ความคิดเห็นที่ 1
ตอนที่ ๗
โอกาสค้าขาย
พอไต่ลงมาจากโพรงเหนือถ้ำ เฉินเฟิงก็ถูกภาพตรงหน้าสะกดจนอ้าปากค้าง
ปรากฏว่านอกจากเสียงกึกก้องกัมปนาทนานเกือบสองนาทีนั้นจะฆ่าสไลม์ไป ๗๕๔ ตัวแล้ว ยังทำให้ถ้ำสามคูหาสุดบูรพาขยายกว้างกว่าเดิมกว่าเท่าตัว
ถ้ำสามคูหาสุดบูรพาคงต้องเปลี่ยนชื่อเสียแล้ว เพราะเส้นทางในถ้ำที่เพิ่มขึ้นมามีอย่างน้อยสิบกว่าเส้น แต่ก็ยังมีแค่สามเส้นที่สามารถทะลุผ่านไปถึงหุบเขามรณะได้เช่นเคย
ถ้ำทั้งถ้ำเหมือนถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเขาวงกตยังไงยังงั้น ก่อนหน้านี้ไอเท็มทั้งหลายที่ได้จากสไลม์ทำเอาสามสาวตามเก็บจนหมดแรง นอกจากเงิน ม้วนคาถา ก้อนอัญมณี และก้อนแร่แล้ว ยังได้แหวนมาอีก ๓ วง เนื่องจากสามสาวไม่มีม้วนคาถาปลดผนึกมากพอ จึงแค่ปลดผนึกแหวนสามวงไปก่อน ปรากฏว่าแหวนทั้งสามวงต่างก็เป็นแหวนป้องกันการโจมตีของธาตุพิษเหมือนกันหมด
เฉินเฟิงมีแหวนป้องกันธาตุพิษอยู่ก่อนแล้วสองวง จึงแบ่งแหวนสามวงนี้ให้สามสาวไป สามสาวก็รับเอาไว้โดยไม่เกรงใจ และแน่นอนว่าได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งให้เฉินเฟิงเป็นการชดเชย
หลังพ้นจากวิกฤติการณ์สไลม์ ทั้งสี่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะรั้งอยู่ที่นี่อีก จึงพากันเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับหมู่บ้านอิวะ ส่วนเฉินเฟิง ถึงจะไม่ค่อยพอใจโคบุกับเคย์มะ แต่ยังไงๆ ทั้งสี่ก็รอดมาได้เพราะสองคนนั้นช่วยต้านฝูงลิงค้างคาวเอาไว้ เมื่อลองคำนวณเวลาดู ฝูงลิงค้างคาวน่าจะสลายตัวไปแล้ว พวกเขาก็ควรจะทำหน้าที่ของเพื่อนร่วมกลุ่มให้ดีที่สุดโดยการไปช่วยเก็บเครื่องป้องกันกลับมาให้พวกโคบุ
หลังออกจากอดีตถ้ำสามคูหาสุดบูรพา ทั้งสี่ก็เดินทางอยู่ในหุบเขามรณะอย่างระวังตัวแจโดยมีระลอกน้ำแห่งสารทม่วงทำหน้าที่นำทาง
หลังจากหยั่งเส้นทางกันไปได้หนึ่งชั่วโมงเศษ ในที่สุดก็พบเครื่องป้องกันที่พวกโคบุเหลือทิ้งไว้ สำหรับพวกโคบุ เครื่องป้องกันพวกนี้ถือว่าสำคัญมากทีเดียว
เดิมทีเฉินเฟิงยังคิดจะแวะไปช่วยเก็บเครื่องป้องกันให้พวกหมาป่าโลหิตด้วย แต่ระลอกน้ำฯบอกว่าด้วยระดับของพวกเขาทั้งสี่ในตอนนี้ ขืนเข้าไปที่บึงกักมังกร ก็มีแต่ทางตายสถานเดียว เฉินเฟิงเลยจำต้องเลิกล้มความคิด
พอพูดถึงบึงกักมังกร เฉินเฟิงค่อยนึกขึ้นได้ว่า ขนาดคนเก่งๆ อย่างพวกหมาป่าโลหิตยังดับอนาถทั้งกองทัพ พวกเขาสี่คนยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เฉินเฟิงก็สนอกสนใจเรื่องบุกตะลุยบึงกักมังกรเป็นอย่างมาก แน่นอนแหละว่าไอ้ที่เขาสนใจน่ะคือยาสมุนไพร ก็มันเกี่ยวข้องกับแผนหาเงินของเขานี่ ดังนั้นถึงครั้งนี้จะไม่ได้ไป เฉินเฟิงก็ยังอุตส่าห์ตั้งใจจำทางเอาไว้
กลับมาถึงหมู่บ้านอิวะ ทั้งสี่ก็รีบไปเปิดห้องที่โรงแรมหลายห้อง จากนั้นสามสาวก็สั่งให้เฉินเฟิงปลดผนึกไอเท็มที่ได้มาทั้งหมด ส่วนพวกเธอจะไปอาบน้ำแต่งตัวซะหน่อย
เฉินเฟิงที่น่าสงสารได้แต่ไปที่ร้านปลดผนึกคนเดียว กว่าจะปลดผนึกม้วนคาถาทั้ง ๓๐๐ กว่าม้วนเสร็จ ก็ปาเข้าไปหนึ่งชั่วโมง
ที่น่าประหลาดคือ นอกจากม้วนคาถากลับบ้านและม้วนคาถาป้องกันพิษที่ได้มาอยู่บ่อยๆ แล้ว ยังมีม้วนคาถาเปล่าๆ อีก ๑๐๐ กว่าม้วน ซึ่งต่างก็แบ่งเป็นระดับต่างๆ กัน ถึงจะไม่ทราบว่าม้วนคาถาเปล่าๆ พวกนี้ใช้ทำอะไรได้ แต่เนื่องจากมันไม่มีขายในร้านขายไอเท็ม ดังนั้นจึงน่าจะเป็นของวิเศษอะไรสักอย่างล่ะมั้ง
หลังกลับมาถึงโรงแรม เฉินเฟิงต้องรออีกถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม สามสาวค่อยนวยนาดกันมาที่ห้องของเขา ทำเอาเฉินเฟิงเซ็งแทบบ้า
พอเห็นม้วนคาถาเปล่าๆ วิหารจันทราเทพที่ปักใจรักแต่อาชีพนักบวชก็บอกว่า ม้วนคาถาพวกนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับอาชีพนักอาคม ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ม้วนคาถาพวกนี้ต้องแพงมากแน่ๆ แล้วทั้งสี่ก็แบ่งม้วนคาถากัน ต่างก็ได้ไปคนละ ๒๐ กว่าม้วน
ถึงแม้ตอนที่อยู่ในหุบเขามรณะ เครื่องป้องกันทั้งหลายแหล่ของระลอกน้ำแห่งสารทม่วงจะพังจนแทบไม่เหลือซาก แต่ตัวเธอเองกลับรวยไม่ใช่เล่น หลังจากคืนโล่เหล็กกับดาบวงเดือนที่ยืมมาให้เฉินเฟิงแล้ว ยังจ่ายค่าดาบสั้นที่เสียหายไปแบบเต็มราคาอีกด้วย
เดิมทีเฉินเฟิงคิดจะเอาแค่ราคาขายให้ร้านขายไอเท็มเท่านั้น แต่พอเห็นว่าระลอกน้ำฯแค่แวะไปคลังเก็บไอเท็มแป๊บเดียว เครื่องป้องกันก็กลับมาเพียบแปล้เหมือนเดิม จึงรับเงินค่าดาบสั้นมาอย่างไม่เกรงใจ ซึ่งไม่ใช่ว่าเฉินเฟิงขี้งกหรอก แต่เป็นเพราะตอนนี้รายจ่ายในแต่ละวันของเขามันสูงมาก เพราะอู้คงกับซวงเว่ยต่างก็กินอาหารสัตว์เลี้ยงถึงมื้อละ ๒ ห่อ บวกกับหลายฝูและค่าข้าวของตัวเอง แค่ค่าอาหารพวกนี้เขาก็ต้องจ่ายถึงวันละตั้ง ๕๐๐ เหรียญเงิน ถ้าไม่เพราะสไลม์พวกนั้นทำให้เขาได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน ๒๕,๐๐๐ เหรียญเงินล่ะก็ รายจ่ายในหลายวันมานี้คงทำเอาเขากระเป๋าฉีกไปแล้ว
เขาไม่เข้าใจเลยว่าระลอกน้ำแห่งสารทม่วงเก็บเงินได้ยังไง ?
แน่นอนว่าวิหารจันทราเทพเองก็คืนหนี้ให้เฉินเฟิงได้หมดเพราะเงินส่วนแบ่งที่เธอได้ไปเช่นกัน และคืนหน้าไม้เหล็กกล้าที่ยืมมานานให้เฉินเฟิงได้เสียที นอกจากนี้ยังมีเครื่องป้องกันและไอเท็มอื่นๆ ที่เฉินเฟิงเหมารวมขายให้ถูกๆ ๒,๐๐๐ เหรียญเงิน
ความจริงถ้าจะคำนวณกันอย่างจริงจัง แค่เกราะอกชิ้นนั้น ราคาก็สูงกว่า ๒,๐๐๐ เหรียญเงินแล้ว แต่เนื่องจากวิหารจันทราเทพยังต้องคืนเงินให้เซียวหยาวซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่อีกราย เฉินเฟิงจึงคิดเธอแค่ราคานี้
เฉินเฟิงลองสรุปรวบยอดดู หลังจากมาที่ทวีปกู่ย่าได้ ๕ วัน เมื่อหักค่ายาฟื้นพลัง ยาถอนพิษ และค่าอาหารแล้ว เขาเหลือเงินแค่ ๓๐,๐๐๐ เหรียญเงิน ทำเอาเฉินเฟิงเริ่มจะกังวล
ลองคิดดูดีๆ ถ้าไม่บังเอิญได้เงินจากฝูงสไลม์พวกนั้น เขาคงต้องออกสู้กับสัตว์อสูรเพื่อให้พอเลี้ยงปากท้องทุกวันแน่ๆ แถมหลังจากทะลวงผ่านขีดจำกัดระดับ ๓๐ แล้ว พอฆ่าสัตว์อสูรประเภทเดียวกับที่เคยฆ่าก่อนหน้านี้ ไม่แค่ค่าประสบการณ์ที่ได้จะน้อยลงเท่านั้น ได้ยินมาว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะได้เงินมากๆ และไอเท็มดีๆ ยังจะลดลงไปโข
หลังจากเคลียร์เรื่องแบ่งไอเท็มและใช้หนี้กันเป็นที่เรียบร้อย สามสาวก็นั่งเหม่อมองไข่สัตว์เลี้ยงระดับสูงที่เฉินเฟิงผลักมาตรงหน้า ถึงทั้งสามจะไปซื้อถุงนอนมาแล้ว แต่ขนนกมันไม่มีขายนี่นา
ทันใดนั้นระลอกน้ำแห่งสารทม่วงก็ปิ๊งไอเดียพิสดารขึ้นมากะทันหัน โดยเล็งเป้าหมายไปยังฝูงเป็ดไก่ที่เห็นเดินป้วนเปี้ยนกันเต็มไปหมดที่นอกหมู่บ้าน สุดท้ายปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ดีเยี่ยมกว่าใช้ขนของพญาครุฑเสียอีก
ด้วยเหตุนี้ในวันนั้นเหล่าผู้เล่นในหมู่บ้านอิวะจึงพากันประหลาดใจสุดๆ เมื่อพบว่าขนบนตัวของพวกเป็ดไก่ที่ชอบมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ หมู่บ้านโดยไม่มีใครสนใจได้หายวับไปจนหมดราวปาฏิหาริย์...
<>::<>::<>
มาถึงหน้าบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอิวะ ก็พบว่าสารพัดสัตว์ทั้งโขยงก่อนหน้านี้ได้หายไปจนหมดเกลี้ยง หลังจากส่งมอบผลลัพธ์ที่ได้จากการไปคลี่คลายภารกิจให้แก่หัวหน้าหมู่บ้านแล้ว ทั้งสี่ต่างก็ได้รับสิทธิ์ให้ซื้อดาวกระจายกากบาทได้ แถมยังสามารถซื้อระเบิดแสงและระเบิดควันอันล้ำค่าจากหัวหน้าหมู่บ้านได้ด้วย
ปรากฏว่าเป็นเพราะพวกเขาสามารถคลี่คลายภารกิจลับได้สำเร็จ ดังนั้นภารกิจจึงถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ พวกสัตว์เลี้ยงทั้งโขยงก่อนหน้านี้จึงถูกส่งกลับไปที่เดิมจนหมด
หัวหน้าหมู่บ้านมีทีท่าดีอกดีใจอย่างมาก ดูท่าสัตว์เลี้ยงพวกนั้นคงทำให้เขาปวดศีรษะมานาน ตอนนี้หัวหน้าหมู่บ้านได้แต่หวังว่าครั้งหน้าจะมีคนคลี่คลายภารกิจได้อีก ไม่ใช่ว่าต้องรอตั้งหนึ่งปีกว่าจะมีคนคลี่คลายได้สำเร็จอย่างครั้งนี้
สำหรับระเบิดแสง ตอนที่ไปเทือกเขาไทแทน เซียวหยาวเคยเอาออกมาให้ดูแล้ว เฉินเฟิงจำได้ว่าตอนนั้นเซียวหยาวบอกว่าราคาในตลาดมืดคือลูกละ ๕๐๐ เหรียญ พอรู้ว่าซื้อจากหัวหน้าหมู่บ้านได้ในราคาลูกละแค่ ๑๐๐ เหรียญเงิน หมายความว่าขอแค่เอาไปขายในตลาดมืด ก็จะได้กำไรหลายเท่าตัวทันที ทั้งสี่จึงซื้อกันคนละหลายลูก
หลังจากบอกลาระลอกน้ำแห่งสารทม่วงแล้ว สองสาวต่างแสดงความจำนงว่าจะไปช้อปปิ้งกันเสียหน่อย เฉินเฟิงที่ต้องรอคืนเครื่องป้องกันให้โคบุกับเคย์มะจึงกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมเพียงลำพัง
ระหว่างที่เฉินเฟิงผู้น่าสงสารรอให้โคบุกับเคย์มะฟื้นคืนชีพ ก็เกิดปิ๊งไอเดียสุดวิเศษขึ้นมา แล้วดำเนินแผนหากำไรก้อนใหญ่ทันที
เฉินเฟิงชวนเซียวหยาวกับวิหารจันทราเทพไปดำเนินแผนนี้ด้วยกัน แต่พอสองสาวได้ฟังแผนหาเงินของเขา ก็พากันปฏิเสธเสียงแข็งทันที
ปรากฏว่าแผนการของเฉินเฟิงคือ เอาเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อระเบิดแสงกับระเบิดควัน แล้วนำมาวางแผงขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดมืด ๒๐๐ เหรียญเงิน แน่นอนว่าส่งผลให้บรรดาผู้เล่นต่างแห่กันมาขอซื้อยังกับแร้งลง จนทำให้เงิน ๓๐,๐๐๐ เหรียญทวีจำนวนขึ้นหลายเท่าในเวลาสั้นๆ แค่ ๘ ชั่วโมง
จำนวนเงินในบัญชีเงินฝากของเฉินเฟิงเพิ่มขึ้นเป็น ๒๐๐,๐๐๐ กว่าเหรียญอย่างรวดเร็ว ส่วนทักษะตั้งแผงลอยเลื่อนขึ้นเป็นระดับ ๗ สุดท้ายเซียวหยาวต้องมาสะกิดเตือนว่าอย่างกให้มันมากเกินไปนัก เฉินเฟิงค่อยยอมหยุดขายอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อมีระเบิดแสงและระเบิดควันจำนวนมากออกสู่ท้องตลาด บวกกับเหตุการณ์ขนบนตัวของเป็ดไก่ในละแวกหมู่บ้านหายไปราวปาฏิหาริย์ บรรดาผู้เล่นที่เป็นพ่อค้าหัวใสจึงจัดแจงโยงสองเรื่องนี้เข้าหากันทันที โดยคิดว่าขนของเป็ดไก่อาจจะเป็นวัตถุดิบในการผลิตระเบิดแสง จึงเปิดรับซื้อขนเป็ดขนไก่เป็นจำนวนมาก ผลสุดท้ายไม่แค่ขาดทุนย่อยยับเท่านั้น ยังก่อให้เกิดภัยพิบัติแก่หมู่บ้านอิวะในภายภาคหน้าอีกด้วย
สองเดือนให้หลัง หมู่บ้านอิวะจะถูกกองทัพหนอนบุกเล่นงาน เมื่อสืบย้อนไปถึงสาเหตุ ก็พบว่าเป็นเพราะเป็ดไก่ที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติของพวกมันถูกพวกผู้เล่นที่คิดแต่จะหากำไรจนเป็นบ้าไปแล้วจับถอนขนเสียเกลี้ยง ถึงแม้เป็ดไก่ที่ไม่มีขนจะยังไม่ถึงกับตาย แต่ก็ต้องสูญเสียความสามารถในการออกหาอาหารไป สุดท้ายจึงก่อให้เกิดภัยจากกองทัพหนอนขึ้น
<>::<>::<>
จากคุณ :
ซีเรีย
- [
16 ก.ค. 50 05:38:26
]
|
|
|