แด่.... ผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
โดย
.. Sprirulina
ค่อย ๆ กินนะลูก น้ำแกงร้อน เดี๋ยวจะลวกถูกปาก
ประโยคที่ฟังนุ่มนวล แต่เปี่ยมด้วยความห่วงใย แฝงไว้ด้วยความอาทรที่ยิ่งใหญ่
ภาพของสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่กำลังดูแลลูกชายวัยมัธยม รับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ใน Food Court
ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะว่าเด็กชายคนนั้นเป็นลูกแหง่ พลันที่ผู้เขียนเหลือบตามองไปที่แม่ลูกคู่นั้น
จึงเข้าใจถึงความห่วงใย ภาพเด็กชายที่พิการทางสายตาค่อย ๆ บรรจงตักก๋วยเตี๋ยวเข้าปากอย่างชำนาญ และระมัดระวังตามคำที่แม่พร่ำบอก
ถึงกับน้ำตาซึม ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก จึงถือวิสาสะนั่งมองดูแม่ลูกคู่นั้นอยู่นาน รอยยิ้มอิ่มอุ่นในใจ
ปรากฏออกมาฉาบทั่วใบหน้า และแววตา
พาลให้คิดถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก ภาพความทรงจำนั้นกลับมาเหมือนกับกระจกเงาสะท้อนให้ดูอีกครั้ง นั่งอึ้งไปอยู่นานจนเกิดคำถามกับตัวเองว่า
.. เรานั่งกินข้าวกับแม่ครั้งส่าสุด เมื่อไหร่ ?
..... เรานั่งคุยกับแม่ครั้งหลังสุด นานเท่าไหร่ ?
หากคุณลองคิดให้ดี ๆ ในโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้ ยังมีใครคนหนึ่งที่กำลังคิดถึงคุณอยู่
..... คนที่ไม่เคยคิดว่าคุณโตแล้ว เฝ้าคอยห่วงใยคุณอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะสนใจหรือไม่ .....
..... คนที่ปราถนาที่จะเห็นคุณมีแต่ความสุข ความเจริญ .....
..... คนที่เจ็บปวดยามที่คุณเป็นทุกข์ แต่เวลาที่คุณเป็นสุขมักจะมองข้าม .....
..... คนที่ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากคุณ แต่เป็นผู้ให้ได้ตลอดชีวิต .....
..... คนที่พร้อมที่จะให้อภัยคุณ ไม่ว่าคุณจะผิดจะพลาดเพียงใด .....
คนที่ทำได้ขนาดนี้ มีอยู่คนเดียวเท่านั้น นั่นคือ แม่
ในชีวิตของคุณที่ต้องรีบเร่งทำงานแข่งกับเวลา แข่งกับคนรอบข้าง รวมทั้งแข่งกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณมักจะหลงลืมคน ๆ หนึ่งที่มีความสำคัญกับคุณ ไม่แพ้งานที่คุณทำอยู่ก็ได้
คุณเคยอยู่บ้านเฉย ๆ โดยไม่ออกไปไหนสัก 3- 5 วันบ้างไหมคะ ?
คงเบื่อเพราะไม่รู้ว่าวัน ๆ จะทำอะไร เนื่องจากส่วนใหญ่แล้ววันหยุดของคุณ ๆ มักจะออกไปหาความสำราญนอกบ้าน หรือถ้าอยู่บ้านก็จะนอนพักผ่อนเรียกพลังกลับคืน ลองมองย้อนในทางกลับกัน แม่ของคุณอยู่บ้านคนเดียวมานานเท่าไหร่แล้ว ทำไมท่านไม่เคยเห็นบ่นว่าเหงา
หรือเรียกร้องให้คุณพาท่านไปไหนต่อไหน ตรงกันข้ามท่านกลับมีความสุขที่จะได้อยู่บ้าน เตรียมของอร่อย ๆ ที่คุณชอบ รอเวลาที่คุณกลับมาบ้าน เฝ้ามองคุณนั่งเอร็ดอร่อยกับจานโปรด คอยถามว่า อร่อยไหม ? ตักข้าวเพิ่มไหม ? พร้อมทั้งนั่งฟังเรื่องราวต่าง ๆที่คุณได้เจอมาทั้งวันอย่างที่เรียกว่า ไม่มีใครไหนโลกนี้ที่จะใส่ใจสิ่งที่คุณพูดมากเท่ากับท่านอีกแล้ว แต่ภาพเหล่านี้กำลังจะหายไป พร้อมกับความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ที่คุณพยายามสร้างเป็นกรอบกั้นตัวเองกับท่านให้ห่างไปทุกที ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัว
คนที่เป็นแม่ทุก ๆ คนปราถนาอยากจะเห็นลูกมีความสุข โดยไม่เคยหวังผลตอบแทน แม่คนเดียวสามารถที่จะเลี้ยงลูกตั้ง 4- 5 คนได้ แต่น่าแปลกที่พอลูก ๆเติบโตขึ้นมา กลับไม่สามารถดูแลแม่เพียงคนเดียวได้ ปล่อยให้ท่านต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว อ้างว้าง
ปราศจากคนดูแล ซึ่งมีมากเหลือเกินในสังคมบ้านเรา หากคุณมีครอบครัว และมีลูกน้อยที่คุณต้องเลี้ยงดู คุณคงปฏิเสธไม่ได้ที่จะบอกว่า คุณเองก็คาดหวังกับลูก ๆ ของคุณที่จะดูแลคุณเมื่อยามที่คุณแก่เฒ่าเช่นกัน
กอดอุ่น ๆ หรือคำพูดดี ๆ หรือเวลาที่ใช้กับท่านบ้างในแต่ละวัน คงเป็นยาอายุวัฒนะให้กับท่าน มากกว่าอาหารราคาแพง หรือบ้านหลังโต แต่ปราศจากคนดูแล ในวัยของท่านได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก
คงมีเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีคุณค่าที่จะช่วยประเทืองปัญญา หรือเป็นมุมมองใหม่ ๆ ให้กับชีวิตคุณ เพียงแต่คุณมองข้าม ไม่เห็นความสำคัญคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่น่าสนใจ สู้เอาเวลาไปเที่ยวหย่อนใจนอกบ้านกับเพื่อน ๆ ไม่ได้
เคยมีเพื่อนคนหนึ่งของผู้เขียน ได้สูญเสียแม่ไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พอมีโอกาสได้มานั่งคุยกันตามประสาเพื่อนสนิท เพื่อนคนนี้ก็ได้เปรยออกมาทั้งน้ำตาว่า ทำไมแม่จากไปเร็ว ยังไม่ทันได้ทำอะไรให้แม่ชื่นใจเลย เนี่ย ! กะเอาไว้ว่าจะพาแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนอกกับแม่เลย คิดเอาไว้ว่าจะเที่ยวกันให้สนุก แม่ก็มาด่วนจากไป ผู้เขียนได้ฟังก็มานั่งคิดว่าในชีวิตคนอีกหลาย ๆ คน อาจจะมองข้ามสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเรา นั่นก็คือ แม่ นั่นเอง พอรู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้ว และไม่มีทางที่จะย้อนเวลากลับมาได้
หากตอนนี้คุณอยู่ใกล้ ๆ ท่าน ลองมองดูผู้หญิงที่ตรงหน้าคุณ ผมสีดอกเลา ใบหน้าที่มีริ้วรอยแห่งประสบการ์ณ ค่อย ๆ ทำอะไรอย่างเชื่องช้า แต่แฝงไว้ด้วยความรอบคอบ ขอให้คุณรู้ไว้ด้วยว่าท่านกำลังรอความห่วงใย และความเอื้ออาทรจากคุณอยู่ อยากให้คุณเดินเข้าไปหาท่าน กอดท่าน กราบท่าน แล้วบอกว่าคุณรักท่านมากแค่ไหน ก่อนที่เวลาของท่านจะหมดไป แล้วคุณจะต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
จากคุณ :
นายสี่ตา
- [
1 ก.ค. 50 19:55:57
]