ทบทวนความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน
เรายังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ไหม ???
หลายเดือนที่ผ่านมา คำว่า "เรายังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ไหม ???" วนเวียนอยู่ในหัว
วันนี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่า มันผ่านไปเกือบสี่เดือนได้
เพื่อนสนิทคนหนึ่งได้ห่างหายไปจากวงจรชีวิต จะด้วยเหตุผลกลใด วันนี้มีคำตอบ...
*****************
เพื่อนคนนี้
ได้ทำตัวเหมือนประกาศว่า...
ฉันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะ ฉันพัฒนาขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่ข้างใน (ความคิด) และสิ่งที่อยู่ข้างนอก (รูปลักษณ์)
ฉันมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ฉันมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
ฉันตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างได้โดยไม่ต้องมีใครมาคอยให้คำปรึกษา (นอกจากครอบครัว)
ฉันตัดสินใจ คิด พูด กระทำอันใด โดยไม่ต้องถามเธออีกแล้ว
ไม่ต้องขอความเห็นจากเธอ เพียงแค่การบอกกล่าว ฉันก็ไม่ต้องแล้ว
ฉันมั่นใจในตัวเองแล้วน่ะ แม้สิ่งที่ฉันทำมันไม่ดีก็ตามที แต่ฉันเชื่อมั่นในสิ่งที่ฉันทำแล้ว
.
.
.
ฉันมองเพื่อนคนนี้ เหมือนคนกำลังเดินพุ่งไปข้างหน้า ฉันไม่รู้หรอกว่า มันคือทิศอะไร
เพราะลำพังตัวฉันเอง ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ในทิศไหน ? เหนือ ใต้ ออก ตก ไม่รู้จิงๆ
ฉันมองเห็นเพื่อนคนนี้พยายามจะวิ่งหนีความจิงที่ว่า... เค้ายังไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคิด ทำ พูด
ฉันมองเห็นเพื่อนคนนี้พยายามจะฝืนตัวเองให้เป็นไปตามสิ่งที่ฉันได้เคยพูดไว้ว่าฉันเป็นคนยังไง
ฉันมองเห็นเพื่อนคนนี้พยายามบอกตัวเองและคนรอบข้างว่า ฉันมั่นใจในตัวเองน่ะ ทั้งที่ในความเป็นจิง... ฉันมองว่าไม่
ฉันมองเห็นเพื่อนคนนี้หวาดหวั่น กลัว ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำ สิ่งที่คิด สิ่งที่พูดว่า มันดีแล้วหรือยัง ?
เรื่องเพื่อนคนนี้ฉันได้หยิบยกมาพูดคุยและปรึกษากับคนรอบตัวอยู่เสมอ ถึงอุปนิสัยใจคอ
หลายคนอาจจะกระอักกระอ่วนไม่กล้าวิจารณ์มาก เนื่องด้วยเป็นเพื่อนสนิทฉันเอง
และก็มีบางคนที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ และให้แง่คิดในมุมที่เรา --- ได้มองข้ามไป
ฉัน ในฐานะเพื่อน แค่อยากให้เพื่อนคนนี้ยอมรับตัวเอง เพราะ...
คนเราอ่อนแอได้ เข้มแข็งก็ได้เช่นกัน
คนเราแพ้ได้ ชนะก็ย่อมมีสักครั้งในชีวิตนี้
คนเรามีข้อเสียได้ และมีข้อดีได้ไม่แพ้กัน
การยอมรับตนเองว่ามีข้อดี ข้อเสียยังไง ฉันว่าข้อนี้สำคัญที่สุด
มันไม่จำเป็นหรือสำคัญอะไรเลย ว่าคนอื่นจะมองว่าเราเป็นคนยังไง ดี ไม่ดี นางเอก นางร้าย
สำคัญที่ว่า เรารู้ตัวและยอมรับว่าตัวเองเป็นคนยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
ปรับปรุงและยอมรับมัน แค่นั้น...
ตัวเราเอง
แรง กล้า เปรี้ยว มั่นใจ --- นานาที่เพื่อนคนนี้จะเปรียบเปรย
แรงเหรอ ฉันค่อนไปทางยอมคนน่ะ แต่ออกแนวดื้อเงียบ มีคนเคยบอก หลายครั้งที่ลึกๆแล้วฉันไม่พอใจ
แต่ฉันไม่แสดงออกหรือมาแสดงออกกับคนไกล้ตัวในภายหลัง,, กล้าเหรอ ฉันขี้ขลาดจะตายไป,,
เปรี้ยวเหรอ บ่อยครั้งที่ฉันแต่งตัวออกจากบ้านแล้วมารู้ตัวทีหลังว่า แต่งตัวได้เสร่อสุดๆ,,
มั่นใจเหรอ ฉันถามคนอื่นออกจะบ่อยไป ฉันอ้วนไหม ฉันดำขึ้นรึป่าว ???
ฉันตอบไม่ได้ว่า "คำจำกัดความ" ของตัวฉันคืออะไร
แต่ให้บรรยาย อันนั้นท่าจะง่ายกว่า เพราะฉันไม่คิดว่าตัวเองจะไปตรงกับคำไหนในโลกนี้
ไม่ขาดนู่น ก็คงมีเพิ่มนี่เข้าไป สรุปคือ ไม่มีคำจำกัดความ ฉันคิดว่าในโลกนี้ ทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ของตัวเอง
คนทุกคนในโลกนี้ก็เหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ มีความคล้ายแต่ไม่เหมือน
- มีที่มาจากภาพเดียวกัน แต่จิ๊กซอว์แต่ละชิ้น ไม่เหมือนกัน -
ไม่มีใครในโลกนี้ทำถูกไปซะทุกอย่าง
สิ่งที่สมควรทำ ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำเสมอไป จะทำก็ได้ แต่รับได้ไหมกับสิ่งที่จะตามมา
สิ่งที่จะตามมาที่ว่า ต้องไม่กระทบคนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ถ้าพิสูจน์ได้ว่า "นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันน่ะ" ก็ทำไป...
"รับไหว กับสิ่งที่ตามมา" ก็ตามนั้น
ฉันเชื่อว่า จะทำอะไร อย่ามั่นใจว่าเราทำถูกต้องแล้ว เพราะหากมองในมุมอื่น มันอาจจะผิดก็ได้
แต่ขอให้ทำใจกับสิ่งที่จะเกิดตามมาจากการกระทำของเราเอง
หลายต่อหลายปัญหา ฉันไม่ค่อยได้ปรึกษาเพื่อนคนนี้สักเท่าไหร่ ด้วยเหตุว่า...
ข้อแรก ฉันคิดว่า... ฉันมีเหตุผลพอ ที่จะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร
ไม่ได้บอกว่าฉันมีเหตุผลดีเลิศมากมายหรอกน่ะ บางทีเหตุผลของฉันมันก็แค่ --- ก็ฉันพอใจจะทำ ไม่เดือดร้อนใคร
หลายคนบอก มันไม่สมควร แต่ถามว่าเดือดร้อนใครไหม ฉันทำแล้วเงินในกระเป๋าใครหายไปรึป่าว มีใครเลือดตกยางออกเหรอ
ถ้าคำตอบคือไม่ ก็แสดงให้เห็นว่า การกระทำฉันก็ไม่ผิด อย่างมากก็แค่ ไม่สมควร --- แล้วไง ?
ใช่ บางทีฉันก็ต้องมานั่งน้ำตาตกเพราะการกระทำของตัวเอง อันนั้นมันก็มีบ้าง แต่มันก็ทำให้ฉันจำ... นานเลยแหละ
แต่อย่างไรซะ ฉันก็ถือว่า นั่นน่ะมันคือเหตุผลของฉัน ฉันเปลี่ยนความจิงไม่ได้ว่า... ฉันทำลงไปเพราะเหตุผลข้อนั้นๆ
ผิด ฉันก็ยอมรับผิด หลายเหตุการณ์สร้างบาดแผลให้ ตอนนี้ฉันมีแผลเหวอะหวะเต็มตัว
แต่มันก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้ ลองผิดลองถูกมาก็หลายที
ด้วยหลายๆอย่างที่ฉันคิดว่า... เราอยู่ในสถานการณ์ที่ ฉันกลัว ตกใจ ประหม่า --- ตัวเราเข้าใจตรงนี้ที่สุด
ผู้สังเกตการณ์ ก็คือคนที่มองต่างมุม แน่ล่ะว่า... ฉันยังเคารพในมุมที่เค้ามอง แต่ท้ายที่สุดเราก็ควรตัดสินใจเอง
ผิดพลาดมา --- ร้อยคนพันคนพร่ำบอกว่าเสียใจ ขอบคุณคือคำตอบจากเรา แต่เราคือคนที่เสียใจที่สุดแล้ว
ข้อสอง พูดตามตรงก็คือ คำปรึกษาที่เพื่อนคนนี้ให้มา มันไม่ work สำหรับฉัน
จึงนำมาซึ่งการไปปรึกษาคนอื่น ที่ฉันเห็นว่าเป็นที่ปรึกษาให้ฉันได้
แต่ก็อย่างว่า ท้ายที่สุด ฉันเป็นคนตัดสินใจเอง และก็ค่อนข้างเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองซะด้วยสิ
*****************
มาถึงตรงนี้ ระหว่างผู้หญิงสองคนข้างต้น
บางคนอาจจะเห็นความแตกต่าง
บางคนอาจจะเห็นความเหมือน
วันนี้ฉันเฝ้ามองดูเพื่อนคนนี้เดินออกไปจากฉัน นับวัน เรายิ่งห่างไกลกันออกไปทุกที... ทุกที
ฉันไม่ได้จากเธอมา แต่เธอเลือกที่จะเดินจากฉันไป --- รึป่าว? ถ้าใช่ เธอทำอย่างนั้นเพื่ออะไร ?
การคบกันฉันท์เพื่อน ไม่สำคัญเลยว่าเธอจะแย่ลง หรือ ดีขึ้น จะเดินไปข้างหน้า หรือ ถอยหลัง
การคบกันฉันท์เพื่อน ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งให้เพอร์เฟ็คสวยหรู
ฉันไม่ได้ตัดสินใจจะคบใครฉันท์เพื่อน เหตุเพราะว่าดูดีไปซะทุกอย่างหรอก เพราะถึงยังไง แก่นแท้ต่างหากที่ฉันมอง...
พอมาถึงบรรทัดนี้ คำถามเดิมๆยังวนเวียนอยู่ในหัว... นี่เรายังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ไหม ???
แล้วคุณว่า --- เราสองคนยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ไหม ?
จากคุณ :
Raven_kate
- [
14 ก.ค. 50 23:33:00
]