ใครบางคนเคยเขียนไว้ว่า ชีวิตไม่ใช่อะไรก็ได้
แต่ในชีวิต เราคงเผลอใช้วลี อะไรก็ได้ หลายครั้ง
นอกจากนี้ยังมีวลีอื่นๆที่กินความเช่นเดียวกันอีกมาก เช่น
ยังไงก็ได้ แล้วแต่
เอาไงเอากัน ครับ ครับ ครับ ค่ะ ค่ะ ค่ะ ..ไม่เป็นไร
ทั้งหมดอาจกลั่นกรองมาจากนิสัยของคนไทยส่วนใหญ่ซึ่งรักชอบความเรียบง่าย เหมือนเพลง สบาย สบาย ของเบิร์ด ธงไชย สมัยยังหนุ่ม
พอเป็นนิสัยจึงปรับเปลี่ยนเป็นพฤติกรรม โดยทฤษฎีฝรั่ง คุณเป็นอย่างที่คุณคิด
ดังนั้น จึงมีมนุษย์เผ่าพันธุ์อะไรก็ได้กำเนิดขึ้น ทางโลกตะวันตกเรียก Yes man species
พวกเขามีลักษณะเด่นคือดูไม่มีข้อข้องใจใดๆในชีวิต โลกไม่จำเป็นต้องหมุนไปตามความคิดของตน
พร้อมจะปล่อยให้ผู้คนผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป ดูราวกับเป็นตัวแทนของผู้บรรลุสัจธรรมว่าไม่มีสิ่งใดในโลกเป็นของๆเรา แม้แต่ชีวิตของตนเอง
ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปทีละวันทีละวันอย่างเชื่องช้า
เหมือนขอนไม้ที่ลอยอยู่ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ พร้อมถูกซัดไปตามแรงคลื่นลม
ทางโน้นที ทางนี้ที ติดฝั่ง แล้วถูกซัดออกมาใหม่
คนอะไรก็ได้อาจเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก และ อาจถูกเกลียดขี้หน้าอย่างมากได้พอๆกัน
แต่ดูเหมือนว่ากรณีหลังจะเกิดน้อยกว่า
เพราะคนเราในปัจจุบันนี้ ชอบควบคุมชีวิตคนอื่นมากกว่าชีวิตตนเอง
สังเกตได้จากกลไกการวิพากวิจารณ์ การสอนสั่งประเภทที่แฝงแววเผด็จการของผู้มีอำนาจในทุกบทบาทของสังคม
เช่น พ่อแม่สอนลูก ครูสอนศิษย์ เจ้านายสอนลูกน้อง รัฐมนตรีจัดการนโยบาย
สมมติว่ามีความปรารถนาบางอย่างของผู้มีอำนาจ แทนค่าด้วย A แล้วต้องการให้ลูกน้องเอา A มาให้ได้
มีวิธีการไปถึง A อยู่สามประการในโลกปัจจุบัน แทนค่าด้วย วิธี X , Y และ Z
ลูกน้องใช้ความพยายามอย่างหนัก จนเอา A มาให้ผู้มีอำนาจ
ผู้มีอำนาจถามว่าเอามาได้อย่างไร พอลูกน้องตอบว่า ได้มาด้วยวิธี Z
ผู้มีอำนาจกลับบอกว่า ผิด ต้องเอามาด้วยวิธี Y ต่างหาก
แล้วในขณะเดียวกันหากเปลี่ยนตัวผู้มีอำนาจ ก็อาจบอกว่าต้องเอา A มาด้วยวิธี X
เป็นกลไกเผด็จการสมบูรณ์แบบ ต้องการทั้งผลลัพธ์และวิธีปฏิบัติ
ถ้าต้องการผลลัพธ์เป็น 2 คงไม่ได้มี แค่ 1+1 = 2
แต่ยังมี 2 x 1 = 2 หรือ 4 -2 = 2 และอีกมากมาย
คนเราพอเคยใช้ 1+1 แล้วได้ 2 ก็มักจะคิดว่าคนอื่นต้องเอา 2 มากจาก 1+1 เหมือนกัน
..
ชีวิตบางคนอาจเจอการบีบบังคับทางความคิดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งทางตรงและทางอ้อม
จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดกลไกปรับตัวก็คือ เมื่อหมดสิทธิ์คิดและสร้างสรรค์ เหมือนหมาที่ถูกล่ามโซ่ที่ยาวมากๆ
เหมือนมีอิสระแต่ความจริงไม่มี ดังนั้น จึงต้องบอกกล่าวว่า
บอกมาเถอะ จะให้ทำอะไร
อะไรก็ได้ ว่ามาเลย
และอื่นๆ
ทั้งนี้ เพื่อลดกระบวนการถูกทำร้ายทางความรู้สึกเมื่อผลลัพธ์มาถึง
นี่อาจเป็นกลไกหนึ่งในการกำเนิดคนอะไรก็ได้
แต่ส่วนมาก คนประเภทนี้ก็ไม่เคยถามตนเองหรอกว่า ทำไมจึงเป็นคนเช่นนี้
เพราะพวกเขาก็เสมือนยอดฝีมือทางด้านความอดทน ทนทานต่อแรงกระแทกทุกชนิดบนโลก
รู้สึกว่าฆ่าไม่ตายและไม่เจ็บปวด เสมือนพระวัดเส้าหลินที่ฝึกวิชาระฆังทองคุ้มกาย
ที่สำคัญ พวกเขาไม่เคยเรียกร้องเพื่อตนเองแม้จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ตัวอย่างสำคัญ ก็คือการหาลูกค้าทางโทรศัพท์ของบางบริษัท ที่โทรเข้ามาแล้วพูดรัวเป็นชุด
หากต้นสายเป็นคนอะไรก็ได้ คงตอบ ครับ ครับ ครับ แล้วก็ตกเป็นลูกค้า ( เหยื่อ ) อีกราย
ชีวิตของคนอะไรก็ได้ มักจะตกเป็นของคนอื่นเสมอ
เวลาของคนอะไรก็ได้ มักจะตกเป็นของคนอื่นเสมอ
ผมเห็นด้วยกับคำว่าชีวิตไม่ใช่อะไรก็ได้
อะไรก็ได้ ใช้ได้ในบางสถานการณ์เท่านั้น
และที่สำคัญ หากพบคนอะไรก็ได้ ก็ลองฟังความเห็น ใส่ใจความรู้สึกของเขาดูบ้าง
แม้จะมีระฆังทองคุ้มกายขั้นสูงสุด หลังจากถูกจู่โจมในจุดเดิมๆมากเข้า ย่อมช้ำในตายเข้าสักวัน
เพราะว่า คนอะไรก็ได้ ก็ยังเป็นคน
และ อะไรก็ได้ ไม่ใช่ ไร้ความรู้สึก
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
3 ส.ค. 50 15:10:22
]