Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    กำเนิดตั๊กม้อที่ 6

    ก่อนกำเนิดตั๊กม้อที่หก มีตำนานเล่าว่า...
    ขณะนั้น ปรมาจารย์ตั๊กม้อที่ห้า กำลังหาผู้สืบทอด จึงให้เหล่าศิษย์เขียนโศลกขึ้นบทหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องตัดสินผู้สืบทอดตำแหน่ง

    ไต้ซือท่านหนึ่งจรดความไว้ที่ผนังอาราม ว่า
    “สังขารดั่งต้นโพธ์
    จิตใจเช่นกระจก
    หมั่นเช็ดถูไว้”

    เมื่อ เว่ยหลาง คนป่าบ้านนอก อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ วันๆ ทำหน้าที่อยู่ในห้องครัว ได้ยินคนท่องบ่น ก็วานคนให้เขียนไว้ว่า
    “เดิมต้นโพธิ์หามีไม่
    แท้จริงกระจกก็ไม่มี
    ฝุ่นจะจับลงอะไร ”

    แล้วปรมาจารย์ตั๊กม้อที่หกก็ถือกำเนิดขึ้นบัดนั้นเอง




    มาถึงยุคปัจจุบัน ที่หลายสิ่งหลายอย่างเป็นเพียงแค่มวลสารล่องลอยในอากาศ หรือสถิตอยู่ในกระแสไฟ บทเพลงไม่ต้องเสียดสี ตี เป่า เพื่อให้เกิดเสียงทุกครั้งแล้ว ความซาบซึ้งในศิลปะบางประเภทคือฝันที่เป็นจริงของ 10 ปีที่แล้ว ใครๆ ก็มีชิปส์เล็กๆ ที่เคยเห็นในหนังนั้นได้
    งานเขียนก็เช่นกัน มันพัฒนาเป็นอะไรได้หลายๆ อย่าง เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องสวยงามที่แทบจะทุกคนให้ความสำคัญ ภาพเคลื่อนไหวเข้ามามีบทบาทกับงานเขียนอย่างง่ายดายและเกลื่อนกลาด การใส่เสียง ไม่ใช่ของที่แยกจากกันขาดอีกต่อไป เรื่องของคนไกลตัว ใกล้เรามากกว่าคนที่หายใจอยู่ข้างๆ เรามีเพื่อนที่ “อิน”เรื่องเดียวกันมากขึ้น เราอาจร้องไห้และพูดถึงเรื่องที่บอกใครไม่ได้กับเค้า เราไว้ใจเค้าเพราะเค้าไม่เกี่ยวกับเรามากมาย

    บันทึกหน้านึงของชีวิตเรา อาจเรียกน้ำตาได้มากมาย หากเราแสดงมันผ่านทาง ไซเบอร์เสปซ -พื้นที่ว่างที่คงอยู่ด้วยกระแสไฟ

    ทุกๆ คนสามารถมีส่วนร่วมในงานเขียนได้ง่ายดาย และสามารถสร้างกระแสความสนใจได้ง่ายขึ้น
    คนหันมาเขียนกันเยอะขึ้น เรื่องราวถูกถ่ายทอดวันต่อวัน ความสำคัญของสิ่งที่อยากจะบอก ค่อนไปในทางสำคัญกับตัวคนเขียนเองเท่านั้น
    เราเขียน แล้วเราก็ไม่เคยง้อใครมาอ่าน เพราะในพื้นที่ว่างแห่งนี้ มีต้นทุนทางการเงินน้อยนิดนัก แต่หนักไปในทางต้นทุนจิตใจมากกว่า
    หนักไปทางระบายออก
    เราไม่สรรเสริญใคร เพียงเพื่อให้ใครมาชอบเราในนั้น และเราไม่เกรงที่จะด่าใคร เหมือนที่ด่าด้วยปากไม่ได้
    เราเป็นในสิ่งที่เราอยากจะเป็นได้มากกว่า คืนวันบนถนนจริง

    เมื่ออยากเขียนก็เขียน อยากเล่าก็เล่า ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ได้ง่ายเพียงนั้น

    นั่นทำให้คุณค่าของงานเขียนลดลงไปหรือเปล่า ?

    หากเปรียบกับในยุคก่อนที่ต้องกรั่นกรองความคิด ภาษา การเผยแพร่ และความถูกต้องในยุคสมัยนั้นๆ ที่อาจถึงขั้นตัดหัวประจานกันได้ กว่าจะได้ตีพิมพ์ออกมา

    แต่ยังไงก็ตามแต่... มันไม่เสมอไปว่า คิดเยอะกว่า จะต้องดีกว่า ขั้นตอนเยอะกว่า อาจทำให้เรื่องบางเรื่องกลายเป็นหมันไปซะด้วยซ้ำ ตัวอย่างที่ขึ้นชั้นไปแล้วคือ พ่อมดน้อยแฮร์รี่ ถูกปฏิเสธโดยสำนักพิมพ์หลายครั้ง ก่อนจะถูกตีพิมพ์ เป็นหนังสือขายดีทั่วโลกทุกวันนี้

    ต้นทุนการตีพิมพ์ที่ยังแพงอยู่ ทำให้นักเขียนหลายรายตายไปก่อนได้เกิด และกระแสสังคมที่ผู้อ่านหันมาใช้ อินเทอร์เนต มากขึ้น ส่งผลให้พนักงานเกือบพันคนของสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ทั่วโลก ต้องถูกปลด

    รูปแบบงานใหม่ที่ต้องการ คือ ส่งงานทาง อินเทอร์เนต -ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ไม่มีที่นั่งประจำตำแหน่ง ไม่มีภาระค่าเดินทาง ไม่มีภาระเรื่องภาพลักษณ์การแต่งตัว ที่ควรจะส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัท แต่ขัดใจพนักงาน ไม่มีกำหนดเวลาที่สร้างความแออัดจำเจ เข้าเช้า – เลิกเย็น

    โลกเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนตาม

    แม้ความเป็นจริง กระดาษ และดินสอจะอยู่ไม่ไกลมือเอื้อมนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไซเบอร์สเปส เข้าถึง - เผยแพร่ได้ง่ายและกว้างขวางกว่า

    ดังและดีเยอะขึ้น ไม่ได้หมายความว่า คุณค่าที่เคยมีอยู่จะลดลง


    คำถามที่น่าสนใจกว่าคือ หากศิลปะที่ดี ควรประกอบด้วย...

    จากคุณ : pingupa - [ 29 มิ.ย. 50 12:33:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom