ความคิดเห็นที่ 1
ตอนที่ ๒ หุบเขามรณะ
เมื่อมาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอิวะ เฉินเฟิงกับวิหารจันทราเทพก็ถูกสภาพตรงหน้าทำเอางงไปหมดว่าพวกเขามาผิดที่หรือเปล่าเนี่ย ?
ที่นี่มันสวนสัตว์ขนาดย่อมชัดๆ !
ที่หน้าประตูบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านมี ไก่ เป็ด นก สุนัข แมว หมู กระต่ายป่า กวาง กระทิง แล้วยังมีม้าอีกหลายตัววิ่งไปวิ่งมากันให้ควั่ก
ที่น่าอึ้งกว่านั้นคือ ข้างๆ มีสระขนาดใหญ่อีกหนึ่งสระ ในสระเองก็มีสารพัดสัตว์เช่นกัน มีกบ ปลาหลี่ ปลาหมึก แมงกะพรุน ปลากบ แมวน้ำ สิงโตทะเล แล้วยังมีปลาโลมาอีกหลายตัว
พอวิหารจันทราเทพเห็นกระต่าย ก็กรี๊ดกร๊าดดีอกดีใจ เอาอาหารสัตว์เลี้ยงหนึ่งห่อออกมาป้อนให้มันกิน คิดไม่ถึงว่าการกระทำนี้จะนำความซวยมาสู่ทั้งสอง...
ทั้งสองถูกสัตว์ทั้งโขยงแห่กันเข้ามาล้อมไว้ทันที เห็นได้ชัดว่าต้องการขออาหารกิน
หลังจากอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ ฝูงสัตว์ทั้งโขยงก็ยังไม่ยอมปล่อยทั้งคู่ จนทั้งคู่ต้องพยายามอยู่พักใหญ่ค่อยดิ้นรนเบียดออกจากวงล้อมของเป็ดไก่หมาแมว และมาถึงหน้าประตูบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านได้
หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มต้อนรับทั้งสองเข้าไปในบ้าน พร้อมกับขอบคุณที่เมื่อครู่ทั้งสองบริจาคอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงมาให้คนละ ๒๐ ห่อ
ในเวลาสั้นๆ แค่ ๒๐ นาที ทั้งสองได้สูญเงินไปฟรีๆ รวมกันถึง ๒,๐๐๐ เหรียญเงิน ซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ไม่ใช่น้อย แม้ทั้งสองจะเจ็บใจ แต่จะขอคืนจากหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่ได้เสียด้วย เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายเอาอาหารพวกนั้นออกมาเลี้ยงสัตว์เอง แล้วจะไปโทษใครได้ ? จึงได้แต่ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี
เห็นสีหน้ายิ้มๆ ของหัวหน้าหมู่บ้านอิวะแล้ว เฉินเฟิงอยากจะตรงเข้าไปตั้นหน้าสักเปรี้ยง ความจริงหัวหน้าหมู่บ้านเห็นเขาสองคนตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเพิ่งจะเดินเข้ามาที่ลานบ้านแล้ว แต่กลับปล่อยให้สัตว์เลี้ยงทั้งโขยงเข้ามาล้อมเขาสองคนที่ถือเป็นแขกตามสบายโดยไม่ยอมออกมาห้ามปราม แถมยังแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ตอนที่เห็นวิหารจันทราเทพล้วงอาหารสัตว์ออกมาป้อนกระต่ายอีกต่างหาก
วิหารจันทราเทพมองเฉินเฟิงอย่างเกรงใจ ถึงตัวเธอจะนึกโมโหอีตาหัวหน้าหมู่บ้านสันดานเสียที่ชอบเห็นคนอื่นตกระกำลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าไม่เพราะเธอดันนึกเอ็นดูกระต่าย ก็คงไม่พลอยทำให้เฉินเฟิงต้องเสียเงินฟรีๆ ตั้ง ๑,๐๐๐ เหรียญเงินไปด้วย
เงินที่ได้มาจากการคลี่คลายภารกิจที่เทือกเขาไทแทนในครั้งนี้แทบจะถูกใช้หมดเกลี้ยงไปกับเมื่อครู่ เพื่อไม่ให้กระต่ายหยกเหินลมต้องทนหิว วิหารจันทราเทพได้แต่ขอยืมเงินเฉินเฟิงไปก่อน เพราะเซียวหยาวไม่อยู่เสียแล้ว
ถึงจะโมโหแค่ไหน แต่จะลงไม้ลงมือกับหัวหน้าหมู่บ้านจริงๆ ก็กระไรอยู่ หลังจากทำใจจนค่อยหายโกรธแล้ว เฉินเฟิงก็บอกจุดมุ่งหมายในการมาที่นี่ หัวหน้าหมู่บ้านเองก็ทราบดีว่าทั้งสองมาที่นี่เพื่ออะไร จึงเริ่มเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่ระบบได้แต่งเอาไว้ให้เรียบร้อย
ที่มาของภารกิจนี้โหลมากๆ เนื่องจากเดิมทีหัวหน้าหมู่บ้านมีลูกชายโทนอยู่คนหนึ่ง ในวันไหนเดือนไหนปีไหนสักปีก็ดันเผลอเข้าไปในหุบเขามรณะด้วยเหตุผลโคตรจะโหลๆ คือ นึกสนุก แน่นอนว่าผลลัพธ์มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ไปแล้วไปลับไม่กลับมา
และในปีก่อนของวันไหนเดือนไหนปีไหนสักปี ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านได้ล้มป่วยกลับบ้านเก่าไป จึงเหลือหัวหน้าหมู่บ้านที่อายุค่อนข้างมากแล้วอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเพียงลำพัง
เนื่องจากหัวหน้าหมู่บ้านได้สร้างคุณประโยชน์ต่อหมู่บ้านอิวะไว้ไม่ใช่น้อย ดังนั้นชาวบ้านในหมู่บ้านจึงได้รวมตัวกัน บ้างช่วยออกเงินบ้างช่วยออกแรง แถมยังไปจ้างให้ศูนย์แนะนำทหารรับจ้างช่วยตามหาคนให้
หน้าที่ของเฉินเฟิงคือช่วยตามหาลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้าน และเนื่องจากว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้ว จึงมีวิธีในการคลี่คลายภารกิจอีกอย่างนอกเหนือจากตามหาลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้าน นั่นคือหาเพื่อนมาให้หัวหน้าหมู่บ้าน
สัตว์เลี้ยงทั้งโขยงที่นอกบ้านคือ เพื่อนของหัวหน้าหมู่บ้าน ที่เหล่าผู้เล่นรายอื่นๆ หามามอบให้หัวหน้าหมู่บ้านตามเงื่อนไขในการคลี่คลายภารกิจ
เฉินเฟิงพบปัญหาอยู่อย่าง นั่นคือมอบกระต่ายให้ ๑ ตัวกับมอบม้าให้ ๑ ตัวมันต่างกันตรงไหน ?
คำตอบของหัวหน้าหมู่บ้านคือ
ไม่มีข้อแตกต่าง แต่ไม่ว่าเตรียมจะให้สัตว์เลี้ยงอะไร อย่างน้อยก็ต้องไปที่หุบเขามรณะก่อน ไม่แน่ว่าลูกชายของข้าอาจจะยังมีชีวิตอยู่
ความเห็นของเฉินเฟิงกับวิหารจันทราเทพคือ หัวหน้าหมู่บ้านซี้ซั้วพูดชัดๆ ! ถ้าลูกชายเขายังไม่ตายจริงๆ แล้วทำไมข้างนอกถึงได้มีสัตว์เลี้ยงตั้งเป็นโขยงแบบนั้นเล่า ?
เฉินเฟิงถามคำถามไปอีกหลายคำถาม แต่หัวหน้าหมู่บ้านตอบแค่ว่า นอกเหนือขอบเขต ไม่อาจตอบได้ แปดพยางค์ไม่ขาดไม่เกินทุกคำถาม แล้วเอาแต่บอกให้ทั้งสองไปที่หุบเขามรณะ พร้อมกับเสริมว่า ไปถึงที่นั่นแล้วก็จะรู้เองแหละ
ในเมื่อถามไปก็ไม่ได้ความอะไร เฉินเฟิงกับวิหารจันทราเทพได้แต่จากมาอย่างงงๆ ความจริงมันน่าจะเป็นภารกิจที่ง่ายมากๆ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรทะ:-)ๆ ชอบกล
จะจับกระต่ายสักตัวนั้นง่ายมาก ไม่ต้องใช้แม้แต่เชือก ส่วนม้าไม่มีให้จับ มีแต่ต้องใช้เงินถึงจะซื้อมาได้ ในเมื่อให้สัตว์เลี้ยงตัวไหนก็ไม่แตกต่างกัน แล้วทำไมบางคนถึงให้กระต่าย บางคนไปซื้อม้าล่ะ ? ยังมีพวกที่ให้สัตว์ทะเลอีก ถ้าจับได้แล้วค่อยส่งมาให้ที่นี่ แถมยังต้องแบบเป็นๆ มันไม่น่าจะง่ายเลยนะ !
ยิ่งคิดเฉินเฟิงก็ยิ่งรู้สึกทะ:-)ๆ ถึงจะเลือกจับกระต่ายจากข้างทางไปให้ได้ แต่เพราะมันไม่มีเหตุผลเลยที่ผู้เล่นคนอื่นจะยอมลำบากไปจับสัตว์ชนิดอื่นมาให้ คงมีแต่ต้องลองไปหุบเขามรณะดูเท่านั้นถึงจะคลี่คลายปริศนานี้ได้
แต่พอคิดถึงว่าสถานที่คือหุบเขามรณะ นั่นเป็นที่ที่กระทั่งพวกยอดฝีมือที่ได้อาชีพแล้วยังต้องรวมกลุ่มกันถึงจะเอาตัวรอดได้เชียวนะ ขืนเฉินเฟิงกับวิหารจันทราเทพที่ยังอยู่แค่ระดับ ๓๐ เข้าไปละก็ ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาก็บอกได้เลยว่า ได้กลายเป็น ซาลาเปาไส้เนื้อขว้างสุนัข ขาเข้าเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย ขาออกถูกหามออกมาแหงๆ
แต่ดันรับภารกิจมาแล้ว จะไม่ไปก็ไม่ได้
ทั้งสองตกลงใจว่าจะลองไปหยั่งเชิงกันดูก่อน และคิดว่าอย่างมากก็แค่ใช้ม้วนคาถากลับบ้าน
หลังจากตุนอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ออกเดินทางสู่หุบเขามรณะ
ระยะทางหนึ่งชั่วโมงกว่า พอไม่มีเซียวหยาวแล้วเงียบเหงาไปถนัดใจ แต่ระหว่างเดินทาง วิหารจันทราเทพดูร่าเริงมาก เอาแต่เร่งความเร็วกระต่ายหยกเหินลมตลอด ผลคือไม่ถึง ๕๐ นาที ทางเข้าสู่หุบเขามรณะก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสอง
ทั้งสองดูคำแนะนำโดยสังเขปในคู่มือสัตว์อสูร
หุบเขามรณะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปกู่ย่า เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศแบบพิเศษของทวีปกู่ย่า ช่วงกลางทั้งหมดของทวีปถูกเทือกเขามังกรขนดขดล้อมเอาไว้ ทำให้เป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการคมนาคมระหว่างด้านเหนือกับด้านใต้
ด้านตะวันออกของหุบเขามรณะติดกับเทือกเขาไทแทน ด้านตะวันตกติดกับเทือกเขาหางมังกรอันเป็นสาขาหลักของเทือกเขามังกรขนด เป็นพื้นที่หุบเขาโดยธรรมชาติ ในหุบเขามีเส้นทางผ่านไปสู่ บึงกักมังกร
เดิมทีหุบเขามรณะเป็นเส้นทางคมนาคมระหว่างทางเหนือและทางใต้ที่สะดวกที่สุดของทวีปกู่ย่า น่าเสียดายที่เมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อนได้เกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ทำให้หุบเขาแคบลง ประกอบกับหลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศน์ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงได้กลายเป็นทางลัดที่ไม่มีใครกล้าผ่านไปในที่สุด
ระดับความอันตรายของบริเวณรอบนอกและภูเขาที่รายล้อมหุบเขามรณะไม่สูงเท่าไรนัก ถึงจะมีสัตว์อสูรระดับสูง แต่ก็จะไม่เป็นฝ่ายลงมือโจมตีก่อน ขณะที่ฝูงสัตว์เวทซึ่งกระจายกันอยู่ภายในหุบเขามรณะอันตรายกว่ากันมาก
สัตว์เวทพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงูมังกรยักษ์กับลิงค้างคาว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ชอบอาศัยอยู่ในเขตหนาวเย็น ระดับความยากเหมาะสำหรับผู้เล่นระดับ ๔๕ - ๕๐ กว่า ขอย้ำว่าควรจะรวมกลุ่มกันเข้าไป เพราะนอกจากสัตว์อสูรส่วนใหญ่จะปรากฏตัวเป็นฝูงแล้ว ยังจะเป็นฝ่ายลงมือโจมตีก่อน ดังนั้นหากมือใหม่เข้ามาท่องเที่ยวที่นี่ ต้องระวังให้จงหนัก อย่าออกห่างจากเส้นทางมากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นมีโอกาสสูงมากที่จะตกเป็นอาหารเย็นของสัตว์เวท
พวกเราขอแนะนำว่าผู้เล่นที่มีระดับต่ำกว่า ๓๕ อย่าได้บุ่มบ่ามเข้าไปเป็นอันขาด
การจะข้ามผ่านหุบเขามรณะจำเป็นต้องเดินไปตามถนนเล็กๆ ที่คดเคี้ยวพอสมควรสายหนึ่ง หากขี้เกียจเดินไกลและเลือกทางลัด ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะถูกลิงค้างคาวอันดุร้ายที่วนเวียนอยู่แถวนี้ล้อมโจมตี
โครงสร้างสังคมของลิงค้างคาวจะมีนางพญาหนึ่งตัวเป็นผู้บัญชาการ คล้ายคลึงกับผึ้งหรือมด จากนั้นจะมีลิงค้างคาวสามระดับลดหลั่นกันลงมา พวกมันมักรวมตัวกันเป็นฝูง ป้วนเปี้ยนอยู่ทั่วหุบเขามรณะ เป็นฝูงสัตว์ที่ผู้เล่นซึ่งรักการผจญภัยทั้งหลายรังเกียจมากที่สุด
นอกจากนี้ ทางเข้าหนึ่งเดียวของเขตบึงกักมังกรในเทือกเขาหางมังกรก็อยู่ในหุบเขามรณะเช่นกัน เขตบึงกักมังกรเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำคัญ ๒ ชนิดของน้ำยาสีเขียว คือ เถามังกรเกาะ และเฟิร์นงูเขียว ซึ่งจำเป็นต้องเข้าไปเก็บในบึงกักมังกร สมุนไพรสองชนิดนี้ยิ่งอายุมากเท่าไร น้ำยาที่ได้ก็ยิ่งมีคุณภาพ สมุนไพรที่ดีที่สุดต่างก็ขึ้นอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของบึงกักมังกรซึ่งเป็นรังของงูมังกรยักษ์ พลังชีวิตที่กล้าแข็งและพิษที่ร้ายแรงของงูมังกรยักษ์ทำให้ผู้เล่นทั่วไปไม่กล้าย่างเท้าเข้าสู่เขตอันตรายนี้แม้แต่ก้าวเดียว น้ำยาสีเขียวชั้นเลิศจึงมีราคาแพงมาก
ตอกย้ำเพิ่มเติม : ทั่วทั้งเขตหุบเขามรณะไม่สามารถใช้ม้วนคาถากลับบ้านและม้วนคาถาเคลื่อนที่ในพริบตาได้ ผู้เล่นที่ต้องการไปยังตอนเหนือของทวีปกู่ย่า ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางระเบียงชิงคังด้านตะวันตกแทน จะได้ไม่ต้องถูกลดระดับและสูญเครื่องป้องกันอย่างไม่พอที่
จากคุณ :
ซีเรีย
- [
11 ก.ค. 50 12:27:06
]
|
|
|