Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    *** 22.05 น. เมืองหลวงยังคงมีฝนตกหนัก ***

    วันนี้ …22.05 น. ผู้ชายสองคน ณ เคาน์เตอร์บาร์รีโทร

    ผมลากตัวเพื่อนสนิทออกจากบ้านประมาณสี่ทุ่มเพื่อประกอบพิธีการสำคัญ เสียงแก้วเหล้าเคาะกันเบาๆไพเราะน่าฟัง  วินาทีที่ขอบแก้วสัมผัสกันเหมือนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีไว้เพื่อปัดเป่าสามัญสำนึกของผู้ดื่ม ปลดเปลื้องตัวเองจากกรอบมายา  คงไว้เพียงสัญชาติญาณและความรู้สึกที่ติดแสดงออกมาจากวิญญาณ    ตั้งแต่สามทุ่มครึ่งเราสองคนชนแก้วกันนับครั้งไม่ถ้วน ณ เคาน์เตอร์บาร์ชื่อรีโทร   จนตอนนี้สี่ทุ่มห้านาทียังไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากของเราทั้งคู่  ผมดื่มมากกว่าเขา  ส่วนเขาค่อยๆจิบทีละนิด  

    “ ทำไมดื่มน้อยจัง บอกแล้วไงวันนี้เราเลี้ยง ”

    “  เดี๋ยวไม่มีใครขับรถกลับบ้าน ..” เพื่อนผมตอบ

    “  ช่างเถอะ  เรียกแท็กซี่ก็ได้ ”

    “ ไม่ต้องหรอก ดื่มไปเถอะ ฉันจะไปส่งนายเอง ”

    เพื่อนของผมนิ่งนิดหนึ่ง กรอกเหล้าที่เหลือลงคอจนเกลี้ยง หลังจากกระแทกแก้วเปล่าลงบนเคาน์เตอร์บาร์  แล้วมองหน้าผมนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ผมไม่มองหน้าเขาพลางเทเหล้าดื่มอีกแก้ว  มือของเขาสัมผัสไหล่ของผม ลูบไล่ลงมาตามแผ่นหลัง แล้วบอกว่า

    “ มีอะไรก็เล่ามาเถอะเพื่อน ”

    ผมชะงักแก้วก่อนเข้าปาก  วนแก้วเหล้าไปมา ทอดสายตามองน้ำแข็งที่กำลังละลาย  

    “ ขอให้ทุกอย่างเป็นความลับ เกิดขึ้นและจบลงในคืนนี้ ..” ผมบอก

    “ แน่นอน ทุกอย่างจะเป็นความลับเหมือนเคย เพื่อนเกลอ ”

    พอเพื่อนของผมรับคำ ผมจึงกรอกเหล้าลงคนจนเกลี้ยง  พักการดื่มสักครู่  แล้วเริ่มต้นเล่าบางสิ่งที่ตกค้างในความรู้สึกจากการได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง  เมื่อสองวันก่อน  ตอนที่ผมกำลังออกจากร้านอาหารญี่ปุ่นในศูนย์การค้า  หญิงสาวคนนั้นเคยอยู่ในความหลังของผม ณ ช่วงเวลาส่วนหนึ่ง เป็นส่วนที่ไม่มาก แต่กลับจดจำไม่รู้ลืม

    “ คืนนั้นเป็นคืนฝนตก   เราได้พบกับ  เรน  ไม่ใช่ Rain ที่แปลว่าฝน แต่เป็น Rain ที่เป็นความรักครั้งแรก ”  


    สองวันก่อน … 21.30 น. เมืองหลวง…ฝนตกหนัก…

    เสียงฝนพรำไม่มีทีท่าจะจบสิ้น ผมได้แต่หวังว่าคงจะเบากำลังลงบ้างเมื่อถึงเวลาปิดห้าง  เทมปุระกุ้ง เกี๊ยวซ่า และ เบียร์อาซาฮี กินเข้ากัน  ทั้งหมดเป็นเมนูอาหารฆ่าเวลา ช่วยประทังให้ท้องอิ่มแบบพร้อมที่จะหิวในเวลาไม่นาน  วันนี้ผมสัญญากับภรรยาว่าจะไปกินอาหารเย็นที่บ้านด้วยกัน  ผมแวะร้านดอกไม้ในห้างใกล้ที่ทำงาน เพื่อรับช่อดอกไม้ที่โทรสั่งไว้ตอนเที่ยงๆ  เตรียมพร้อมเป็นของขวัญให้ภรรยา  ไม่ใช่โอกาสพิเศษอะไรหรอก  ผมแค่อยากเห็นรอยยิ้มเวลาเธอดีใจ   ขณะหอบช่อดอกไม้เก็บในรถ  สายฝนก็เทลงมาชนิดมองไม่ลืมหูลืมตา  หน้าห้างมีอุบัติเหตุรถชน  ผมจึงตัดสินใจโทรบอกภรรยาว่าติดฝน แล้วมานั่งฆ่าเวลาในร้านอาหารญี่ปุ่น

    ผมกับภรรยาแต่งงานกันได้สี่ปี  เราพบกันครั้งแรกในร้านอาหารญี่ปุ่นแต่ไม่ใช่ที่นี่ เธอเป็นลูกค้าของบริษัทและผมถูกวางตัวให้คอยรับรองลูกค้า  เพราะอย่างนั้น เราจึงได้พบกันบ่อยครั้ง  ความผูกพันค่อยๆก่อตัวขึ้นตามลำดับ  จนวันที่ผมสิ้นสุดภาระกิจผู้รับรอง  ผมจึงตัดสินใจขอคบกับเธอ ซึ่งมีเพียงข้อความส่งผ่านเอสเอ็มเอสตอบกลับมาว่าตกลง  เราคบกันอีกไม่นานจึงตัดสินใจแต่งงาน เรื่องราวต่างๆลงตัวตามขั้นตอน จะเหลือก็แต่การผลิตทายาทสืบสกุลซึ่งเธอให้ชลอไว้ก่อนเพราะยังไม่พร้อมจะดูแลเด็กเล็กๆ  ชีวิตแต่งงานของเราอบอุ่นดี เราคุยกันแทบทุกเรื่องราว  ไม่เคยปิดบังสิ่งใดต่อกัน เพราะว่า เรารู้ใจกันจนปิดเรื่องโกหกไว้ไม่มิด อีกฝ่ายจะต้องเห็นพิรุธแล้วถามไถ่ทุกครั้ง  เธอเคยพยายามปิดบังผมเรื่องทำแหวนหมั้นหาย  แต่สักพัก ผมก็รู้จนได้เพราะว่า เวลาเธอไม่สบายใจจะชอบรวบผมเปิดหน้าผากกว้าง ผิดกับเวลาปรกติที่มักจะปล่อยเส้นผมปรกหน้าผาก  นึกแล้วก็ขำดีเหมือนกัน


    สองวันก่อน  22.05 น. เมืองหลวง…ฝนยังคงตกหนัก แต่พอมองเห็นท้องถนน

    ลานจอดรถชั้นบนสุดเหลือรถจอดบางตา  ผมหิ้วกล่องข้าวปั้นหน้าปลาดิบเดินผิวปากไปที่รถอย่างเพลิดเพลิน ในใจคิดถึงใครบางคนที่บ้าน ไม่รู้ป่านนี้หลับไปหรือยัง  ผมโทรไปบอกเธอว่าถ้าง่วงก็ให้เข้านอนก่อน  แล้วให้กินข้าวเย็นก่อนได้เลย  เธอรับคำแล้วบอกให้ผมขับรถกลับบ้านอย่างปลอดภัย

    .รถคันหนึ่งเบรกสุดตัว เสียงล้อเสียดสีพื้นถนนดังลั่นลานจอดรถพริบตาหนึ่ง ข้าวปั้นหน้าปลาดิบหกเรี่ยราด  ตัวผมทรุดลงไปกองกับพื้นจนเห็นสัญลักษณ์ยี่ห้อรถชัดเจน  

    “ ขอโทษค่ะ …ขอโทษค่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ ”

    เจ้าของรถรีบมาพยุงตัวผมขึ้น ท่าทางดูสำนึกผิดเต็มที่  ผมยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    “ เป็นไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า ไปโรงพยาบาลไหมคะ ” คู่กรณีพูดซ้ำๆอย่างนั้นหลายครั้ง  

    “ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน อีกอย่างหนึ่งผมเดินไม่ระวังเอง” พอตั้งสติได้  ผมบอกคู่กรณีตามที่รู้สึก ไม่อยากเสียเวลาไปโรงพยาบาลอยากรีบกลับบ้านมากกว่า
    “ ไม่ใช่หรอกค่ะฉันผิดเอง  ฉันคุยโทรศัพท์เพลินไปหน่อย เลยไม่ได้ระวัง”

    “ อย่าคิดมากเลยครับ นี่ก็มืดแล้ว ผมว่าคุณกลับบ้านดีกว่า ”  ผมพยายามตัดบท พลางปัดฝุ่นตามตัว  ลูบหน้าลูบตา เสยผมให้เข้าที่เข้าทาง

    คู่กรณีของผมเงียบลง

    “ เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าคะ ? ”  


    ผมเหลือบมองคู่กรณีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า  เธอค่อนข้างโฉบเฉี่ยวไม่เบา  หญิงสาวร่างสูงเพรียว มีเนื้อหนังในบริเวณที่ควรมี เธอสวมเสื้อลายตาหมากรุกแขนกุด  กางเกงสีขาวขาสั้นจนเผยช่วงขาเรียวสวย  ปล่อยผมยาวดูยุ่งๆนิดหน่อยแต่ดูเข้าท่า ดวงตาสวยซึ้งกินใจ  ในความทรงจำของผม ไม่เคยมีใครที่ลักษณะแบบนี้  แต่เสียงหัวใจที่กำลังสะเทือนไหวไม่หยุดกลับเป็นความรู้สึกที่แสนคุ้นเคย แม้ว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปนานมากแล้วแต่หัวใจผมยังไม่ลืม

    “ เรน … ”

    สองวันก่อน  22.35 น. เมืองหลวง  ภายนอกบาร์ชื่อรีโทร สายฝนไม่อ่อนกำลังลงสักนิด

    เรนชวนผมหาที่นั่งคุยกัน ความจริง ผมควรปฏิเสธแล้วขอเบอร์เธอไว้ค่อยโทรคุยกันวันหลัง ผมควรรีบกลับบ้านไปหาภรรยา แต่กลับตอบตกลง แรกผลักดันบางอย่างทำให้ผมตอบตกลงทันที  ผมทิ้งรถเอาไว้ แล้วขึ้นมาสด้าทรีที่เกือบจบชีวิตของผมในคืนนี้ รถคันงามแล่นตัดผ่านสายฝน  มองไม่ค่อยเห็นเส้นทาง ต้องอาศัยไฟรถคันหน้านำทาง
    ผมมองอะไรไม่เห็นเลยสักนิด เหมือนกับช่วงเวลาต่อจากนี้ที่ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเป็นลำดับถัดไป

    “ หลังเลิกงาน… ฉันชอบมานั่งดื่มที่บาร์นี้  บรรยากาศดี เปิดเพลงเพราะ ” เธอเริ่มชวนผมคุยหลังจากกระดกมิกเซอร์เป็นแก้วที่สาม

    “ เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วนะ ผมได้ข่าวว่าคุณแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่นิวยอร์กนี่นา ” ผมถามเธอ เมื่อความเงียบระหว่างเราสิ้นสุดลง

    “ สองปี ..อยู่กันได้แค่นั้น  เราเลิกกัน แล้วฉันก็กลับมาอยู่ประเทศไทย  กลับมาได้สักสองเดือนแล้ว ”  สีหน้าของเธอดูเศร้าลง แต่ดูมีเสน่ห์ชวนมอง หัวใจของผมยังเต้นโครมครามยามสบตากับเธอ

    “ ทำไม คุณไม่ไปงานแต่งงานของฉันล่ะ ? ” เธอหันมาถามผมด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
    “ ตอนนั้น ผมยังทำใจไม่ได้  คุณทิ้งผมไปโดยไม่มีเกริ่นนำ จู่ๆก็หายไปกับคนอื่น แล้วจะให้ผมไปแสดงความยินดีกับคุณอีกหรือไง  ” ผมไม่มองหน้าเธอ เอาแต่ก้มจิบเหล้า  
    “ ตอนนั้น ฉันยังเด็ก ”

    “ รู้จักทำร้ายจิตใจผู้ชายคนหนึ่งก็ไม่จัดว่าเป็นเด็กแล้ว ” ผมไม่รับคำแก้ตัว

    “ ยังเด็กสิ เพราะไม่รู้จักใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ไม่สนใจว่าตัวเองจะทำร้ายใคร ไม่สนใจว่าจริงๆแล้วตัวเองรักใคร ” เธอสั่งมิกเซอร์ยกซดรวดเดียวหมด  

    “ แต่คุณก็โตขึ้นมาก  เปลี่ยนแปลงไปมากจนผมแทบจำไม่ได้  เมื่อก่อนคุณไม่ได้ซดเหล้าเป็นน้ำแบบนี้ ”

    “ ใครเป็นคนสอนให้ฉันกินเหล้าเป็นล่ะ ” เธอถามย้ำความทรงจำของผม

    “ ใช่  ผมเป็นคนสอนคุณเอง  แต่ไม่ได้สอนให้กินบั่นทอนสุขภาพแบบนี้  ผมสอยเพื่ออยากให้รู้จักเหล้าเอาไว้ เผื่อว่าจะโดนใครมอมเหล้าแล้วคิดไม่ซื่อกับคุณ ”

    ผมจำได้ทุกบทตอนที่อยู่กับเธอ วันเวลาเก่าๆเริ่มย้อนมาทีละฉาก ตามจังหวะหัวใจเต้นถี่มีชีวิตชีวา

    “ คุณเป็นคนอบอุ่นนะ ใจดีด้วย ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนั้นฉันถึงทิ้งผู้ชายที่แสนดีคนนี้ได้ลงคอ ”

    “ ไม่รู้สิ ผมคงให้คำตอบนั้นไม่ได้หรอก แล้วที่สำคัญคุณก็ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก เรื่องมันก็นานมากแล้ว ”  ผมสั่งเรมี่ มาแต็ง ออน เดอะ ร็อกเพิ่มอีกแก้ว  แล้วพูดต่อว่า “ ผมว่า ตอนนี้ คุณน่าจะลืมเรื่องเก่าๆ แล้วตั้งต้นชีวิตใหม่  เท่าที่เห็นคุณยังดูมีเสน่ห์ไม่แพ้พวกสาวรุ่นๆเลยนะ ”

    “ ใช่ค่ะ มีผู้ชายหลายคนพยายามเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับฉัน แม้ว่าบางคนจะไม่ได้คาดหวังเพียงความรัก แต่บางคนก็เป็นคนดี  จนฉันน่าจะลืมชีวิตสมรสห่วยๆ แล้วตั้งต้นใหม่ได้อย่างที่คุณว่า ลืมเรื่องเก่าๆให้หมด  แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่อยากลืมเรื่องของผู้ชายบางคน ..คนที่เป็นรักครั้งแรกของฉัน ”

    เธอเบียดกายเข้ามาจนเกือบแนบไหล่ผม  กลิ่นน้ำหอมของเธอเขย่าใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ แรงลมของเครื่องปรับอากาศโบกเอาเส้นผมของเธอแผ่วสัมผัสใบหน้า ผมเผลอตัวโอบไหล่และกระชับตัวเธอไว้แนบอก

    “ คุณก็เป็นความรักครั้งแรกของผม  แต่ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีก ผมมีภรรยาแล้ว ….” ผมบอกเธอ ในวินาทีที่เธอจูบเบาๆที่บริเวณปลายคางของผม

    “ ฉันคิดไว้แล้วค่ะ ผู้ชายดีๆอย่างคุณไม่มีใครยอมปล่อยทิ้งไว้เฉยๆหรอก แต่..ฉันไม่สนเรื่องพวกนั้น  ฉันจะไม่ทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกแยก  การคงอยู่ของฉันคุณเก็บไว้เป็นความลับก็ได้  ฉันขอเพียงคุณมีเวลามาหาฉันบ้างก็พอแล้ว …”

    เธอซุกหน้าร้องไห้จนเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชื้น ผมกอดเธอด้วยแขนทั้งสองข้างแน่นกว่าเดิม  แรงเต้นของหัวใจไม่มีทีท่าจะเบาแรง ผมคิดว่าเธอคงจะรู้สึกได้บ้าง

    “ ฉันยังรักคุณอยู่นะคะ ”


    วันนี้ …22.35 น. ผู้ชายสองคน ณ เคาน์เตอร์บาร์รีโทร  ด้านนอกบาร์  ฝนเริ่มลงเม็ด

    ผมกับเพื่อนไม่ได้เติมเหล้าเพิ่มอีก เราต่างคนต่างดื่มน้ำแข็งที่ละลายเป็นน้ำ พอผมเล่าจบเราสองคนเคี้ยวก้อนน้ำแข็งที่เหลืออยู่

    “ แล้วพอเธอบอกอย่างนั้น นายทำยังไงต่อ ?”

    ผมวางศอกทั้งสองข้างบนเคาน์เตอร์ ประสานมือแล้วซุกหน้าลงไป ค่อยตอบ

    “ เคยได้ยินไหมว่า เวลาคนเราใกล้ตาย ภาพในอดีตทุกช่วงของชีวิตจะผุดขึ้นมาให้เห็น วินาทีที่เธอบอกว่ายังรักฉันอยู่  ภาพเก่าๆในชีวิตหวนกลับมาปรากฏแทบทั้งหมด มันรู้สึกสับสน ภายในช่วงไม่กี่วินาทีนั้น ทุกอย่างประดังเข้ามาจนมองไม่ทัน  …ตอนนั้น พูดได้เพียงว่า …..ขอโทษนะ ”

    เพื่อนผมยิ้มแล้ว ถอนหายใจเล็กๆ ถามผมว่า

    “ ถามจริงเถอะ ถูกหญิงที่เป็นรักครั้งแรกบอกรักรู้สึกอย่างไร ? ”

    “ ..ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย ” ผมตอบพลางปลดกระดุมเสื้อเม็ดบน

    “ งั้นอีกข้อ นายยังรักเธออยู่ไหม ? ..”

    “ เสียงหัวใจในคืนนั้น คงตอบได้หมดแล้วว่า  ความรู้สึกรัก ยังคงหลงเหลืออยู่ ”

    “ แล้วปฏิเสธข้อเสนอของเธอทำไมล่ะ ? ”

    “ …ฉันรักผู้หญิงอีกคนมากกว่า ”

    เพื่อนผมยิ้มแล้วหัวเราะรื่น หมุนเก้าอี้เอนหลังพิงเคาน์เตอร์

    “ ความจริงนายหาเวลาไปพบเธอบ้างก็ได้  คนเรารักกันไม่ได้ใช่ว่าจะต้องขาดจากความเป็นเพื่อน  อย่างน้อยเธอก็เป็นรักครั้งแรกของนายนะ  ลองเล่าให้ภรรยานายฟังก็ได้  ภรรยานายมีเหตุผล เชื่อว่าคงจะเข้าใจ   ”  

    ผมหมุนเก้าอี้ตามเพื่อน มองนักดนตรีเล่นไวโอลินบนเวทีเล็กๆ  ภรรยาของผมก็ชอบเล่นไวโอลินเหมือนกัน

    “ เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่ระบายให้ใครฟังบ้างคงอึดอัดใช่เล่นนะ  เรื่องพวกนี้ คุยได้แต่กับผู้ชายด้วยกันเท่านั้น  ผู้หญิงไม่เคยสนใจหรอกว่าเรารักคนไหนมากกว่ากัน
    ไม่ว่าจะมากจะน้อย พวกเธอก็อยากให้คนรักเธอเพียงคนเดียวทั้งนั้น …”

    ผู้ชายข้างๆผมเพียงพยักหน้าเห็นด้วย


    วันนี้ …22.36 น. นอกบาร์รีโทร ฝนกำลังตกหนัก ไม่มีทีท่าจะหยุด

    สองวันก่อน 22.36 น. ในบาร์รีโทร  ชายคนหนึ่งจูบผู้หญิงที่เป็นรักครั้งแรกเป็นครั้งสุดท้าย

    จากคุณ : กาแฟสอง - [ 4 ก.ค. 50 20:15:06 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom