Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ปาปารัสซี่

    ผมมองภาพถ่ายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก พยายามที่จะ
    อธิบายเรื่องราวที่ได้พบมาแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะอธิบายว่าอย่างไร
    เมื่อสองวันก่อน ผมได้รับการติดต่อจากนิตยสาร เกี่ยวกับแวดวง
    บันเทิงฉบับหนึ่ง ว่าจ้างผมถ่ายภาพ ดาราสาว พลอย ซึ่งผมไม่
    ปฏิเสธเลย ก็เธอเป็นดาราคนโปรดของผมน่ะสิ โดยทางนิตยสาร
    โอนเงินให้ผมก่อนเป็นค่าใช้จ่าย ผมมารู้เอาทีหลัง ว่าสิ่งที่นิตย
    สารต้องการก็คือ ให้ผมไปแอบถ่ายการไปพักผ่อนของดาราสาว
    คนนี้ กับแฟนใหม่ซึ่งเป็นดาราอีกคน ปณต

    ผมก็อยากปฏิเสธอยู่หรอก แต่ดันใช้เงินก้อนนั้นไปกับกล้องตัวใหม่
    นี่สิ กล้องตัวนี้ไม่ใช่กล้องใหม่หรอกแต่เป็นกล้องฟิล์มที่ดีที่สุดรุ่น
    หนึ่งที่ผมใฝ่ฝัน อยากจะได้มานาน และที่สำคัญผมประมูลจากช่าง
    ภาพที่มีชื่อเสียงที่ผมชื่นชอบ คนหนึ่ง ก็เลยต้องมาเป็นปาปารัสชี่
    จำเป็น

    ข้อมูลที่ทางนิตยสารให้กับผมค่อนข้างละเอียด ตั้งแต่เดินทางด้วย
    สายการบินใด เวลาเท่าไร และ พักที่ไหนทำให้งานผมง่ายขึ้นเยอะ

    พลอย เป็นดาราที่หน้าตาไทยๆเรียบร้อยมากคนหนึ่ง ข่าวเสียๆหายๆ
    ก็ไม่มี เลย รู้กันแต่ว่าเธอมีคนรักเป็นคนนอกวงการบันเทิง แต่ดูเหมือน
    ว่าจะเลิกกัน หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ จนมามีข่าวกับ ปณต ดาราชาย
    เนื้อหอมที่เป็นข่าวคราวกับดาราสาวอีกหลายคน ผมเองก็ได้แต่ภาวนา
    ว่าขอให้เขาจริงใจกับเธอด้วยทีเถอะ

    เมื่อเครื่องบินลงที่ภูเก็ต ทั้งคู่ สวมแว่นกันแดดและหมวกใบใหญ่ดูเหมือน
    นัก ท่องเที่ยวทั่วไป ผมต้องหาจุดสังเกตุเพื่อไม่ให้คลาดจากทั้งคู่
    ทั้งสองไปเช่ารถยนต์ขนาดเล็กคันหนึ่งและขับออกไป ผมเข้าใจว่าทั้งคู่
    คงไปที่โรงแรมที่จองเอาไว้ก่อน จึงไม่ได้ตามรถคันนั้นไป แต่เรียกแท๊ก
    ซี่ไปที่โรงแรมเลย และก็เป็นอย่างที่ผมคาดไว้รถที่ทั้งคู่เช่ามาจอดอยู่ใน
    ที่จอดรถของโรงแรม

    หลังจากผมรีบเอาสัมภาระไปเก็บที่ห้องแล้วก็รีบมาจับจองที่นั่งรอทั้งคู่
    อยู่ที่ ล๊อบบี้ของโรงแรมไม่นานนัก พลอยก็มาที่ล๊อบบี้ ผมยังไม่ได้เริ่ม
    ถ่ายรูปอย่างที่ตั้งใจเพราะระยะใกล้เกินไป แต่ก็ได้มีโอกาสได้มองเธอ
    ใกล้ๆ ใบหน้าเรียว ดวงตาโตแต่ฉายแววเศร้า อยู่เสมอ

    ผมสังเกตุว่ามีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ที่โซฟาด้านหลังเธอและกำลังเฝ้ามอง
    เธออยู่ด้วยเหมือนกัน ผมคงไม่ใช่ช่างภาพเพียงคนเดียวที่ถูกส่งมาละ
    มังผมคิด อาจมีนิตยสารฉบับอื่นอีกที่รู้เรื่องนี้ แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะ
    ไม่มีอุปกรณ์ถ่ายภาพอยู่กับตัวและแววตาที่มองเธอมันเศร้าอย่างบอก
    ไม่ถูก

    ปณตลงมาพบเธอที่ล๊อบบี้และขับรถออกไปด้วยกัน ผมเรียกแท๊กซี่คัน
    หนึ่งให้ขับตามทั้งคู่ไป จนกระทั่งถึงหาดแห่งหนึ่ง ทั้งคู่จอดรถไว้ที่
    ถนนริมหาดและเดินมาที่ม้านั่งผมทำท่าถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย
    แต่ไม่ได้กดชัทเตอร์หรอก แม้ว่าบรรยากาศตอนนี้จะสวยงามจริงๆ
    คลื่นลูกเล็กๆ พาฟองคลื่นสีขาวสะอาดวิ่งขึ้นมาบนหาดทราย ก่อนจะ
    วิ่งกลับลงไป สายลมอ่อนๆพัดมาจนได้กลิ่นทะเลหอม..

    ชายคนที่ผมเจอที่ล๊อบบี้ เดินตามทั้งคู่ไปไม่ห่างนัก เอาละสิ ผมคิด
    นี่อาจไม่ใช่ปาปารัสชี่แล้ว อาจเป็น รถไฟชนกันอย่างจัง หรือว่ารัก
    สามเส้า ผมกดชัทเตอร์ โฟกัสไปที่ชายคนนั้นแบบเต็มๆ ความจริง
    ชายคนนั้นจัดว่าหน้าตาดีเลยล่ะ แม้จะมีหนวดเคราขึ้นนิดๆแต่ก็ช่วย
    ขับให้ใบหน้าดูเข้มขึ้น ผิดกับแววตาที่เศร้าเสียเหลือเกินพอๆกับพลอย

    ทั้งพลอยและปณต นั่งคุยกันที่ม้านั่งริมหาด รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
    นั้นดูเหมือนกำลังคุยเรื่องที่มีความสุขเหลือเกิน ผมกดชัทเตอร์ ไปกับ
    ทั้งคู่หลายภาพ และแทบไม่ต้องเดาเลยว่า ภาพเหล่านี้ต้องได้รับการ
    ตีพิมพ์แน่นอนหากส่งไปให้นิตยสาร

    ปณตลุกขึ้นและเดินกลับไปที่รถ ดาราหนุ่มเดินสวนกับชายคนนั้นซึ่ง
    กำลังเดินตรงเข้าไปหาพลอย ปณตหันกลับมามอง ทั้งคู่ด้วยสายตา
    เหงาๆ ผมอดคิดไม่ได้ว่า นี่ไม่เหมือนมาออกเดทของคนรักเอาเสียเลย
    มีเรื่องอะไรระหว่างทั้งสามคนกันนะ แต่ยังไงก็ตามผมเก็บภาพเหล่านี้
    ได้ทั้งหมด

    ชายคนนั้นนั่งลงข้างพลอยและมองหน้าเธอ ดูเหมือนเขาพูดอะไรกับเธอ
    บาง อย่างซึ่งจากระยะที่ผมอยู่ไม่มีทางที่จะได้ยินบทสนทนานั้น
    ภาพจากเลนส์ซูมที่ผมใช้ ผมเห็นว่าพลอยยิ้มอย่างอ่อนหวาน นั่นต่าง
    จากการแสดงแน่นอน ผมไม่รู้ว่ารู้ได้อย่างไร แต่มั่นใจว่ารอยยิ้มนั้นออก
    มาจากใจของเธอ ชายหนุ่มคนนั้นวางแขนโอบเธอไว้หลวมๆโดยเธอเอง
    ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างไร .. บางทีเขาคงเป็นคนรักคนเก่าของเธอ...

    ปณตเดินกลับมาพร้อมกับน้ำอัดลมกระป๋องยื่นให้กับหญิงสาวและยืน
    อยู่อีกข้างของเธอ ผมมองภาพนั้นด้วยความประหลาดใจ ผู้ชายสอง
    คนกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ทอดสายตาออกไปกับผืนฟ้าผืนน้ำที่ไกลจน
    สุดสายตา...มันเหงาจน บอกไม่ถูก พลอยทำให้ผมต้องทอดสายตา
    ไปกับผืนฟ้าและแผ่นน้ำนั้นไปด้วย . นี่ละมังที่เรียกว่ารักสามเส้า

    คลื่นลมเริ่มแรงขึ้น พร้อมๆกับละอองผนที่โปรยลงมาจนรู้สึกหนาว
    ผมหันซ้าย หันขวาดูเหมือนว่าที่เดียวที่จะพอหลบฝนได้ในตอนนี้คือ
    ร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่อีกฝั่งของถนน ผมรีบวิ่งนำไปก่อน แน่ละที่ผมห่วง
    คือกล้องและสัมภาระที่ติดตัวอยู่นี่ไง ผมเลือกโต๊ะตัวมุมได้ตัวหนึ่ง
    ซึ่งเป็นจุดที่คงไม่มีใครสังเกตุแต่ก็คงไม่เพียงพอที่จะให้ถ่ายรูปได้
    เพราะแสงแฟลชคงสะท้อนไปทั่วร้าน ผมภาวนาให้ทั้งสามคนเข้ามา
    หลบในร้านด้วยเช่นกันบางทีผมอาจได้ยินบทสนทนาที่ พอจะขายได้

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นผมเงยหน้าขึ้นมองและต้องยิ้มกับตัวเอง ปณตเดิน
    นำมาก่อนและเป็นคนเปิดประตูในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นตามมาและ
    พลอยเข้ามา เป็นคนสุดท้าย
    ละอองฝนทำให้แว่นตาของทั้งปณตและพลอยเต็มไปด้วยหยดน้ำ
    ทั้งคู่จึงถอดแว่นออก ทั้งสามเลือกนั่งโต๊ะเยื้องกับผมไป ชายคนที่ผม
    ไม่รู้จักนั่งหันหน้าให้ ผมในขณะที่ปณตและพลอยนั่งตรงข้ามกัน

    "ไม่คิดว่าฝนจะตกนะเนี่ย อุตส่าห์เลือกวันแล้วเชียว" ปณตพูด
    "เดี๋ยวนี้อากาศคาดเดาไม่ได้เลย" พลอยสนับสนุน ในขณะที่ชาย
    หนุ่มอีกคน ยิ้มให้กับการบ่นของทั้งคู่
    "นานเท่าไรแล้วนะ ที่ไม่ได้มาที่นี่" ปณตถาม
    "สองปีแล้วละมั้ง" หญิงสาวบอก
    "ดูเหมือนที่นี่จะไม่เปลี่ยนไปเลย " ปณตพูดพลางสั่งกาแฟมา
    สามแก้ว
    ความเงียบเข้ามาคั่นเวลาอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งกาแฟหอมกรุ่น
    มาวางตรงหน้า

    "พลอย ตัดสินใจหรือยัง" ปณตถาม
    หญิงสาวเงียบไป ชายหนุ่มคนนั้นเอื้อมมือไปกุมหลังมือเธอไว้
    ผมอด ประหลาดใจไม่ได้นี่กุมมือกันต่อหน้าแฟนใหม่เลยนะ ผม
    มองไปรอบๆร้าน ลูกค้าอื่นๆก็มีแอบมองทั้งคู่อยู่บ้าง
    "มันก็นานมากแล้ว พลอยจะให้ผมรอถึงเมื่อไร" ปณตถามซ้ำ
    "พลอยกลัว ..กลัวว่าจะลืมพี่ณัฐไม่ได้" เธอบอก ในขณะที่ชาย
    หนุ่มบีบมือเธอ แน่นขึ้นก่อนที่จะถอนหายใจ
    "แต่พลอยต้องเลือก ระหว่างผมกับพี่ณัฐ ผมไม่ได้ขอให้พลอย
    เลิกรักพี่ณัฐ แต่ ขอให้พลอยเปิดใจให้ผมบ้าง" ปณตตอบ
    ชายหนุ่มคนนั้นหันไปมองหน้าปณต ก่อนจะปล่อยให้มือหญิง
    สาวเป็นอิสระ
    ปณตเอื้อมมือไปกุมมือหญิงสาวไว้แทน
    "พลอยไม่รู้หรือ ว่าเพราะพี่ณัฐ ผมถึงหนีมาตลอด ไม่จริงจังกับ
    ใคร เพราะผม ไม่เคยลืมพลอยได้ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่หนีอีก"
    ปณตมองหน้าหญิงสาว
    ชายหนุ่มคนนั้น ยิ้มเหงาๆ เขาจะเงยหน้าขึ้นมาและสบตากับผมจน
    ผมต้องเบือนหน้าไปทางอื่น

    "คืนนี้ค่ะ ปณต พลอยจะให้คำตอบตอบคุณคืนนี้" หญิงสาวบอก
    หลังจากเงียบ ไปอีก
    "พลอยขอเวลาที่จะอยู่กับพี่ณัฐ อีกแค่เย็นนี้" เธอบอก
    ปณตพยักหน้าพร้อมกับยิ้มเหงาๆ
    ความรักที่เกิดขึ้นกับคนมากว่าสองคนนี่มักเศร้าอย่างนี้เสมอ..
    ผมคิด ถึงตอนนี้อดรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โชคร้ายเกินไปนักที่ยังไม่
    เคยมีความรักแบบจริงๆจังๆ สักครั้ง ฝนที่โปรยลงมาหยุดลงไปแล้ว
    ทั้งสามคนออกจากร้านไป ปล่อยให้ผม นั่งอยู่ในร้านประติดประต่อ
    เรื่องราวที่พอจะเป็นไปได้ ว่าชายหนุ่มคนนั้นคง เป็น พี่ณัฐที่ทั้งคู่พูด
    ถึงและคงเป็นคนรักของพลอยมาก่อนที่ปณตจะเข้ามา
    และเมื่อหัวใจของเธอไม่สามารถแบ่งภาคได้จึงต้องเลือกระหว่างรัก
    เก่าและรัก ใหม่.. แล้วผลคืนนี้จะเป็นอย่างไรนะ...

    ผมกลับมาที่โรงแรมก็เห็นรถของทั้งคู่จอดอยู่ในที่จอดรถแล้ว ผมรีบ
    อาบน้ำ แต่งตัวและลงมาที่ล๊อบบี้ของโรงแรมอีกครั้ง อย่างน้อยปณตและ
    พลอยคงต้อง ออกมาทานข้าวเย็นที่ไหนสักแห่ง
    ไม่นานนักปณตก็มาที่ล๊อบบี้ ดาราหนุ่มมองผมแวบหนึ่ง แต่ผมมั่นใจ
    ว่าได้ ซ่อนกล้องไว้ในกระเป๋าอย่างมิดชิดแล้วจึงไม่ได้ออกอาการ
    พิรุธแต่อย่างใด พลอยตามมาที่ล๊อบบี้ หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ เข้าไป
    ทานอาหารในห้องอาหารของโรงแรม ผมจึงไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้มาก
    นักเพราะแขกเยอะพอควร แต่เท่าทีสังเกตได้ ทั้งเขาและเธอไม่ได้คุยอะไร
    กันมากนัก

    หญิงสาวขอตัวออกมาที่หาดส่วนตัวของโรงแรม ซึ่งเป็นโอกาสของผม
    ผมหลบ อยู่ในสวนเล็กๆพร้อมกับปรับเลนส์ซูมไปที่หญิงสาว
    เธอยืนมองท้องทะเลที่ มืดสนิทเพียงลำพังกระโปรงสีขาวนั้นพริ้วไปตาม
    แรงลมที่พัดมา
    ชายหนุ่มที่สบตาผมที่ร้านกาแฟเดินเข้ามาหาเธอ และยืนมองทะเลนั้นเป็น
    เพื่อนเธอ สักพักหญิงสาวก็เริ่มสะอื้นและปิดหน้าร้องไห้ ชายหนุ่มคนนั้น
    โอบเธอไว้หลวมๆ แม้ว่าภาพที่เห็นจะเศร้าเพียงใดแต่ผมก็ไม่ลืมที่จะ
    บันทึกภาพเหล่านั้นไว้ บางทีผมอาจไม่ส่งภาพพวกนี้ให้กับนิตยสาร
    ก็ได้ หากมันจะยิ่งทำร้ายเธอ ผมคิด ก็ผมมันไม่ใช่ปาปารัสชี่มือ
    อาชีพนี่

    สักพักปณตก็เดินตามเธอออกมา และยืนอยู่หลังทั้งคู่ ผมอดสงสัยไม่ได้
    ว่าพลอยจะตัดสินใจอย่างไรนะ ชายหนุ่มคนนั้นคลายวงแขนที่กอดเธอ
    และทิ้งลงข้างตัว ในขณะที่หญิงสาวหันกลับมาพบปณตยืนอยู่และโผเ
    ข้าหาอ้อมกอดของเขา

    ผมรู้สึกใจหายแทนชายที่ถูกเรียกว่าพี่ณัฐจริงๆ และต้องยอมรับว่าเขา
    เป็นลูก ผู้ชายเพียงพอ ที่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ขนาดนี้
    ผมไม่แน่ใจว่าทั้งพลอยและปณตนั้นหันมามองชายหนุ่มคนนั้นหรือ
    มองผ่านไปยังทะเลกันแน่ ก่อนที่จะเดินจูงมือเคียงคู่กันกลับเข้าไปใน
    โรงแรม โดยทิ้งให้ชายหนุ่มคนนั้นเดินลำพังไปตามชายหาด...
    ผมรู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างประหลาดนี่เขาจะรู้ไหมนะว่าการพบกันครั้งนี้
    ทั้งพลอยและปณตอาจมีคำตอบอยู่ในใจแล้วแต่มาเพื่อที่จะบอกลาก็เป็นได้...

    ผมมองนาฬิกาข้อมือมันบอกเวลาสี่ทุ่ม ผมต้องเดินทางกลับเพื่อที่จะนำ
    ภาพไปล้างและส่งให้กับนิตยสารในเช้าวันรุ่งขึ้นซึ่ง ผมคิดเอาไว้ว่าผมคง
    คัดไปเป็น บางภาพเท่านั้น ภาพที่พลอยร้องไห้เสียใจนั้น ผมไม่ยอมส่งไป
    แน่นอน ผมโทรศัพท์บอกบอกอของนิตยสารฉบับนั้นถึงเรื่องราวที่พบเพื่อที่
    ทางนิตยสาร จะได้เขียนเรื่องไว้ก่อนและนำภาพผมไปประกอบก่อนที่จะ
    นำภาพไปให้ทีม งานในวันรุ่งขึ้น

    ผมโดนปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์แต่เช้า เมื่อดูหมายเลขที่โทรเข้า เป็นเบอร์
    ของพี่วิทย์ คนที่ว่าจ้างผมนั่นเอง
    "เอก พี่ให้เด็กตรวจสอบประวัติคุณพลอยแล้ว ไม่มีเรื่องรักสามเส้าอย่าง
    ที่เรา ว่าเลย กุขึ้นมาเองรึเปล่า" พี่วิทย์ถามผม
    "ไม่หรอกพี่ ผมเห็นกับตา มีรูปด้วย" ผมยืนยัน
    "ดี ถ้างั้นแสดงว่าเป็นข่าวใหม่" พี่วิทย์บอกก่อนจะเล่าต่อ
    "เท่าที่สืบได้ คุณพลอยเคยมีแฟนนอกวงการ เป็นนักดำน้ำ ที่น่าแปลกคือ
    เค้า เป็นพี่ชายของคุณปณตว่ะ " พี่วิทย์บอก
    "ดูเหมือนจะชื่อ ปณัฐ "
    "ใช่พี่ใช่ ชื่อนี้ละ ทั้งสองคนเรียกผู้ชายคนนั้นว่าพี่ณัฐ" ผมบอกด้วยน้ำเสียงตื่น
    เต้นพร้อมกับเดินไปดูภาพที่ล้างทิ้งไว้
    "เฮ้ย ฟังให้จบสิวะ " พี่วิทย์ตะคอกมาตามสาย
    "ปณัฐ จมน้ำตายไปเมื่อสองปีก่อนที่หาดแถวภูเก็ตนั่นละ แล้วจะเป็นคนที่ว่า
    ได้ยังไง" พี่วิทย์บอก

    ส่วนผมตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ภาพที่ผมถ่ายมาไม่มีชายหนุ่มคนนั้นอยู่
    เลยแม้แต่ใบเดียว มีเพียงภาพของ พลอย และปณต เท่านั้น.....ภาพที่ชายหนุ่ม
    โอบพลอยที่กำลังร้องให้อยู่ริมหาด..ก้มีเพียงพลอยที่ร้องให้เพียงลำพัง......

    ภาพของปณัฐ ที่แววตาเศร้าและเหงายังผุดขึ้นมาในความทรงจำของผม.....
    ใช่ ผมคิดถูก ทั้งพลอยและปณตต้องการที่จะไปบอกลากับเขา ปณัฐ ...
    ซึ่งเขาก็มารับรู้การตัดสินใจของทั้งคู่..โดยที่ทั้งสองคนอาจไม่รับรู้เลย...

    ผมได้ยินเสียงพี่วิทย์ตะโกนเบาๆจากโทรศัพท์ก่อนที่ผมจะปิดมันทิ้งไป
    ถึงบอกไป...ก็คงไม่มีใครเชื่อผมอยู่ดี....ใช่ใหม...

    แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 50 07:13:47

    แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 50 23:07:57

    แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 50 23:05:29

    จากคุณ : กลิ่นกาแฟครับ - [ 1 ส.ค. 50 22:37:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom