Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    *-* เรื่องสั้นชุด "อยากให้โลกนี้ไม่มีผี" ตอน ถึงตายเป็นผี พี่ก็ยังขี้เล่น *-*

    ท้องฟ้าในยามนี้มืดสนิท พระจันทร์หนีหายไปไหนไม่รู้ คาดว่ามัวแต่ไปลั่นป้ออยู่ที่ไหนสักแห่ง ทิ้งให้ผืนฟ้าถูกดวงดาวมากมายจับจองเพื่อส่องประกายวิบวับหยอกล้อกัน มีบางดวงซ่าหน่อยก็ท้าเพื่อนเล่นตี่จับบ้าง โปลิศจับขโมยบ้าง ตั้งเตบ้าง ส่วนดาวดวงที่ทันสมัยหน่อยก็ท้าเพื่อนว่า วินนิ่งมั้ย สาดดด แล้วก็พากันไปที่ดาวพี 2 หลังทางช้างเผือก

    มองเลยลงมาทางเบื้องล่าง ความมืดปกคลุมถนนทางเข้าหมู่บ้านที่เป็นลูกรังสีแดง จนกลายเป็นสีแดงเข้มราวกับลำธารเลือด ซึ่งถ้าลำธารนี้มีจริงๆ ร้านลาบคงประหยัดเงินซื้อวัตถุดิบทำซกเล็กกันไปหลาย ต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่นิยมนอนดึกตอนนี้หลับคอพับคออ่อนไปตามๆ กัน ความเงียบที่มาคู่กับความมืดถอนใจค่อยๆ เหมือนเสียงลมหวิว แล้วคืบคลานเข้ามาจนเต็มพื้นที่

    แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงอ้อแอ้แบบคนเมาหลายคนดังแหวกอากาศเข้ามา ไล่ความเงียบจนกระเจิงกระจาย

    ต้นไม้หลายต้นถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วก็นึกด่าแม่ไอ้พวกขี้เมาอยู่ในใจ

    เสียงร้องเพลงที่ดังขึ้นนั้น แม้แต่คนหูหนวกมาฟังก็คงต้องบอกว่าหนวกหูเหลือทน พอจบเพลง คนร้องเพลงก็ร้องตะโกนถามเพื่อน ทั้งๆ ที่ก็อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละ ไม่รู้จะตะโกนทำไม

    “เป็นงายวะพวกเอ็ง ข้าร้องเพลงเพราะม้ายยย” เจ้าคนที่ถามชื่อบุญยงค์ ผู้ชนะตำแหน่งขี้เมาประจำหมู่บ้านสามสมัยรวด จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครล้มแชมป์ได้

    “ใช้ด้ายๆ เสียงดีกว่าไอ้ดำบ้านข้าอีก” เพื่อนของบุญยงค์ที่ชื่อทองสุขตอบเสียงอ้อแอ้ หมอนี่คือรองขี้เมาอันดับหนึ่งสองสมัย

    “ขอบจายเพื่อน” บุญยงค์ยิ้มแก้มปริ แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ “แต่ว่า.. เอ๊ะ อ้ายดำของเอ็งนี่ มันเป็นหมาม่ายช่ายเหรอว้า”

    “ก็ช่ายน่ะสิ” ทองสุขหลับหูหลับตาตอบ “เสียงเอ็งเพราะกว่าตอนมันหอนตั้งเยอะนาว้อยยย”

    ขาดคำ ทองสุขก็เซถลาลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นด้วยแรงส่งจากเท้าของบุญยงค์

    “อ้ายเวร เอาคนไปเปรียบกับหมาด้ายยย” พูดแล้วก็ทำท่าจะเตะซ้ำอีกครั้ง

    “อย่าๆ อย่าไปทำมัน” เอกชัย ขี้เมามือใหม่ผู้กำลังพยายามไต่อันดับรีบเข้ามาห้าม “เอ็งน่าจะดีใจนะ”

    “ดีใจทำไมวะ มันเอาข้าไปเปรียบกับหมานา”

    “ก็ถ้ามันบอกว่าเสียงเอ็งเพราะสู้เสียงหมาไม่ได้ จะไม่ยิ่งหนักกว่าเหรอวะ” เอกชัยชี้แจง

    บุญยงค์นิ่งคิด แล้วก็ยิ้มออกมาได้

    “เออ จริงด้วย”

    แล้วบุญยงค์หันไปมองทองสุขซึ่งนั่งอยู่ที่พื้น มือก็ควานหาขวดเหล้าของตัวเองที่ตกหายไป ขี้เมาพวกนี้นี่มีเหล้ากันคนละขวด ไม่แย่งกัน

    “อ้าว แล้วเอ็งไปนั่งทำอารายอยู่ที่พื้นน่ะเพื่อน เปื้อนหมด”

    “ไม่รู้เหมือนกันว่ะ รู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆมาโดนสะโพก แล้วข้าก็หกล้มลงมานั่งตรงนี้” ทองสุขตอบ ยังคงควานหาขวดเหล้าต่อไปอย่างอุตสาหะ

    เอกชัยหัวเราะก้าก “ไอ้เวร เมาจนไม่รู้เรื่องทั้งคู่ ทั้งไอ้คนถีบแล้วก็ไอ้คนโดนถีบ มาๆๆ ลุกขึ้นๆ”

    เอกชัยฉุดทองสุขลุกขึ้น แล้วทำท่าจะเดินต่อ แต่บุญยงค์ฉุดเอาไว้

    เอกชัย “อะไรอีกล่ะเอ็ง”

    “รอเดี๋ยว รู้สึกว่าธรรมชาติแถวนี้มันเหมาะแก่การเยี่ยวเหลือเกิน รอแป๊บนึงวะ”

    เอกชัยพยักหน้า

    “เออๆ เอ็งรีบไป ข้าสองคนรอตรงนี้แหละ”

    บุญยงค์เดินโซเซเข้าไปในแนวต้นไม้ข้างทาง มุ่งหน้าไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง พอถึงก็เอามือข้างหนึ่งยันต้นไม้ไว้ อีกข้างหนึ่งควักเอาอุปกรณ์ส่วนตัวออกมา แล้วฉี่อย่างสบายใจ

    “เฮ้อ สุขใดไหนเท่า เวลาอยากเยี่ยวแล้วได้เยี่ยวเนี่ย”

    แล้วก็มีเสียงดังลั่นมาจากต้นไม้ต้นที่บุญยงค์กำลังฉี่อยู่นั่นแหละ

    “เฮ้ย! อะไรวะ อยู่ดีๆมาเยี่ยวรดกันได้!!!”

    บุญยงค์สะดุ้งโหยง ลืมตาขึ้นมาหันซ้ายหันขวามองหาเจ้าของเสียง

    “เสียงหมาที่ไหนวะ"

    “ไม่ใช่หมา!! เสียงกรูเอง ผี! ไม่ใช่หมา!!!” พูดขาดคำเจ้าของเสียงก็ลุกพรวดขึ้นมายืนประจันหน้ากับบุญยงค์ในระยะใกล้ชิด

    เจ้าของเสียงนั้นรุ่นราวคราวเดียวกับบุญยงค์ แต่เห็นที่ไหนก็ต้องรู้ว่าเป็นผี! ไม่ใช่คน เพราะหัวกระโหลกแกเล่นเปิดไปข้างหนึ่ง เลือดไหลย้อยลงมาถึงคาง นัยน์ตาข้างหนึ่งหลุดห้อย แถมยังมีแผลถลอกปอกเปิกจนทั่วตัวอีกต่างหาก

    บุญยงค์ตาเหลือก หายเมาเป็นปลิดทิ้ง เขาหันหลังกลับแล้ววิ่งไปพลางพร้อมทั้งรูดซิปกางเกงไปพลาง

    “อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด!! ผีหลอก!! ช่วยด้วย เจ้าข้าเอ๊ย ผีหลอก”

    ที่ริมถนน เอกชัยกับทองสุขได้ยินเสียงบุญยงค์ จึงมองหาด้วยความสงสัย

    “ไอ้ยงค์มันเป็นอะไรของมันวะ ร้องยังกับหมูถูกเชือด”

    “ข้าว่า เหมือนกะเทยถูกเชือดมากกว่าว่ะ” ทองสุขให้ความเห็น

    บุญยงค์วิ่งเข้ามาหยุดที่เพื่อน แล้วหอบแฮ่กๆ เหมือนหมาหอบแดด

    “เป็นอะไรไปวะเอ็ง” เอกชัยถาม

    “ผะ ผะ ผะ ผี... ผีหลอก ผีหลอก”

    “ผีที่ไหนมีวะ” ทองสุขมองไปทางที่บุญยงค์วิ่งมา ข้าไม่เห็นสักตัว”

    ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะเยาะบุญยงค์

    “เอ็งมันเมาแล้วเพี้ยน” เอกชัยยกขวดเหล้าชูขึ้น “ถ้าผีมาจริงๆก็ดีน่ะสิ จะได้ชวนกินเหล้าเสียเลย”

    ที่ด้านหลังของเอกชัยและทองสุข ผีตัวเดิมที่อยู่ที่ต้นไม้ค่อยๆ ปรากฎตัวขึ้นมา บุญยงค์เห็นเข้าก็ตาเหลือก

    “นะ นะ นะ นั่นไง ข้างหลัง! ข้างหลัง!”

    ผีชะโงกหน้าเข้ามามองยี่ห้อที่ขวดเหล้า

    "ไหนๆ ใครจะชวนกินเหล้า เออ ดี แหม เหล้ายี่ห้อนี้ไม่เคยกินเสียด้วย”

    เอกชัยกับทองสุขค่อยๆ หันไปมอง แล้วพอเห็นผีเต็มๆ ก็ร้องลั่น

    “ผีหลอก!!!!!! โว้ย ผีหลอก!!!!!!”

    พอร้องจบ ทุกคนก็นิมนต์หลวงพ่อโกยวัดป่าราบลงมาประทับ แล้ววิ่งกันไปคนละทางสองทาง ทิ้งให้ผีกระโหลกเปิดมองตามพร้อมกับยิ้มขำๆ

    “อ้าว จะรีบไปไหนกันล่ะน่ะ ชวนกินเหล้าดีๆ หนีซะแระ”

    แล้วผีตนนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไปในอากาศ ทิ้งให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมพื้นที่บริเวณนั้นต่อไป

    (ยังมีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 11:48:01

    จากคุณ : @ฟ้าหม่นไปใกล้ย่ำค่ำ@ - [ 3 ก.ค. 50 10:34:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom