ความคิดเห็นที่ 2
PM01 พูดต่อว่า อีกประเดี๋ยวพอเจ้ากลับไปที่เดิมแล้ว ข้อจำกัดระดับของผู้เริ่มต้นจะสลายไปโดยอัตโนมัติ ต่อไปชื่ออาชีพของเจ้าจะเปลี่ยนเป็น ผู้เลื่อนขั้น ระดับจำกัดสูงสุดคือ ระดับ ๖๐
ส่วนฉายาของอาชีพนินจาจะมี ๗ ขั้น ฉายาจะเปลี่ยนไปตามทักษะอาชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ฉายาในขั้นต่างๆ ของอาชีพนินจาได้แก่ นินตัน (นักเรียนนินจา) , นินอิ (นินจาฝึกหัด) , โชนิน (นินจาชั้นต้น) , ชูนิน (นินจาชั้นกลาง) , โจนิน (นินจาชั้นสูง) , นินชิ (อาจารย์นินจา) , นินโอ (เจ้านินจา) ตอนนี้ทักษะพิเศษที่จะได้รับมี ๓ อย่าง คือ วายุมังกรหมุน วิชาตรวจสอบ และวิชาพรางกาย วิธีใช้จะอยู่ที่ตราสัญลักษณ์ของเจ้า
พอได้ยินคำว่าตราสัญลักษณ์ เฉินเฟิงก็ทำท่าจะถามว่าตราสัญลักษณ์อยู่ที่ไหน แล้วต้องขมวดคิ้วฉับเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบตรงต้นแขนขวา แล้วตราประหลาดหน้าตาเหมือนสัญลักษณ์อะไรสักอย่างก็ปรากฏขึ้นบนต้นแขนข้างนั้น นาฬิกาข้อมือที่ระบบมอบให้ก็มีช่องอธิบายทักษะพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งช่องพร้อมกัน
PM01 พูดกลั้วหัวเราะ ฮึฮึ ลืมบอกไปว่าจะเจ็บนิดหน่อย ตรานี้มีแต่ผู้เล่นที่มีอาชีพเดียวกันเท่านั้นที่จะมองเห็นได้ ผู้เล่นคนอื่นจะไม่มีทางมองเห็น เจ้ายังมีคำถามอะไรจะถามอีกไหม ? ถ้าไม่มีเราก็จะให้เจ้าเลือกทักษะพิเศษที่เจ้าต้องการจะเสริมขั้นเดี๋ยวนี้ !
เฉินเฟิงคิดในใจว่ามีคู่มือแล้วแบบนี้ เรื่องทักษะพิเศษค่อยๆ ไปศึกษาเอาเองทีหลังก็ได้ ที่เขาอยากจะรู้ก็คือ ความลับของอาชีพนินจาคืออะไรกันแน่ ? ถึงจะทำใจอยู่ก่อนว่ายังไงๆ ก็คงไม่ได้รับคำตอบ แต่ในเมื่อ PM01 บอกมาเองว่าถามได้ ก็เลยลองถามดูว่า
ผมขอรบกวนถามหน่อยครับว่า ต้องมีทักษะอะไรครบบ้างถึงจะได้รับอาชีพนินจา ? แล้วก็หลังจากที่ได้รับอาชีพแล้ว ต้องเล่นแต่อาชีพนี้ไปตลอดหรือเปล่าครับ ? หรือว่ามีทางเลือกอื่นด้วย ?
PM01 เงียบไปพักใหญ่ ค่อยพูดว่า
ทักษะที่จำเป็นในการได้อาชีพนินจาได้แก่ ทักษะสืบเสาะ ระดับ ๕ , ทักษะพรางกาย ระดับ ๕ , ทักษะอาวุธลับ ระดับ ๓ , ทักษะปีนไต่ ระดับ ๓ , ทักษะดาบ ระดับ ๓ , ทักษะหลบหลีก ระดับ ๒ และทักษะกับดัก ระดับ ๒ ทั้งสิ้น ๗ ทักษะ
ส่วนคำถามข้อที่สอง เจ้าเป็นผู้เล่นคนแรกเลยนะที่ถามคำถามนี้ เมื่อครู่ได้ลองค้นระเบียบการดูแล้ว โชคดีที่อยู่ในขอบเขตที่สามารถบอกได้ หลังจากได้รับอาชีพที่ ๑ แล้ว ขอเพียงระดับทักษะของผู้เล่นบรรลุเงื่อนไขการได้อาชีพของอาชีพอื่น ก็สามารถที่จะได้รับทักษะพิเศษและของรางวัลของอาชีพนั้นด้วยเช่นกัน
แต่เนื่องจากได้เลื่อนขั้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีค่าประสบการณ์สะสมเหลือสำหรับใช้เพิ่มขั้นของทักษะพิเศษของอาชีพใหม่ นอกจากว่าผู้เล่นจะบรรลุระดับ ๖๐ และสะสมค่าประสบการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นขั้นของทักษะพิเศษก็จะได้แค่ขั้น ๑ เท่านั้น
พอได้ฟังคำตอบ เฉินเฟิงถึงกับตะลึง เพราะคิดไม่ถึงว่าจะไม่เคยมีผู้เล่นคนไหนถามคำถามนี้มาก่อน ที่น่าแปลกใจคือ ถ้าได้อาชีพที่ตัวเองไม่ชอบ มิเท่ากับว่าไม่มีโอกาสแก้ตัวใหม่เลยหรอกหรือ ? อีกอย่าง ในเมื่อมีการจำกัดระดับสูงสุดที่ระดับ ๖๐ ก็แปลว่ายังมีขั้นที่สูงกว่านั้นอีกน่ะสิ ?
หลังจากตกตะลึงไปพักหนึ่ง เฉินเฟิงก็ค่อยๆ หายจากอาการตะลึงแล้วถามต่อว่า
อย่างนั้นรบกวนถามอีกอย่างนะครับว่า การเพิ่มขั้นทักษะพิเศษคืออะไร ? แล้วบอกได้หรือเปล่าครับว่า หลังจากระดับถึงระดับที่ ๖๐ แล้ว ยังจะเลื่อนขั้นสูงขึ้นไปอีกได้หรือเปล่า ?
PM01 เงียบไปอีกพักใหญ่ ค่อยตอบว่า
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนาน คำถามที่เจ้าถามนี่ แทบจะเป็นคำถามที่เพิ่งจะเคยมีคนถามทั้งนั้น เราจึงต้องไปเปิดดูระเบียบการก่อน
การเพิ่มขั้นทักษะพิเศษคือการเพิ่มขั้นให้กับทักษะพิเศษที่ได้รับมา ซึ่งทักษะพิเศษแต่ละประเภทจะมีด้วยกันทั้งสิ้น ๙ ขั้น แต่ละขั้นที่สูงขึ้นจะมีพลังสูงกว่าขั้นก่อนหน้า ๒๐%
จากขั้น ๑ เลื่อนขึ้นเป็นขั้น ๒ ต้องใช้ค่าประสบการณ์หนึ่งแสนจุด หลังจากนั้นในการเลื่อนขั้นแต่ละครั้งต้องบวกค่าประสบการณ์สองแสนจุดทบทวีขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นคือจะเลื่อนจากขั้น ๒ เป็นขั้น ๓ ต้องใช้ค่าประสบการณ์สามแสนจุด , จากขั้น ๓ เลื่อนเป็นขั้น ๔ ต้องใช้ค่าประสบการณ์ห้าแสนจุด แบบนี้แหละ
หลังจากระดับของผู้เล่นถึงระดับที่ ๖๐ แล้ว ค่าประสบการณ์ที่เกินมาจะกลายเป็นค่าประสบการณ์สะสม ซึ่งจะสามารถเลือกทักษะพิเศษที่ต้องการเพิ่มขั้นได้จากช่องเพิ่มขั้นทักษะพิเศษ ค่าประสบการณ์สูงสุดจะมีได้ถึงสิบล้านจุด
สำหรับคำถามที่ว่าหลังจากระดับถึงระดับที่ ๖๐ แล้ว ยังจะเลื่อนขั้นสูงขึ้นไปอีกได้หรือเปล่า ? คำตอบคือได้ แต่ในตอนนี้ขั้นที่สูงกว่านั้นยังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถประกาศให้ทราบได้ เจ้าไปดูที่ประกาศบนกระดานประกาศข่าวของทางระบบที่จุดติดต่อสอบถามได้ทุกเวลา หรือจะทำการสอบถามด้วยตัวเองก็ได้
หลังจากนิ่งคิดอยู่นาน ในที่สุดเฉินเฟิงก็ตัดสินใจเพิ่มขั้นของทักษะวิชาตรวจสอบเป็นขั้นที่ ๔ ส่วนค่าประสบการณ์ที่เหลือหนึ่งแสนจุดเอาไปเพิ่มให้ท่าวายุมังกรหมุน ขั้น ๑ ที่มีไว้สำหรับโจมตี
เหตุผลสำคัญที่ทำให้เฉินเฟิงตัดสินใจแบบนี้ เพราะหลังจากวิชาตรวจสอบสูงกว่าขั้น ๓ จะเริ่มตรวจสอบข้อมูลของสัตว์อสูรได้ และขอบเขตจำกัดของการตรวจสอบจะสูงขึ้น ๒๐% ในทุกขั้นของทักษะนี้ นั่นคือขอแค่เป็นสัตว์อสูรระดับไม่เกิน ๔๘ เฉินเฟิงจะสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของสัตว์อสูรตัวนั้นได้ ซึ่งข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ประกอบด้วย ระดับ สังกัดธาตุ พลังโจมตี พลังป้องกัน พลังชีวิต แถมยังมีโอกาสมองเห็นไปถึงจุดอ่อนของสัตว์อสูรอีกต่างหาก
PM01 บอกว่าเฉินเฟิงเป็นคนแรกที่เอาค่าประสบการณ์มาเพิ่มให้วิชาตรวจสอบ จนถึงตอนนี้ บรรดาผู้เล่นที่ได้อาชีพนินจาทุกคนต่างก็เอาค่าประสบการณ์ไปเพิ่มให้ท่าวายุมังกรหมุนที่เป็นท่าโจมตี หรือไม่ก็วิชาพรางกายที่ใช้ในการหลบหลีกกันทั้งนั้น บวกกับถึงแม้วิชาตรวจสอบจะสามารถมองเห็นข้อมูลของสัตว์อสูรได้ หรืออาจถึงขนาดช่วยให้มองเห็นจุดอ่อนของสัตว์อสูร แต่โอกาสเห็นไปถึงจุดอ่อนก็มีไม่มากนัก เรียกได้ว่าเฉินเฟิงเป็นผู้เล่นที่คิดไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาจริงๆ
หลังจากเก็บไอเท็มเครื่องป้องกันที่เพิ่งได้รับมาเรียบร้อยแล้ว เฉินเฟิงก็บอกลา PM01 แล้วถูกลำแสงสีขาวเจิดจ้าบาดตาสาดใส่จนตาพร่ามองอะไรไม่เห็นอีกรอบ จากนั้นตัวเขาก็พลิกตลบตีลังกาอีกครั้ง
เมื่อสายตากลับมามองเห็นได้อีก จึงพบว่าสามสาวต่างเก็บไอเท็มที่ได้จากพวกสไลม์กันเสร็จเรียบร้อย และนั่งรอจนเริ่มจะเซ็งแล้ว ก็ใครใช้ให้เฉินเฟิงหายศีรษะไปตั้งหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ กันเล่า
ยังไม่ทันได้ร้องทักทายสามสาว ในศีรษะของเฉินเฟิงก็มีเสียงจากระบบดังขึ้นเป็นชุดอย่างรวดเร็ว ท่าจะเป็นร่ายยาวค่าประสบการณ์ที่ได้รับต่อเนื่องจากก่อนที่เขาจะถูกพาตัวไปกับเทพมังกรสัตตรงค์ และอาจเป็นเพราะสมาชิกในกลุ่มของเขาต่างก็ได้เลื่อนระดับ ทำให้ทักษะบัญชาการของเฉินเฟิงได้เลื่อนรวดเดียว ๒ ระดับ ชื่อตำแหน่งจึงกลับมาเป็นหัวหน้ากลุ่มตามเดิม
พอเซียวหยาวเห็นตราสัญลักษณ์นินตันที่เพิ่มมาใหม่บนต้นแขนขวาของเฉินเฟิง ก็นิ่งตะลึง นึกถึงนิสัยชอบแบ่งปันความรู้ของเฉินเฟิงแล้ว ดูท่าในอนาคตของเกมราชาฯ ความลับในการได้มาซึ่งทักษะของอาชีพนินจาคงไม่เป็นความลับอีกต่อไป
แม้จะเพิ่งทำใจได้ก่อนหน้านี้ไม่นาน แต่เมื่อเห็นข้อได้เปรียบเล็กน้อยที่ตัวเองเหลืออยู่กลายเป็นหมดความหมายไปในพริบตา เซียวหยาวก็อดใจหายไม่ได้
ครั้นเห็นท่าทางผิดปกติของเซียวหยาว ระลอกน้ำแห่งสารทม่วงก็ทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย จึงเข้าไปปลอบโยนเพื่อน
ความจริงตอนเฉินเฟิงโผล่มา ระลอกน้ำฯเองก็จ้องต้นแขนขวาของเฉินเฟิงเขม็งอยู่เหมือนกัน เพราะจากความเชี่ยวชาญในทักษะผู้ฝึกสัตว์ของเฉินเฟิง ทำให้มีความเป็นไปได้เช่นกันว่าอาชีพที่เขาได้จะเป็นอาชีพนักฝึกสัตว์ และเธอก็เคยได้ยินมาว่านอกจากวิธีคลี่คลายภารกิจแล้ว มีคนได้ทักษะทำอาหารด้วยวิธีการอื่นด้วย บวกกับนิสัยทดลองโน่นนี่โคตรจะเก่งของเฉินเฟิง ทำให้ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าพี่แกจะทดลองขุดคุ้ยจนได้อาชีพหรือไอเท็มอะไรมาบ้าง
วิหารจันทราเทพไม่รู้เรื่องตราสัญลักษณ์ของอาชีพ จึงเห็นแค่ว่าเฉินเฟิงกลับมาแล้ว และดูจากภายนอกก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จึงถามอย่างประหลาดใจว่า
ทำไมถึงไปนานขนาดนั้นล่ะเฉินเฟิง ? คนอื่นเขาไปกันแค่สิบกว่านาทีก็กลับมาแล้ว เธอดันไปตั้งชั่วโมงกว่า แล้วเธอได้อาชีพอะไรมาน่ะ ?
เฉินเฟิงเห็นท่าทางซึมๆ ของเซียวหยาว ถึงค่อยนึกได้ว่ามีแต่ผู้เล่นที่ได้อาชีพเดียวกันเท่านั้นที่จะมองเห็นตราสัญลักษณ์ของอาชีพ พอลองสังเกตดู ก็พบว่าบนต้นแขนของเซียวหยาวมีตราแบบเดียวกับเขาอยู่จริงๆ ด้วย
วิหารจันทราเทพเห็นเฉินเฟิงเอาแต่มองเซียวหยาวโดยไม่ตอบคำถามของเธอ จึงพลอยหันไปมองเซียวหยาวบ้างอย่างงงๆ แล้วจึงเห็นท่าทางผิดปกติของเซียวหยาว จึงพูดอย่างงุนงงว่า
หรือเธอได้อาชีพนินจา ?
เฉินเฟิงพยักหน้า จากนั้นแบมือ
พอทักษะครบตามเงื่อนไขปุ๊บ ก็ได้อาชีพทันทีโดยอัตโนมัติ ผมเลือกเองไม่ได้น่ะ แต่เทพมังกรผู้มอบอาชีพบอกว่า ยังมีสิทธิ์ที่จะได้อาชีพอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจะได้อาชีพอะไรก็ไม่ต่างกันนักหรอก
เซียวหยาวกับระลอกน้ำแห่งสารทม่วงแทบจะอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกตะลึง
นายว่าอะไรนะ ! พอได้อาชีพแล้วยังมีสิทธิ์ได้อาชีพอื่นด้วย ? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะ ? แล้วทำหน้าเหมือนที่เขาพูดออกมาไม่ใช่ภาษาคนยังไงยังงั้น
เฉินเฟิงสะดุ้งโหยงกับปฏิกิริยาของสองสาว ตะกุกตะกักว่า
ใช่สิ ก็อาชีพตอนนี้ของพวกเธอไม่ใช่ผู้เลื่อนขั้น บวกกับฉายาของอาชีพหรอกเหรอ ?
จากสีหน้ากังขาของสองสาวทำให้ทราบว่าพวกเธอไม่เคยแม้แต่จะได้ยินเรื่องที่สามารถได้อาชีพมากกว่าสองอาชีพมาก่อน เฉินเฟิงจึงได้แต่บอกคำสนทนาของตัวเองกับ PM01 ให้สามสาวฟังอย่างละเอียด
ยิ่งฟัง สามสาวก็ยิ่งอ้าปากหวอกว้างขึ้นทุกที เพราะทุกเรื่องที่เฉินเฟิงพูดมา พวกเธอเพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรกทั้งนั้น
เมื่อฟังที่เฉินเฟิงเล่าจบ เรื่องที่ผูกมัดสามสาวให้ต้องลำบากใจมานานก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา ในเมื่อสามารถมีอาชีพได้หลายอาชีพ ก็หมายความว่าต่างสามารถแลกเปลี่ยนกันโดยบอกผลการค้นคว้าของตัวเองแก่คนอื่น และรับรู้ความลับที่คนอื่นค้นพบได้เช่นกัน
จากคุณ :
ซีเรีย
- [
15 ก.ค. 50 00:31:22
]
|
|
|