วันนี้
22.05 น. ผู้ชายสองคน ณ เคาน์เตอร์บาร์รีโทร
ผมลากตัวเพื่อนสนิทออกจากบ้านประมาณสี่ทุ่มเพื่อประกอบพิธีการสำคัญ เสียงแก้วเหล้าเคาะกันเบาๆไพเราะน่าฟัง วินาทีที่ขอบแก้วสัมผัสกันเหมือนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีไว้เพื่อปัดเป่าสามัญสำนึกของผู้ดื่ม ปลดเปลื้องตัวเองจากกรอบมายา คงไว้เพียงสัญชาติญาณและความรู้สึกที่ติดแสดงออกมาจากวิญญาณ ตั้งแต่สามทุ่มครึ่งเราสองคนชนแก้วกันนับครั้งไม่ถ้วน ณ เคาน์เตอร์บาร์ชื่อรีโทร จนตอนนี้สี่ทุ่มห้านาทียังไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากของเราทั้งคู่ ผมดื่มมากกว่าเขา ส่วนเขาค่อยๆจิบทีละนิด
ทำไมดื่มน้อยจัง บอกแล้วไงวันนี้เราเลี้ยง
เดี๋ยวไม่มีใครขับรถกลับบ้าน .. เพื่อนผมตอบ
ช่างเถอะ เรียกแท็กซี่ก็ได้
ไม่ต้องหรอก ดื่มไปเถอะ ฉันจะไปส่งนายเอง
เพื่อนของผมนิ่งนิดหนึ่ง กรอกเหล้าที่เหลือลงคอจนเกลี้ยง หลังจากกระแทกแก้วเปล่าลงบนเคาน์เตอร์บาร์ แล้วมองหน้าผมนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมไม่มองหน้าเขาพลางเทเหล้าดื่มอีกแก้ว มือของเขาสัมผัสไหล่ของผม ลูบไล่ลงมาตามแผ่นหลัง แล้วบอกว่า
มีอะไรก็เล่ามาเถอะเพื่อน
ผมชะงักแก้วก่อนเข้าปาก วนแก้วเหล้าไปมา ทอดสายตามองน้ำแข็งที่กำลังละลาย
ขอให้ทุกอย่างเป็นความลับ เกิดขึ้นและจบลงในคืนนี้ .. ผมบอก
แน่นอน ทุกอย่างจะเป็นความลับเหมือนเคย เพื่อนเกลอ
พอเพื่อนของผมรับคำ ผมจึงกรอกเหล้าลงคนจนเกลี้ยง พักการดื่มสักครู่ แล้วเริ่มต้นเล่าบางสิ่งที่ตกค้างในความรู้สึกจากการได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง เมื่อสองวันก่อน ตอนที่ผมกำลังออกจากร้านอาหารญี่ปุ่นในศูนย์การค้า หญิงสาวคนนั้นเคยอยู่ในความหลังของผม ณ ช่วงเวลาส่วนหนึ่ง เป็นส่วนที่ไม่มาก แต่กลับจดจำไม่รู้ลืม
คืนนั้นเป็นคืนฝนตก เราได้พบกับ เรน ไม่ใช่ Rain ที่แปลว่าฝน แต่เป็น Rain ที่เป็นความรักครั้งแรก
สองวันก่อน
21.30 น. เมืองหลวง
ฝนตกหนัก
เสียงฝนพรำไม่มีทีท่าจะจบสิ้น ผมได้แต่หวังว่าคงจะเบากำลังลงบ้างเมื่อถึงเวลาปิดห้าง เทมปุระกุ้ง เกี๊ยวซ่า และ เบียร์อาซาฮี กินเข้ากัน ทั้งหมดเป็นเมนูอาหารฆ่าเวลา ช่วยประทังให้ท้องอิ่มแบบพร้อมที่จะหิวในเวลาไม่นาน วันนี้ผมสัญญากับภรรยาว่าจะไปกินอาหารเย็นที่บ้านด้วยกัน ผมแวะร้านดอกไม้ในห้างใกล้ที่ทำงาน เพื่อรับช่อดอกไม้ที่โทรสั่งไว้ตอนเที่ยงๆ เตรียมพร้อมเป็นของขวัญให้ภรรยา ไม่ใช่โอกาสพิเศษอะไรหรอก ผมแค่อยากเห็นรอยยิ้มเวลาเธอดีใจ ขณะหอบช่อดอกไม้เก็บในรถ สายฝนก็เทลงมาชนิดมองไม่ลืมหูลืมตา หน้าห้างมีอุบัติเหตุรถชน ผมจึงตัดสินใจโทรบอกภรรยาว่าติดฝน แล้วมานั่งฆ่าเวลาในร้านอาหารญี่ปุ่น
ผมกับภรรยาแต่งงานกันได้สี่ปี เราพบกันครั้งแรกในร้านอาหารญี่ปุ่นแต่ไม่ใช่ที่นี่ เธอเป็นลูกค้าของบริษัทและผมถูกวางตัวให้คอยรับรองลูกค้า เพราะอย่างนั้น เราจึงได้พบกันบ่อยครั้ง ความผูกพันค่อยๆก่อตัวขึ้นตามลำดับ จนวันที่ผมสิ้นสุดภาระกิจผู้รับรอง ผมจึงตัดสินใจขอคบกับเธอ ซึ่งมีเพียงข้อความส่งผ่านเอสเอ็มเอสตอบกลับมาว่าตกลง เราคบกันอีกไม่นานจึงตัดสินใจแต่งงาน เรื่องราวต่างๆลงตัวตามขั้นตอน จะเหลือก็แต่การผลิตทายาทสืบสกุลซึ่งเธอให้ชลอไว้ก่อนเพราะยังไม่พร้อมจะดูแลเด็กเล็กๆ ชีวิตแต่งงานของเราอบอุ่นดี เราคุยกันแทบทุกเรื่องราว ไม่เคยปิดบังสิ่งใดต่อกัน เพราะว่า เรารู้ใจกันจนปิดเรื่องโกหกไว้ไม่มิด อีกฝ่ายจะต้องเห็นพิรุธแล้วถามไถ่ทุกครั้ง เธอเคยพยายามปิดบังผมเรื่องทำแหวนหมั้นหาย แต่สักพัก ผมก็รู้จนได้เพราะว่า เวลาเธอไม่สบายใจจะชอบรวบผมเปิดหน้าผากกว้าง ผิดกับเวลาปรกติที่มักจะปล่อยเส้นผมปรกหน้าผาก นึกแล้วก็ขำดีเหมือนกัน
สองวันก่อน 22.05 น. เมืองหลวง
ฝนยังคงตกหนัก แต่พอมองเห็นท้องถนน
ลานจอดรถชั้นบนสุดเหลือรถจอดบางตา ผมหิ้วกล่องข้าวปั้นหน้าปลาดิบเดินผิวปากไปที่รถอย่างเพลิดเพลิน ในใจคิดถึงใครบางคนที่บ้าน ไม่รู้ป่านนี้หลับไปหรือยัง ผมโทรไปบอกเธอว่าถ้าง่วงก็ให้เข้านอนก่อน แล้วให้กินข้าวเย็นก่อนได้เลย เธอรับคำแล้วบอกให้ผมขับรถกลับบ้านอย่างปลอดภัย
.รถคันหนึ่งเบรกสุดตัว เสียงล้อเสียดสีพื้นถนนดังลั่นลานจอดรถพริบตาหนึ่ง ข้าวปั้นหน้าปลาดิบหกเรี่ยราด ตัวผมทรุดลงไปกองกับพื้นจนเห็นสัญลักษณ์ยี่ห้อรถชัดเจน
ขอโทษค่ะ
ขอโทษค่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ
เจ้าของรถรีบมาพยุงตัวผมขึ้น ท่าทางดูสำนึกผิดเต็มที่ ผมยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เป็นไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า ไปโรงพยาบาลไหมคะ คู่กรณีพูดซ้ำๆอย่างนั้นหลายครั้ง
ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน อีกอย่างหนึ่งผมเดินไม่ระวังเอง พอตั้งสติได้ ผมบอกคู่กรณีตามที่รู้สึก ไม่อยากเสียเวลาไปโรงพยาบาลอยากรีบกลับบ้านมากกว่า
ไม่ใช่หรอกค่ะฉันผิดเอง ฉันคุยโทรศัพท์เพลินไปหน่อย เลยไม่ได้ระวัง
อย่าคิดมากเลยครับ นี่ก็มืดแล้ว ผมว่าคุณกลับบ้านดีกว่า ผมพยายามตัดบท พลางปัดฝุ่นตามตัว ลูบหน้าลูบตา เสยผมให้เข้าที่เข้าทาง
คู่กรณีของผมเงียบลง
เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าคะ ?
ผมเหลือบมองคู่กรณีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เธอค่อนข้างโฉบเฉี่ยวไม่เบา หญิงสาวร่างสูงเพรียว มีเนื้อหนังในบริเวณที่ควรมี เธอสวมเสื้อลายตาหมากรุกแขนกุด กางเกงสีขาวขาสั้นจนเผยช่วงขาเรียวสวย ปล่อยผมยาวดูยุ่งๆนิดหน่อยแต่ดูเข้าท่า ดวงตาสวยซึ้งกินใจ ในความทรงจำของผม ไม่เคยมีใครที่ลักษณะแบบนี้ แต่เสียงหัวใจที่กำลังสะเทือนไหวไม่หยุดกลับเป็นความรู้สึกที่แสนคุ้นเคย แม้ว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปนานมากแล้วแต่หัวใจผมยังไม่ลืม
เรน
สองวันก่อน 22.35 น. เมืองหลวง ภายนอกบาร์ชื่อรีโทร สายฝนไม่อ่อนกำลังลงสักนิด
เรนชวนผมหาที่นั่งคุยกัน ความจริง ผมควรปฏิเสธแล้วขอเบอร์เธอไว้ค่อยโทรคุยกันวันหลัง ผมควรรีบกลับบ้านไปหาภรรยา แต่กลับตอบตกลง แรกผลักดันบางอย่างทำให้ผมตอบตกลงทันที ผมทิ้งรถเอาไว้ แล้วขึ้นมาสด้าทรีที่เกือบจบชีวิตของผมในคืนนี้ รถคันงามแล่นตัดผ่านสายฝน มองไม่ค่อยเห็นเส้นทาง ต้องอาศัยไฟรถคันหน้านำทาง
ผมมองอะไรไม่เห็นเลยสักนิด เหมือนกับช่วงเวลาต่อจากนี้ที่ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเป็นลำดับถัดไป
หลังเลิกงาน
ฉันชอบมานั่งดื่มที่บาร์นี้ บรรยากาศดี เปิดเพลงเพราะ เธอเริ่มชวนผมคุยหลังจากกระดกมิกเซอร์เป็นแก้วที่สาม
เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วนะ ผมได้ข่าวว่าคุณแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่นิวยอร์กนี่นา ผมถามเธอ เมื่อความเงียบระหว่างเราสิ้นสุดลง
สองปี ..อยู่กันได้แค่นั้น เราเลิกกัน แล้วฉันก็กลับมาอยู่ประเทศไทย กลับมาได้สักสองเดือนแล้ว สีหน้าของเธอดูเศร้าลง แต่ดูมีเสน่ห์ชวนมอง หัวใจของผมยังเต้นโครมครามยามสบตากับเธอ
ทำไม คุณไม่ไปงานแต่งงานของฉันล่ะ ? เธอหันมาถามผมด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
ตอนนั้น ผมยังทำใจไม่ได้ คุณทิ้งผมไปโดยไม่มีเกริ่นนำ จู่ๆก็หายไปกับคนอื่น แล้วจะให้ผมไปแสดงความยินดีกับคุณอีกหรือไง ผมไม่มองหน้าเธอ เอาแต่ก้มจิบเหล้า
ตอนนั้น ฉันยังเด็ก
รู้จักทำร้ายจิตใจผู้ชายคนหนึ่งก็ไม่จัดว่าเป็นเด็กแล้ว ผมไม่รับคำแก้ตัว
ยังเด็กสิ เพราะไม่รู้จักใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ไม่สนใจว่าตัวเองจะทำร้ายใคร ไม่สนใจว่าจริงๆแล้วตัวเองรักใคร เธอสั่งมิกเซอร์ยกซดรวดเดียวหมด
แต่คุณก็โตขึ้นมาก เปลี่ยนแปลงไปมากจนผมแทบจำไม่ได้ เมื่อก่อนคุณไม่ได้ซดเหล้าเป็นน้ำแบบนี้
ใครเป็นคนสอนให้ฉันกินเหล้าเป็นล่ะ เธอถามย้ำความทรงจำของผม
ใช่ ผมเป็นคนสอนคุณเอง แต่ไม่ได้สอนให้กินบั่นทอนสุขภาพแบบนี้ ผมสอยเพื่ออยากให้รู้จักเหล้าเอาไว้ เผื่อว่าจะโดนใครมอมเหล้าแล้วคิดไม่ซื่อกับคุณ
ผมจำได้ทุกบทตอนที่อยู่กับเธอ วันเวลาเก่าๆเริ่มย้อนมาทีละฉาก ตามจังหวะหัวใจเต้นถี่มีชีวิตชีวา
คุณเป็นคนอบอุ่นนะ ใจดีด้วย ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนั้นฉันถึงทิ้งผู้ชายที่แสนดีคนนี้ได้ลงคอ
ไม่รู้สิ ผมคงให้คำตอบนั้นไม่ได้หรอก แล้วที่สำคัญคุณก็ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก เรื่องมันก็นานมากแล้ว ผมสั่งเรมี่ มาแต็ง ออน เดอะ ร็อกเพิ่มอีกแก้ว แล้วพูดต่อว่า ผมว่า ตอนนี้ คุณน่าจะลืมเรื่องเก่าๆ แล้วตั้งต้นชีวิตใหม่ เท่าที่เห็นคุณยังดูมีเสน่ห์ไม่แพ้พวกสาวรุ่นๆเลยนะ
ใช่ค่ะ มีผู้ชายหลายคนพยายามเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับฉัน แม้ว่าบางคนจะไม่ได้คาดหวังเพียงความรัก แต่บางคนก็เป็นคนดี จนฉันน่าจะลืมชีวิตสมรสห่วยๆ แล้วตั้งต้นใหม่ได้อย่างที่คุณว่า ลืมเรื่องเก่าๆให้หมด แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่อยากลืมเรื่องของผู้ชายบางคน ..คนที่เป็นรักครั้งแรกของฉัน
เธอเบียดกายเข้ามาจนเกือบแนบไหล่ผม กลิ่นน้ำหอมของเธอเขย่าใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ แรงลมของเครื่องปรับอากาศโบกเอาเส้นผมของเธอแผ่วสัมผัสใบหน้า ผมเผลอตัวโอบไหล่และกระชับตัวเธอไว้แนบอก
คุณก็เป็นความรักครั้งแรกของผม แต่ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีก ผมมีภรรยาแล้ว
. ผมบอกเธอ ในวินาทีที่เธอจูบเบาๆที่บริเวณปลายคางของผม
ฉันคิดไว้แล้วค่ะ ผู้ชายดีๆอย่างคุณไม่มีใครยอมปล่อยทิ้งไว้เฉยๆหรอก แต่..ฉันไม่สนเรื่องพวกนั้น ฉันจะไม่ทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกแยก การคงอยู่ของฉันคุณเก็บไว้เป็นความลับก็ได้ ฉันขอเพียงคุณมีเวลามาหาฉันบ้างก็พอแล้ว
เธอซุกหน้าร้องไห้จนเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชื้น ผมกอดเธอด้วยแขนทั้งสองข้างแน่นกว่าเดิม แรงเต้นของหัวใจไม่มีทีท่าจะเบาแรง ผมคิดว่าเธอคงจะรู้สึกได้บ้าง
ฉันยังรักคุณอยู่นะคะ
วันนี้
22.35 น. ผู้ชายสองคน ณ เคาน์เตอร์บาร์รีโทร ด้านนอกบาร์ ฝนเริ่มลงเม็ด
ผมกับเพื่อนไม่ได้เติมเหล้าเพิ่มอีก เราต่างคนต่างดื่มน้ำแข็งที่ละลายเป็นน้ำ พอผมเล่าจบเราสองคนเคี้ยวก้อนน้ำแข็งที่เหลืออยู่
แล้วพอเธอบอกอย่างนั้น นายทำยังไงต่อ ?
ผมวางศอกทั้งสองข้างบนเคาน์เตอร์ ประสานมือแล้วซุกหน้าลงไป ค่อยตอบ
เคยได้ยินไหมว่า เวลาคนเราใกล้ตาย ภาพในอดีตทุกช่วงของชีวิตจะผุดขึ้นมาให้เห็น วินาทีที่เธอบอกว่ายังรักฉันอยู่ ภาพเก่าๆในชีวิตหวนกลับมาปรากฏแทบทั้งหมด มันรู้สึกสับสน ภายในช่วงไม่กี่วินาทีนั้น ทุกอย่างประดังเข้ามาจนมองไม่ทัน
ตอนนั้น พูดได้เพียงว่า
..ขอโทษนะ
เพื่อนผมยิ้มแล้ว ถอนหายใจเล็กๆ ถามผมว่า
ถามจริงเถอะ ถูกหญิงที่เป็นรักครั้งแรกบอกรักรู้สึกอย่างไร ?
..ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย ผมตอบพลางปลดกระดุมเสื้อเม็ดบน
งั้นอีกข้อ นายยังรักเธออยู่ไหม ? ..
เสียงหัวใจในคืนนั้น คงตอบได้หมดแล้วว่า ความรู้สึกรัก ยังคงหลงเหลืออยู่
แล้วปฏิเสธข้อเสนอของเธอทำไมล่ะ ?
ฉันรักผู้หญิงอีกคนมากกว่า
เพื่อนผมยิ้มแล้วหัวเราะรื่น หมุนเก้าอี้เอนหลังพิงเคาน์เตอร์
ความจริงนายหาเวลาไปพบเธอบ้างก็ได้ คนเรารักกันไม่ได้ใช่ว่าจะต้องขาดจากความเป็นเพื่อน อย่างน้อยเธอก็เป็นรักครั้งแรกของนายนะ ลองเล่าให้ภรรยานายฟังก็ได้ ภรรยานายมีเหตุผล เชื่อว่าคงจะเข้าใจ
ผมหมุนเก้าอี้ตามเพื่อน มองนักดนตรีเล่นไวโอลินบนเวทีเล็กๆ ภรรยาของผมก็ชอบเล่นไวโอลินเหมือนกัน
เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่ระบายให้ใครฟังบ้างคงอึดอัดใช่เล่นนะ เรื่องพวกนี้ คุยได้แต่กับผู้ชายด้วยกันเท่านั้น ผู้หญิงไม่เคยสนใจหรอกว่าเรารักคนไหนมากกว่ากัน
ไม่ว่าจะมากจะน้อย พวกเธอก็อยากให้คนรักเธอเพียงคนเดียวทั้งนั้น
ผู้ชายข้างๆผมเพียงพยักหน้าเห็นด้วย
วันนี้
22.36 น. นอกบาร์รีโทร ฝนกำลังตกหนัก ไม่มีทีท่าจะหยุด
สองวันก่อน 22.36 น. ในบาร์รีโทร ชายคนหนึ่งจูบผู้หญิงที่เป็นรักครั้งแรกเป็นครั้งสุดท้าย
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
4 ก.ค. 50 20:15:06
]