ความคิดเห็นที่ 1
ตอนที่ ๕
อาวุธที่กระจอกที่สุด
ความรู้สึกนี้ประหลาดจริงๆ ถึงเท้าจะเหยียบถูกพื้น แต่ขั้นต่อไปอยู่ตรงไหนกันนะ ? ทุกครั้งที่ย่างก้าวไปข้างหน้า ต่างต้องระมัดระวังกันสุดขีด
หากมองคนทั้งสี่จากที่ไกล จะเหมือนกับว่าพวกเขากำลังลอยอยู่กลางอากาศยังไงยังงั้น
เดินไปได้ ๑๐๐ ขั้นพอดิบพอดีก็ขึ้นถึงชั้นสอง พอขึ้นถึงชั้นสองปุ๊บ สิ่งแรกที่รู้สึกคือลมร้อนที่พัดมาเป็นระลอกๆ ให้ความรู้สึกสบายจนอยากจะอ้าปากหาว
เทียบกับชั้นหนึ่งแล้ว ชั้นสองแคบกว่ากันมาก มีพื้นที่แค่ประมาณ ๑๐๐ ตารางเมตร แถมลอยค้างอยู่กลางอากาศ แต่เพราะพื้นก็เป็นสีทองเหมือนกัน ดังนั้นตอนที่มองขึ้นมาจากด้านล่าง จึงแทบจะมองไม่ออกว่ามีชั้นสองอยู่
ใจกลางพื้นห้องมีของรางวัลสำหรับทั้งสี่วางอยู่ ไข่สัตว์เลี้ยงระดับสูงสี่ใบ...
สามสาวต่างก็ถกเถียงกันว่าใครจะเอาสีอะไรดี แต่ละใบต่างก็มีสีไม่เหมือนกัน มีสีทอง สีเงิน สีแดง และสีขาว ไข่แต่ละใบต่างก็แยกวางอยู่บนภาชนะรูปร่างประหลาด หนึ่งใบต่อภาชนะหนึ่งอัน และไอร้อนอ่อนๆ ก็มาจากภาชนะพวกนี้นั่นเอง
เฉินเฟิงไม่ได้เข้าร่วมในการถกเถียงว่าจะเอาไข่สีอะไรดี เขาเอาแต่เหม่อมองไข่ตาค้าง
ไข่แต่ละใบต่างก็ใหญ่ขนาดเต็มโอบทั้งนั้น แต่เขามีเป้สำหรับใส่ของ ดังนั้นขนาดจึงไม่เป็นปัญหา เรื่องที่ต้องรักษาอุณหภูมินี่สิน่ากลุ้ม ไอ้ภาชนะฟักไข่ก็ดันถอนออกมาไม่ได้ จึงเอาไปด้วยไม่ได้
เฉินเฟิงคิดแล้วคิดอีก ก็คิดไม่ออกว่าจะขนไข่พวกนี้ไปยังไงดี เพราะเขาจำได้ว่า PM01 บอกให้รักษาอุณหภูมิเอาไว้ ไม่อย่างนั้นสัตว์เลี้ยงจะตายก่อนทันได้เกิด
สามสาวถกเถียงกันอย่างดุเดือดขึ้นทุกที เฉินเฟิงจึงนิ่งฟังอย่างประหลาดใจ แล้วแทบลมใส่
สามสาวต่างก็ไม่ได้กำลังคิดหาวิธีเอาไข่ออกไป แต่กำลังถกกันว่าตัวเองเหมาะกับไข่ใบไหน และไข่ใบไหนที่ดูเข้ากับชุดและเครื่องประดับทั้งหลายแหล่ที่ตัวเองสวมอยู่มากที่สุด ความรักสวยรักงามเป็นธรรมชาติของเพศหญิง พอได้ถกกันขึ้นมาจึงไม่จบไม่สิ้นง่ายๆ
ก่อนนี้เฉินเฟิงไม่เคยสนใจการแต่งกายของสามสาวมาก่อน มาตอนนี้พอลองสังเกตดูดีๆ ค่อยพบว่าพวกเธอใส่เครื่องประดับกันเยอะไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะระลอกน้ำแห่งสารทม่วง มีทั้งต่างหู แหวน สร้อยคอ ผ้าพันคอครบเซ็ต ส่วนเซียวหยาวกับวิหารจันทราเทพ ถึงจะไม่ได้มีครบครันแบบนี้ แต่ก็มีอย่างน้อยหนึ่งอย่าง
โทนสีของเสื้อผ้าและเครื่องประดับของสามสาวแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ เสียด้วย ต่างหูกับผ้าพันคอใช้เป็นเครื่องประดับได้อย่างเดียว ตอนเดินเที่ยวในเมืองเริ่มต้น เฉินเฟิงเคยเห็นร้านอยู่ร้านหนึ่งที่เน้นขายแต่เครื่องประดับ จึงลองถามดูอย่างสนใจ ถึงได้ทราบว่าไอเท็มพวกนี้เป็นไอเท็มสำหรับผู้เล่นสาวๆ โดยเฉพาะ
ตอนแรกเขาหลงคิดว่ามันมีคุณสมบัติพิเศษอะไรเสียอีก แต่คำตอบของเถ้าแก่ร้านทำเอาเขาแทบลมใส่ ของในร้าน ๙๐% ขึ้นไปมีไว้ใช้เป็นเครื่องประดับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มีแค่แหวนกับสร้อยคอบางชิ้นที่แถมช่องใส่ไอเท็มให้สิบกว่าช่อง
ไม่ว่าจะดูยังไง คุณค่าในการใช้สอยก็น้อยนิดสุดๆ ประเด็นสำคัญคือราคามันดันแพงหูดับ
ที่เฉินเฟิงไม่เข้าใจคือ ของร้านนี้ขายดีเอามากๆ เถ้าแก่ร้านยังแนะนำสินค้าให้เขาตั้งนานสองนาน แถมบอกว่าถึงตัวเขาไม่ใช้เอง ก็เอาไว้แจกสาวๆ เป็นของขวัญก็ได้ ของพวกนี้สาวๆ ชอบมากกันทั้งนั้น
แน่ล่ะว่าเฉินเฟิงไม่มีทางยอมโง่ซื้อของพวกนี้แน่ เลยโดนเถ้าแก่ร้านว่าว่าแบบนี้มีหวังไม่มีทางจีบสาวติดแหงๆ
ใครจะไปคิดว่าถึงไม่ต้องไปจีบ ตอนนี้ข้างตัวเขาก็มีสาวๆ ตั้งหลายคนแล้ว ถึงจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจีบหรือไม่จีบก็เถอะ แต่เฉินเฟิงคิดว่าเขาไม่มีทางถูกจัดอยู่ประเภทเดียวกับผู้ชายจำพวกที่ส่งของขวัญให้สาวๆ เพื่อให้พวกเธอหันมาสนใจแน่ๆ
ความจริงสาวๆ ทั้งสามคนนี้ต่างก็สวยไม่ใช่เล่นกันทั้งนั้น !
ตอนที่เพิ่งเข้ามาในเกมแล้วต้องเลือกหน้าตาตัวละครที่จะเล่น เฉินเฟิงนึกว่ามีหน้าตาแบบตายตัวที่กำหนดมาให้เลือกแค่ไม่กี่หน้าเสียอีก ตัวเขาเองก็เลือกแค่หน้าตาแบบธรรมดามาก
ก่อนนี้เฉินเฟิงเคยเล่นเกมมาหลายเกมอยู่เหมือนกัน ช่วงแรกๆ ที่เล่น เขาได้แต่ตะลึงกับความสวยของพวกผู้หญิง เพราะทุกคนเล่นสวยอภิมหาสวยชนิดคว้ามงกุฎกันทั้งนั้น แต่พออยู่ไปๆ ไม่รู้ว่าเพราะเห็นบ่อยจนชิน หรือเพราะหน้าตาเหมือนๆ กันไปหมด ที่สำคัญคือมันต่างจากความเป็นจริงมากเกินไป ทำให้ตั้งแต่เข้ามาในเกมราชาแห่งราชัน เขาก็ไม่ได้สนใจสังเกตเลยว่าสาวๆ ในเกมแต่ละคนหน้าตาเป็นอย่างไร
แต่หลังจากไปที่บอร์ดสนทนา เขาค่อยทราบว่าหน้าตาของผู้เล่นเกมราชาแห่งราชันแต่ละคนจะไม่เหมือนกันเลย แถมหน้าตาจะปรับความสวยหล่อตามหน้าตาตอนเข้ามาเล่นเกมแรกสุด ๑๕% ดังนั้นหน้าตาในเกมกับหน้าตาในโลกความจริงจะต่างกันไม่มากนัก
วิหารจันทราเทพเป็นคนสวยหวาน ถึงรูปร่างจะเล็กไปนิด แต่ก็สมดุลได้สัดส่วน เป็นผู้หญิงที่ได้เห็นแค่ครั้งเดียวก็จะไม่มีทางลืมเด็ดขาด บวกกับเสียงที่หวานใสน่าฟัง ทำให้ดูเหมือนน้องสาวคนสวยข้างบ้านอย่างไรอย่างนั้น ที่เฉินเฟิงทะเลาะกับเธออยู่เรื่อยนี่ถือว่าประหลาดมาก
เซียวหยาวพันศีรษะด้วยผ้าพันศีรษะของนินจาตลอด ทำให้มองไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นยังไง ตัวเธอเตี้ยกว่าเฉินเฟิงเล็กน้อย แต่ก็สูงประมาณ ๑๗๐ เซนติเมตร
เนื่องจากชุดนินจาเป็นชุดแบบเข้ารูป ทำให้มองเห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน แม้หุ่นของเธอจะไม่ถึงกับทำให้เลือดกำเดากระฉูด แต่ที่ควรเว้าก็เว้า ที่ควรโค้งก็โค้ง รับกันเหมาะเจาะ เรียกได้ว่าภูมิใจกับรูปร่างของตัวเองได้เลย
ระลอกน้ำแห่งสารทม่วงตัวแทบจะสูงกว่าเฉินเฟิงอยู่รอมร่อ อย่างน้อยต้องสูงกว่า ๑๗๖ เซนติเมตร และรูปร่างก็เซ็กซี่ที่สุดในบรรดาสามสาว นิสัยตรงไปตรงมาและบุคลิกท่าทีค่อนข้างห้าวคล้ายผู้ชาย ทำให้ถึงจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่ก็เข้ากับเขาได้ดีมาก
ไม่ว่าจะได้ใครในสามสาวมาเป็นแฟน เฉินเฟิงก็พอใจทั้งนั้น แต่เขาเองไม่ค่อยสนใจเรื่องหาแฟนมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
เฉินเฟิงส่ายหน้า แล้วหยุดความคิดเลื่อนเปื้อนไว้แค่นี้
เรื่องจะเลือกไข่สีอะไรดีนั้น เขาไม่ได้สนใจมากนัก เพราะถึงยังไงก่อนที่มันจะฟักออกมา ก็ไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่าสัตว์เลี้ยงข้างในคือตัวอะไร แต่จะมัวเสียเวลาอยู่ตรงนี้ต่อก็ใช่ที่ ดังนั้นเขาจึงจัดแจงขัดการอภิปรายว่าด้วยรงคศาสตร์ของสามสาวด้วยการโยนปัญหาเรื่องวิธีนำไข่ออกไปให้ทั้งสามคิด สามสาวถึงค่อยรู้ตัวและเริ่มจะกลุ้มใจ เพราะการจะนำไข่ออกไปต้องรักษาอุณหภูมิให้ได้ด้วย ซึ่งคิดแล้วก็น่าปวดหัวไม่ใช่เล่น
เฉินเฟิงมองสีหน้าท่าทางกลุ้มอกกลุ้มใจของสามสาวอย่างมีความสุขและแอบสะใจนิดหน่อย ตัดสินใจว่ายังไงๆ หนนี้เขาจะไม่ยอมเป็นคนคิดหาวิธีอีกอย่างเด็ดขาด
ระหว่างนี้เฉินเฟิงก็นึกขึ้นได้ว่ากำไลสัตว์เลี้ยงของอู้คงยังไม่ได้เบิกเนตร ส่วนแส้เทพสีหราชก็ยังศึกษาไม่หมด เมื่อครู่มัวแต่พะวงเรื่องแก้ไขภาวะวิกฤติจนไม่มีเวลาจะมาศึกษา ถึงยังไงตอนนี้ก็คงหาวิธีเอาไข่ออกไปด้วยไม่ได้ไปอีกสักพัก เฉินเฟิงจึงจัดแจงนั่งแหมะลงกับพื้น แล้วเอากำไลสัตว์เลี้ยงกับแส้เทพสีหราชออกมาวิจัยซะเลย
ที่น่าประหลาดคือ บนกำไลสัตว์เลี้ยงของอู้คงไม่มีตัวอักษรประหลาดเหมือนอย่างกำไลสัตว์เลี้ยงของซวงเว่ยกับหลายฝูสลักอยู่ เขาเอาไอเท็มแว่นขยายมาส่องหาอยู่เป็นนานก็ยังหาไม่พบ
บางทีอาจเป็นเพราะระดับของอู้คงสูงกว่าเขามาก เลยปลดผนึกไม่ได้ล่ะมั้ง ?
เฉินเฟิงพลิกกำไลกลับไปกลับมาอยู่หลายสิบรอบ ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ สุดท้ายได้แต่ยอมแพ้ รอจนระดับของเขาสูงกว่านี้หน่อยแล้วค่อยมาศึกษาดูอีกทีก็แล้วกัน เพราะถึงยังไงระดับของอู้คงในตอนนี้ บวกกับอานุภาพของกระบองห่วงทองสมปรารถนา ต่อให้ไม่มีทักษะพิเศษอะไรก็โคตรจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ส่วนแส้เทพสีหราช แค่แวบแรกที่ได้เห็นตัวอักษรตวัดงดงามอาจหาญดั่งหงส์มังกรโลดทะยานที่สลักอยู่บนด้ามแส้ เฉินเฟิงก็รู้สึกทันทีว่าแส้นี้ต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ บวกกับคุณสมบัติยืดหดได้ดังใจนึก ทำให้เวลาใช้สามารถตวัดได้คล่องแคล่วจนเหมือนกับแขนของเขายืดยาวออกไปได้หลายเท่าอย่างไรอย่างนั้น ใช้คล่องเสียจนเพลินวางไม่ลงเลยทีเดียว
แต่หลังจากปลดผนึก ทำเอาเฉินเฟิงตาแทบถลน จ้องข้อความที่ระบบโชว์ให้ดูอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
แส้เทพสีหราชอหังการ์ของพญาสีหราช อาวุธประเภทแส้ชนิดพิเศษ พลังโจมตี ๑ จุด ความยาวรวม ๑๘ ฟุต คุณสมบัติเสริม สามารถใช้ความคิดบังคับให้ยืดหดได้ , เพิ่มประสิทธิภาพของทักษะข่มขวัญและสื่อสารเป็นสองเท่า ผู้ครอบครองเฉินเฟิง เป็นไอเท็มที่ไม่สามารถขายโอนให้คนอื่นได้ อาวุธสุดยอดเจ๋งขนาดนี้ดันมีพลังโจมตีแค่ ๑ เนี่ยนะ ? แบบนี้กระทั่งกระต่ายสักตัวยังต้องหวดตั้ง ๓๐ กว่าทีกว่ามันจะตาย !
คิดดูสิว่ากระทั่งดาบสั้นที่ระบบแจกให้ผู้เล่นมือใหม่ในตอนแรกเริ่ม ยังมีพลังโจมตีตั้ง ๕ จุดเลย หรือกระทั่งหมัดลุ่นๆ ที่ไม่ต้องมีทักษะพิเศษอะไร ก็ยังมีพลังโจมตีตั้ง ๗ - ๘ จุด แล้วอาวุธที่มีพลังโจมตีแค่ ๑ มันจะไปต่างอะไรกับเศษขยะเล่า ?
ความจริงที่ได้ประจักษ์นี้ทำเอาเฉินเฟิงรับไม่ได้สุดๆ แล้วมันดันเป็นเหมือนกำไลสัตว์เลี้ยงของอู้คงเสียด้วย นั่นคือไม่ว่าจะพลิกหายังไง ก็ไม่พบอะไรผิดสังเกตเลยสักนิด
แล้วเฉินเฟิงก็ถือแส้เทพสีหราชนั่งเหม่ออยู่แบบนี้ จนกระทั่งเซียวหยาวส่งเสียงร้องเรียกไปหลายสิบรอบ ก็ยังไร้ปฏิกิริยาตอบรับ ระลอกน้ำแห่งสารทม่วงทนดูไม่ไหว เลยเข้ามาแจกมะเหงกให้เฉินเฟิงไปหนึ่งที
โป๊ก !
โอ๊ย ! เจ็บ ! เฉินเฟิงร้องลั่นพลางเอามือกุมศีรษะ สติที่หลุดลอยกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
เซียวหยาวพยายามกลั้นยิ้มพลางถามว่า
ท่านปรมาจารย์นักปลดผนึกเฉินเฟิง วิจัยเสร็จหรือยังเจ้าคะ ? เห็นทุกทีนายเจ้าแผนการนักนี่ แล้วตอนนี้จะเอายังไงกันดี ?
เฉินเฟิงลูบศีรษะป้อยๆ พลางขมวดคิ้วมุ่น
พวกเธอมาถามผมแล้วผมจะไปถามใครล่ะ ? ถ้ารู้ว่าต้องทำยังไง ผมก็บอกพวกเธอไปนานแล้ว จะมาบอกให้พวกเธอช่วยกันคิดไปทำไม ?
วิหารจันทราเทพชี้ไปที่เป้เขี้ยวเหล็กไหลจัมโบ้ของเฉินเฟิง
กระเป๋าสารพัดนึกของเธอมีไอเท็มตั้งเยอะแยะ ไม่มีชิ้นไหนใช้รักษาอุณหภูมิได้เลยหรือ ?
เฉินเฟิงผลักเป้เขี้ยวเหล็กไหลจัมโบ้มาข้างหน้า แล้วหยิบกล่องคงความสดสำหรับใส่สมุนไพรออกมา
ไอเท็มที่ใช้รักษาอุณหภูมิน่ะมีเยอะแยะ แต่ไม่มีชิ้นไหนใช้ได้เลยสักชิ้น ชิ้นนี้ใช้เก็บสมุนไพร สามารถคงอุณหภูมิที่ ๗ องศาตลอดเวลา รับรองว่าสามารถรักษาความสดได้อย่างแน่นอน
แล้วหยิบกาน้ำรักษาอุณหภูมิออกมา
ชิ้นนี้ใช้สำหรับใส่น้ำแร่ น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มร้อนๆ เดิมน้ำที่ใส่มีอุณหภูมิเท่าไหร่ ก็จะคงอุณหภูมินั้นตลอด แต่ในคู่มือบอกว่าใส่ได้แต่ของเหลวเท่านั้น
เฉินเฟิงหยิบถุงนอนออกมาเป็นชิ้นต่อไป
นี่คือถุงนอนที่ใช้สำหรับนอนค้างคืนเวลาไปตั้งแคมป์โดยเฉพาะ ผมลองใช้ดูหลายครั้งแล้ว ช่วยรักษาความอบอุ่นได้ไม่เลวทีเดียว จากนั้นแบมือทั้งสองข้าง ก็ประมาณนี้แหละ นอกนั้นก็มีพวกที่ใช้สร้างอุณหภูมิ พวกเธออยากจะดูไหมล่ะ ? อย่างคบไฟงี้ เครื่องสร้างน้ำแข็งงี้ เตาสำหรับปิ้งงี้...
ระลอกน้ำฯรีบเบรคเฉินเฟิงไม่ให้ร่ายต่อ แล้วสามสาวก็หันไปมองไข่ของสัตว์เลี้ยงระดับสูงอย่างผิดหวัง
นี่มันรางวัลประสาอะไรกัน ! เอาไปไม่ได้มันจะไปต่างอะไรกับไม่มีเล่า ? พวกเจ้าหน้าที่ดูแลเกมนี่ไม่จริงใจเอาซะเลย !
จากคุณ :
ซีเรีย
- [
14 ก.ค. 50 05:21:23
]
|
|
|