ช่อง 3 เจ๊ยี
น้องชายหนูยีบอก ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมชามก๋วยเตี๋ยว อาหารมื้อเย็นของวันนี้ ส่วนหนูยีที่นั่งทานข้าวไปดูรายการสารคดีไปก่อนหน้าน้องชายจะมา ก็ยอมเปลี่ยนช่องให้น้องชาย
และเพราะปกติหนูยีจะเป็นคนไม่ดูละครเพราะกลัวติดเลยไม่รู้เรื่องว่าเรื่องไหนเป็นอย่างไร ส่วนน้องชายหนูยี ดูไม่ดูไม่รู้แต่ถ้าถามว่าเรื่องนี้เป็นไง ตอบได้หมด!
ไอ้เรื่องนี้นะ ตอนแรกสุดจะโรแมนติกน่ารักมากเลยเจ๊ยี แต่ไปๆมาๆ สุดจะรันทด
ยังไงหรอ
ก็นางเอกตาบอดส่วนพระเอกก็มีโรคประจำตัวเป็นโรควูบนะสิ เล่าไปตาก็จ้องโทรศัทพ์พอพูดจบก็ส่งก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไป
ทำไมนางเอกตาบอดละนที ตอนแรกเจ๊ดูนางเอกตาไม่บอดนี่หน่า
โดนดักตีหัวนะสิ
อ้าวทำไมอะ หรือว่าแม่พระเอกไม่อยากให้นางเอกคบพระเอกเลยส่งคนมาตีหัว หนูยีเริ่มทำการเดาไปเรื่อยแบบไม่รู้อะไรเลย
เจ๊มั่วแล้ว พ่อแม่พระเอกเป็นคนดี ดีจริงๆ
อ้าว แล้วแม่ใครที่เกลียดนางเอกละ หนูยียังไม่เลิกค่ะ
เพื่อนพระเอกนะสิ มันเลว แม่มันไม่อยากให้เพื่อนพระเอกมายุ่งกับนางเอก แต่เพื่อนพระเอกไม่ยอมแม่มันเลยส่งคนมาดักตีหัวนางเอกจนตาบอด น้องชายหนูยีเล่าอย่างใส่อารมณ์แค้นเคืองเข้าไปด้วย
แล้วเพื่อนพระเอกเลวยังไง หนูยีถามกลับ
ไม่รู้
อ้าว! ไม่รู้แล้วไปว่าเขาเลวได้ไงละ
ได้สิ ความรู้สึกมันบอก ทีเห็นหน้ามันก็รู้แล้วว่าเลว หนูยีก็เลยยกมือตีขาน้องชายไปหนึ่งที
นี่แนะ ไปว่าเขาเลวได้ไง คนเรามองแต่ภายนอกไม่ได้หรอกนะนที เขาอาจจะไม่ใช่คนเลวก็ได้ หนูยีพยายามสอนน้องไปด้วย
แต่แม่มันส่งคนมาตีหัวนางเอกนะเจ๊
แล้วไงละ ตามละครน้ำเน่าของไทย แม่เลวแต่ลูกก็ไม่จำเป็นต้องเลวเหมือนแม่นี่หน่า เพราะงั้นเราจึงไม่ควรจะมองคนแล้วรีบตัดสินเข้าใจเปล่า หนูยีก็เถียงกลับแต่น้องชายหนูยีนี่สิหันมามองหน้าหนูยีแล้วบอกว่า
ก็นี่มันละคร ละครนะ เจ๊ยีดูละครแล้วไม่รู้หรือไงว่าคนไหนเลวนะ หนูยีอึ้งๆ งง ๆ ยังคิดตามที่น้องชายบอกไม่ทันว่าหมายถึงเลยเถียงไปว่า
นั่นละ บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนเลวก็
เจ๊หน้าตาเลวก็ต้องแสดงบทเลวๆสิ เขาไม่เอามาแสดงเป็นพระเอกหรอก เวลาเจ๊ดูละครรู้ไหมละว่าคนไหนเลวนะ ทีนี้หนูยีเริ่มเข้าใจที่น้องชายต้องการจะสื่อแล้วสิคะ เพราะถ้าตัวร้ายโผล่มาดูยังไงก็แยกออกว่าใครเป็นตัวดีใครเป็นตัวร้าย
เออจริง หนูยีเลยเห็นด้วย แต่น้องชายไม่ยอมหยุดแค่นั้น
นี่เลย อาม่าเวลาดูละครนะ ยังพูดไม่จบประโยคหนูยีก็จัดการตีขาน้องชายอีกที
นี่แนะ! เอาอาม่ามาล้อใช้ได้ที่ไหน เจ้าน้องชายก็โวยวาย
เดี๋ยวสิเจ๊ จะเล่าให้ฟังไม่ได้เอามานินทา แล้วมันก็ตั้งต้นเล่าใหม่
อาม่าเวลาดูละครนะ รู้เลยว่าใครมันเป็นตัวร้าย แล้วทำท่าประกอบเลี่ยนแบบอาม่าโดยการยื่นมือชี้ไปด้านหน้าเน้นย้ำคำพูดมองตรงไปด้านหน้าพร้อมใส่อารมณ์เข้าไปว่า
ไอ้นี้มันเป็นคนเลว! มันเลว! มันเลวจริงๆ เสร็จแล้วก็เปลี่ยนท่าทางจากดุดันเน้นย้ำความเลวของตัวละคร เป็นนิ่งๆพูดด้วยเสียงนุ่มๆ สมมติเป็นตัวเองที่อยู่กับอาม่าในช่วงเวลานั้น
อาม่าเขากลับใจแล้ว
ใครบอก! มันเลว! เลว! เลว! เลว! หลังจากใส่อารมณ์เลี่ยนแบบอาม่าเสร็จก็หันหน้ามาสบตายีพูดไปหัวเราะไป
ดูดิขนาด คนมันเปลี่ยนเป็นคนดีแล้ว อาม่ายังว่าๆมันเลวไม่เปลี่ยนเลยอะเจ๊ยี
หนูยีนั่งขำก๊าก ขำทั้งเรื่องที่มันเล่าและขำท่าทางในการเล่าด้วย ไอ้น้องคนนี้เอาอาม่ามาล้อซะได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ยังค่ะ!
ยังไม่จบแค่นี้น้องชายหนูยีหันกลับไปเล่นต่อ
อาม่าอันนี้เขากลับใจแล้วจริงๆ จากพูดนิ่งๆก็เปลี่ยนไปเป็นบทอาม่าอีก
เมิงนะสิโง่! เมิงเป็นผู้ชายโง่ให้ผู้หญิงมันหลอก เมิงเชื่อได้ไงว่ามันกลับใจแล้ว มันเลวๆๆ เล่าไปใส่อารมณ์ไปทำท่าเหมือนเป็นอาม่า ณ เวลานั้นจริงๆ ส่วนหนูยีได้แต่ขำก๊ากจนปวดท้อง กับท่าทางและการใส่อารมณ์ของน้องชาย เห็นภาพอาม่าตอนนั้นจริงๆเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หนูยียังหัวเราะก๊ากไม่หยุดส่วนนทีหยุดการเป็นร่างทรงของอาม่าแล้วกลับมาสู่สภาพเดิม
ตกลงเจ๊ยีเข้าใจยัง ในละครไม่ต้องบอกว่าใครดีใครเลว ดูปุ๊บก็รู้แล้ว พูดจบก็หันไปสนใจก๋วยเตี๋ยวกับละครในทีวีตามเดิม ปล่อยให้หนูยีหัวเราะเป็นคนบ้าไม่เลิก ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 50 07:38:25
แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 23:10:18
จากคุณ :
หนูยี
- [
28 มิ.ย. 50 23:01:49
]