** น้ำตาของเธอในวันนั้น **
7.10 น.
ยามเช้าของเดือนกุมภาพันธ์แจ่มใสเหมือนเคย ท้องฟ้าทาสีฟ้าใสสว่าง ก้อนเมฆขาวสะอาดราวสำลีเพิ่งแกะถุง ผมเปิดหน้าต่างทุกบานของห้องนอน ปล่อยอากาศเข้าห้องนอน หันหยิบกาแฟที่ยังมีควันกรุ่นมาจิบ สำหรับเวลาแบบนี้ ไม่มีสิ่งใดสบายใจเท่าการได้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน ตื่นขึ้นแบบเต็มอิ่ม หลังจากได้ฝันดีและจดจำได้แทบทุกบทตอนของความฝัน
ตื่นแล้วนะเรา
. ผมรำพันกับตัวเองเบาๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าตนเองเป็นแบบไหน เมื่อพยายามเตือนตัวเองให้ยอมรับว่าความเป็นจริงอยู่ข้างหน้าและสดชื่นไม่แพ้ความฝันเมื่อคืน
ไปรษณีย์บัตรสองสามใบที่ผมอ่านก่อนนอนเมื่อคืนวาน กองซ้อนกันหลังชั้นไม้ข้างเตียง ผมมองผ้าปูที่นอนยับๆ พลางคิดว่าถ้านอนหลับไปอีกครั้งจะฝันเหมือนคืนที่ผ่านมาหรือเปล่า ในความฝันผมมีชีวิตยืนยาวจนแก่เฒ่า สุขภาพแข็งแรงดีปราศจากอาการป่วยไข้จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต มีลูกหลานรายล้อมข้างเตียงตราบจนแรงขยับสุดท้ายของหัวใจ ป้ายหลุมฝังศพของผมทำจากหินอ่อนสวยงาม และจารึกไว้ว่า
ผู้ชายที่มีชีวิตแสนสุข พักผ่อนอยู่ ณ ที่แห่งนี้
ในความฝันเมื่อคืน หลังจากที่แขกทยอยกลับกันจนหมด ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ หมู่ดาวเริ่มทยอยครองฟ้า อีกาตัวหนึ่งร่อนมาเกาะป้ายหลุมศพของผมแล้วถลาลับไปทางท้องฟ้าทิศตะวันตก ทิศทางเดียวกับที่หญิงสาวในชุดดำคนหนึ่งปรากฏกายขึ้น เธอสวมหมวกปิดบังใบหน้า ปล่อยเส้นผมยาวสยายปลิวตามแรงลม เธอนิ่งอยู่หน้าหลุมศพของผม แล้ววางช่อดอกกุหลาบสีขาวลงไป สักพัก เธอเริ่มร้องไห้
ฉันเสียใจ .. เธอเอ่ยออกมาว่าอย่างนั้น ทรุดกายลงกับพื้นหญ้าอย่างอ่อนแรงแล้วร้องไห้ สะอึกสะอื้นหนักจนน่าเวทนา ราวกับว่าจะฝังตนเองไว้ตรงนี้กับหมู่ร่างไร้วิญญาณ
ผมรู้ว่าเธอเป็นใคร เพราะว่ามันเป็นความฝันของผม
ผมกำลังจะไปพบกับเธอคนนั้น ตอนบ่ายสามของวันนี้ ผมซดกาแฟจนหมดถ้วยแล้วทิ้งตัวบนเตียงนอนอีกรอบ ปรกติผมไม่ตื่นเช้าขนาดนี้ ไม่ได้มีนัดดูหนังรอบเช้า แต่เธอติดซีรีย์เกาหลีของทุกช่องโทรทัศน์ ไม่ใช่นิสัยที่น่ารำคาญ แต่บางครั้งก็น่าเบื่อ เมื่อเธอชอบเอาผมไปเปรียบเทียบกับบรรดาพระรองของซีรีย์เกาหลี บทของพระรองส่วนใหญ่เป็นผู้ชายนิสัยดีจนแทบชวนให้สงสัยว่าเป็นเกย์ ผมชอบบอกเธอว่าลองเอาผมไปเปรียบเทียบกับเพราะเอกดูบ้าง พอพูดแบบนั้น เธอจะสวนกลับมาทันทีว่าอยากนิสัยเสียแบบนั้นแล้วต้องมาเสียใจภายหลังทุกทีเหรอ
ผมนึกขำแล้วหลับตาลง พลางคิดว่าขอให้ฝันดีแบบเมื่อคืนอีกสักรอบ
ขอให้ผม..ได้ตายแบบนั้น ถึงจะไม่เป็นแบบนั้น ก็ขอให้เธอได้ร้องไห้เพื่อผมก็ยังดี
15.30 น.
หน้าร้านกาแฟแบรนด์ต่างประเทศ ผมนึกเสียดายเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เสียไปเพราะมาก่อนเวลาสามสิบนาที ตั้งแต่เราคบกันมา ผมมาก่อนเวลานัดทุกครั้ง หลังจากคบกันได้สามเดือน ผมก็ยังมาก่อนเวลานัดและเริ่มหวังว่าเธอจะมาตรงเวลาสักหน จนถึงปัจจุบันนี้ ก็สามปีกว่า ความหวังนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นจริง
ผมนั่งลงกับขอบฟุตบาท เมื่อยขาเต็มทน ความจริงน่าจะเข้าไปรอในร้าน แต่ผมชอบรอแบบนี้มากกว่า มันทำให้เราดูน่าเห็นใจ เพิ่มคะแนนความสงสาร ใครบางคนเคยบอกว่า ความรักเป็นต้นกล้าของความผูกพันธ์ แต่ถ้าจะไม่ให้มันตายไป ต้องเลี้ยงดูด้วยความเห็นใจและความสงสาร
เธอไว้ผมยาวดัดเป็นลอนเล็กๆ ใส่หูฟังเครื่องไอพ็อดข้างเดียว เดินล้วงกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตตัวนอก ทำหน้าหงุดหงิดจนดวงตาแทบกลายเป็นเส้นตรงเส้นเดียวบนใบหน้า อาการแบบนี้ผมค่อนข้างคุ้นเคย เดาว่าอาจพลาดซีรีย์เกาหลีบางเรื่อง ผมลุกขึ้นยืนยกมือทักทาย แต่เธอเดินตัดหน้าผมเข้าไปในร้าน เหมือนกับมองไม่เห็นว่าผมอยู่ตรงนี้ หรือบางทีเธออาจไม่ใส่ใจว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ ช่างมันเถอะ ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ผมปัดหัวเข่า เดินตามหลังเธอเข้าไป
โต๊ะตัวที่สองนับจากด้านใน เป็นมุมที่พวกเราชอบ เธอนั่งรอผมอยู่ตรงนั้น พอผมนั่งลง เตรียมเปิดเมนู เธอบอกว่า
ไม่ต้องหรอก ..ตอนเดินเข้ามา ฉันสั่งเผื่อเธอแล้ว
รู้ด้วยเหรอว่าผมจะกินอะไร ? ผมถาม พลางพลิกเมนูไปมา
ไม่ยากหรอก เห็นมาทีไรก็สั่งแต่คาปูชิโนไม่หวานมาก
แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ ? .. ผมไม่มองหน้าเธอ ถามแกมประชดนิดหน่อย
ถือว่าฉันผิดก็แล้วกันที่จำไม่ได้ว่าแฟนตัวเองชอบกินอะไร ถ้างั้นเดี๋ยวฉันกินเองก็ได้ กาแฟแก่ๆสองถ้วยคงไม่ทำให้ถึงกับตายหรอก เสียงของเธอแข็งขึ้นนิดหน่อย หน้าตายังดูบูดบึ้ง เอาหูฟังอีกข้างใส่หูข้างที่เหลือ
ขอโทษนะ ผมหยอกเล่น อย่าถือเป็นจริงเป็นจังสิ
หยอกอะไร ไม่เคยดูกาละเทศะเลยจริงๆ จำได้ไหมว่าเราทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระเพราะหยอกกันแบบนี้มากี่หนแล้ว
เธอเอนหลังพิงเบาะ แล้วปลดหูฟังออกเหลือข้างเดียวเหมือนเดิม
จริงของเธอ ผมชอบทำแบบนั้น นิสัยบางอย่างที่มีไว้เฉพาะใครบางคน บางครั้งมันก็แก้ยาก
ขอโทษนะที่ปล่อยให้คอยนาน เธอพูดเบาๆ
ขอโทษนะ หูฝาดหรือเปล่า ..วันนี้ท่าทางจะมีฝนฟ้าคะนองกระจายตัวเป็นหย่อมๆ
เธอค้อนขวับ แล้วพูดต่อว่า
นี่เพิ่งเตือนไปหยกๆนะ เรื่องที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ซีเรียสนะเธอ ตั้งใจฟังหน่อย
ผมเห็นเธอท่าทางจริงจัง เลยเก็บเมนูเข้าที่ นั่งด้วยท่าสบายๆ แล้วทำหน้าปรกติที่สุด เธอมองหน้าผม สีหน้าราบเรียบ เธอถอนหายใจ ปลดหูฟังที่เหลืออีกข้างลง
ขอโทษนะที่ปล่อยให้คอยนานทุกครั้ง แล้วก็ขอโทษด้วยที่ฉันไม่สนใจเธอตอนอยู่หน้าร้าน ที่ฉันรีบเดินเข้ามานั่งก่อน เพราะฉันอยากเป็นฝ่ายรอเธอบ้าง แม้ว่าแค่ไม่กี่วินาทีจะทดแทนหลายชั่วโมงไม่ได้ แต่อยากให้รู้ว่าฉันตั้งใจจะรอเธอนะ
ผมนึกแปลกใจ ตามปรกติเธอไม่เคยเป็นแบบนี้ ออกจะพูดน้อย ส่วนใหญ่เธอจะเป็นฝ่ายฟังผมมากกว่า วูบหนึ่ง ผมคิดว่าสงสัยจะมีอารมณ์ร่วมกับซีรี่ย์เกาหลีมากไปหน่อยและเกือบหลุดปากแซวไปแล้ว แต่ด้วยสีหน้าท่าทางของเธอตอนนั้น ทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก
ผมเข้าใจ ไม่เห็นต้องคิดมากขนาดนั้นเลย ถึงคุณจะสายประจำ แต่อย่างน้อยก็ไม่เคยผิดนัดเลยนะ การรอคอยที่รู้อยู่ว่าจะได้พบกันอย่างแน่นอน มันน่ารอคอยออกจะตาย
แต่เธอจะเมื่อยขาแย่น่ะสิ
ผมไม่ได้ยืนตลอดนี่ พอผมเมื่อยก็นั่ง ตรงไหนผมก็นั่งได้
แล้วคงจะหิวแย่
สองสามครั้งแรกที่เรานัดกันก็เป็นแบบนั้น แต่พอผมคุ้นเคยกับคุณ ผมก็รู้ว่าต้องรองท้องมาก่อน
ถ้าฝนตกล่ะ เธอจะเข้ามารอในร้านก่อนรึเปล่า
ร้านประจำของเรามีชายคาใหญ่ อย่างน้อยผมคงไม่เปียกปอน ที่สำคัญ ผมคงนึกเป็นห่วงคุณมากกว่าว่าจะเปียกหรือเปล่า
ตอบได้ดีทุกคำถาม ทำไมเธอถึงเป็นผู้ชายที่ดีแบบนี้ เธอลากเสียงยาว ประโยคสุดท้ายนี้ ผมพอจะมีช่องทางให้ตอบทีเล่นทีจริงได้
ผมเป็นพระรองในซีรี่ย์เกาหลีไง
พระรองเลวๆ มันก็มีนะ
แต่ส่วนใหญ่ที่คุณเล่าให้ผมฟัง มันมีแต่พวกที่สงสัยจะเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่กำเนิดทั้งนั้น ถูกกรอกหูมานาน อย่างน้อยมันก็คงซึมเข้ากระแสเลือดผมบ้างล่ะ
แล้วนางเอกหนังเกาหลีล่ะเป็นไงบ้าง
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
25 มิ.ย. 50 18:12:14
]