Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ผีเน่ากับโลงหื่น ตอนที่ 1/2 (เรื่องสั้นขนาดยาว 2 ตอนจบ)

    เรื่อง: ผีเน่ากับโลงหื่น
    ผู้แต่ง: {``-_-}{-``-}{-_-``} สมจ๊อด


    “Real Come Duck”
    เรียล คัม ดั๊ก
    จริง มา เป็ด ?
    เป็ดมาจริง ๆ?
    เมื่อความจริง มาถึงเป็ด ?
    ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกันตรงไหน
    เรียล คัม ดั๊ก
    อ่อ!...  รักคำเดียว

    คำเดียว สั้น ๆ  แต่ทำไมผมจึงไม่เคยพูดคำนี้กับเธอเลย
    ...

    “คลื่น” หากคำ ๆ นี้ถูกบัญญัติจากลักษณะเสียงของคำแล้วละก็ ผมฟังอย่างไร ก็จับไม่ได้สักทีว่ามันดัง “ครืน ๆ” หรือ “คลื่น ๆ” เหมือนใคร ๆ เขาเรียกกัน  ที่จริงแล้ว ผมได้ยินมันดังว่า “วาฮูมม.... วาฮูมมม...” ต่างหาก

    คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมหนีความวุ่นวายของเมืองมานั่งอยู่บนหาดทรายขาว ที่อ่าวลุงหวัง เกาะเสม็ด  ข้างหน้านั่นคือผืนทะเลสีดำที่ถูกแต่งแต้มด้วยระลอกคลื่นสีขาว  ตรงเส้นแบ่งระหว่างทะเลกับท้องฟ้า มีแสงไฟสีเขียว สีขาว ของเรือหาปลากะพริบคล้ายลายตะเข็บผ้าที่เย็บไม่สนิท  

    ผมนั่งเอนตัวมาข้างหลังแหงนหน้ามองฟ้า  มือทั้งสองข้างจมอยู่ในทรายชายหาดที่ละเอียดนุ่ม  คืนนี้ท้องฟ้าเปิด  พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงจ้า รัศมีทรงกรดของมันสว่างกินเกือบครึ่งฟ้าจนกลบดาวหลายดวงเข้าไปอยู่ในวงรัศมี  หมู่เมฆพากันหลบหาย เหมือนกลัวอำนาจของดวงจันทร์  จิตใจของผมฟุ้งซ่าน คิดต่อจากเรื่องคลื่นว่า หากผมเป็นผู้มีอำนาจ สามารถบัญญัติความหมายของน้ำที่ซัดเข้าหาฝั่งนี้ว่า “วาฮูมมม” มันคงพิลึกหากเขานำมาใช้กัน...

    “มหันตภัยวาฮูมมมสึนามิกวาดชีวิตชาวอันดามัน”
    “โทรศัพท์มือถือไม่มีวาฮูมมมเลย”
    “รับฟังเพลงกันต่อ จากวาฮูมมม 93.5 เอฟเอ็ม”
    ฯลฯ

    ช่างมันเถอะ... ให้มันชื่อว่า “คลื่น” นั่นละดีแล้ว
    ...
    ผมนั่งอยู่ตรงนี้นานเท่าใดไม่ได้นับเวลา  เพียงอยากซึมซับบรรยากาศดี ๆ นี้ไว้เพื่อจะได้เอาเก็บไว้ในความทรงจำ...  ความทรงจำในอดีต? แล้วความเป็นปัจจุบันคืออะไร ? หากเรามัวดึงอดีตเข้ามาประมวลผลในสมอง แล้วก็ให้มันผ่านไปเป็นอดีตอีกครั้ง

    เมื่อไร้เรื่องให้คิด ผมจึงโน้มตัวมาข้างหน้า ปัดเม็ดทรายออกจากมือแล้วลุกเดินเลียบชายหาด  กระโดดหยอกล้อกับเกลียวคลื่นมาเรื่อย ๆ จนถึงสะพานเทียบเรือ ที่ยื่นขวางอยู่กลางหาด ลุกล้ำเข้าไปในทะเล   บดบังทัศนียภาพของธรรมชาติได้อย่างน่าใจหาย

    “เดี่ยว ”  เสียงเล็ก ๆ ของคนคุ้นเคยเรียกชื่อผม  “เดี่ยวไปไหนมา ไม่บอกกันเลย”
    ผมหันไปก็พบกับหญิงสาวผมยาวผิวขาวดวงตาโต  ยืนทำแก้มป่อง ขมวดคิ้วคมบางมองผม เธอใส่เสื้อยืดคอปกสีครีม รับกับกางเกงผ้าแพรหลวมสีชมพูอ่อน ดูน่ารักสดใส

    “ไปเป็นพระเอกเอ็มวีมาครับ”   ผมตอบยียวนไปอย่างนั้น  “ก็นึกว่านอนหลับแล้ว  เลยออกมานั่งเล่นแถว ๆ นี้แหละ”
    “ใจร้าย  ทิ้งกันได้เฉยเลยนะ”  
    “ใครจะกล้าทิ้งเล่า   ถ้าทิ้งจริงผมก็ต้องหายใจไม่ออก และก็เจ็บคอสิครับ”
    “เกี่ยวอะไรด้วย”
    “ก็... ทิ้งได้... ลงคอ”
    “ประสาท”   เธอกลั้นหัวเราะ

    “แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ”
    “ไม่รู้สิ หายไปไหนกันหมดเลย... เดี่ยวน่ะ... จำไว้เลยนะ  ไปไหนก็น่าจะบอกกันหน่อย นึกว่าผีทะเลลากลงน้ำไปแล้ว”  
    เธอบ่นอุบอิบ แต่ก็เดินเข้ามาคล้องแขนผมไว้  แล้วเราก็พากันเดินทอดน่องมาหยุดอยู่ตรงชิงช้าที่แขวนอยู่กับต้นไม้ใหญ่ข้างตีนสะพานเทียบเรือ  

    “รู้หรอกน่า ว่าไอ้นี่...”   ผมชี้ไปที่ห่วงยางที่แขวนเรียงกันไว้ข้างสะพานเทียบเรือ
    “หือ?”  เธอพยายามกระโดดขึ้นนั่งบนชิงช้าที่แขวนอยู่สูงเกินไป
    “ก็... เป็นห่วง”   ผมห่อปาก สูดลมเข้าเป็นจังหวะ เดินเข้าหาเธอด้วยท่าผีดิบ
    “แหวะ! ตลกดึกดำบรรพ์เอ้ย มุกนี้เขาเลิกใช้กันไปนานแล้ว  ”  เธอเบะปาก  ผลักชิงช้ามาชนสีข้างผมแล้ววิ่งหนีขึ้นสะพานไป  
    “เฮ้! เจ็บนะ มานี่เลย จะหนีไปไหน”
    “หนีไปให้ห่าง ๆ ไอ้ห่วงยางนั่น”   เธอป้องปากตะโกนมา
    “หา” ผมว่า   เธอกัดริมฝีปากแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้  
    “ ก็จะได้... เป็นห่วง.... อยู่ห่าง ๆ  ”

    เธอแหงนหน้าหัวเราะร่าท้าสายลม ทำตาค้อนใส่ผมและวิ่งไปที่หัวสะพาน  ไม่อยากเชื่อว่าเธอตอกกลับมุกน้ำเน่าของผมได้อย่างทันควัน  
    “ฮิ้ววว!”   ผมยกมือโบกขึ้น ลง  แล้วหัวเราะ  วิ่งเหยาะ ๆ ตามเธอไป
    ...
    “ลูกหยี” เป็นชื่อของเธอ ผู้หญิงที่ผมคบหาเป็นคนรัก รวมเวลาแล้วประมาณหนึ่งปีได้ เราทั้งสองทำงานในบริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก  เธอเป็นผู้หญิงที่ติดอันดับ หนึ่งในห้าร้อยคนของผู้หญิงทั้งหมดในโลกที่ผมคิดว่าสวย  ส่วนความน่ารัก ความสดใส และนิสัยที่ดีของเธอนั้น ผมให้เธอติดอันดับหนึ่งในห้าของผู้หญิงทั้งหมดในชีวิตนี้ ที่ผมเคยพบเจอในโลก

    ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมจู่ ๆ เธอถึงได้เอ่ยปากชวนผมมาที่เกาะเสม็ดนี่  ทั้ง ๆ ที่ในเวลาปกติ นอกจากที่ทำงานแล้ว เราแทบจะไม่ได้ไปไหนด้วยกันเลย ก็มีบ้างที่ไปดูหนัง  ทานข้าว แต่ถึงขั้นออกมาเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้  นี่เป็นครั้งแรก

    เรื่องมันเกิดจาก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนพักกลางวันของวันหนึ่ง ผมออกมาทานข้าวกับหยีเหมือนปกติ  ขณะพูดคุยกันถึงเรื่องสรรพเพเหระระหว่างทานข้าว เธอก็พูดขึ้นว่า...

    "สัปดาห์หน้ามีวันหยุดพ่วงเสาร์ อาทิตย์ บริษัทหยุดตั้ง 3 วัน  เราไปเกาะเสม็ดกันดีไหมคะ"  ผมวางช้อนลง เอียงคอถามด้วยความฉงน
    "เกาะเสม็ดเนี่ยนะ”   เธอพยักหน้าแทนคำตอบ
    “ไปกันกี่คนเหรอ”  
    “ว่าจะชวนอิ๋วไปด้วยค่ะ”
    "มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า"   ผมถามอีกครั้ง หยีลังเลที่จะตอบ

    "ก็... ไม่มีอะไรหรอกค่ะ  แค่คิดถึงทะเล... แล้วเดี่ยวว่างไปได้รึเปล่าคะ”
    “อืมม์! ได้สิ”  ผมตอบไปอย่างไม่ลังเล  ทีแรกนึกว่าจะไปกันแค่สองคน แต่มีเพื่อนไปด้วยก็ดี เพื่อไม่ให้เธอตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน   แต่ที่ผมกังวลก็คือ  “อิ๋ว” เพื่อนหญิงที่เธอเอ่ยชวนไปด้วยนั้น ดันมาเป็นแฟนของ... “ไอ้นนท์”
    ...
    "ไปเสม็ดต้องเสร็จทุกราย”  ไอ้นนท์เพื่อนสนิทร่วมอพาร์ทเม้นท์ของผมประกาศก้อง  พร้อมกับยื่นกล่องบางอย่าง ที่มีลักษณะคล้ายหมากฝรั่งให้ผม
    “บรรยากาศโคตรน่าเสียตัวเลย เชื่อข้าสิ”  ไอ้นนท์ทำจมูกบาน พ่นลมหายใจเข้าออก ฟืดฟาด ๆ
    “ผู้หญิงไม่ใช่วัตถุทางเพศนะโว้ย” ผมโบกมือส่ายหน้า  ปฏิเสธสิ่งที่เหมือนกับจะเป็นความหวังดีของมัน

    “หรือเอ็งจะเอาขึ้นหิ้งไว้เป็นวัตถุโบราณ”  
    ไอ้นนท์ยัดกล่องในมือใส่กระเป๋ากางเกงของผมที่กำลังนั่งจับตะเข็บเสื้อฉีดละอองน้ำในกระป๋องน้ำยารีดผ้าลงปกเสื้อ

    “โห...  กลิ่นสตอเบอร์รี่ ... ไปเอามาจากไหนวะ”  ผมวางเตารีดลงตะแกรง ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบสิ่งนั้นออกมาดู
    “ลูกผู้ชาย...  ต้องพร้อมรบเสมอ”   มันควักกล่องลักษณะเดียวกันมาจากเป้ของมันอีก 3-4 กล่อง
    “ไอ้[^_^]เอ้ย”
    “เอ็งอย่าบอกนะ ว่าไปเกาะเสม็ดครั้งนี้ เอ็งไม่ได้หวัง...”  มันว่า  ผมโยนกล่องถุงยางนั่นไว้บนเตียงแล้วหยิบเตารีดขึ้นมารีดกลีบเสื้ออีกครั้ง
    “หวังอะไร พูดดี ๆ  ข้าเป็นคนดีนะโว้ย”  ผมพูดด้วยความภูมิใจ

    “โว้ย! พ่อสุภาพบุรุษ  เอาเหอะน่า  เก็บไว้กันเหนียว  เรื่องของอารมณ์มันไม่เข้าใครออกใคร เอ็งเป็นสุภาพบุรุษบ้าบอของเอ็งน่ะมันก็ดี  แต่เอามันออกมาแค่ 80 เปอร์เซ็นต์พอ พอถึงเวลานั้นจริง ๆ แล้ว เอ็งต้องดึงความเป็นลูกผู้ชายอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือออกมาใช้นะโว้ย ไอ้เดี่ยว”  ไอ้นนท์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มันนั่งขยุกขยิกทำอะไรบางอย่างอยู่แถว ๆ กระเป๋าเดินทางของผม ผมรำคาญจึงหยิบกระบอกน้ำฉีดใส่หน้า จนมันกระโดดโหยง

    จากคุณ : {``-_-}{-``-}{-_-``} - [ วันสุนทรภู่ 00:02:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom