Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องเล่าของสาวน้ำตาลไหม้ (ตอนนี้เป็นสาวแล้วค่ะ) #2

    ตอน 1
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5638583/W5638583.html

    ความเดิม
    ......
    “นี่....พูดไม่เข้าใจหรือไง” น้ำตาลนึกมุขเถียงไม่ทัน ได้แต่ลากเสียงแล้วยืนจ้องหน้าคู่สนทนา
    /////////////////




    พีรวิชมองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ท้ายรถพร้อมทั้งอมยิ้ม ไม่พูดจาคำใดออกมา จู่ๆ เขาก็เดินเข้าไปหาเธอพร้อมทั้งจับมือคนตัวเล็กให้เดินตามไปขึ้นรถ

    “นี่ ...“ น้ำตาลทำท่าจะพูดอะไรออกมาพร้อมทั้งขยับมือเตรียมสะบัดออกจากอุ้งมือใหญ่ แต่ไม่รู้เพราะอะไร น้ำตาลก็ไม่เข้าใจตัวเอง เธอระงับอาการต่างๆ ไว้ได้แต่เดินตามเขาไปต้อยๆ

    พีรวิชเปิดรถให้หญิงสาวขึ้นไปนั่ง พร้อมทั้งจ้องหน้าทำตายิ้มโดยไม่พูดสิ่งใดอีกตามเคย แต่แววตาของเขาเหมือนจะรู้ทันสิ่งที่น้ำตาลกำลังคิด น้ำตาลก้มหน้าหลบสายตาชายหนุ่มพร้อมทั้งอมยิ้มหน้าแดงมองมือตัวเองที่วางไว้บนตักอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านั้น

    “ยังปั่นจักรยานไปทำงานอีกเหรอ หรือว่าปั่นเล่น” พีรวิชขึ้นมานั่งในตำแหน่งคนขับพร้อมทั้งเอ่ยปากถามน้ำตาล

    “ก็ปั่นเรื่อยๆ แล้วแต่อารมณ์” น้ำตาลอ้อมแอ้มตอบโดยไม่ยอมหันไปมองหน้าคู่สนทนา

    เธอเห็นเขากำลังแลตามองเธออยู่ขณะที่ถาม ชั่วขณะที่น้ำตาลเงยหน้าขึ้นมองกระจกมองหลังก็ทำให้สายตาทั้งสองประสานกัน น้ำตาลเห็นแววตาประหลาดจากสายตาคู่นั้น มันไม่เหมือนทุกทีที่น้ำตาลเคยจ้อง

    ตลอดระยะทางกลับบ้านน้ำตาลรู้สึกใจเต้นระส่ำ ไม่เป็นจังหวะ ซึ่งน้ำตาลเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดปกติเช่นนี้ เสียงเครื่องยนต์ดับสนิทลงเมื่อถึงรั้วต้นสนหน้าบ้านที่น้ำตาลอาศัยอยู่ น้ำตาลขยับตัวเตรียมก้าวขาลงจากรถ แต่ก็ยังไวไม่ทันเท่าคนที่นั่งข้างๆ มือใหญ่เอื้อมผ่านหน้าน้ำตาลมาเปิดประตูรถให้ ทำให้ท่อนแขนแข็งแรงเฉียดผิวแก้มเธอไปอย่างแผ่วเบา

    น้ำตาลรู้สึกใจเต้นตึกตัก รีบก้าวขาลงจากรถโดยไม่ได้หันมามองคนข้างหลังที่มองตามพร้อมทั้งอมยิ้มแบบขำๆ พอลงจากรถได้น้ำตาลก็รีบวิ่งเข้าบ้าน เธอลืมรถจักรยานที่อยู่ท้ายรถเสียสนิท

    “นี่แม่คุณ ใจคอคิดจะไม่ช่วยกันลากรถจักรยานเข้าบ้านเลยเหรอ” เสียงนุ่มๆ ตะโกนตามหลังน้ำตาลมาไวๆ

    “ก็ตัวยกขึ้น ตัวก็ยกลงแล้วเอามาเก็บให้ด้วยสิ” น้ำตาลถอดรองเท้าเสร็จก็นั่งพักตรงเชิงบันไดเฉลียงหน้าบ้าน มองคนตัวโตยกจักรยานเดินเข้าประตูบ้านมา

    “เอ้า! เสียงใครเอะอะโวยวายหน้าบ้าน น้ำตาลพาใครมาเหรอ?” น้ำหวานพี่สาวน้ำตาลตะโกนถามมาจากในบ้าน

    “วิชครับพี่ แวะมาเยี่ยมไม่ได้มานาน” แขกผู้มาเยือนรีบตอบเสียเองก่อนที่น้ำตาลจะทันได้พูดอะไร

    “อ้าว วิชหรอกเหรอนึกว่าใคร มามา รีบขึ้นบ้าน กำลังจัดโต๊ะพอดีเลย” น้ำหวานพูดอย่างตื่นเต้นและดีใจ พร้อมทั้งเชื้อเชิญแขกขึ้นบ้าน

    “พี่หวาน โต๊ะบ้านเรามีแค่ ห้าที่นั่งเอง ไม่พอรับแขกหรอก ใครเขามาทางไหนก็ให้กลับทางนั้น” น้ำตาลตอบพี่สาวพร้อมทั้งทำเสียงกระเง้ากระงอด

    “เอ๊ะ ยายคนนี้นี่แปลกคน มาไล่แขกต่อหน้าต่อตา, อย่าไปสนใจเลยวิช แบบนี้แหละไม่ยอมโตสักที” พี่สาวจ้องหน้าน้องสาวที่กำลังทำหน้าเขียว พร้อมทั้งเดินเข้าไปจูงมือหนุ่มรุ่นน้องขึ้นบ้าน

    “ชินแล้วละครับ สิบปีผ่านไปไวยังกับนิยาย แต่คนบางคนก็ยังไม่ยอมโตเหมือนเดิม ผมไม่แปลกใจหรอกครับ” ชายหนุ่มตอบกลับมาพร้อมทั้งเดินตามเจ้าบ้านไปข้างใน

    เสียงพีรวิชที่หัวเราะร่วนคุยสนุกสนานอยู่ในห้องรับแขกทำให้น้ำตาลหงุดหงิดที่ทำอะไรเขาไม่ได้ หมั่นไส้นัก คนบ้าอะไรไม่รู้ เอาใจคนอื่นเก่งชะมัดยาด ตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งพ่อแม่และพี่ๆ ของเธอมักจะเอ็นดูเขาเสมอ เผลอๆ อาจจะรักมากกว่าน้องสาวตัวเองเสียด้วยซ้ำกระมัง

    “พี่หวาน โต๊ะอาหารจัดเสร็จแล้ว ไอ้ตัวเล็กทั้งคู่ก็หิวแล้วด้วย” เสียงน้ำตาลแสดงอาการไม่พอใจอย่างเปิดเผยตะโกนเรียกมาจากในห้องครัว ทำให้น้ำหวานกับพีรวิช พากันกั้นหัวเราะแทบไม่ทัน เพราะพีรวิชเพิ่งจะนินทาคนที่กำลังโมโหไปหยกๆ เป็นจริงอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่ผิด น้ำตาลต้องทำท่าไม่พอใจเขาอีกแน่ๆ

    “นี่ตาล โต๊ะเล็กมันไม่พอนั่งห้าคน ในสวนหลังบ้านมันมีม้าหินอ่อนอยู่ ตาลยกโตกไปทานกับวิชในสวนนะ เดี๋ยวพี่จัดการเจ้าตัวแสบคู่นี้เอง, อ้อ ฝากเรียกพี่พลจากในสวนให้ออกมาทานข้าวด้วย” น้ำหวานสั่งน้องสาวพร้อมทั้งยกโตกชุดเล็กให้น้องสาวถือ

    “วิชไม่ต้องเกรงใจนะ บ้านที่นี่ก็เหมือนบ้านใหญ่ของแม่นั่นแหละ วิชถือเป็นบ้านตัวเองละกัน ไปทานข้าวกับน้องในสวนนะ บรรยากาศดี จะได้ระลึกความหลังสมัยเป็นเด็กด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่ตั้งแต่ยัยตาลไปเรียนต่อ” น้ำหวานพูดกับหนุ่มรุ่นน้องที่ยืนข้างๆ พร้อมทั้งจัดแจงให้ทั้งคู่ยกสำรับอาหารเข้าที่ซุ้มในสวนหลังบ้าน

    “ครับพี่ ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก คนกันเองทั้งนั้น เดี๋ยวทานข้าวเสร็จคงมีเรื่องคุยกันเยอะแยะนะครับ คิดถึงเจ้าแฝดคู่นี้ด้วย” พีรวิชตอบน้ำหวานพร้อมทั้งยกโตกเดินตามคนตัวเล็กที่ทำหน้างอเดินเข้าไปเรียกพี่เขยในสวนหลังบ้านก่อนหน้านี้

    “พี่พล พี่พล พี่หวานบอกให้วางมือแล้วไปทานข้าวได้แล้ว” พอเดินไปถึงซุ้มน้ำตาลก็ตะโกนเรียกพี่เขยเสียงดังลั่นสวน

    “เออ เดี๋ยวพี่ไป, แล้วใครเดินตามมาละนั่น?” พลตอบน้องภรรยาพร้อมทั้งเงยหน้ามาเจอใส่ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่เดินยกโตกตามเธอมา

    “ดูเอาเอง ตาลไม่อยากเอ่ยชื่อ” น้ำตาลทำหน้างอ หันหน้าหนีไปอีกทาง

    “อ้าว วิชนั่นเอง ไม่แวะมาซะนาน วันนี้ลมอะไรพัดมาละถึงแวะมาได้” พอเห็นหน้าคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ พลก็ทักทายด้วยความคุ้นเคยสนิทสนม

    “ลมคิดถึงหอบมาครับ คิดถึงเจ้าแสบคู่ของพี่” พีรวิชตอบพลไปพร้อมกับรอยยิ้ม

    “อ้อ ถ้ายังงั้นโดนเขาไล่มาทานข้าวในสวนละสิ ถ้าอยู่ในบ้านรับรองไม่ได้ทานเหมือนคราวก่อน เจ้าแสบคู่มันติดใจน้าวิชมาก” พลพูดพร้อมทั้งหัวเราะร่วน

    “ครับ” พีรวิชตอบคำสั้นๆ พร้อมทั้งวางโตกไว้บนม้าหินอ่อน
    พลทักทายพีรวิชอีกสองสามประโยคก็เดินเข้าบ้านไป น้ำตาลรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกภายในบ้านของตัวเองพิกล เธอรู้สึกว่าเขาจะได้รับความเอ็นดูจากพี่สาวและพี่เขยเป็นพิเศษ ไหนจะหลานทั้งคู่อีก จากบทสนทนาเมื่อครู่แสดงให้เห็นว่าเขาแวะมาที่นี่บ่อยๆ แต่ทำไมน้ำตาลไม่เคยได้เจอกับเขาเลยก่อนหน้านี้

    แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 50 14:49:44

    จากคุณ : sugarhut - [ 24 ก.ค. 50 14:04:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom