บางภาพผ่านยังพร่าเลือนอยู่ดี ใบหน้าของผู้คนสวนทางราวกับถูกเซ็นเซอร์ในคุณภาพที่ดีกว่ากองเซ็นเซอร์ของประเทศไทย เพราะผมมองรายละเอียดบนใบหน้าแต่ละคนไม่ออก หูยังได้ยินเสียงชัดเจนดี ใครคุยอะไรกับใครยังพอจับใจความได้ แม้ว่านานๆครั้งจะเหมือนมีเสียงเพลงแทรกเป็นช่วงๆ เสียงคล้ายๆ วิทยุที่จับคลื่นไม่แม่น มีเสียซ่าสาดซัดเป็นระลอก ฟังครั้งแรกค่อนข้างรำคาญ แต่พอฟังนานๆกลับรู้สึกเพลินดีไม่น้อย ดนตรีที่มีโอกาสได้ยินเพียงคนเดียว ลิขสิทธิ์ส่วนบุคคลของใครของมัน
สารภาพตามตรงว่าผมเพิ่งซดเหล้าส่งวิญญาณสหายรายหนึ่งที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ งานศพมันเศร้าเกินไป ผมเลยชวนเพื่อนอีกสามชีวิตไปหาร้านดื่ม ในวงเหล้านับได้สีชีวิต บางช่วงเหมือนมีห้า ชั่ววูบที่นับคนเกินมาหนึ่งคน ผมรู้สึกขนลุกชันและรู้สึกอบอุ่นในเวลาเดียวกัน เพื่อนบางคนยังอยู่ไม่ไกลจากเรา พอผมพล่ามสิ่งที่รู้สึกให้สมาชิกที่เหลือฟัง บางคนว่าขอเลขเด็ดให้เพื่อนหน่อย รวยแล้วจะทำบุญด้วยชีวาสรีกัลไปให้ เพราะตอนนี้มีปัญญาส่งไปให้ได้แค่เหล้าขาว เรียกเสียงฮาครืน บางคนว่าพวกเรารักนาย ถึงนายจะตายเพราะพวกเราชวนมาดื่มเป็นประจำ แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเรารักนาย อีกไม่ช้าพวกเราจะตามนายไป ไม่ทันพร่ำจบ มีใครบางคนถูกถีบร่วงจากเก้าอี้ ผมนั่งสุขและเศร้าไปตามบรรยากาศ ในวงเหล้า ส่วนใหญ่คนพูดน้อยจะเมาเร็ว ได้กำไรมากที่สุด กินได้เยอะ หารเท่ากัน เหล้าส่งวิญญาณไม่ค่อยอร่อย รสชาติกร่อยๆ พวกเราร่วมวงกันจนร้านปิด หลังจากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ทุกคนมีครอบครัวที่ต้องดูแลรับผิดชอบ แม้ว่าแต่ละคนจะทำได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังรับผิดชอบ พวกเขารักลูกและภรรยา ยกเว้นตัวผม
ภรรยาของผมกลายเป็นอดีต ตั้งแต่เธอเก็บข้าวของออกจากบ้านหลังจากแต่งงานได้สามปี ไม่ใช้ใบหย่า จู่ๆก็หายไปเฉย ในคืนนั้น ผมพล่านไปทั่วท้องถนนแถวบ้านเหมือนในคืนนี้ ต่างกันที่คืนนั้น ร้านเหล้าไม่ใช่จุดเริ่มต้นแต่เป็นจุดจบ ส่วนที่คล้ายก็คือเมาหนักจนเบลอพอๆกัน ผมเดินต่อไปไม่ไหวจนต้องอาศัยขอบฟุตบาทกับเสาไฟฟ้าพยุงกาย ทุกสิ่งที่อยู่ในทางเดินอาหารพร้อมปลดปล่อยออกมาได้ทุกเมื่อ ถ้าได้อาเจียนคงสบายขึ้นมาก แต่ผมอายสุนัขที่นอนหลับข้างถังขยะฝั่งตรงข้าม พอผมหยุดชีวิตอยู่นิ่งๆ ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ต้องคิดถึงภรรยาที่จากไปทุกครั้ง มีคิดถึงลูกบ้างแต่ด้วยวันเวลาของความใกล้ชิดเพียงน้อยนิดไม่ทันได้ก่อความผูกพันแบบพ่อกับลูก ผมจึงคิดถึงภรรยามากกว่า เราคบกันมาเก้าปีก่อนแต่งงาน จัดเป็นเวลามากพอดู ไม่น่าจบลงง่ายๆ ความรักเป็นสิ่งล้ำค่า ใช้เวลานานกว่าจะรู้ตัวว่ารักใครสักคน และรู้ว่าใครสักคนรักเรามากขนาดไหน ผมเคยคิดว่าความรักเข้มเแข็งด้วยตัวของมันเอง แต่หลังจากเสวนาและสังเกตชีวิตของมิตรสหาย ผมพบว่าสิ่งที่ทำให้ความรักเข้มแข็งคือความรับผิดชอบที่มีต่อความรัก น่าเสียดายที่ก่อนหน้านั้น ผมมีแค่ความรักเพียงอย่างเดียว
หน้าตาของสุนัขดูคล้ายหัวเราะเยาะผม หลังจากได้ปลดปล่อยบางอย่างลงท่อระบายน้ำ ผมโล่งขึ้นเยอะ ภาพต่างๆเริ่มมองเห็นชัดเจน ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม ปล่อยความคิดไปเรื่อยๆ บางครั้งหยิบกระเป๋าเงินนับจำนวนเงินในกระเป๋า ช่วยงานศพสองพัน หารค่าเหล้าแปดร้อยสามสิบสอง ทิปเด็กเสิร์ฟอีกห้าสิบ ผมช่วยงานศพไปเยอะ สงสารภรรยาของเพื่อนคนที่ตาย ยังดูสาวและยังดูสวย อีกไม่นานคงได้พบรักและสร้างครอบครัวใหม่ ขออวยพรให้ภรรยาของเพื่อนมีความสุข ขอให้ภรรยาของผมกลับมา
ส่วนหนึ่งในความคิดปฏิเสธคำขอร้องของผม มันด่าทอว่าจะเอาเธอกลับมาเพื่อเผชิญสิ่งธรรมดาที่เธอต้องตัดใจหนีไปโดยไม่บอกกล่าวอีกหรือ นับจากวันนั้นถึงวันนี้ มีอะไรที่ตัวผมเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ยังออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้าตรู่แล้วกลับดึกดื่นพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ไม่เคยนึกถึงวันครบรอบแต่งงาน วันเกิดของเธอ ไม่เคยนึกอยากพาเธอไปกินข้าวนอกบ้าน ไม่เคยนึกอยากพาเธอไปดูหนัง บางวันแม้อยากมีเซ็กซ์กับเธอ แต่กลับพาตัวออกไปคว้าเด็กวัยรุ่นใจแตกเข้าโรงแรม สมัยเป็นแฟน เราชอบที่เราต่างคนต่างเป็นตัวของตัวเอง ผมชอบเที่ยวเตร่เฮฮากับเพื่อนฝูง เธอชอบเข้าห้องสมุดอ่านหนังสือเงียบๆ พอระยะทางระหว่างเราใกล้กันได้มากขึ้น ผมเคยคิดว่าเรายังสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เหมือนก่อน เธอรักและชอบตัวของผมคนก่อน แต่ลืมคิดว่าตัวผมเองก็ไม่ใช่คนก่อนแล้วเช่นกัน เธอทิ้งตัวเองบางส่วนเพื่อให้ชีวิตกับผม ส่วนผมไม่เคยทิ้งอะไรไปเลย
แสงจากหลอดไฟข้างทางกระพริบริบหรี่ คำขอสุดท้ายในคืนนี้ ไม่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผมคิดสำนึกตัว
ขอให้ภรรยาของผมมีความสุขมากๆ
รถแท็กซี่ตอนกลางคืนหายาก ส่วนใหญ่เกลียดคนเมา คนขับรายหนึ่งเล่าว่าค่ารถไม่คุ้มค่าทำความสะอาด ผมถึงพลาดรถแท็กซี่เป็นคันที่ห้า จนกระทั่งคันทีหกถึงจอด แต่จอดเลยผมไปราวสองเมตร หญิงสาวรูปร่างเพรียวแต่งตัวด้วยเสื้อยืดและกระโปรงยีนส์สั้นเข้ารูปเตรียมก้าวขึ้นรถ น่าแปลกใจที่เธอพยักหน้าและกวักมือมาทางนี้ ผมเหลียวซ้ายแลขวาสองสามทีไม่เห็นใคร
คุณนั่นแหละมาเถอะ เธอตะโกนเรียก
ผมแปลกใจนิดหน่อย แล้วก้าวตามขึ้นรถแท็กซี่โดยดี เธอบอกคนขับว่าหลังจากส่งเธอแล้วให้ส่งผมตามที่ผมบก คนขับรับคำสั้นๆ ดูท่าเธอจะใช้บริการแท็กซี่คันนี้เป็นประจำ และในเวลาแบบนี้ด้วย หลังจากนั้นเธอเอาแต่เช็ดเครื่องสำอางค์ ผมนั่งนิ่งไม่ได้ถามอะไร เพราะอย่างน้อยก็ได้กลับบ้านแล้ว
คุณไปนั่งทำอะไรอยู่ริมฟุตบาทตั้งสองชั่วโมง ? เธอเพิ่งพูดกับผม ขณะกำลังง่วนกับการรวบผมให้เรียบร้อย
ดูเอาก็น่าจะรู้นะครับ คนเมา ผมตอบ
อือ ดูแล้วก็ว่าใช่นะ ไม่น่าคิดเป็นอย่างอื่น เธอหยิบแว่นขอบบางทรงกลมสวม
คุณเห็นผมตลอดเวลาเลยเหรอ
ชั้นสามคอนโดฝั่งตรงข้าม ฉันไม่ได้มองคุณตลอดหรอก แค่ตอนเข้าไป ตอนมองออกมา แล้วก็ขากลับมาขึ้นแท็กซี่ ฉันเห็นคุณพลาดแท็กซี่ไปสี่ห้าคัน ดูน่าสงสารเลยชวนไปด้วยกัน ..
แปลว่าคุณใช้บริการแท็กซี่คันนี้ประจำหรือครับ ?
เรียกไว้ประจำเลยล่ะ ลุงเขาใจดี ไว้ใจได้ ปลอดภัยหายห่วง คุณเอาเบอร์ลุงไว้ไหม เพื่อฉุกเฉินแบบนี้ ลุงเขาไม่รังเกียจคนเมาหรอก
คนขับแท็กซี่หันมายิ้มแล้วบอกว่า ยกเว้นคืนวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร ศุกร์ เสาร์ นะครับ คุณหนูเขาจองตลอด แต่ถ้าก่อนเที่ยงคืนก็โอเค ..
ก็ดีเหมือนกัน ขอบคุณครับ
เธอหยิบเศษกระดาษจดหมายเลขโทรศัพท์ยัดลงกระเป๋าเสื้อผม
คุณชอบชวนคนอื่นขึ้นแท็กซี่คันเดียวกันบ่อยไหมครับ ? .. ผมถามเธอเพราะอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงเรียกผมขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าชอบหรอก ฉันเรียกเฉพาะคนที่ดูหมดหนทางแล้วจริงๆ อีกอย่างถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ลุงช่วยฉันได้อยู่แล้ว คนที่ฉันเรียกขึ้นมาเป็นคนสุภาพทั้งนั้น และคนนิสัยแบบนี้ส่วนมากจะน่าสงสารเพราะเป็นพวกที่โดนสังคมกดขี่ข่มเหงจนหมดทางไป
ผมดูเป็นแบบนั้นหรือครับ ? ..
ไม่หรอก คุณดูน่าสงสารกว่านั้น เป็นพวกกลับบ้านไม่ได้ แย่ที่สุดคือถูกแท็กซี่รังเกียจ ..เอ่อ อีกอย่างฉันชอบเก็บสุนัขที่ถูกทิ้งมาเลี้ยง
ผมเห็นลุงคนขับแอบขำ แล้วนึกว่าผมดูย่ำแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ แต่คิดไปคิดมา ผมก็ถูกทิ้งและสมควรโดนทิ้งจริงๆ
ประโยคหลังฉันพูดเล่นนะอย่าคิดมาก มันไม่มีอะไรมากหรอกที่รับคุณขึ้นมา ก็แค่น้ำใจของคนไทยด้วยกัน แล้วก็เผื่อว่าบังเอิญได้ลูกค้าเพิ่ม
ลูกค้า ? ..
คุณอย่าทำเป็นโง่ไปหน่อยเลยน่า ผู้หญิงดีๆใครเขาจะกลับบ้านเกือบตีสี่ ที่ฉันมาแถวนี้เพราะฉันมาทำงาน เธอหันไปทางหน้าต่าง ไม่มองหน้าผมอีก
ครับ ผมเข้าใจ แต่น่าเสียดายที่นี่ก็ใกล้สว่างแล้ว อีกอย่างคือ ผมไม่มีอารมณ์
เพิ่งมีคนพูดแบบนี้ล่ะนะ แต่งงานแล้วหรือยังคะ ?
แต่งแล้วครับ แต่ตอนนี้แยกกันอยู่
เหรอน่าเศร้านะคะ แต่ยังดีนะที่มีช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้รัก ได้ถูกรัก ได้แต่งงาน ได้อยู่ด้วยกัน แม้ว่าจะถูกทิ้งก็ยังมีภาพวันเวลาดีๆของคนรักให้นึกถึง
น้ำเสียงของเธอฟังดูจริงจัง เสียงคลื่นซ่าในหูยังมีอยู่ ผมฟังไม่ค่อยชัดนักแต่พอจับใจความได้ว่า เธอกำลังปลอบผม แต่ส่วนหนึ่งกลับฟังคล้ายการปลอบใจตัวเอง
บางคน ได้รัก ไม่ได้ถูกรัก ไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และยังถูกทิ้ง แบบนี้น่าเศร้ากว่ากันเยอะ
สุนัขถูกทิ้งมันก็แบบนี้แหละค่ะ รอกินแต่เศษเหลือๆ บางวันก็ไม่ได้กินอะไร หิวโหยไปวันๆ น่าสงสาร .. เธอเงียบไปพักหนึ่งแล้วหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ใส แต่ก็
อิสระดีนะ ที่ได้หาข้าวกินเอง
ผมไม่ได้เสนอความเห็น ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเรื่องของเธอเอง หรือ เรื่องของสุนัขถูกทิ้ง
..ฉันชอบสังเกตพฤติกรรมสุนัขถูกทิ้งเปรียบเทียบกับสุนัขที่มีเจ้าของ คิดว่าจะเอาไปทำวิทยานิพนธ์ หัวข้อแปลกดีนะ แต่สงสัยอาจารย์จะไม่ให้ผ่าน
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
29 มิ.ย. 50 23:59:23
]