสวนาแถวนี้ด้วยสักหน่อย แล้วจะมาใหม่ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 ก.ค. 50 00:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10719 อังกฤษล้มกาสิโนยักษ์ กระทบ"แม้วซิตี้" วืดแผนบูมที่ดินสโมสร http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0101160750&day=2007/07/16&sectionid=0101 ลองอ่านวิสัยทัศน์หนังสือพิมพ์นี้ดูคั่นโคลงกลอนนี้ก่อนแล้วกัน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 ก.ค. 50 00:52:11 ]