รสมือแม่
สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโลกคือ ปิระมิด กำแพงเมืองจีน ต่างๆ นานา เชอะ!!! พูดผิดพูดใหม่เหอะ
สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโลก คือ ผู้หญิงผมกระเซิงที่กำลังยืนผัดกระเพราไก่หน้ามันอยู่ในครัวบ้านฉันนั่นไง หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
นานพอดูที่ฉันไม่ได้นั่งมองแม่ทำกับข้าวอย่างจริงจังเหมือนวันนี้ คงเพราะมันเป็นวันหยุดวันแรกในวัยทำงานที่ฉันตื่นเช้าที่สุด จนได้เห็นภาพแม่สับไก่ เด็ดใบกระเพรา โขลกพริก แล้วแทนที่จะเดินไปช่วย... นั่งดูเฉยๆ ดีกว่า
ฉันเกิดมาพร้อมๆ กับกับข้าวของแม่ที่ไม่ว่ากินเมื่อไหร่ก็ถูกปากเมื่อนั้น ก็อย่างว่าล่ะ ใครๆ ก็ต้องบอกว่ากับข้าวของแม่ตัวเองอร่อยทั้งนั้น คุยข่มกันได้แบบสู้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
ชีวิตในตอนเด็กของฉันก็คงเหมือนเด็กทั่วไป วิ่งเล่นหัวเข่าถลอก โดนก้านมะยมฟาดน่องเป็นริ้ว ตอนอนุบาลก็ยังเคยแอบดูเพื่อนผู้ชายอาบน้ำ... อืม หนอนน้อยพ่นน้ำได้มันเป็นแบบนี้นี่เอง
และฉันคิดว่าหลายคนคงเคยเป็น เด็กขี้อวด สำหรับฉันมีดีให้อวดก็ตรงที่แม่ทำข้าวกล่องให้ไปโรงเรียนทุกวัน แต่ละวันเมนูหรูหราซะไม่มี บางวันเป็นไข่ยัดไส้...แหมไฮโซ บางวันเป็นหมูทอดกระเทียม... หอมจนครูมาขอชิม บางวันมีเงาะคว้านเม็ดเป็นของหวานล้างคาวอีกแหนะ
สิ่งที่ทำให้ข้าวแต่ละมื้ออร่อยมากกว่าเดิมคือ สายตาริษยาจากเพื่อนๆ ที่มองข้าวกล่องฉันแบบไม่วางตา แต่ที่ทำให้พวกนั้นตาร้อนได้ยิ่งกว่าคือ มีแม่มาหาทุกเที่ยงนี่แหละ แต่แม่ก็มักจะใจดี เอาขนมมาฝากเพื่อนๆ ฉันเสมอ เพราะแบบนี้ฉันถึงมีเพื่อนเยอะ...เกินความจำเป็น
จากเด็กหญิงสู่นางสาว ก้าวเข้าสู่วัยสวย (อย่างน้อยฉันก็คิดว่าฉันสวยล่ะ) โรคติดเพื่อนเข้ามาสู่ชีวิตฉันเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ ทำให้แม่เริ่มเลือนไปจากสายตาฉันทุกที จากทุกวันที่เคยคุยกันประสาแม่ลูกกลายเป็นถามคำตอบคำ จากที่เคยนั่งดูละครด้วยกันกลายเป็นฉันที่มีโลกส่วนตัวอยู่ในห้อง
แม้กับข้าวเย็นฝีมือแม่ยังอร่อยเหมือนเดิม แต่มันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
*************************************
และวันที่ทำให้ฉันห่างแม่มากที่สุดก็มาถึง วันที่ฉันต้องต้องไปอยู่หอที่มหาวิทยาลัย เพื่อนมีอิทธิพลกับฉันมากขึ้นจนเหมือนจะเป็นลมหายใจของฉันไปโดยปริยาย ในขณะที่แม่เป็นเหมือนหน่วยกู้ชีพที่พร้อมสแตนบายทุกเวลา... เวลาหิวข้าว...เวลาไม่มีคนขับรถไปส่ง... เวลาเงินหมด
ในขณะที่แม่ของคนอื่น แม่ของเพื่อน กลายเป็นแม่ในอุดมคติสำหรับฉัน
แม่แกเป็นผู้จัดการบริษัทเลยเหรอ น้ำเสียงตื่นเต้นแทนมัน
ใช่ ของที่ฉันใช้อยู่ทุกวันนี่ก็เงินแม่ซื้อให้ น้ำเสียงเหมือนมันจะไม่ตื่นเต้น
ระยะห่างระหว่างฉันกับแม่มีเพิ่มมากขึ้นจนน่าใจหาย ฉันเคยถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น คำตอบที่ได้มันกลายเป็นคำแก้ตัวเสียมากกว่า คำแก้ตัวที่ว่า ความเป็นตัวของตัวเอง ความห่าง ทำให้ฉันกับแม่กลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้าทุกครั้งที่เจอกัน ทั้งที่แต่ก่อนฉันเป็นเหมือนฝีเกาะหลังแม่ไปทุกที่เสียด้วยซ้ำ
ทุกครั้งที่แม่พูด แม่ถาม ฉันก็มักจะตอบด้วยคำพูดห้วนๆ ทุกครั้งที่แม่โทรตามฉันจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับความห่วงใยของแม่เสมอ ถึงแม่ไม่ตอบอะไรแต่ใบหน้าเศร้านั้นในมีมีความหมายนับไม่ถ้วน... แล้วความเสียใจก็เอ่อขึ้นมาปริ่มอยู่ที่ขอบตา
แต่ทุกๆ วัน กับข้าวฝีมือแม่ก็ยังอร่อยไม่เปลี่ยน
************************************
อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกอายที่มีแม่ไม่ทำงานดีๆ เหมือนแม่คนอื่น ไม่สวยเหมือนแม่คนอื่น ๆ ทุกครั้งที่แม่แต่งตัวไม่ดีเวลาเพื่อนมาบ้าน ฉันจะรู้สึกหงุดหงิด ทุกครั้งที่แม่พูดจาตรงๆ เหมือนนิสัยเดิมของแม่ ฉันรู้สึกไม่พอใจ และทุกครั้งที่ฉันทำหน้าไม่พอใจ สีหน้าแม่จะสงบลง ดูเศร้าจนน่าใจหาย ความรู้สึกหนักๆ อย่างบอกไม่ถูกมันแน่นอยู่ที่หัวใจ เอาอีกแล้วเหรอ ฉันทำให้แม่เสียใจอีกแล้วเหรอ
มีคนไม่น้อยที่เป็นเหมือนฉัน หงุดหงิดไม่ชอบในสิ่งที่แม่เป็น ไม่พอใจในสิ่งที่แม่ทำ ฉันไม่เป็นเด็กขี้อวด (แม่) เหมือนตอนเด็กๆ เสียแล้ว
จนวันหนึ่ง แม่คุยโทรศัพท์กับเพื่อน เพื่อนคนที่แม่คุยได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องฉัน
ไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร ทำอะไรก็เหมือนไม่ถูกใจเขาไปหมด แม่พูดด้วยเสียงเศร้าๆ ขณะที่นั่งนิ่งฟังเสียงตอบจากปลายสาย ส่วนฉันก็แนบหูฟังเงียบๆ อยู่หลังกำแพง
ก็เข้าใจว่าเขาโตแล้ว มีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นยังตัวเล็กสำหรับฉันอยู่ดี ฉันยังจำได้เลยว่า ตอนเด็กๆ ยัยหนูชอบวิ่งเข้ามาหาให้พาไปขี่จักรยานเล่นด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาจะไปไหนไม่เคยบอกฉันสักคำ บางทีฉันถามเขายังไม่ตอบเลยด้วยซ้ำ เสียงแม่เริ่มสั่นขึ้นทุกทีจนใจฉันสั่นตาม
หรือว่าลูกไม่รักฉันแล้ว เสียงแม่ยังสั่น แต่กลับเป็นเสียงฉันที่พยายามกลั้นสะอื้นไห้ไม่ให้แม่ได้ยิน
เพราะรักคำเดียวเองเหรอ ที่ทำให้แม่ไม่เคยหมดความพยายายามในตัวฉันแม้สักวินาทีเดียว แล้วฉันมีสิทธิ์อะไรที่จะปฏิเสธความรักที่แม่ให้ สิ่งที่แม่ทำ ตัวตนที่แม่เป็น ทั้งที่แม่ไม่เคยทำให้ฉันเสียใจแม้แต่ครั้งเดียว
ต่อไปนี้แม่จะเป็นคนดีที่สุดสำหรับฉันไม่ว่าแม่จะเป็นอย่างไรก็ตาม
เฮ้ย แม่แกเป็นแม่บ้านอย่างเดียวเลยเหรอ อยู่บ้านโทรมๆ แบบนี้เวลาออกไปไหนแกไม่อายเขาเหรอวะ เพื่อนร่วมงานมาดไฮโซพูดขึ้นเหมือนจะซื่อ แต่ออกจะทราม
ทำไมต้องอาย ก็เพราะแม่ที่แม่ที่ไม่ทำงาน แม่ที่โทรมๆ แบบนี่ล่ะ ที่เลี้ยงฉันจนโตมาทำงานที่เดียวกับแกนี่ไง แต่ถ้าแกหาเรื่องจะไม่ชอบฉันหรือจะไม่คบฉันเพราะแม่ฉันเป็นแบบนี้ ฉันว่าแม่แกคงอบรมแกมาไม่ดีเท่าแม่ฉันแน่ๆ
ทันทีที่พูดจบฉันก็สะบัดหน้าหนี น้ำตามันมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือ ใช่ ฉันพูดถูก เพราะแม่คนนี้ แม่ที่ชอบใช้ชีวิตง่ายๆ ธรรมดาๆ อยู่กับการหุข้าว ทำกับข้าวคนนี้แหละ ที่ทำเลี้ยงฉันให้เป็นคนดีได้ แล้วฉันยังต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกล่ะ... คิดถึงรสมือแม่จัง
เย็นวันนั้นกับข้าวฝีมือแม่อร่อยกว่าทุกวัน อบอุ่นกว่าที่เคย และใบหน้าแม่ในครัววันนั้นดูสวยกว่าที่เห็นทั้งที่ผมก็กระเซิง หน้าก็มัน... มันน่าแปลกไหมล่ะ
ว่าแต่ว่า เช้าวันนี้ทำไมแม่ทำกระเพราไก่ ทั้งที่เมื่อวานบอกว่าอยากกินข้าวต้มกุ้งแท้ๆ ... แม่นะแม่
จากคุณ :
bitch
- [
28 มิ.ย. 50 17:30:05
A:58.8.3.69 X:
]