ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้เดิมค่ะ ...อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๘๕ สุนทรภู่-โคลงครู... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5489064/W5489064.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - -                      . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 50 11:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดานกลอนใยลั่นไว้...ไวจริง พลบค่ำยังประวิง...ยับยั้ง ดวงใจแม่คะนิง...มัวขุ่น ไรแม่ จึงหับประตูปั้ง...บ่รั้งรอพี่..(นาย)...เฮย แวะมาแซวหนูศอ พอหอมปากหอมคอเน้อ อย่าโกรธเสียละเออ เดี่ยวจะมีคนพังกลอน หงิงหงิงหงิง จากคุณ : sugarhut - [ 10 ก.ค. 50 11:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวววว เขียนโคลงไม่เก่งจะคุยได้ไหมนี่ ฮ่า ฮ่า บาย......................................... จากคุณ : คายตรี - [ 10 ก.ค. 50 11:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .. คุย     การเมืองเรื่องร้อน          ถอนใจ กัน     ท่ามิกาใบ                    ร่างฯร้าว         เป็น    เหตุก่อการใน               ชาติยุ่ง   แท้นา โคลง  ช่วยทวยราษฎร์กร้าว      แกร่งกล้า  พิจารณ์ ฯ ..       .. จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 10 ก.ค. 50 14:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาทักด้วยครับแต่งโคลงไม่เป็น - - จากคุณ : วรพุทธิ์ - [ 10 ก.ค. 50 15:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุย.....คำขลุกขลักคล้าย...........โคลงเคลง กัน.....เกาะกุมกางเกง...............ก่อนแก้ เรื่อง...เรียงเรขรินละเลง.............ร่ายรั่ว เมา.....มากมักมั่วแม้..................แม่นโม้โมเม สวัสดีชาวโคลงกลอนกาพย์ฉันท์ร่ายทุกท่านคร้าบ จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 10 ก.ค. 50 17:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุย...จนคนหลับทั้ง...........วงการ ไป...ป่าวปากประจาน.........หมดแล้ว เมา...หนักเหน็บกินนาน......นมหก นุงเฮย ไป...ตักเติมอีกแก้ว...........เกือบล้มคะมำขยำ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 10 ก.ค. 50 18:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โคลง....ข้อยบ่แม่นแท้.........เทียมใคร ฉันท์.....ยิ่งแย่แพ้ใน...........สระสั้น กาพย์...แค่กาบกล้วยไง.......ขุนหมู่ สุกรเฮย กลอน...สิข้อยบ่อั้น.............ถนัดแท้ สะเดาะกลอน จากคุณ : กวนจังแก - [ 10 ก.ค. 50 21:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เขาบอกแล้วว่าเข้ามาชวนคุย เรื่องอะไรดุ่ยดุ่ยว่าไปเถิด จะโคลง กลอน กาพย์ ฉันท์ ร่ายให้เลอเลิศ เพียงแต่เปิดใจจิตมิตรสัมพันธ์........... ผมว่าน่าจะคุยเรื่องอะไรก็ได้ เป็นร้อยกรองแบบไหนก็ได้ ไม่จำกัดเรื่องราวและกาลเวลา นะครับ ใช่ไหม คุณศาลาไทย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 11 ก.ค. 50 07:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขออนุญาตเคาะประตูชาวอาศรมฯ   เข้ามาชม..มาฟังพี่ๆเขาคุยกัน.. แต่งโคลงยังมิคล่องเลยมิกล้าคุย.. กริ่งเกรงพี่ท่านทั้งหลายสิเขกหัวเอา.. เกรงใจไก่จะหมดเล้าแล้วด้วยอ่ะ..   วันนี้ขอเป็นผู้ฟังที่ดีเจ้าค่ะ.. มิออกลวดลาย เอ้ย ! มิใช่.. มิออกความเห็นเจ้าค่ะ.. * ภาพประกอบจากเพื่อนสมาชิกชาวบล็อกแก้งค์ค่ะ* ( ไปรับมาจากบ้านคุณกี้.. ไม่ดื้อไม่ซน.. แค่งุนงงเฉย ๆ ) แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 09:08:51 จากคุณ : ณ กมล - [ 11 ก.ค. 50 09:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุยกับลุยก็ใกล้           ใกล้กัน กันใช่ gun ฝรั่งมัน      เปล่าว้า? เป็นหรือว่าตายฉัน       ยังวิตก อยู่แฮ โคลงขาด ค นะค้า      ไม่แคล้วเป็นโลง จากคุณ : CrazyHOrse - [ 11 ก.ค. 50 10:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุย มันมิใช่น้อย           นะเธอ กัน ไม่ให้เผลอเรอ        ผิดห้อง เป็น ไปอย่างกะเกลอ     ดีกว่า กลอน เก่าเล่าใหม่พ้อง   เพื่อนพร้อมพูดคุย.(นะครับ) จากคุณ : เจียวต้าย - [ 11 ก.ค. 50 11:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จะแบกเป้ไปเที่ยวทั่วไทย ยังจนใจค่ำนั้นจะนอนไหน วันนี้มาขอบคุณน้อง "ศาลาไทย" ช่วยธุระจัดการให้... มีที่นอน แวะมาคุยค่ะ ว่าจะได้ไปเที่ยว ฮิ้วววววววววว จากคุณ : จันทร์เหนี่ยว - [ 12 ก.ค. 50 02:48:28 A:82.83.222.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 12 ก.ค. 50 04:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใครคุยใครใคร่คุ้ย       เชิญคุย โกฏิฯร่วมมาตะลุย       เว่าอู้ ทางรกก็ร่วมกรุย         ทางใหม่ โคลงกาพย์กลอนกระทู้   ต่อถ้อยทางสนาน สวัสดีพี่ศาลาไทยที่เปิดอาศรมใหม่ให้อาศัยครับ เอารูปมาให้รุ่นพี่ๆคิดถึง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : โกฏิดารา - [ 12 ก.ค. 50 05:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ใครเคยอยู่ ณ ที่แห่งนี้บ้าง จากคุณ : โกฏิดารา - [ 12 ก.ค. 50 05:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ห้องน้อยแห่งนี้มีตำนาน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : โกฏิดารา - [ 12 ก.ค. 50 05:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5601116/W5601116.html#2 ชมต่อที่นี่ครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 50 05:26:04 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 12 ก.ค. 50 05:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุย     เล่นไม่เห็นหน้า   แค่นึกว่าคิดถึงกัน เป็น    บทร้อยกรองอัน  สนุกหวาน สนานแหวว กาพย์  ยังไม่โดนหยิบ   เลยงุบงิบลองเป็นแนว มั่ง      มีศรีสุขแล้ว       เลี้ยงเหล้ารอบ จะขอบคุณ เหย้ย... จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 12 ก.ค. 50 08:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไปกินปลาหมึกกุ้ง............ปูหอย อร่อยจนตาลอย..............แซ่บล้ำ นานทีล่องจากดอย..........แสนเหนื่อย โอกาสหน้าฉายซ้ำ...........เยี่ยมพ้องพวกเรา หวัดดีค่ะ ได้ไปแอ่วกรุงเทพฯ มีเวลาน้อยนิด ไว้คราวหน้าจะไปหาแม่แก้วตาศาลาใจเน้อ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 12 ก.ค. 50 15:51:22 A:unknown X:202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เย็นวานจรสู่เหย้า...เยือนสหาย ร่วมแข่งกีฬาราย...ปักษ์นั้น อากาศสุดอ้าวกาย...แสนเหนื่อย แพ้กลิ่นหญ้าสุดกลั้น...เกิดไข้ตาลาย ปรารถนาเพื่อนพ้อง...คงสบาย คงสุขใจและกาย...ทั่วหน้า คนไกลป่วยมิวาย...เป็นห่วง จึงแวะมาบ่นบ้า...บ่นใบ้ให้ฟัง แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 50 17:01:00 จากคุณ : sugarhut - [ 12 ก.ค. 50 16:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะ..ท่านเจ้าของกระทู้.. ขอบคุณที่เปิดศาลาให้คุยกันค่ะ.. ถ้างั้นลุย เอ้ย ! คุยเลยนะคะ.. # ท่านที่ ๒๑ คะ.. เย็นวานป่วย...หายไข้แล้วยัง บ่นไร...ก็จะฟังเป็นเพื่อน ป่วยกายแข็งแรงใจ..ไข้เลือน แต่ไข้เกลื่อนกุมใจ..แน่ไซร้ป่วยนาน.! ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย..ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ.. บาย ย ไปละ ..ไปปีนต้นมะพร้าวต่อ.. * ภาพประกอบจากบ้านคุณกี้ บล็อกแก้งค์ค่ะ * แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 50 18:20:55 จากคุณ : ณ กมล - [ 12 ก.ค. 50 18:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เหมือนอยู่คนละฟากฟ้า.......ฝั่งฝัน แสนห่างแสนไกลกัน..........สุดคว้า ยอมจากถิ่นไพรวัลย์..........กลางป่า มุ่งสู่อีกฝั่งฟ้า...................เพื่อคว้าความฝัน ธรรมดาของคนบนภูเขา มักถูกเหมารวมว่ายังล้าหลัง อยู่กลางป่าห่างไกลไร้เรื่องดัง ความมืดรั้งท้องฟ้าก็ลานอน ไม่มีแสงไฟสว่างอย่างเมืองหลวง ไม่มีเสียงลวงมาพร่าคำสอน ไม่มีสิ่งล่อหมู่ภู่ภมร ไม่มีเรื่องร้อนรุ่มคอยสุมใจ อยู่ท่ามกลางความงามธรรมชาติ รับอากาศบริสุทธิ์พิสุทธิ์ใส พบผู้คนสัตย์ซื่อคือชาวไพร อยู่ห่างไกลความเจริญที่เกินตัว ธรรมดาของเราชาวภูผา วาสนามีอยู่ดูสลัว ดั่งท้องฟ้ามืดมนปนหมอกมัว จึงหวาดกลัวยามห่างจากกลางไพร เมื่ออยู่เขาเรานั้นมันมองเห็น เมืองหลวงเป็นความหวังอันสดใส อยากค้นหาตามฝันจึงผันไกล ละถิ่นไว้เบื้องหลังยังพนา หวังสักวันเมื่อฝันนั้นเป็นจริง มีทุกสิ่งสมหวังดังปราถนา ค่อยหวนคืนถิ่นเก่าเราสัญญา ขอเวลาสร้างฝันให้มันจริง จึงมุ่งหน้าลาไปไล่ล่าฝัน จากไพรวัลย์วาดหวังอย่างใหญ่ยิ่ง ว่าคงมีสักแห่งแหล่งพักพิง ไปคว้าสิ่งที่หวังและตั้งใจ สวัสดีพี่น้องชาวอาศรมทุกท่าน  แวะมาคิดถึง  และก็ชะแว้ป !  ไปแระ จากคุณ : หิ่งห้อยน้อยใจ - [ 12 ก.ค. 50 19:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เดิน    เดียวดายห่มฟ้า      หาฝัน ดิน     ดิบดอนดึงดัน        ฝ่าเฝ้า ตีน     ตึงตอบตนตัน        ยังจ่อม จรแล เปลือย เปิดใจเหยียดเท้า   หยัดท้าทนองถนน เกิดเป็นคนค้นหาประสาฝัน จะดึงดันสรรทางสว่างไสว มือก็สู้ เท้าก็สู้ ก็สู้ไป กำหนดใจตั้งมั่นฝันอยากเป็น แต่กี่ฝันแล้วเล่าที่เฝ้าฝ่า ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนว่าเล่น อายุเราเช้าสายจนบ่ายเย็น ยังมิเห็นมีหนที่ด้นเดิน เริ่มแล้วเลิก เลิกแล้วเริ่ม เพิ่มกลับลด มีแล้วหมด อิ่มแล้วหิว ช่างผิวเผิน แม้มุ่งมาดขาดค้างมาหมางเมิน เป็นส่วนเกินของชีวิตคิดไม่ทัน แล้วจึงเวียนว่ายหายหน้า เดินเดียวดายห่มฟ้าหาฝัน ฝ่าเฝ้าดินดิบดอนดึงดัน ตนตันยังจ่อมเปิดเปลือยใจ เกิดเป็นคนค้นหาประสาฝัน จะดึงดันสรรทางสว่างไสว... จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 12 ก.ค. 50 20:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ...                       ...จุดจบอำนาจโจร...             ๏ในนามอำนาจโน้ม           นำคน             อำนาจบันดาลเดช             เดือดกล้า             ใช้อำนาจทาสบน              อำนาจ             อำนาจเบือนใบ้บ้า             บิดเบือน            ๏ปวงประชาราษฎร์รู้           ดูเอา            นามเก่าไม่ยอมเลือน          เร่งสู้            นามใหม่ไม่บันเบา             เข้าหัก            ต่างพวกต่างกร้าวกู้            เกาะเมือง           ๏ปากต่อปากรักเชื้อ            ชาติไทย           ต่อปากต่อปากเคือง            ขุ่นข้อ           ปากต่อปากอธิปไตย           ในปาก           ชาติกับชาติขี้ฉ้อ                 แช่งกัน           ๏แอบอุบคุมลากข้าง           อ้างคน           อำนาจฉุดประชัน                ฉับข้าง           เก่าใหม่ไล่ประจญ               ประจัญศึก           โดยศักดิ์ผลักขั้วสร้าง           ศัตรู           ๏เพราะอำนาจนึกใช้            ชอบธรรม           อำนาจชั่งตราชู                   ชอบใช้           ทาสอำนาจชี้นำ                  ทำมิชอบ           ชินชื่อเพียงห้อมให้             ใช่ธรรม           ๏อำนาจตีกรอบกั้น              โดยกาล            ใหม่เก่าพิสูจน์กรรม             เที่ยงแท้            เสพอำนาจติดนาน               นามวิบัติ            ประวัติศาสตร์ขี้แพ้               ภาพโจรฯ              ............................................... วางโคลงแล้ว ก็ถือโอกาสสวัสดีทักทาย เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมหลายต่อหลายท่าน ที่มาร่วมพูดคุยกันอย่างอบอุ่น ทั้งสมาชิกเก่า และสมาชิกใหม่ ดีใจมากมาย ขอรับ กวาดตาดู เห็นเพื่อนใหม่หลายท่าน มี คุณ คายตรี , คุณ วรุณนฤมล , คุณ วรพุทธิ์ , คุณ กวนจังแก , คุณ ณ กมล เป็นอาทิ ดีใจครับ ที่มาเยี่ยมเยือนอาศรมชาวโคลง ร่วมกันแบ่งปันแลกเปลี่ยนทั้งอ่านแลเขียนด้วยความครึกครื้น เพียงแค่นี้ ร้อยกรองแห่งสวนอักษรา ก็งอกงามอย่างงดงามครับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ ปล. ๑ ขออภัย ที่มิได้ทักทายทุก ๆ ท่านอย่างทั่วถึง ปล. ๒ ป๋าเจียวต้าย , คุณพีทคุง (พิธันดร) เยี่ยมจริง ๆ ครับ จากคุณ : นายทิวา - [ 12 ก.ค. 50 21:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถึง ณ กมล คนน่ารัก ที่ป่วยหนักก็คงพลันห่างหาย เพราะน้ำใจไถ่ถามเรื่องป่วยกาย ไข้เลยหายกายเลยชื่นตื่นรับอรุณ อันไข้ใจแสนหนักหนาและสาหัส ยากกำจัดขัดขืนมันจิตเลยหมุน ทุรนทุรายสับสนวนเวียนวุ่น ตัวอุ่นอุ่นเพราะใจหนาวร้าวฤดี --------------------------------- สวัสดีพี่น้องชาวอาศรม ฟ้าฝนลมดินร้อนหนาวแปรผกผัน ขอให้ทุกท่านเตรียมตัวทุกวัน ดูแลกันให้ดีนะเจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 13 ก.ค. 50 14:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ...                     เขาให้ผมเป็นกวี...             ๏เพิ่งแต่งตั้ง ไม่นาน เมื่อวานนี้               เขาให้ผม เป็นกวี “ซีรายเปี๋ยว”               “กำ-มะ-กาน” ตาแหลม “แหร่ม” เลยเชียว               แบบแป๊บเดียว “เดะเดะ” โป๊ะเชะเลย               ๏ไม่มีพวก ไม่มีพรรค ไม่ยักแห้ว               แบบว่าผม สมแนว พ่อแก้วเอ๋ย               ตรงสเป็ก “เด็กแว้น” ขึ้นแท่นเว้ย !               ถูกจริต มิตรกะเทย และกระเทียม               ๏อ่า...สวัสดีครับ แควนคลับผม               เอ่อ...ถูกรสนิยม ชมว่าเยี่ยม             อ่า...ขอบคุณ “กำ-มะ-กาน” จั๊กกะเดียม               เอ่อ...ขอบคุณ แบบว่าเหนียม แต่ไม่นาน               ๏รอปีหน้า ฟ้าใหม่ คงได้อีก               ผมกวี ขายปลีก แบบมุมป้าน               ไม่มุมแหลม มุมเหลี่ยม มุมสำราญ               ไม่มีมุม หน้าม้าน ซ่านคนเดียว               ๏เพิ่งแต่งตั้ง ไม่นาน เมื่อวานนี้               เขาเรียกผม ว่ากวี ให้ “ซีเดี๋ยว”               เหลือก็แต่ กกน. ล้อกันเกรียว               เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว ไม่ “แหร่ม” ...ย้อเย่นนะฯ                 .............................................   หมายเหตุ :   ๑.แหร่ม , เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว , ย้อเย่นนะ ยืมคำของ "อ่าง เถิดเทิง"   ๒.อย่าคิดมาก แบบว่า ผมย้อเย่นนะ...   ................................. จากคุณ : นายทิวา - [ 13 ก.ค. 50 17:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หลายครั้งผ่านตรงนี้ที่หลากฝัน เคยตะบี้ตะบันด้นดั้นเขียน หลายบทกลอนเรียงร้อยไปด้วยใจเพียร ขาดบทเรียนนำทางอย่างวาดไป แต่งได้บ้างไม่ได้บ้างอย่างวาดหวัง เคยผิดพลั้งเคยมีครูมาดูให้ แต่วันนี้ไม่มีแล้วไม่มีใคร ครูห่างหายไปไหนไร้ข่าวคราว ศิษย์ไร้ครูคนนี้  "คงซี้เลี้ยว" ครูไม่เกี่ยวเดี๋ยวไม่รุ่งคง  "พุ่งหลาว" โห..จิตใจดวงนี้เจ็บทุกคราว ก็ "เอาหลาว"  ไม่สนทนศิษย์เลย... มากวนจายอ่ะเจ้าค่ะ  หุหุหุ... จากคุณ : กรวี - [ 14 ก.ค. 50 18:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 18.47 น. คุย ... หน่อย คอยหนุ่ย นุ้ย        ลุ้ยวิง ลิงวุ้ย     กัน ... คุก กุ๊กคัน ขิง                 ข่มใต้ เป็น ... ไข่ ไป่เข็น ชิง               ต้มเละ เตะบ๊ะ โคลง ... สี่ คลี่ส่ง ให้                นั่นรู้ศาสตร์ผี คุย ... ช้านี่ ชี้น่า                      เฉน็งไอ โกง ... ฆ่า กล้าโคลง ไข           ข่ามี้ เป็น ... แขก แปลกเข็น ไส        ม้าขี่ ข่มพ่อ คัน ... วากย์ ครากวัน นี้            ไต่ร้อง "ขั้วมันชน" 19.11 น. นกผี*หนีผก ... กวีคำผวน*กวนวะคำผี*กวนหวีคำพระ สวัสดีข้อย มาช้าฮับ*สวัสดีครับ มาช้าห้อย ... ลิ้นห้อยอ่ะ แฮ่ แฮ่ ... บินจี๋ห้องกะว้าก ... ห้องเรืองกวีหมาด คร้าบ             (บินจากห้องกวี)    (ห้องราชฯกวีเมือง) (ขออภัย ติดไวรัส "เฉน็งไอ" จาก   "นิราศสุพรรณ" ภาค 184 ฮี่ ฮี่) *** (แฮ่ แฮ่ แก้ไข ภาค 185 คร้าบ ฮ่า ฮ่า) (มาแก้ไข ครั้งที่สองต้องห้าท เพิ่มเติมคำผวนในวงเล็บ ฮับ) (มาแก้ไขครั้งที่สามตามตำรา ...ช้านี่*ชี้หน้า "แก้ไขใช้เอกโทษตามหลักฉันทลักษณ์" .. ช้านี่*ชี้น่า) (แก้ไขครั้งที่สี่มรณะ ... ต้องร้อยโคลงสี่ให้สละสลวย ได้ความหมายชัดเจน) (ต้องแก้ไขครั้งที่ห้าอาถรรพ์มี รูปโคลงเสียเอกลักษณ์ ต้องยกเอาคำผวน มาแสดงต่างหากดี่กว่า) ข่มใต้(ไข่ต้ม) ต้มเละ เตะบ๊ะ(ตะเบ๊ะ เตะล้ม) นั่นรู้ศาสตร์ผี(นีราศสู้พรั่น) ข่ามี้(ขี่ม้า) ไต่ร้อง "ขั้วมันชน"(ต้องไล่ "คนมันชั่ว") *** แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 20:04:57 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 19:54:35 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 19:50:23 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 19:39:09 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 19:32:16 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 14 ก.ค. 50 19:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุยกันเป็นโคลง คุย กับความเงียบด้วย-            สติ กัน ศัตรูหมู่กิ-                        เลศบ้า   เป็น อยู่กับสมาธิ                    หนึ่งขณะ โคลง หนึ่งบทเนิบช้า              อวดเนื้อแสดงความ "บางสิ่งบางอย่างนั้น               แรงแขง บางสิ่งบางอย่างแปลง             เปลี่ยนได้ บางสิ่งบางอย่างแถลง             บ่ทราบ บางสิ่งบางอย่างไหม้              แต่ไร้รอยเผา" เออ โลกโลดเต้นเช่น             ละครโลก เรามนุษย์หลงอุปโลกน์          กระแดะดิ้น จึงยากจักหยุดโศก                หนอพี่ หนอเพื่อน พลางนึกพลางสติสิ้น             ซ่านฟุ้งแต่วิจาร ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 15 ก.ค. 50 10:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 19.06 น. คุย ... โม้ ใหญ่*ไม่โย้          สับไก ปืนแม่ กัน ... ใช่ ปืน*ชื่นไป            ป่นบ้า คัน ... ไถ เน่า*เฒ่าไหน        ไถแปลก   กุย ... ว่า เกา*วาว กล้า         ย่องจ้าโขนจอง เป็น ... ม่องแล้ว*แม้วล่อง      จุ้นละ โคลง . นะโม* no มะ             ฉะนี้ โปง ... กะเปิด*เกิดปะ            รัดถะ มะนูนใด เค็ญ .. ที่เป้า*เฒ่าปี้               ปากล้อรำเข็น 19.37 น. สับไก ปืนแม่*ไสกลับ แปล้มึน                                 ป่นบ้า*ป้าบ่น ไถแปลก*แถกไป ย่องจ้าโขนจอง*อย่าจ้องของโจร จุ้นละ*จะลุ้น ฉะนี้*ชี้น่ะ รัดถะ มะนูนใด*รัดไถ มะนูนดะ ปากล้อรำเข็น*ป้อลากเหลนขำ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 50 20:00:08 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 15 ก.ค. 50 19:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุย ไปพร้อมกระดกแก้ว.........สุรา กัน มิให้โซดา......................พร่องได้ เป็น ความสนุกเฮฮา..............จึ่งร่วม โคลง สดดั้นมอบให้..............พวกพ้องอาศรม ว่างเว้นเขียนโคลงนาน...วิชากลับเข้าหม้อหมดแว้ววว จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 15 ก.ค. 50 20:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 33 20.04 น. เป็น .. วัน ...คุย.. เก้ออยู่           คนเดียว โคลง. นก ..เป็น.. คำเหลียว       กลับรู้       คุย ... ผวน.เล่น .. เป็นเกลียว     สลักกลับ กัน ... เล่น.โคลง.. โม้สู้             แบบผู้พ่อเรา 20.19 น. ขออภัย ที่ เล่นคำ*รำเข่น ด้วยเห็นคนชอบ เล่นคลำ ครับผม จากคุณ : นกโก๊ก - [ 15 ก.ค. 50 20:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 34 20.37 น. คุย...กับเหล้า*เคล้ากับ         ลุยแฟน กัน...รับ Augustman            เพื่อนแก้ว เป็น..เพื่อนร่วมแก้ว แกน        กวีเก่า โคลง...เด่น อาศรมแผ้ว         ผ่องด้วยหนอนสุรา 20.44 น. วิชา กลับเข้าหม้อได้ ... แต่ ใจกวี มีแต่หม้อแตกกระจายฮับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 50 20:51:15 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 15 ก.ค. 50 20:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุย กับนกยกแก้ว............แกล้มโคลง กัน ร่ายรำเปิดโรง...........ไป่เร้น เป็น เพื่อนอย่าคลุมโปง....จงเปิด โคลง ร่วมสำนึกเน้น.........มนัสน้อมใจผสาน หวัดดีครับ คุณนกโก๊ก ขอบคุณที่ทักทาย ครับผม จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 15 ก.ค. 50 21:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 21.54 น. คุย ... สี่สุภาพ ห้อง         ราชกวี เมืองมา กัน ... พวกร่าน กลอนตี    ดับดิ้น เป็น... สุข*ปลุกเซ็น ผี      ปู่ใส่ โคลง..กับท่าน ปั่นสิ้น       ส่งแก้วน้ำใส โคลง..เคลงใส่แต่น้ำ        ใจสมาน กัน ....จิบกาแฟ ทาน        ค่ำเช้า เป็น... นกกระจอก ตกงาน  เนี้ยฟัก ฟูมแน คุย ...เล่า*เข้าลุย เหล้า     ต่างรู้หญิงชาย 22.05 น. นกเห็นอาถรรพ์ใจ ในคำครูพ้องเสียง Augustman ท่านเห็นเช่นนกบ้างไหมครับ ใช่หรือเมื่อ*เชื่อหรือไม่ ...หญิงเลิกเล่าได้เมื่อใด...ชายเลิกเหล้าได้เมื่อนั้น แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 50 22:16:08 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 15 ก.ค. 50 22:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณ พี่ทิวา            ที่กรุณา ป.ล.ถึง วันนี้ โม่งานจึง             ขอแวะตอบ แค่ขอบคุณ (ก่อนนะคร้าบ เดี๋ยวมาเม้าใหม่) จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 16 ก.ค. 50 08:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุย      วนเวียนว่างเว้น         วางโคลง กัน      ก่อเกิดการโยง         ยั่วเย้า เป็น     มวลมิ่งมิตรโขลง       คนเก่า โคลง   ฝืดเฝือยังเฝ้า           ฝึกแต้มตามเสมอ หายไปนานนนน....มากกกก... คนลืมกันหมดแล้วแน่ ๆ  ฮือ ๆ มาฝึกใหม่(ก่อนจะไม่ว่างอีก) รำลึกถึงคุณหนูศอ และ สหายทุก ๆ ท่าน เสมอ จากคุณ : ภูสุภา(บังอร-บังเอิญ) (บังอร-บังเอิญ) - [ 16 ก.ค. 50 15:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับ หนู ศ และทุกท่าน ๐ ระลอกเล็กระลอกน้อยทะยอยหนุน สาดเซาะทรายละมุนเป็นริ้วร่อง หลายรอยประทับลายจับจอง บางรอยต้อง.. ลางเลือนตามเวลา ระลอกเล็กระลอกน้อยทะยอยฝั่ง ดังจะฝังร่องริ้วคะนึงหา สัมผัส.. น้อยนิดที่ตรึงตรา ต้องลาตามรอยที่คลื่นลง เหลือรอยหลากรอยร้อยร้อยริ้ว วาดผิวหวิวหวานน่าลุ่มหลง รอระลอกลูกใหม่มาวาดวง สาดเซาะรอยคงให้ลางเลือน บึงใจรองรับกับคลื่นร้าว ย่อยยับเหนื่อยหนาวเข้ากรีดเฉือน โถมซัดนานปีจนชาเชือน รอวันมาเยือนสงบเย็น... แวะมาส่งข่าวว่ายังหายใจอยู่ครับ และสวัสดีปู่ออฯ กับพี่นกฯ ไม่ได้เจอกันนานมาก ทักทายท่านอื่นที่เห็นกันบ่อยๆ และที่มาใหม่ด้วยครับ ------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 23:06:40 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 22:56:42 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 50 22:55:00 จากคุณ : xers - [ 16 ก.ค. 50 22:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาสวัสดีพี่ศาลาไทย พี่ xers ปู่ออฯ ลุงนก และท่านอื่นๆครับ มาเยี่ยมเยือนอาศรม อ่านกลอนพี่ Xers แล้วคิดถึงแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นวันนี้ มีสึนามิกระทบฝั่ง จนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รั่วไหล น่ากลัวมากครับ http://www.tmd.go.th/earthquake_report.php http://www.cnn.com/2007/WORLD/asiapcf/07/16/japan.quake.ap/index.html ยังดีที่ทางการญี่ปุ่นเตือนภัยทัน คนตายคนบาดเจ็บไม่มากนัก แต่ความเสียหายและผลกระทบตามหลัง ยังน่าพรั่นพรึง ๐ ระลอกใหญ่ระลอกยักษ์ทะลักคลื่น กระทบกลืนผืนดินสิ้นชีพสูญ แผ่นพิภพสะเทือนลั่นหวั่นอาดูร รอยโศกพูนเพิ่มสะทกอกอาลัย ระลอกซ้ำระลอกซัดสะพัดโลก คลื่นวิโยคโชกเลือดหลั่งหลากไหล รอยเปลือกแตกแยกปะทุระอุไอ เกินคำนวณคลื่นไหวให้น่ากลัว เหลือเศษซากฝากศพทบร่างซ้อน ทะเลสอนคำเฉลยน่าเย้ยหัว เพลินวิวาทบาดหมางอย่างเคยตัว คลื่นแผ่นดินสั่นระรัวตายทั่วกัน! จากคุณ : โกฏิดารา - [ 16 ก.ค. 50 23:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ปักษาป่าสักซ้อง..........เสียงนำ ไพเราะเพราะไรจำ..........แว่วแจ้ว กลบทกฏบนคำ..................เคยร่าย กาลเนิ่นเกินนานแล้ว..............ร่วมร้อยค่อยเรียง สวัสดีทุกท่านครับ  ไม่เจอคุณนกเสียนาน ลองคำผวนบทเดียวพอ  ผวนมากเวียนหัว จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 17 ก.ค. 50 10:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 13.11 น. คุย   โยง   กฎ   คุ้ย  ใล่         เครียดคลาย         กัน    เล่น  บ่น   บ้าง  สาย      เลือดเต้น เป็น   กล   พ่น   น้ำ   ลาย       กระซ่าน โคลง บท   คุย   ใจ   เส้น        เครื่องไหว้อาศรม 13.24 น. สวัสดีน้อง xers ... ละเมอว่าเป็นเกลอ โกฏิดารา (ลุงน่ะแก่เกินปายเป่าฮับ) ขออภัยกวีใจเจ้าอาศรม ... ที่นกผีมาคุยเรี่ยราด หวาดดีคร้าบท่าน เค็ญยม*คมเย็น*เข็นยม*ขมเย็น*เข่นยม*ข่มเย็น นานหนักหนาที่นกบ่นบ้าในห้องราชกวีเมือง ยังไม่ลืมเรื่องกลบท "พันธวีสติการ" "พันธวีสติการ" กลบท 5 เส้นสาย ... เห็นจุดพลาดเผลอไผล แก้ไขให้ด้วย คุยกันเป็นโคลง โยงเล่นกลบท กฎบ่นพ่นคุย คุ้ยบ้างน้ำใจ ไล่สายลายเส้น แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 13:42:50 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 17 ก.ค. 50 13:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ๏  จารจำ ๏  เนิ่นนานกาลผ่านครั้ง............คราวไกล กราบฝากด้วยจิตใจ....................เจ็บนั้น หลากครั้งที่คนใน....................ห่ำหั่น  เฉือนนา เกินเจ็บเกินเก็บกลั้น..................เหยียบไว้จมดิน ฯ ๏  ต่างฝ่ายต่างร่ายร้าง.................รักกัน เชือดเฉือนอีกฟาดฟัน.................อ่อนล้า รักล้นจึ่งกลับฝัน.........................มาตลบ กลับซึ่งอีกหนึ่งหน้า...................รักด้วยใจหมอง ฯ ๏  รักไม่เป็นมากครั้ง.....................กี่ที เจ็บจิตจนมากมี.........................เจ็บช้ำ ไกลห่างใช่จักดี.........................หากขาด พรวนดินที่ปลูกซ้ำ.....................รดน้ำอยู่เสมอ  ฯ ๏  ทิ้งห่างรักห่างไว้........................แรมรา ระแวงจึ่งเข้ามา...............................บ่งชี้ แทนที่รักทุกครา............................ที่ผ่าน  มาเฮย ท้ายสุดในจิตนี้...............................จารึกไว้มิเลือน  ฯ ***วันก่อน  ปู่ออฯถาม  "กรวี  ไหงอาศรมฯโคลงมาเขียนกลออนอ่ะ..?"  โห..ก็กรวีคิดโคลงมะออกนี่ปู่เหอๆๆๆๆ  หยวนๆแระกัน  โคลงชุดนี้เอามาแก้ตัวเด้อ....หุหุหุ ***เข้ามาแก้ค่ะ  หลังจากด้านหน้าอยู่หลาย    จะบอกว่าเพิ่งเห็นว่ามีผิดก้อตะกี้เอง  รู้ช้าจริงๆๆๆ... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 50 14:44:49 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 17:54:26 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 14:24:09 จากคุณ : กรวี - [ 17 ก.ค. 50 14:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โคลงกลเราร่างร้อย.............รังสรรค์ เขียนบทเคยเลือนฝัน...........ดั่งบ้า เวียนพจน์เอ่ยเหมือนวัน.........คืนก่อน วนเก่าอ้างคอยล้า.................ค่อยร้างลืมคำ (พันธวีสติการ)  อ่านลง๕แถว โคลงเขียนเวียนวน  กลบทพจน์เก่า  เราเคยเอ่ยอ้าง ร่างเลือนเหมือนคอย  ร้อยฝันวันล้า ไม่ได้เขียนเสียนาน ต้องใช้คำ"ร้างลืม"จริงๆ  รู้สึกฝืดๆ เจอคุณนกเลยเอาซะหน่อย  สวัสดีทุกท่านครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 50 20:59:35 จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 17 ก.ค. 50 18:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 19.06 น. คุย ... เรื่อง ลับ อย่าได้             ขี้ ............ โกง               กัน ... ตะหาน หลงโรง               แตะ ........ ต้อง เป็น ... มติป่าช้า โขลง               กา ..........ไม่ โคลง ... รับของโจร ร้อง            ว่าร้ายไม่ .. รับ 19.16 น. แฮ่ แฮ่...ชักจะคุยเลอะเลือนแล้วจนได้...ใช่ "นารายณ์กางกร" บ่ฮับ จำบ่ได้ ...แฮ่ แฮ่ คมเย็น ... ท่านเล่นมาสะกิดต่อมกล บทสตินกแตก ... อีกแย้ว จากคุณ : นกโก๊ก - [ 17 ก.ค. 50 19:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ฉันคงแค่ทุกวันฝันเป็นกลอน เมื่อจะนอน ก็แค่ยกหมกหมุ่นฝัน เรื่องพูดคุยคงอยากลำบากครัน โคลงกลอนมันไม่รู้อยู่ที่ใด. อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 18 ก.ค. 50 12:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดี หนู ศ และทุกท่าน + นับแต่เจ้าบินไป ๏ เจ้าบินอยู่น่านฟ้า      หนไหน คงอิสระใน..เว-           หาสห้วง ตามแต่เจ้าท่องไป       ทุกแห่ง ขยับปีกตามท่วง          ทำนองไร้พันธนา ตัวเราหลงแต่ห้อง        คฤหาสน์ ใช้ชีพตกเป็นทาส        กิเลสบ้า ทุกวันสุขเพียงวาด       อากาศ ชีวิตเช่น*keeข้า               จิตใช้ด้วยกระหาย หลงลืมโลกกว้างแห่ง   เสรี ไร้เขตไร้กรงตี-           กรอบกั้น ไร้สมบัติศักด์ศรี          วรรณะ ลืมว่าโลกเช่นนั้น         เกิดพร้อมพสุธา นานนับแต่เจ้าห่าง-       เหินไป อิสระเป็นเช่นใด           หมดสิ้น หรือลืมว่ามีใคร            คอยอยู่ ใจแหลกเป็นชิ้นชิ้น       อยากได้เจ้าคืน ๚ *kee = อุจจาระ คนเราอยู่ในโลกไม่เป็นตัวของตัวครับ แด่อิสระที่หายไป ขอรับ ดีครับน้องโกฏฯ ขอบคุณที่เอาข่าวมาฝากกัน ดีครับพี่นก หลายวันก่อนได้ไปนั่งกับ พี่เหมอ ได้หนังสือมาเล่มนึง ยังบอกแกฟังว่ารู้จักกับพี่นก ผ่านทางนี้อยู่เลยครับ แหะๆ ลืมไปว่าไม่ได้วางโคลงเลย เลยเอามาแปะสักหน่อยน่อครับ ----------------------------------------------------- เอาใหม่ครับ ความคิดเห็นที่ '46 หายไปไหน ผีหลอกแล้วครับ อิอิ เอาใหม่สงสัยโพสตอนตี 4 เอาอีกครั้งสงสัยโดนแบนคำ อุจจาระ ฮับ อิอิ จากคุณ : xers - [ 18 ก.ค. 50 14:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ร่าย..ลองกรองฝึกไว้...........กวี.....กานท์ กล...หลากมากแบบจาร.......บท....ได้ บท...แบบแอบเรียนนาน.......กล....แต่ง กวี....เก่าเขาเขียนไว้............ร่าย...ร้อยรังสรรค์ ขอตั้งชื่อว่า กลบทนารายณ์ถอยหลัง ของคุณนกโก๊กคือ สกัดกระทู้ (ถ้าจำไม่ผิด) จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 18 ก.ค. 50 14:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มาขำเจ้าหนูเซอร์ถูกแบน kee อ่ะ  แหมนึกว่า  kee  แบน  ซะอีก   มาวาง  kee  กลางอาศรมก็เป็นจะอี้แหละน้อง... ถึงอาร์พี...  หายจ๋อยไปเรยอ่ะ  ตั้งแต่ให้เบอร์เมล์สาวๆไป  จะติดต่อการงานซักหน่อยก็มะได้  งอลแระนะ!! ปล.รักทุกคนน่ะค่ะ  จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ... แกล้งให้คนหมั่นไส้เล่นไปงั้นแหละ  55... ปล2.เครื่องก้อรวน  เน็ตก้อช้า  ช่างก็ไม่มา  เฮ่อ... จากคุณ : กรวี - [ 18 ก.ค. 50 15:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หนูกรวี..เรื่องระหว่างเราคงมีแค่จตุคาม  ช่วยเก็บ "โคตรเศรษฐี" รุ่นของแท้ไว้ให้องค์หนึ่ง อิๆ เรื่องของจตุคามยังลามหนัก กลางเหนืออีสานพักเรื่องทักษิณ มาปลุกเสกมวลสารกันจนชิน ที่ฝันไว้ก็ต่างรินกันออกมา จะให้หวังอะไรไปกว่านี้ ก็เรามันพวกมีหนี้เต็มบ่า แบกกันจนบรรลัยใครนำพา จึ่งบ่ายหน้าพึ่งจตุคามลามทุ่งเอย. สวัสดีทุกท่านครับ. จากคุณ : Ar@p - [ 19 ก.ค. 50 09:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 19.17 น. เล่น ... ไม่ดี เล่นขี้ .............. ลุย ... xers บท ... เด่น ลำยอง เสมอ ..... บท ... แท้ กล ... นก ผกผวน เจอ ........ กล ... ศอก กลับแล คุย ... มาก ชัก อ้อแอ้ ......... เข่น ...เหล้าหนอนสุรา 19.23 น. ขอมั่งตั้งชื่อ กลบทนี้ ... นารายณ์ผวนผัน ไม่เจอกัน นาน พี่เหมอ xers น้องพี่ โกฎิดารา เกลอกระผม คารมดี บทกวี คมเย็น เล่นเป็นกล นกโก๊ก ข้างบนนี้คุณนกโก๊กฝากโพสท์ครับ จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 19 ก.ค. 50 11:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุยเป็นโคลงพี่แกล้ง   คุยคุย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน - [ 19 ก.ค. 50 17:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ชนช่วงธรรมชาติใช้           ตามสเบย รำคาญนักธรรมชาติเลย      ประท้วง อานนท์ที่นอนเกย              แกล้งขยับ พิรุณสลับเวหาห้วง             เหือดแล้งหลากฝน จากคุณ : CrazyHOrse - [ 19 ก.ค. 50 18:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แวะมาวางค่าวโคล้ง...คำกลอน ยามว่างจากการนอน...ยื่นก้น มะรืนกลับต้องสอน...เด็กซ่า อาจจะตายตอนต้น...ตกใต้เตียงตาย ---------------------------------- นัดประชุมเด็กเยาวชน จะสอนงาน เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เยาวชนหมายฟามว่า อายุ ตั้งแต่ 15 ไม่เกิน 25 จากคุณ : sugarhut - [ 19 ก.ค. 50 18:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เหนือกลางออกตกใต้.............ล้วนไทย เข่นฆ่าด้วยเหตุใด.................ไม่แจ้ง ศาสนาบอกโยงใย...................ฉงนยิ่ง จิตยึดหากใจแล้ง...................แก่นแท้ศาสนา แผ่นดินฤๅเหตุเร้า..................โรมรัน แบ่งแยกด้วยชาติพันธุ์.............ต่างเชื้อ ประหารประหัตกัน..................ใครอยู่? อยู่อย่างสูญเลือดเนื้อ..............อยู่ได้อย่างไร? จากคุณ : สายลมคิมหันต์ (สายลมคิมหันต์) - [ 19 ก.ค. 50 22:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เรียน ท่านสหาย I           ค็อกแค็กเพราะหน้า                 ฝนพรำ Love      กระจัดกระจายประจำ               แจกน้อง Po         ถั่วไพ่มั่วกำ                           แสนบาป em        ตี่ว่างเปล่าต้อง                       ต่อเหล้าเติมเต็ม. ดังนี้ ขอรับ. * เห็นบทตอบของท่าน คมเย็นแล้ว ก็ต้องรีบเขกกบาลตัวเองดังโป๊ก แล้วก็มาแก้ไขนี่แหละ ขอรับ คะนองสำนวนไปหน่อย หนอยแน่ะ เขียนโคลงทั้ง ทีจริง และ ทีเล่น ในถนน ฯ นี้ มาก็เยอะจนหัวจะผุแล้ว ชัดฉา มาตายน้ำตื้นเอาง่าย ง่ายนี่เอง วรรคที่ ๔ พวกใส่ ตี้ รูปวรรณยุกต์ โท ซะเต็มดอก อายเขามั้ยล่ะ !!! แฮ่. . . แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 50 02:58:42 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 50 02:57:25 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 19 ก.ค. 50 22:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อีกสามเดือน ------------------------------------ อีกสามเดือนเหมือนว่า ท่าจะหนัก ประเทศไทยที่รัก กระอักหมอง เพราะลูกไทยหลานไทยได้แต่จอง- เวรกัน,น้ำลายนองท่วมแผ่นดิน คงจะเศร้ากันอีกครั้ง อย่างที่เคย พระสยามฯ เจ้าเอ๊ย คงเฉยสิ้น ก็ลูกไทย หลานไทยใจมันชิน ใช้แต่ลิ้นสอพลอบ้ายอกัน เอาแต่แย่ง เอาแต่ยื้อเข้าถือดี สิ้นชาติกันคราวนี้ ไม่มีฝัน ดักดานโฉดเชื้อ ไม่เผื่อปัน พอถึงวันบรรลัย...ใครเจ็บตัว. คิดถึงทุกท่านครับ. ป๋าคัมภีร์หายไปไหนหนอ. จากคุณ : Ar@p - [ 21 ก.ค. 50 13:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 60 "ใจ ใจ ใจ" ............... ใจ ใจ ใจนี้ มีหลากหลาย ใจหาย คิดไป ต้องใจเสีย ใจเหงา ทำเอา เราใจเพลีย ใจละเหี่ย อ้างว้าง แทบวางวาย ใจร้อน ทำให้ ใจแหลกเหลว ใจเร็ว ด่วนนัก มักใจง่าย ใจดี อดทน คนใจร้าย ใจสลาย คิดไป เพราะใจดำ ใจใหญ่ มองเห็น เป็นหัวหน้า ใจกล้า ใจกลัว สิ่งชั่วต่ำ ใจสั่ง ถึงกาย หมายกระทำ ใจพลั้ง ด้วยคิด ผิดครรลอง ใจเย็น ใจสงบ พบความสุข ใจทุกข์ ห้ามใจ ไม่เศร้าหมอง ใจคด อย่าหวัง ดังใจปอง ใจต้อง แน่นหนัก เพราะรักเธอ๚ ...................................... ปล่อยให้กลอนพาไป "ใจ ใจ ใจ"...ใครคิดว่าไม่สำคัญ สวัสดี สมาชิกทั้งเก่า-ใหม่ ทุกท่าน ครับ จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 21 ก.ค. 50 18:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เรียน ท่านชายพจน์ I.......saw  your  poem..............I  เพลีย love...แต่เพียง  my  เมีย..............เท่านั้น po.....ปั่นบ่อนไพ่เคลียร์................โปลิส em....ติหมดแก้วกระชั้น.................บ่อยครั้งรินสุรา สวัสดี   everybody จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 21 ก.ค. 50 21:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณอาพี ฝีมือไม่เคยตกจริงๆ คุณคมเย็นกับคุณนกโก๊ก เล่นกลบทแบบนี้ ผมตามไม่ทันคร้าบบบบบบ ท่านอื่นๆก็ขอน้อมเคารพมา ณ ที่นี้ เอากลอนมาแปะให้รู้ว่ายังอยู่ นั่งเหม่อมองท้องนภาฟ้ากระจก ใครหนอยกกระจกฟ้ามาค้างหาว สายไหมเมฆลอยฟ่องล่องฟ้าราว ปุยสำลีสีขาวยาวยองใย ยามพายุปะทุโถมเข้าโจมจู่ ฟ้าพร่างพรูฝนพรำดุจร่ำไห้ กระจกฟ้าคล้ำหมองนองอาลัย เมฆมัวหม่นคล้ายใครร่ำไห้ตาม หากเมฆคลุ้มลมคลั่งยั้งความโกรธ สำนึกโทษผ่อนคลายหายหยาบหยาม กระจกฝ้าฟ้ามัวสลัวลาม เปิดแสงสอดลอดวามวะวับแวว กระจกฟ้าสุดฟ้าสุดตาเห็น เมื่อโปร่งใสใจเย็นเช่นดวงแก้ว เอาใจรู้ดูกระจกครบหกแนว แสงปัญญาสง่าแพร้วจักแพรวพราย จากคุณ : โกฏิดารา - [ 24 ก.ค. 50 21:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุยโคลงดูท่าแล้ว                  ชักเซ็ง หลายท่านแอบมาเล็ง             อยากรู้ คำโคลงไม่ครื้นเครง              เลยเบื่อ คนเก่งไม่มากู้                       ก่อนร้อยคงวาย เสียดายตอนเริ่มนั้น                 ดูดี หลายท่านหลายวิธี                  ช่วยจ้ำ โคลงกลอนที่วางมี                  หลายเรื่อง นานเนิ่นเกินกว่าช้ำ                  ช่วยชี้หนทาง คุยกันเป็นโคลงกลอนตอนต้นต้น ศาลาไทยช่วยด้นดูแจ่มใส เอาคำของคนแก่มาวางไง               เพื่อนเข้ามาคุยกันใหญ่หลายเรื่องราว แต่ยิ่งนานเนิ่นไปไฟจะมอด หลายท่านออดอิดเอื้อนดูเพื่อนกล่าว บ้างบ่นความในใจไม่ยืดยาว บ้านเมืองร้าวใจหายไม่คลายคืน คนทั่วไปแบ่งสองฝ่ายเข้าห้ำหั่น ต่างแยกเขี้ยวยิงฟันสุดจะฝืน ในเวปไซด์ยังวุ่นวายไม่กลมกลืน นักเลงกลอนไม่สดชื่นเหมือนก่อนมา แสนสงสารศาลาไทยใจเป็นห่วง อาศรมโคลงเรต(ติ้ง)ร่วงลงหน้าผา หรือจะปล่อยทิ้งไว้ให้ลือชา ถึงปีใหม่จึงค่อยมาวางใหม่เอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 31 ก.ค. 50 06:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ศาลาไทยเปิดกระทู้..................ชาวโคลง เสมือนโซ่สัมพันธ์โยง...............เพื่อนพ้อง สมานมิตรมั่นจรรโลง................ร่วมสืบ ศิลป์นอ สมแก่เจตนาห้อง.....................แห่งนี้เสมอเสมอ จึงเผลอใจสืบค้น.....................ข้อมูล โคลงสี่อันจำรูญ......................ใคร่รู้ เคยเขียนอย่างสูตรคูณ..............คราอดีต สนิมเกาะเกินกว่ากู้...................กระเทาะทิ้งทวยสนิม ปลาปิ้งยิ้มยั่วน้ำ-......................ลายแมว แมวย่อมฉายตาแวว..................ใฝ่ลิ้ม เฉกเดียวดุจโคลงแพรว..............ผองเพื่อน พี่ยา ย่อมยั่วข้าน้อยจิ้ม-....................ดีดด้วยโคลงเคลง คารวะชาวอาศรมทุกท่าน ขอเอา โคลงเคลง มาร่วมอาศรม เปิดผังโคลงสี่สุภาพ แล้วเขียนตามผัง (กันผิด กันพลาด) ผิดถูกประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ^_^ จากคุณ : ปลิวตามลม - [ 31 ก.ค. 50 23:53:54 A:125.27.213.174 X: TicketID:151618 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ห้าขิวกิ่วท่าน้อง                  ไส่แซบ เพินงิศเป๋ายอบแยบ             แกล่วเลี้ยง เอมหนีไป่เล่นแกบ              คั่นว่าม ข้ามคืน ตูบถูกซังกลดเมี่ยง              จ่ำขรึ่งคลอนกรวญ   เรือใหญ่จะไคลคลา            พยับพายุมาไกล ครึ้มเมฆสลัวไหน                ฤจะพานวาลาญ เรือใหญ่บ่มีชน                   ตะละคนก็เบื่อคราญ คงคอยสถานการณ์             ขณะฟ้าสว่างใส จากคุณ : ปฤษณะ - [ 1 ส.ค. 50 10:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุย_ขรมขรึกครึกครื้น........ชาวโคลง ถ้อย_อักษรจรรโลง..........เด่นล้ำ ร้อย_เรียงเรื่องราวโยง.......ศาลา ไทยนา ความ_มั่วมีมากย้ำ.............ช่วยแก้ กันที..... ****มาช้า ดีกว่าไม่มา นะศอนะ**** จากคุณ : NoWaR - [ 1 ส.ค. 50 19:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ๏เอ่อแบบว่าไม่คุ้น........เมาคำ แบบว่าแอ๊บแบ๊วทำ.......ชิมิค้ะ อินเทรนด์หน่อยว่ากำ....แบมิออก ป๋าปู่มิเอาล้ะ................ตะหลื่นตะเหล้นตะลึงตะลึงฯ สวัสดี ขอรับ ทุกท่าน เอ่อ... อ่า.... ไม่ทราบครับ แหะ แหะ ปล. คุณปลิวตามลม เยี่ยมเลยครับ แหะ แหะ ถ้า คุณปลิวตามลม "สนิมเกาะเกินกว่ากู้...................กระเทาะทิ้งทวยสนิม" กระป๋ม ก็คงร่วงลงเหว แล้วยังทะลุเหวไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ แหะ แหะ สวัสดีครับ จากคุณ : นายทิวา - [ 1 ส.ค. 50 21:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เหม็นบรรยากาศไหม้     การเมือง คิดจะคุยกลัวจะเคือง     ข้อยซ้า... อ้าปากปู่ชำเลือง          ชะแว้บหลบ สงบเลย อึดอัดใจแทบบ้า           อุโว้ยโอ๊ยโอ๋ย แหะ แหะ ขอรับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 2 ส.ค. 50 11:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขออนุญาตชาวอาศรมทุกท่าน ถึง "นายทิวา" ขอบคุณที่ทักทาย ยินดียิ่ง แต่ ชื่นชมเกินไป ที่เขียน นั้น โคลงพาไป หาได้สามารถกว่านี้ไม่ เขียนตาม ผังโคลง ดังกล่าวไว้ เท่านั้น * ท้ายนี้ แก้ กระเทาะ เป็น กะเทาะ ตามพจนานุกรม ^_^ จากคุณ : ปลิวตามลม - [ 2 ส.ค. 50 21:13:47 A:125.25.252.142 X: TicketID:151618 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ...                   ประชาธิปไตยมาแล้ว !              ๏กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ๊ย               มาแล้วเหวย เกยกอง จับจองได้              แบบฉบับ คับแก้ว ตามแนวไทย              ชื่อประชา –ธิปไตย ท่านให้มา              ๏ป่าวประกาศ กู่ร้อง จนก้องกึก              อึกทึก คึกคัก เข้าดักหน้า              ทั้งสามโลก โยกเขยื้อน สะเทือนตา              สะท้านหู ให้รู้ว่า วิชชาดี             ๏ถือกำเนิด เกิดใหม่ รอใส่พาน             ปาฏิหาริย์ บันดาลดล คนมีสี             ประหารฉับ รับชื่อ กับมือชี้             อัศจรรย์ พลันมี อัศจรรย์             ๏ทะมึนเมฆ มืดมา พายุม้วน             หอบแมกไม้ ไล่สวน ป่วนสวรรค์             ซ่าเสียงฝน ซัดสาด เข้าฟาดฟัน             สายน้ำนั้น ไหลนอง สองนครา             ๏อัศจรรย์ พลันนำ สู่กำเนิด             ธรรมนูญ ล้ำเลิศ เกิดในหล้า             ธรรมนูญ แห่งรัฐ ท่านจัดมา             ลงสู่พาน แว่นฟ้า ในครานั้น            ๏กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ๊ย            มาแล้วเหวย เผยโพย โดยผกผัน            เกิดประชา –ธิปไตย ขึ้นได้พลัน            จากสวรรค์ ร่วงไหว ตกใส่ตีนฯ                  ....................... ... สวัสดีครับ ทุกท่าน แหะ แหะ จากคุณ : นายทิวา - [ 3 ส.ค. 50 16:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 71 รัฐธรรมนูญ ธ ร่างแล้ว    ลอยสวรรค์ ลงฤๅ วิจิตรพิศดารบรร           เจิดหล้า มหิทธาปสาทสรรค์        สยามกเดื่อง ดินเฮย ผองไพร่ประชาอ้า         โอษฐ์โอ้ปาฏิหาริย์ รัฐธรรมนูญรัศมิจ้า         เจียนจันทร์ แจ่มแฮ ไตรโลกลือจริยธรรม์      ท่านท้น ประชาธิปไตยบัน           ดาลบัด เดี๋ยวแฮ กาบัตรยัดใส่ก้น             หีบสิ้นเสร็จสม จากคุณ : CrazyHOrse - [ 4 ส.ค. 50 11:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ๏ ดูโต้วาทีรัฐธรรมนูญ พูนหงุดหงิดงุ่นง่าน หันมาอ่านอาศรม มาชื่นชมคมคำ เพื่อนพี่นำมาเขียน เป็นบทเรียนสอนจิต ใช้ความคิดวิเคราะห์ เสียงเสนาะสำนวน สำรวลชวนกันคุย ตะลุยดงภาษา พอเฮฮายั่วยิ้ม กวีรสชวนลองลิ้ม อ่านให้คลายเหงา๚ ๋๏ รสกวีมีอณูอยู่อากาศ ค่อยคว้าธาตุมาผสมเข้าบ่มกลั่น เคี่ยวให้เข้มเต็มข้นจนแตกมัน กรองกากชั้นคั่นควักตักตะกอน ใส่เนื้อคำสันในจากใจกล้า หยดน้ำผึ้งพจนาตราอักษร ปรุงกลมกล่อมย้อมใจในบทกลอน แล้วหยิบช้อนตักแกงพะแนงกวี มาราดข้าวหุงใหม่นาใจมั่น เหยาะน้ำปลาตราแม่วรรณศิลป์ศรี แกล้มความรักผักเคียงเสียงดนตรี สำรับนี้กินได้ไม่เบื่อเลย๚๛ เห็นอาศรมเงียบๆไปหลายวัน เลยเอามาแปะกันร้างครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 6 ส.ค. 50 02:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุยกับความเหว่ว้า........วังเวง อยู่ท่ามศิลป์บรรเลง.....เปลี่ยวร้าง อยู่แต่กับตัวเอง..........อัดอก หัวไม่เห็นครุ่นคว้าง......เฉดทิ้งเงาหัว จากคุณ : สัตว์ประหลาดประจำโลก - [ 6 ส.ค. 50 14:57:37 A:10.2.5.1 X:202.60.199.126 TicketID:102390 ]

ความคิดเห็นที่ 74 นั่งหัวโด่หน่อด้าน.........หน้าดำ คนแห่ชมชี้ขำ..............ทั่วถ้วน เงาหัวขาดหัวคลำ.........หัวคิด รูปสลักปลักพังล้วน......เด่นตั้งหัวหาย จากคุณ : สัตว์ประหลาดประจำโลก - [ 6 ส.ค. 50 16:52:18 A:10.2.5.1 X:202.60.199.126 TicketID:102390 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คนแห่เห็นรูปปั้น..........มิปาน ปั้นรูปอวดประจาน.......กราบไหว้ เห็นกันทั่วเนิ่นนาน.......เว้นแต่ กรูเอง ประหลาดรูปปั้นไร้.......รับรู้อยู่จริง จากคุณ : สัตว์ประหลาดประจำโลก - [ 6 ส.ค. 50 16:59:57 A:10.2.5.1 X:202.60.199.126 TicketID:102390 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มโหรีปี่พากย์ร้อง........................รื่นเริง ว้าเหว่ท่ามบันเทิง........................ท่านทิ้ง สรวลสนานสนุกกระจายกระเจิง......เว้นกระจุก จ่อมจม หัวตัดบายศรีกลิ้ง........................เซ่นไว้ไหว้ครู จากคุณ : สัตว์ประหลาดประจำโลก - [ 6 ส.ค. 50 17:07:31 A:10.2.5.1 X:202.60.199.126 TicketID:102390 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เห่ทะเลทั้งโลก..................ชักชวน จันทร์พุธศุกร์ทะเลอวล........อุ่นชู้ อังคารพฤหัสหวน...............ทะเลเพรียก ทะเลคู่ใครไม่รู้..................ไม่รู้ทะเล จากคุณ : สัตว์ประหลาดประจำโลก - [ 6 ส.ค. 50 18:43:05 A:10.2.5.1 X:202.60.199.126 TicketID:102390 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอโทษที่เขียนเลอะเทอะเหลวไหลไร้สาระหลายข้อความ หัดเขียนลองดูจับใจความไม่ค่อยได้ จะลบทิ้งก็ได้ไม่ว่ากัน ไม่รบกวนพื้นที่แล้วล่ะ จากคุณ : สัตว์ประหลาดประจำโลก - [ 6 ส.ค. 50 18:49:53 A:10.2.5.1 X:202.60.199.126 TicketID:102390 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นักเลงกลอน  หน้าใหม่  ขอคุยด้วย ได้โปรดช่วย  เสริมส่ง  อย่าผลักไส อยากจะช่วย  อนุรักษ์  สมบัติไทย หวงแหนไว้  มิให้ใคร  โบกมือลา ประสบการณ์  กาพย์กลอน  ยังน้อยนิด ฝากตัวเป็น  ลูกศิษย์  ปราชญ์ภาษา จะขึ้นแท่น  แต่งโคลง  มิหาญกล้า กาลผ่านมา  มิได้ลับ  มิอาจคม เคยแต่เพียง  เอื้อนเอ่ย  ทำนองเสนาะ กลอนสุภาพ  กาพย์ฉันท์โคลง  มิได้ข่ม ศิลปากร  จัดแข่งขัน  น่าชื่นชม เพราะนิยม  จึงได้เยือน  หลายเพลา แค่แนะนำ  เป็นกลอน  ร้อนเหงื่อตก ช่างตลก   โวหาร  ที่สรรหา ไม่ซับซ้อน  ไม่ล้ำลึก  เหมือนเคยมา เอาเป็นว่า  จบแค่นี้  ดีกว่าเอย จากคุณ : คุณชาย...หูกาง (คุณชาย...หูกาง) - [ 6 ส.ค. 50 23:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอยกกลอนเก่ามาฝากคุณ คห.๗๘ และ คห.๗๙ ขอบคุณที่ตั้งใจสนับสนุนอาศรมโคลง ครับ หาคำมาให้ได้แปดเก้าคำ วรรคสองนำมาต่อพอสัมผัส วรรคที่สามตามใจไม่เร่งรัด ถึงวรรคสี่จบบรรทัดสรุปเลย บทที่สองก็คงเป็นเหมือนเช่นเดิม แต่ต้องเสริมบรรทัดสองสัมผัสเฉย กับคำท้ายบาทสี่ที่คุ้นเคย ฟังผมเอ่ยแล้วเขียนไปไม่ต้องกลัว ยกตัวอย่างให้ดีวันปีใหม่ เขียนอวยพรถึงใครส่งไปทั่ว ตั้งใจเรียงแปดคำให้ลงตัว สี่บรรทัดพันพัวล้วนแต่ดี ถึงปีใหม่ขอให้ท่านมีสุข ไม่มีทุกข์ไม่มีภัยไม่เป็นหนี้ มีเงินทองมากมายชั่วชีวี อีกร้อยปียังอยู่ได้ไม่เหี่ยวเอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 7 ส.ค. 50 04:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขออนุญาต คุณศาลาไทยครับ       รสดลดาลฤดีเพี้ยง  เพ้อฝัน  อาบรัตน์ธารสุคันธ์       โบกขรณ์ห้อง  สมทิพย์นาฏสวรรค์       ในหุ่น หงส์ฤๅ  โอเปลี่ยนย้ายป่ายป้อง     ปีกคว้างแขวนเสนอ        เหิรเห็จหาวอุระลิ่ว  รัญจวน  กรกรงนัขกุมชวน        อย่าช้า  ปางฉวยฉุดปทุมสงวน     ดวงดอก  ทั้งสละสระสรวงหล้า      สู่ฟ้าถลาถลำ        ซ้ำซีคะทรวงสมแล้ว  หลอมถวาย  รสสรวงสุคนธสาย         ซราบซรั้น  อาบสิโอ้องค์หมาย         มามอบ  มามอบหลายสระชั้น        โชกเนื้อเปียกเอม        เอมอิ่มอังอุ่นโอ้  องค์เอ๋ย  ซบนะแน่นเกลียวเกย     กี่ใกล้  กระไออกไวเฉลย       ใบ้บอก  วานว่ามาซ้ำให้         อย่าร้างว่างสิเนห์        แสนคนึงนุชน้อยแม่  เมือคราง  สนองเสนาะเตือนตาง       กระชั้น  สายน้ำเสียงสุรางค์         สรวมโสต  หลอมรันทวยท้นกลั้น       กล่อมฟ้องรัญจวน        หนุนตักลอบลูบเล่น  ผมสยาย  ยามคลื่นเคล้ากลืนทราย     หาดเนื้อ  หาดผิวเอ๋ยใจหมาย        จักอยู่  ชมพระจันทร์แจ่มเชื้อ       เชิญขึ้นครองอีกหน        จันทร์พระยศเยี่ยมฟ้า  แขวนสรวง  แสงสัมผัสเพียงปวง         ดอกไม้  จะหากลีบเดือนดวง         ดาวอื่น  เป็นหมื่นแสนปีได้          ดั่งนี้มีหรือ        จักชลอน้อยนาฏ  สถิตแทน  ส่องประทับเดียวแดน     อกข้า  อัญเชิญสู่ขวัญแหน      กลัวห่าง  หับประตูชิดช้า         ค่อยช้อนชวนสิเนห์        อาดองค์โหมก่อหั้น  ไหวถวิล  หวานหากวานสมรริน       เรี่ยเร้า  เมินแท่นทิพย์เทอญอินทร    มาโลก  จักฉงนฉงายเฝ้า          ใฝ่น้องในเรียม        บัณฑุกัมพลอาจร้อน  อบรมณ์  เคยอ่อนอาจแข็งคม        แตะต้าน  ระทวยทิพยเนตรชม        สรีเรศ  ทอดแท่นท้าวเธอม้าน       เมียงท้องแท่นนวล        จะอัญเชิญนุชชวนนั่น  โน่นนิด  หน่อยนา  เอนโอบโฉมประชิด         เช่นนี้  หากถามกลัวเจ้าคิด         เขินบอก  จึงจูบทั้งยังงี้             ยังงั้นรัญจวน        จักพะนอเนื้อเขาค่อย  คอยถนอม อย่างไร พี่เอย  รอยไป่เป็นปานปลอม        แปลกจ้ำ  อกเอ๋ยเผยยินยอม          ใจอ่อน  คงคะนองสิคะย้ำ           บ่ได้ปรานี          ใจกระจัดจุณร่างสร้อย  สงสาร  หน่อยนา  ปรานีนุชเครือขาน           โปรดชู้  โปรดเถิดอย่าทรมาน         มาสิ  มาสินะคะรู้               ว่าพร้อมฝากเอมฯ                                            . จากคุณ : สุปศกาล - [ 7 ส.ค. 50 23:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 17.50 น. คุย.....ตามกระทู้ ท่าน         ตั้งประเด็น กัน.....ไม่ทราบ ใครเป็น      เพื่อนบ้าง                     เป็น....ถ้อย ถกความเห็น     ให้เพื่อน คิดแน โคลง..ไม่คม ไม่ล้าง           หลักรู้โคลงเรือ จรร.....ยา เหลืออด ไร้        รสอรรถ โลง.....แตก แหลกเรือรัฐ     ล่มแล้ว กวี......ใจ เบื่อตระบัดสัตย์    เฒ่ารัด-ถะบานแล ศิลป์....ขาดศาสตร์ บาดแก้ว  ปากกล้าเกินพอ วงค์....."ตัวย่อ" ล่อล้วน        เอมโอษฐ์ กวินท์..เร่าร้อน พิโรธ           เล่นลิ้น ดิ้น......ดุด่า มาโกรธ           เล่นบท กลใด รน......อัคคีนรก สิ้น            ศักดิ์เศร้าสูญกวี อับ......ปะรี ที่ไร้                หลักกลอน จน......ไม่จำ คำสอน          ก่อนชี้ ใจ......จริง อยากวิงวอน      ก่อนล่ม เรือแล     จริง.....ไม่จริง นกนี้            ไม่น้อยหน้าใคร 18.27 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 8 ส.ค. 50 18:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มาแอบอ่าน มาแอบฟัง คุยกัน ครึกครื้น ครื้นเครง ปล. สวัสดี คุณ นกโก๊ก ด้วย ขอรับ ไม่ได้เจอเสียนานโขเลย ขอรับ แหะ แหะ จากคุณ : นายทิวา - [ 8 ส.ค. 50 19:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 84 23.38 น. คุย ...... เป็นโล้ โปะเร้น         เกรดทัน เรียบเฮย กัน ...... เทศน์ เหตุผลิกผัน    ปั่นเต้น เป็น...... ตัน ปั่นทุกวัน           คันโล่ง โคลง ... ลั่น ฐานเลือกเฟ้น     ไฝ่รู้วิชา ทิ ........ พากร อ่อนล้า          เลือนแสง วา ....... คืบ ศอก ออกแรง     เหนื่อยแล้ว โกง ..... ค่ะ กะโคลง แหนง     หน่ายเหน็บ หน่อยแน เพื่อน ... แอบ แอ๊บแบ๊ว แป้ว   ปากเอื้อนธรรมดา นก ..... กา มาเยี่ยมบ้าน         เยือนอา- ศรมพ่อ เถื่อน .. ผิดที่ ลืมคา-              รวะจ้าว คุย ..... ตามแบบทู้ ศา-          ลาแม่ โคลง .. สี่ โล้แล่นอ้าว            ออกโค้งโคลงเคลง 00.12 น. คุยกันเป็นโคลงฮิ ... กลางราตรี...  หวัดดีฮับ นายทิวา น่าจะเจอกันอีกเน้อะ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 50 00:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 85      ๏     อัศจรรย์อยุทธย์ย้อน     อัศจรรย์ ทวาทศมาสสวรรค์                    สวาทชู้ กำสรวลกำสรวลกระสัน              สรงสระ "สุปศกาล"แกล้งกู้                    คอบคืน     ขอบคุณ ๚ คำแนะนำในการรับชม(สำหรับ คห.81) "ฉ" ...เอิ๊กส์...สุดยอด   สวัสดีท่านทิวา หนูศอ. และทุกๆ ท่าน ตามอ่านตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว แต่ไม่มีโคลงมาวางครับ =) แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 21:12:47 จากคุณ : เหงาจังเลย - [ 9 ส.ค. 50 01:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ............ ๏  ด้วยเหงาจึงใฝ่ฟ้า........................เคียงกาย ร้าวจิตมิเว้นวาย...............................เหว่ว้า วังเวงแว่วแผ่วกลาย.........................มาสู่ หทัยวิ่นสิ้นแสงกล้า.........................ปวดร้าวใจสนอง  ๚ ๏ ฟ้าควรคู่อยู่ฟ้า...............................เทียมกัน ไฉนจักคู่ควรตะวัน..........................นั่นได้ เพียงใครกล่าวคู่พลัน.........................กระสันบอก  มาเฮย จริง-เท็จหรือหลอกไว้.......................ครั่นคร้ามหทัยเสมอ  ๚๛ ***ฟ้าควรอยู่คู่ฟ้า  ไหนจักมาคู่ค่าเคียง  "ตะวัน".... 14.08 020807 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 16:29:30 จากคุณ : กรวี - [ 9 ส.ค. 50 16:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 87 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=konravee&month=09-08-2007&group=4&gblog=76 เอาลิ้งมาฝากจ้า  ช่วยแต่งมาร่วมสนุกกันนา  มีของรางวัลตอบแทนด้วยอะจ้า.... จากคุณ : กรวี - [ 9 ส.ค. 50 19:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 88 มาเยี่ยมครับ ^^ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 15 ส.ค. 50 00:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดี ขอรับ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรม สวัสดี หมีเซอะ ไม่เจอเสียนาน (มันน่าชวนก๊งสุรานัก มาทำเป็นเขียนไปได้ว่า "มาเยี่ยม" อิอิ) ไม่มีโคลง ไม่มีกลอน และไม่มีอะไรมาวางไว้ในอาศรม อันเป็นไปตามธรรมชาติปกติ ของอีตาทิวา อิอิ กระนั้น ก็มีประเด็นมาชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรม (รวมถึงอีตาหมีเซอะ ด้วยเฟ้ย) ไปแลกเปลี่ยนทัศนะ ว่าด้วย เส้นแบ่ง "ศิลปะ" กับ "อนาจาร" (แน่นอน ควรต้องมีประเด็นพาดพิง ถึง "สรรพลี้หวน" , "พระลอ" , เสภาขุนช้างขุนแผน และ ฯลฯ ) ไประดมความเห็น แลกเปลี่ยนทัศนะอันหลากหลาย ด้วยมิตรไมตรีประสาชนชาวในสวนอักษร นะ ขอรับ ที่นี่เลย ขอรับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5716123/W5716123.html ->->-> สื่อลามก หรือ วรรณกรรมอีโรติก ? <-<-<- ความเห็นที่หลากหลาย ย่อมนำมาซึ่งสิ่งที่ดีกว่า เพื่อชุมชนแห่งสวนอักษร ขอรับ แหะ แหะ โปรดไปร่วมครึกครื้นเพื่อคึกคักโดยพลัน ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 16 ส.ค. 50 17:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ที่สิบเก้าสิงหามาใกล้แล้ว ตั้งดวงจิตให้ผ่องแผ้วไปกาบัตร เลือกเส้นทางเป็นครั้งแรกแปลกชะมัด เห็นทุกทีเคยจับยัดให้เราเดิน เลือกผู้คนเลือกอย่างไรก็ไม่รู้ เห็นดีอยู่ไม่นานพาลขัดเขิน เขาไม่ชอบก็เขี่ยไปให้หมางเมิน แล้วชวนเชิญหาคนใหม่ไร้ความเลว..(มีหรือ?) จากคุณ : เจียวต้าย - [ 18 ส.ค. 50 10:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 91 พี่ติ๊วา เรื่องที่ชวนไปเสวนา หมีบ่ถนัดอ่ะจ้า เพราะตัวเองก็ยังบ่ฮู้เรยว่า ไอ้ของอย่างงี้มันมีเส้นแบ่งด้วยเรอะ แล้วไอ้เส้นที่ว่า ของแต่ละคน มันหยิกหยอยใหญ่เล็กเท่ากันอ้ะป่าว กลัวว่าเข้าไปแล้วจะพูดคนละเรื่องเดียวกันอะดิ ............... แต่ถ้าจะให้เกียรติเก๊กขรึมได้ซักสามวิ หมีคงต้องเก๊กตอบไปว่า ถ้าจะอ้างว่าเป็นศิลปะ ก็ต้องอธิบายให้ได้ว่า .. สร้างคุณประโยชน์แก่วงการศิลปะ ตรงไหนอย่างไรหรีิอไม่ ถ้าไม่ได้ ก็อนาจารโลดดดด .. ฮิฮิ <--- หัวเราะในวินาทีที่สาม พอดี อิ๊อิ๊ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 50 22:57:02 จากคุณ : หมีเซอะ - [ 19 ส.ค. 50 22:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 92 สวัสดีครับ หนู ศ. และทุกท่าน แหะๆ แวะมาเยี่ยมกันอีกหน ก่อนไปภูเก็ต 2 วันก่อนได้แวะมาอ่านแว้บๆแล้วก็ไป ได้อ่านตามรอยลิงค์ที่พี่ทิวาฝากไว้ เกี่ยวกับอีโรติกไรสักอย่างนี่ล่ะ อ่านมั่งไม่อ่านไม่ เข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่งตามประสาหนุ่มน้อย- ที่นมพึ่งแตกพานขอรับ และก็เกิดอาการ กลัดมัน นั่งคิดไปตลอดทางไปภูเก็ต จนคลอดโคลงมาได้ชิ้นเดียว โห!!! เดินทางตั้งไกล อิอิ - กลัดมัน - ๐ กรองคำกำซาบก้อง       กระสันสันต์ กระตุกต่อมกำหนัดปัน       อักขระถ้อย พิสวาทกำหนดบัน-           ดาลบท กระหวัดกันเกี่ยวก้อย        เพาะเชื้อวรรณกรรม ฯ นานๆเข้ามาทีช่วงนี้ครับ ตามประสาคนจัดระเบียบชีวิตไม่เป็น เห็นยังอยู่สบายกันดีก็ดีใจ ได้มาอ่านบทโคลงที่ชอบหลายหลาก ทำให้นึกอยากเขียน แถมยังไปรับปากพี่ท่านหนึ่งว่า อาศรมหน้าจะมารับผิดชอบช่วงต่อ กำลังนึกหาประเด็นพอดี เอาเป็นว่าถ้าไม่มีใครคัดค้านช่วงหน้า จะเปิดอาศรมแนวอีโรติก แต่ไม่ลามกนะครับ จึงมาทำประชาพิจารณ์ไว้ก่อนตามประสา คนสังคมยุคนี้ เอะอะก็ประชาชนครับ แหะๆ ถือว่าเสียง ปชช อาศรมเป็นใหญ่ครับ ถ้ามีคนค้าน 1 เสียงผมก็ บ่เปิดล่ะครับ แหะๆ ปล. ดีคร้าบบบ พี่หมีฯ ปล.2 คุณปลิวตามลม โคลงคุ้นๆอ่ะ สงสัยมีโคลงบทไหนในนี้ยั่วน้ำลายแมวมาเขียน อิอิ ปล.3 โปรดทราบคิดถึงทุกท่านเลย ขอรับ ------------------------------------------------------------------- หาดป่าตอง เก็บภาพจากบนรถเมลสายป่าตองภายในเกาะ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 11:41:46 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 11:31:02 จากคุณ : xers - [ 24 ส.ค. 50 11:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 93 แถมภาพแยกเพชรเกษม ตอนไปหัวหินช่วงต้นเดือน อีก 1 ภาพครับ ไปเที่ยวกับใครไม่บอก อิอิ ------------------------------------------------------------ แหะๆ ภาพลงวันที่ผิด เป็นวันที่ 5 เน้อ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 11:43:43 จากคุณ : xers - [ 24 ส.ค. 50 11:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94      ๏     คุย   ถึงคุณโทษถ้อย           คอยเขียน กัน     กันกลัวชั้นเซียน                     เล่นร้าย เป็น    โขยงเป็นคำเวียน                   สะดือสื่อ   ชอบฤๅ      โคลง  กลอนปราชญ์โค้งป้าย             มั่นปั้นศิลปา ๚      ๏   คุย    ถึงคุณโทษถ้อยคอยเขียนกัน กัน       กลัวชั้นเซียนเล่นร้ายเป็นโขยง เป็น      คำเวียนสะดือสื่อชอบฤๅโคลง กลอน   ปราชญ์โค้งป้ายมั่นปั้นศิลปา จากคุณ : เหงาจังเลย - [ 29 ส.ค. 50 00:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ยินดีกับกวีซีไรท์ 2550 มนตรี ศรียงค์ จาก "โลกในดวงตาข้าพเจ้า" ครับ คำประกาศของคณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) มีมติให้กวีนิพนธ์เรื่อง "โลกในดวงตาข้าพเจ้า" ของ "มนตรี ศรียงค์" ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปีพุทธศักราช 2550 "โลกในดวงตาข้าพเจ้า" ของ "มนตรี ศรียงค์" เป็นบันทึกภาพเคลื่อนไหวในชุมชนเล็กๆ ผ่านดวงตาพิเศษของกวีด้วยมุมมองเฉพาะตัวที่โดดเด่น ผสมผสานกับการย้อนรำลึกเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนที่ผ่านมาในชีวิต สามารถทำให้เรื่องที่เป็นรูปธรรมเหล่านั้นโยงไปสู่ภาพสังคมโดยรวมได้ มนตรี ศรียงค์ ประจักษ์ในสาระของชีวิตจากการงานที่เป็นจริงและผู้คนรายล้อม แล้วนำมาถ่ายทอดไว้ในบทกวีได้อย่างกลมกลืน มีชีวิตชีวา ศิลปะการนำเสนออยู่ที่การสรรคำ และการเรียบเรียงลำดับภาพความคิดด้วยชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ก่อให้เกิดความสะเทือนอารมณ์และชวนคิด กวีนิพนธ์เรื่อง "โลกในดวงตาข้าพเจ้า" ของ "มนตรี ศรียงค์" จึงสมควรได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปีพุทธศักราช 2550 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 29 ส.ค. 50 19:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุย-.....ขรมรมย์รื่นด้วย........ดนตรี กันส์.....แอ่นโรเซ็สส์มี.........สนุกแท้  ( guns  n’  roses ) เป็น...ฮิพฮอพแร๊พลี-...........ลาศสนุก -  สนานเฮย โคลง...โน่นเคลงนี่แม้...........สนั่นบ้านสะท้านเมือง ฯ กบเลือกนาย.. ๏ เลือกนายหมายปกป้อง....ฝูงตน นายเพื่อกันแดดฝน............หลบได้ นายดังท่อนซุงขน..............ลอยละล่อง นายที่เก่งฉกาจไซร้............ปราศผู้เสมอเหมือน ฯ ๏ บนบานศาลกล่าวท้าว.......จตุคาม ฯ โปรดส่งนายสง่างาม...........แกร่งกล้า องอาจเปื่องปราดยาม..........เศรษฐกิจ -  ตกแฮ ใครรุกรานซึ่งหน้า...............ปกป้องผองเรา ฯ ๏ เป็นนายอันพรั่งพร้อม.......คุณธรรม สุจริตเป็นผู้นำ....................กบน้อย ยามสงบต่างเต้นรำ..............พาระรื่น ยามศึกพาหมู่ข้อย...............ผ่านพ้นภยันตราย ฯ ๏ เสียงดังไปทั่วทั้ง..............ผืนนา จนเหล่าเทพยดา.................เบื่อแท้ จึงส่งนกกระสา...................ยังหมู่ -  กบเฮย ตามจิกกินอิ่มแปร้...............ต่างต้องกระโจนหนี ฯ ๏ “ขอโน่นขอนี่ไร้-..............พอเพียง เอ็งเจือกมาแผดเสียง..........สนั่นฟ้า จนตูแทบตกเตียง................สะโพกหัก หากโหวกเหวกบ่นบ้า............จักให้กระสุนปืน ฯ” จากคุณ : จังงัง - [ 29 ส.ค. 50 23:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ข ไข่ในเล้านั่น          ของนาย ฃ ขวดของเราตาย     ก็ไม่ให้ ค ควายเข้านากลาย   เกิดยุทธ- ภูมิเฮย ฅ คนขึงขังได้           แต่อย่าไร้มุทิตา แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 50 13:58:56 จากคุณ : CrazyHOrse - [ 30 ส.ค. 50 13:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุย ความตามขุดคุ้ย             มากมาย กัน กีดขีดเส้นตาย               หน่ายหน้า เรื่อง เก่าเล่าไม่อาย              ดีกว่า ตาย ไปไม่ค้ำฟ้า                  หมดสิ้นเรื่องราว. .....อะวัสสัง มะยา มะริตตัพพัง มะระณัง ปะริโยสานัง เม ชีวิตัง...................................... ควรจำไว้ว่าความตายเป็นของแท้ ชีวิตเรานั้นตายแน่อย่าห่อเหี่ยว เมื่อไปถึงปลายทางมีอย่างเดียว สุดรอบแล้วไม่ต้องเสียวจิตมั่นคง .....ชีวิตัง เม อะนิยะตัง  มะระณัง เม นิยะตัง......................... ชีวิตเรานั้นมิใช่เป็นของเที่ยง ไม่มีใครหลีกเลี่ยงอย่าลืมหลง มีแต่จะผันแปรไปไม่ยืนยง อย่าพะวงสร้างบุญเผื่อไว้เกื้อกูล .....วะตะ อะยังกาโย  อะจีรัง อะเปตะวิญญาโน ฉุฑโฑ....................... อันร่างกายของเรานี้น่าสังเวช ต้องมีเหตุมาแผ้วพานไม่นานสูญ เมื่อวิญญาณหลุดล่วงไปไม่สมบูรณ์ เขาก็ทิ้งลงกองกูณฑ์สิ้นราคา .......อะธิเสสะติ  ปะฐะวิง  กะริงคะรังอิวะ  นิรัตถัง................... กระดูกจักถมทับกับแผ่นดิน เหมือนท่อนไม้ตามถิ่นที่ในป่า คนเก็บฟืนเดินผ่านไปไม่นำพา ไร้ประโยชน์ไร้คุณค่าหมดสิ้นเอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 31 ส.ค. 50 05:48:51 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สว้สดีครับ หนู ศ. และทุกท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างแม้ วุ่นวายหรือสงบ กลไกหรือทุกส่วนในสังคมก็ต้องดำเนินไปอยู่ดี ไม่เว้นแม้แต่การสืบพันธ์ ๐ ทุกสิ่งอย่างจะวุ่นวายหรือสงบ ก็จะพบมดน้อยคอยขนของ ฝนยังตกแดดก็ออกตามครรลอง เพียงต่างมองมุมตน.. มโหฬาร จริยธรรม คุณธรรม นำมาอ้าง คำสวยหรูวาดวางเพื่อประหาร แย่งอำนาจประชาหน้าตาบาน ทั้งที่งานต้องใช้ใจจริงจริง จริงใจนำจากนี้ก็จะพบ ความเคารพจากประชาทั่วถิ่นถ้ำ ไม่ต้องป่าวประกาศความคมคำ จริยธรรม คุณธรรม ก็ตามมา... ถ้าท่านจะกินกันอย่างจริงใจผมก็หมดคำแล้วครับ ได้แต่ขอให้ความเลวลงโทษความเลวละกัน ใกล้จะได้เปิดกระทู้ใหม่แล้วครับ เลยแวะมาเยี่ยมก่อน ปล. ชอบบทท้ายปู้ต้ายจังเลย ตายไปเหลือแต่กระดูก ฟืนท่อนหนึ่งยังมีค่ากว่าอีก ---------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 31 ส.ค. 50 14:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ครบความเห็นหนึ่งร้อย.........ขอรับ เชิญท่าน xers จัดทัพ.........ก่อกระทู้ อาศรมสิได้กลับ................คึกคัก ข้าฯ คั่วโคลงจุ๊กกรู้............บ่ฮู้ละฮิ มั่วฮับ :P จากคุณ : ปลิวตามลม - [ 1 ก.ย. 50 13:16:27 A:125.27.222.63 X: TicketID:151618 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สวัสดีครับ คุณปลิวตามลม ขอตัวสัก(ครู่ใหญ่ๆ) นะท่าน ไม่ค่อยได้เข้ามา นั่งตามอ่านกระทู้พี่น้องกันตาลาย เห็นของคุณปลิวตามลมเขียน งามเชียว ๐ ดอกไม้เหี่ยวย่อมเกิดผลเพื่อสืบพันธ์... อิอิ อย่าคิดหลายแง่นะครับ จากคุณ : xers - [ 2 ก.ย. 50 13:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เชิญครับ พี่น้องปู่ป้าน้าอา อาจารย์ และคุณครูทุกท่าน ขอรับ กระทู้เดิมอาศรมฯ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๘๖ ๏ ๏ ๏ คุยกันเป็นโคลงกลอน ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5594718/W5594718.html กระทู้ใหม่อาศรมฯ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๘๗   ๏ อีโรติก ๚ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5784434/W5784434.html จากคุณ : xers - [ 4 ก.ย. 50 16:45:36 ]