เรื่อง: ผีเน่ากับโลงหื่น
ผู้แต่ง: {``-_-}{-``-}{-_-``} สมจ๊อด
จากตอนที่แล้ว http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5547308/W5547308.html
อึดอัดเหลือเกิน... ผมลืมตาตื่นมาก็ปรากฏว่ามีหญิงสาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยรายล้อมอยู่ 4 คน ใครกัน? มาจากไหน? แล้วนี่ผมอยู่ที่ไหน? พยายามเงยหน้าขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ ผมมองไปที่ใบหน้าของแต่ละคนอย่างใคร่ครวญ
อะไรกันนี่ เธอทั้งหมดที่จ้องมองผมด้วยสายตายั่วยวนนี่ คือหญิงสาวที่ผมเคยเห็นบนหน้าปกแผ่นซีดีของไอ้นนท์ เป็นไปได้อย่างไร?
และแล้ว เธอทั้ง 4 ก็ค่อย ๆ ก้มหน้ามาชิดกับใบหน้าของผม พร้อมกับทำปากเผยอ ชิดเข้ามาเรื่อย ๆ จนผมรู้สึกอึดอัด และเกร็ง พยายามจะกางแขนออก แต่ก็กางไม่ได้ จึงยกมือขึ้น
อาาา... พระคุณเจ้า มือผมถูกมัด!!!
เฮ้ย!!
ผมลืมตาตื่นมาอีกครั้ง แล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง
เมื่อมองไปที่เตียงก็ไม่เห็นหยีเสียแล้ว ผมรู้สึกชาที่ข้อมือของตัวเอง เพราะมีสายหูฟังของเครื่องเล่นซีดี วอล์คแมนมัดไว้หลวม ๆ ไอ้ฝันบ้า
ถ้าตื่นมาแล้วเห็นสายนี่หลุดจากมือละก็ เราเลิกกัน เป็นคำขาดที่เธอพูดขึ้นมาเมื่อคืนด้วยความโกรธ
คงหวังเต็มที่เลยใช่ไหม ถึงได้พกไอ้นี่ติดกระเป๋ามาด้วย เธอว่าพลางขว้างกล่องถุงยางใส่หน้าผม
ไหนพูดอีกทีซิ ว่าผม...คนดี ๆ เธอแยกเขี้ยวใส่ โกรธจนหน้าแดง ผมได้แต่นั่งทำตาละห้อยไม่โต้ตอบอะไรสักคำ เพราะพูดอย่างไรก็คงฟังไม่ขึ้น ในสมองตอนนี้มีแต่หน้าของไอ้นนท์ลอยเด่นอยู่ ว่าแล้วหยีก็โยนหมอนกับผ้าห่มลงมาที่พื้น เป็นการประกาศว่า คืนนี้ผมต้องนอนข้างล่าง
...
ผมค่อย ๆ แกะเจ้าพันธนาการที่เธอสั่งให้ผมมัดมือตัวเองไว้ออกจากข้อมือ เธอคิดได้อย่างไรนะ ช่างเหมือนเด็กจริง ๆ ผมก็ดันทำตามอย่างว่าง่าย โถ ๆ ถ้าผมจะกลายร่างเป็นสัตว์ป่าที่หื่นกระหาย ไอ้เจ้าสายหูฟังแค่นี้หรือ จะเอาผมอยู่
เมื่อแกะออกแล้วผมรีบเปิดประตูออกมา ตรงดิ่งไปเคาะประตูห้องข้าง ๆ แต่ประตูกลับเปิดอ้าเข้าไปเห็นไอ้นนท์นอนขดตัวตะแคงหันหลังให้ประตูอยู่บนเตียงคนเดียว
ไอ้เวร ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ผมตะโกนเสียงดังเพราะโกรธที่อยู่ดี ๆ ก็มีไอ้กล่องถุงยางเจ้ากรรมเข้ามาอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าโดยไม่ได้รับเชิญ ใครเล่าจะทำ ถ้าไม่ใช่มัน
ไอ้นนท์งัวเงียหันมามองผมแว้บหนึ่งแล้วหันกลับทำท่าจะหลับต่อ ผมสุดจะทนเลยเดินไปตรงปลายเตียงลากมันลงมาที่พื้น
อะไรวะ มันคลานขึ้นมาบนเตียงอีกครั้งดั่งผีญี่ปุ่น ทำโวยวายใส่ผม
มาคุยกันก่อนเลย เอ็งเอาไอ้กล่องนี่มาใส่ไว้ในกระเป๋าข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมโยนกล่องถุงยางใส่มัน
โว้ย! ก็คืนก่อนจะมาน่ะแหละ มันขดตัวดึงผ้าห่มคลุม แล้วได้ใช้รึเปล่าล่ะ มันว่า ผมคว้าหมอนและผ้าห่มขว้างใส่มันไม่ยั้ง
ส้นตี...แนะ รู้รึเปล่าว่าเกือบทำให้ข้ากับหยีเลิกกัน
เอ็งยังดีที่เกือบ แต่ข้าน่ะสิ เลิกกันแล้ว มันหันมามองผมแล้วเอียงหน้าซีกขวาพลางชี้นิ้วไปที่แก้มของมัน
ดูนี่
ผมชะงักทันทีที่เห็นรอยแดง ๆ พาดผ่านแก้ม และรอยช้ำเขียวที่ตาขวาของมัน
ถูกตบซะขนาดนี้ โดนถีบตกเตียงเกือบสิบตลบ ร้องขอว่าไม่ทำอะไรแล้วอิ๋วก็ไม่ยอมให้นอนบนเตียง มันถอนหายใจก่อนอธิบายต่อ
ตอนเธอออกไปถ่ายรูปกับหยีเมื่อเช้า ข้าถึงได้ขึ้นมานอนนี่แหละ ไอ้นนท์ขมวดคิ้วเหยปาก
เวรกรรม แล้วเมื่อคืนเอ็งไปทำอีท่าไหนวะ น้องอิ๋วถึงได้เดินตามเอ็งต้อย ๆ เข้ามาในห้องน่ะ ไม่ได้เป็นใจให้กันหรอกเหรอ
อิ๋วก็ไม่ได้อยากแยกห้องมาอยู่ห้องเดียวกับข้าหรอก มันกลืนน้ำลายลงคอ
แต่ข้าบอกอิ๋วว่า... เมื่อคืนเอ็งอยากอยู่กับหยีสองต่อสองเลยมาขอร้องข้า ว่าเอ็งขอแยกห้อง มันก้มหน้าแล้วเหลือบตาเขียว ๆ มามองผม
หา... นี่เอ็งเอาข้ามาอ้างเหรอ
อือ!
เท่านั้นแหละ หมอน ผ้าห่มในมือของผมก็กระหน่ำฟาดไปที่ไอ้นนท์ไม่ยั้ง มันปัดป้องยกเท้าถีบผมพัลวัน
เอ็งตาย!
ผมฟาดมันจนหอบแฮก ไอ้เลวนี่บังอาจเอาผมไปอ้างเพื่อสนองตัญหาตัวเอง แค่ถูกน้องอิ๋วตบแค่นี้มันยังน้อยไป จนมันทนไม่ไหววิ่งเข้าห้องน้ำแล้วล็อคประตู
...
ผมเดินออกมาจากห้องด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว คิดในใจว่าเดี๋ยวมันออกมาจะต้องคิดบัญชีกันอีกยาวแน่
สายตาของผมก็หันไปเห็นน้องอิ๋วและหยีสะพายกระเป๋ากล้องเดินกลับมาพอดี เธอเดินคุยกันมา ในมือถือถุงขนมขบเคี้ยวมาด้วย ผมจึงเดาได้ว่าเธอคงแวะทานข้าวแถวร้านหน้าชายหาดมาเรียบร้อยแล้ว
แต่เมื่อทั้งสองเห็นผมยืนอยู่หน้าประตูจึงเงียบเสียง หยีก้มหน้าเดินผ่านผมเข้ามาในห้องเดิมของเธอ แต่พอเห็นว่าไอ้นนท์ยังอยู่ในห้องน้ำ เธอจึงเรียกอิ๋วเข้ามาช่วยยกกระเป๋าและเครื่องใช้ต่าง ๆ ในห้องนี้ แล้วเอาไปวางไว้ในห้องที่ผมกับหยีอยู่กันเมื่อคืน
หยี ผมเรียก แต่เธอไม่ยอมหันมา น้องอิ๋วหยิบอุปกรณ์และกระเป๋าของไอ้นนท์ในห้องนั้นเอามาวางไว้หน้าห้อง ส่วนหยีลากกระเป๋าของผมออกมาวางไว้ตรงระเบียง แล้วก็เข้าไปในห้องปิดประตูปัง บอกให้รู้ว่าพวกเธอขอสลับห้องกับพวกผมโดยปริยาย
เธอคงโกรธผมจริง ๆ ไม่สิ ทั้งสองคงโกรธพวกเราจริง ๆ พอไอ้นนท์ออกมาจากห้องน้ำ เห็นกระเป๋าของมันที่วางอยู่หน้าห้อง มันก็ยืนนิ่งและเข้าใจอะไรได้ทันที
งานนี้ท่าจะง้อยากว่ะ
อือ ผมครางในลำคอ เพราะใครล่ะวะ
ว่าแล้วผมก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ล้มตัวลงนอนยกมือก่ายหน้าผาก โดยมีไอ้นนท์หยิบกระจกในกระเป๋าส่องดูรอยช้ำบนหน้าตัวเอง ก่อนที่ผมจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง เนื่องจากเมื่อคืนหลับไม่เต็มอิ่ม
...
ไอ้เดี่ยว ๆ ไอ้นนท์เขย่าแขน ผมลืมตาขึ้นมาเห็นไอ้นนท์ทำหน้าแฉล้ม ทั้ง ๆ ที่รอยช้ำยังไม่เลือนไปจากหน้า ที่คอของมันมีสายกล้องคล้องไว้
ไอ้เดี่ยว เอ็งออกมาดูสิ ทูพีช ๆ
อะไรวะ ผมกลืนน้ำลายลงคอ
ก็หยีกับอิ๋วสิ ใส่ทูพีชเล่นน้ำทะเลอยู่ตอนนี้ ออกมาดูสิ เร็ว ๆ ผมตาสว่างทันทีที่ได้ยินคำว่า ทูพีช ไอ้นนท์ดึงแขนผมให้ลุกจากเตียงแล้วเดินไปหิ้วรองเท้าของผมมาวางแหมะไว้หน้าประตู
ปะ... ข้าจะไปถ่ายรูป มันทำตาลุกวาว หาได้สำนึกถึงความผิดเมื่อคืน
ความวัวไม่ทันหาย ควายอย่างเอ็งจะทำให้เขาเกลียดอีกแล้วเหรอ ผมหลอกด่า แต่ก็ล็อคประตูห้อง เดินตามมันออกมาโดยดี
หน้าหาดมีสายลมร้อนพัดมาตลอดเวลา ทิวทัศน์เบื้องหน้าช่างสบายตา แต่แท้ที่จริงแล้วสายตาผมกลับจ้องมองไปที่หญิงสาวสองคนที่กำลังเริงร่าหยอกล้อเกลียวคลื่นอยู่ไกล ๆ นั่น น้องอิ๋ว คนรักของไอ้นนท์ใส่ชุดว่ายน้ำสีชมพูสดดูสดใส แต่ไฮไล้ท์ของสายตาผมกลับอยู่ที่หยี เธอใส่ทูพีชสีฟ้าทั้งท่อนบนและล่าง ผมจินตนาการครึ่งบนสีฟ้าเปรียบเป็นฟ้าคราม ครึ่งล่างสีฟ้าเปรียบเป็นท้องทะเลแสนงาม มีเส้นขอบฟ้าลากผ่านเป็นเส้นแบ่งระหว่างความเซ็กส์ซี่และความน่ารัก...
เราจะเป็นคนรักกันได้นานไปถึงไหนกันนะ ผมไม่อยากเสียเธอไปเลยจริง ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็ทำให้ใจหาย แต่คนที่สมควรจะสำนึกที่สุด กลับกำลังโก้งโค้ง คอยกดชัตเตอร์กล้องดิจิตอลตัวเก่งของมันอย่างขะมักเขม้น
ไกลไปว่ะ รู้อย่างนี้ซื้อกล้องที่มีเลนส์ซูมมาซะก็ดี มันบ่นอุบอิบ ทำท่าจะเดินเข้าไปใกล้ แต่ผมร้องห้ามไว้
พอเถอะ อยากให้น้องอิ๋วโกรธมากกว่านี้เหรอ ผมดึงคอเสื้อด้านหลังมันไว้
ไปกินข้าวเถอะ สิบโมงกว่าแล้ว หิวจะแย่ เที่ยงจะได้เช็คเอ้าท์แล้วกลับบ้าน ผมว่า
ว้า!... เอางั้นเหรอ
อืมม์
มันเดินตามผมมาอย่างว่าง่าย เมื่อถึงร้านอาหาร มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินลากกระเป๋าเสื้อผ้าผ่านมาพอดี ผมจำเธอได้ เธอคือผู้หญิงผมสั้นคนเมื่อคืนที่วิ่งร้องไห้ไปที่สะพาน ผมสังเกตว่าขอบตาของเธอยังคงบวมอยู่ ไอ้นนท์ก็คงจำได้ จึงป้องปากกระซิบ
เฮ้ย! ไอ้เดี่ยว นั่นผู้หญิงคนเมื่อคืนว่ะ สงสัยจะกลับแล้ว ผมมองไปที่สะพาน ก็เห็นเรือรอบสายมาเทียบที่ท่าแล้ว เธอคนนั้นก้มหน้าเดินไปที่หัวสะพานด้วยท่าท่างเหมือนคนกำลังจะเดินไปฆ่าตัวตาย
แล้วไอ้ตี๋ผมยาวไปไหนวะ
สั่งข้าวเถอะ อย่าไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน ผมตัดบทแล้วเรียกบริกรมาเพื่อสั่งอาหาร แต่ในใจก็สงสัยเหมือนไอ้นนท์ ว่าผู้ชายคนนั้นไปไหน ทำไมปล่อยให้คนที่เขาประกาศว่าเป็นแฟนเมื่อคืนเดินไปขึ้นเรือเพียงลำพัง
จากคุณ :
{``-_-}{-``-}{-_-``}
- [
28 มิ.ย. 50 01:32:18
]