Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ฉัน คือ ตุ๊กตาหมีสีชมพู

    ‘ ทางนี้สิ …. มาหาฉันสิ ’   ฉันพร่ำภาวนาอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ท่ามกลางตุ๊กตาตัวอื่นๆในชั้นวางที่เรียงรายอยู่เต็มไปหมด

    ‘ สำเร็จ… เธอกำลังเดินตรงมาหาฉันแล้ว’

    ฉันยังจำได้ดีเสมอ  ถึงสัมผัสอุ่นๆจากมือน้อยๆของเธอในครั้งนั้น  
    เธออุ้มฉัน แล้วยกขึ้นเหนือหัว  ส่งยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร   ก่อนที่จะเอามากอดไว้ในอ้อมอกอุ่นๆของเธอ  
    “ หนูเอาตัวนี้ค่ะพ่อ ”

    และแล้ว…. การรอคอยอันยาวนานแสนนานของฉันก็สิ้นสุดลง ณ บัดนั้น

    ‘นับจากวันนี้  ฉันเป็นของ ‘เธอ’แล้วนะ’ ฉันคิด
    …………….
    ……………………….

    นับแต่วันนั้นมา   ฉันก็อยู่เคียงข้างกายเธอตลอดเวลา    

    …..เธอเรียกฉันว่า เจ้าหมีพิงค์กี้   ซึ่งฉันก็ชอบชื่อนี้เป็นที่สุด
    มันแสดงให้ฉันรับรู้ว่า  การดำรงอยู่ของฉันนั้นมีค่าเพียงใดสำหรับ
    เธอ

    ทุกๆครั้งยามที่นอน  เธอก็จะกอดฉันไว้ภายใต้ผ้าห่มนุ่มๆอุ่นๆ
    และทุกครั้งที่เธอไปเที่ยวไหนต่อไหน   เธอก็จะพาฉันเคียงข้างไปด้วยเสมอ
    ….วันดีคืนดีเธอก็พาฉันไปนั่งที่ชุดเก้าอี้รับแขกเล็กๆ  มีโต๊ะกลมวางอยู่ตรงกลาง
    และเธอก็จะนั่งอีกฝั่ง  แล้วพูดคุยกับฉันอยู่อย่างนั้นตั้งครึ่งค่อนวัน

    เธอขอให้แม่ตัดชุดให้ฉันใส่ตั้งหลายชุด  และเธอก็จะเล่นสนุกกับการเปลี่ยนชุดให้ฉันทุกวัน  
    เพื่อนๆของเธอที่มาเยี่ยมบ้าน  ต่างก็ชอบที่จะมาอุ้มฉัน  กอดฉัน  
    ชมฉันว่าน่ารักอย่างนู้นอย่างนี้  …ซึ่งทุกครั้งที่เธอได้ยิน  ก็จะดีใจจนยิ้มแก้มปริ
    และตัวฉันเองก็จะมีความสุขเหลือเกิน

    ครั้งหนึ่งเธอพาฉันติดรถพ่อ ไปทำบุญที่วัด
    ขณะที่เธอลงไปใส่บาตร  ปล่อยให้ฉันอยู่ในรถตามลำพัง
    ฉันแอบมองออกไปนอกหน้าต่างรถ  เห็นตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งอยู่บนพื้นในบ้านไม้เล็กๆซอมซ่อ ผุๆพังๆ  
    ตุ๊กตาตัวนั้นตัวดำขมุกขมอม มีรอยปะเย็บตามแขนขาอยู่เต็มไปหมด
    …ฉันเห็นแล้วนึกสงสารจับใจ  พลางนึกไปว่า  เขาจะมีความสุขหรือเปล่านะ

    แต่ฉันก็แทบจะลืมไปเรื่องนี้ไปโดยสิ้นเชิง  เพราะเมื่อกลับถึงบ้าน พ่อของเธอก็ต่อที่นอนอันเล็กๆน่ารักให้ฉันอันหนึ่ง
    วางไว้ข้างๆกับเตียงนอนของเธอ   แล้วเธอก็หาผ้าขนหนูผืนเล็กๆมาทำเป็นผ้าห่มให้ฉัน
    จะว่าไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้ชอบนอนบนที่นอนอันน้อย ซักเท่าไหร่หรอก  ฉันชอบที่จะนอนอยู่ในอ้อมกอดของเธอมากกว่า  
    และเธอก็เหมือนจะรู้ใจฉันซะด้วย  …เธอจะให้ฉันนอนบนที่นอนนั้นเฉพาะตอนกลางวัน ยามที่เธอต้องไปโรงเรียน  
    และจะเอาฉันไปนอนกอดในตอนกลางคืน  



    …….วันเวลาแห่งความสุขเหล่านี้อยู่กับฉันเกือบ 2 ปี  จนกระทั่งวันหนึ่ง บางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้น
    เธอไม่ได้กลับมานอนที่ห้องเหมือนอย่างทุกวัน   ทีแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไร
    จนวันที่ 3 เข้าไปแล้ว   ฉันก็ยังไม่เห็นวี่แววของเธอ

    แล้ววันหนึ่ง  ฉันก็แอบได้ยินสาวใช้คุยกันว่า “ คุณหนูถูกย้ายไปผ่าตัดด่วนที่อเมริกา ”
    ฉันไม่เข้าใจความที่สาวใช้พูดเท่าไหร่นัก  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอเมริกามันอยู่ที่ไหน
    แต่ฉันกลับมีความรู้สึกว่ามันคงจะไกลเหลือเกิน

    ห้องของเธอถูกทิ้งร้างไว้ในสภาพที่เงียบเหงา  
    มีเพียงฉัน….ที่ยังคงเฝ้ารอคอยการกลับมาของเธออยู่บนที่นอนเล็กๆอันนี้ทุกวัน
    ฉันได้แต่เฝ้ามองดูพระอาทิตย์ขึ้นลง ขึ้นลง อย่างไม่รู้คืนรู้วัน    
    …วันดีคืนดี ก็จะมีสาวใช้มาปัดฝุ่นทำความสะอาดห้องกันซักครั้ง

    แล้ววันหนึ่ง  ม่านหน้าต่างก็ถูกปิดลง  คนมากมายช่วยกันขนย้ายข้าวของในห้องกันอย่างอุตลุด
    ในที่สุดห้องทั้งห้องก็ว่างเปล่า  …  
    ฉันถูกย้ายไปอยู่ในห้องมืดๆแคบๆ   แออัดไปด้วยกล่องและลังมากมายวางซ้อนกันอย่างไม่เป็นระเบียบ
    กลิ่นอับๆของฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว  

    ฉันไม่รู้ว่าอยู่ในนั้นนานเท่าไหร่    …จำไม่ได้ว่า นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นแสงเดือน แสงตะวัน
    แต่ก็นานพอที่จะทำให้ฉันลืมไปแล้วว่า  ความสุขมันคืออะไร    
    หยากไย่เริ่มพันตามหัวและหูของฉัน   ขาของฉันมีรอยแหว่งจนนุ่นแลบออกมาเล็กน้อย  …เนื่องจากหนูแทะ
    สภาพฉันตอนนี้ คงดูไม่ได้เลยสินะ


    แล้ววันหนึ่งฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนหลายคนเดินใกล้เข้ามา
    ใจของฉันเต้นตึกตัก   ประตูถูกเปิดออก  แสงอาทิตย์ที่ฉันไม่ได้เห็นมานานแสนนานเหลือเกินก็ทะลักล้นเข้ามา จุดให้
    ห้องทั้งห้องสว่างไสวขึ้นมาในพริบตา    

    “ คิดว่าน่าจะอยู่ในนี้นะ ”  …..เสียงของชายคนหนึ่งดังมาพร้อมกับเสียงแอ๊ดของประตูที่เปิดออก
    “ ตอนนั้นก็รีบๆ  จำไม่ได้หรอกว่าอะไรเก็บไว้ไหน ”  
    พอชายคนนั้นพูดจบ  ก็มีเสียงๆหนึ่งตามขึ้นมา
    “ เป็นไง  หาเจอมั้ยคะ  คุณลุง ”   …..เสียงๆนั้น  ….    ฉันไม่มีทางจำผิดไปได้แน่ๆ  
      มันเป็นเสียงที่ฉันอยากจะได้ยินมานานเหลือเกิน

    …ใช่แน่ๆ  มันเป็นเสียงของ ‘เธอ’นั่นเอง

    ฉันอยากจะโกนบอกไปว่า‘  ฉันอยู่ตรงนี้ ’ ซะจริงๆ  ……….แต่ฉันก็พูดไม่ได้
    ชายที่เธอเรียกว่า  คุณลุงนั้นค้นอะไรกุกกักๆอยู่พักใหญ่  ยกลังนู้นลังนี้ออก  จนในที่สุดก็เจอฉันที่นั่งอยู่ในซอกหลืบแคบๆซอกนี้
     
    “นี่ไง  เจอแล้ว!!”
    “จริงเหรอคะ คุณลุง ”  เสียงของเธอตื่นเต้นดีใจ
    ‘คุณลุง’ตะโกนเสียงดัง  แล้วประคองฉันขึ้นไปด้วยมือทั้งสองข้าง     แกไอแค้กๆ  สองสามที
    “โอ้โห  ฝุ่นจับซะขนาดนี้    แถมถลอกปอกเปิกไปหมดเลย”    แกพูดพลางยื่นฉันให้เธอดู
    “ดูซิลูก  ว่าใช่มะ”
    ฉันมองเธออย่างตื่นเต้นด้วยความคิดถึงเหลือล้น   เธอดูโตขึ้นเยอะทีเดียว  แขนขายาวขึ้น  ตัวก็สูงขึ้น ….แต่ดวงตาดวงนั้นยังคงเหมือนเดิม … เหมือนกับวันแรกที่ฉันได้พบเธอ

    …..ทว่าสายตาของเธอกลับเปลี่ยนไปเมื่อมองเห็นฉัน

    “ นี่มัน… ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง  “  …ไม่ใช่เจ้าหมีพิงค์กี้นี่คะ ”
    “..หมีของหนูเป็นสีชมพู   ไม่ใช่สีเทาแบบนี้” เธอพูดต่อ    

    ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของเธอ     ฉันยังเป็นฉันเหมือนเดิม   ทำไมเธอถึงจำฉันไม่ได้นะ
    หรือว่า ฉันสกปรกเลอะเทอะเสียเหลือเกิน เธอจึงจำฉันไม่ได้แล้ว

    ….หากฉันพูดได้  ฉันอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าฉันนี่แหละคือ พิงค์กี้ที่เธอเคยกอดนอนทุกวันเมื่อสมัยก่อน

    เธอทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้    ‘คุณลุง’จึงบอกเธอว่า
    “ โอ๋ ไม่เป็นไรนะลูก  …..ไว้ลุงจะซื้อตัวใหม่ให้ ”   คุณลุงปล่อยฉันทิ้งลงพื้น แล้วลูบหัวเธอเบาๆ  


    ฉันถูกเอามาโยนทิ้งไว้ที่กองขยะ หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา ท่ามกลางขยะเศษซากปรักหักพังอื่นๆ ที่เหลือใช้แล้ว
    โครงไม้ที่เมื่อก่อนเคยเป็น ที่นอนอันน้อยของฉันถูกหักป่นปี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยวางกองระเนระนาดอยู่เบื้องหน้าฉัน
    เศษกระจกชิ้นหนึ่งท่ามกลางกองขยะสะท้อนให้ฉันเห็นภาพของตุ๊กตาหมีเก่าๆขาดวิ่น  ขนสีเทาขมุกขะมอมไปทั้งตัว    
    ….. ‘นี่หรือฉัน??’
    ‘….ฉันที่เคยมีขนสีชมพูสะอาดทั่วตัว  ใครเห็นก็ต้องชมว่าน่ารัก  ’
    ‘ ….. ฉันที่เคยนอนอยู่เคียงข้างเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆใต้ผ้าห่มอุ่นๆ  ’
    ‘ฉัน……ที่เคยมีความสุขอยู่ทุกๆวัน’


    ฉันนอนตรงนั้นอยู่นานแค่ไหนก็ไม่รู้  ฉันแทบจะไม่มีความรู้สึกใดๆหลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว
    ความผิดหวังทั้งหลายมันท่วมท้นจนฉันไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม    
    ผู้คนเดินผ่านไปมาขวักไขว่   แต่ไม่มีใครซักคนที่จะหันมาสนใจหรือแม้แต่ปรายตามองฉันเลยสักนิด
    … ฉันในตอนนี้… อาจเป็นแค่กองขยะไร้ค่ากองหนึ่งในสายตาของพวกเขา
    ‘บางที  คุณค่าของชีวิตฉันคงหมดไปแล้วสินะ  ’  


    ฝนลงเม็ดแล้วซาไป  แล้วแดดก็ส่องลงมาแทนที่  แล้วก็ตกลงมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น        
    …เป็นอย่างนี้หมุนเวียนเรื่อยไปไม่รู้นานเท่าไหร่แล้ว

    วันนี้ …พระอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าไปหมาดๆ
    น้ำค้างหยดหนึ่งหล่นแหมะลงมาจากยอดไม้ลงมาที่ตาของฉัน  คล้ายกับว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่
    ‘บางทีนี่อาจจะเป็นหยดน้ำตาที่สวรรค์ประทานมาให้แก่ความเศร้าโศกของฉันล่ะมั้ง ’ ฉันคิด
    แล้วจู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงกุกๆกักๆดังมาจากซากตู้เย็นข้างๆฉัน   แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะนึกว่าเป็นหนูหรือหมามาคุ้ยหาเศษอาหาร  ซักพักหนึ่งฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนเด็กผู้หญิงดังมาใกล้ๆ
    “ พ่อๆ  หนูเจอตุ๊กตาหมี ”   เด็กผู้หญิงคนนั้นตะโกนเรียกพ่ออย่างดีใจ

    ฉันมองดูเด็กคนนั้น   ..เค้าช่างดูซูบผอมเหลือเกินต่างจาก ‘เธอ’ คนนั้นที่ฉันรู้จักลิบลับ  เสื้อผ้าเนื้อตัวก็ดำมอมแมมสกปรกไปหมด   ฉันเห็นเธอถือถุงพลาสติกสีดำใบใหญ่ใบหนึ่งเอาไว้ใส่ขยะที่เก็บมาจากกองขยะกองนั้น
     
    “หนูเอากลับบ้านนะพ่อ”  เด็กคนนั้นพูด.. …  แล้วฉันก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากอุ้งมือน้อยๆของเค้า    มันเป็นไออุ่นที่ฉันไม่ได้สัมผัสมานานเหลือเกิน  
    เด็กผู้หญิงคนนั้นค่อยๆประคองฉันไปกอดไว้ในอ้อมอกอย่างทะนุถนอมราวกับว่าฉันเป็นของมีค่ายิ่ง  
    แล้วเค้าก็ยกฉันขึ้นมาดูอีกครั้ง  พลางส่งยิ้มหวานให้ฉันแล้วพูดว่า

    “ ต่อไปนี้แกชื่อ  เจ้าสีเทานะ ”

    ……ฉันรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาอย่างประหลาด   มันคล้ายกลับว่าฉันได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง
    ฉับพลันนั้นฉันก็นึกถือตุ๊กตาหมีมอมแมมตัวนั้นที่ฉันเห็นตอนอยู่ในรถพ่อของ‘เธอ’เมื่อนานมาแล้ว    

    ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ  
    ‘บางที ‘คุณค่าของการมีชีวิต’ อาจไม่ได้อยู่ที่การใช้ชีวิตให้มีความสุขหรอก  
    …..…. ‘คุณค่าของการมีชีวิต’ อยู่ที่การมีชีวิตอยู่ เพื่อคนที่รู้จัก‘คุณค่า’ของมันต่างหากล่ะ’

    ‘เธอ’ อุ้มฉันแนบอกแล้ววิ่งไปหาพ่อ….

    หยดน้ำค้างร่วงจากตาฉันลงสู่พื้น  
    …..นี่ไม่ใช่หยดน้ำตาจากความเศร้าโศกหรอก     หากแต่มันเป็นหยดน้ำตาแห่งความยินดีมากกว่า
    …………………………….

    ‘นับจากวันนี้  ฉันเป็นของ ‘เธอ’แล้วนะ’

    จากคุณ : ซงย้ง - [ 22 ก.ค. 50 18:45:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom