ปีนี้แรกเริ่มเดิมทีฉันกะว่าจะไม่เขียนอะไรเกี่ยวกับวันแม่อีกแล้ว เพราะฉันรู้สึกว่า ตัวเองจะเขียนอะไรที่รุนแรงขึ้นทุกวันๆๆ ในความต่างของมุมมอง
แต่แล้ว วันแม่ปีนี้ ฉันก็หยุดเขียนอีกไม่ได้ เพราะว่ากระทู้หนึ่งที่เข้าไปแล้ว ทำให้ฉันมองเห็นค่านิยมทางสังคม ที่ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย
กระทู้ที่อ้างถึงคือ กระทู้ของ คุณเจียวต้าย
ชื่อ เวรกรรมของแม่..............
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5674951/W5674951.html
เป็นกระทู้บทกวีที่ยกมาจากเรื่องขุนช้างขุนแผน เรื่องของนางวันทองสองใจ ที่คนไทยคุ้นหูกันดี
มีคนมากมายเถียงกันว่าทำไม นางวันทองถึงสองใจ ทำไมนางวันทองถึงถูกพระพันวสา ตัดสินประหารชีวิต
วันแม่ปีนี้ฉันจะไม่มานั่งเถียงกับสิ่งที่ผู้คนเขาเถียงกันหรอก แต่ที่ฉันจะยกมาพูดในวันนี้ คือ เหตุผลภายใต้เรื่องราว เหตุผลภายใต้เรื่องราวของนางวันทองมันก็ซ้ำกับเหตุผลของสังคมในทุกวันนี้ กล่าวคือ
ผู้ชายทุกคน หากพูดถึงแม่แล้ว ทุกคนต่างเห็นความสำคัยและให้ความเคารพนับถือแม่ ตั้งแต่สมัยโบราณมาก็เป็นเช่นนั้น ก็เห็นได้จากวรรณคดีไทยแต่โบราณทั้งหลายนี่แหละ ชายไทยจะเป็นคนดีจริงต้องบวชให้แม่ เพื่อให้แม่ถือชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ เพราะแม่ไม่มีสิทธิ์แสวงบุญโดยการบวชเอง
ความเชื่อแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี สมควรแก่การยกย่อง ทำไมฉันถึงบอกว่า "วันแม่ หรือเพียงแค่คำพูด" ก็เพราะว่า สังคมไทยยังให้ความสำคัญของแม่น้อยเหลือเกิน จากค่านิยมที่ฉาบฉวย
ผู้ชายทุกคน ผู้หญิงทุกคน เห็นวันแม่เป็นคนวันสำคัญ เห็นแม่เป็นคนสำคัญ แต่พวกเขาเหล่านั่นกลับไม่เห็นแม่ท่านอื่นสำคัญ เขาให้ความสำคัญกับแม่ของตนเพียงคนเดียว ถูกต้องแล้วหรือ ฉันเฝ้าถามตัวเองทุกครั้งที่เถียงเรื่องสิทธิสตรีกับเหล่าผู้ชายอกสามศอก
ในเมื่อคุณเห็นแม่ของคุณสำคัญ คุณก็ควรจะให้เกียรติแม่ของลูกคุณ ที่เรียกกันว่าเมียคุณสำคัญด้วย ไม่ใช่เห็นแค่เมียของพ่อหรือของปู่ ของตาแค่นั่นที่สำคัญ แต่ไม่ให้เกียรติเมียของลูกหรือหลาน มันจะต่างอะไรกับการที่คนเอาแต่พูดแล้วไม่ทำ
วรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนก็เช่นกัน นางวันทองนั้น เป็นหญิงสองใจเพราะเห็นแก่แม่อันได้แต่นางทองประศรี ที่ไม่ต้องการให้ลูกเป็นหม้าย เมื่อได้ข่าวเท็จว่าขุนแผนตายก็ให้ลูกแต่งงานใหม่ พลายงาม/พระไวยเอง ก็เห็นความสำคัญของมารดาตน จึงได้ทูลขอลดโทษแก่มารดา
จากเรื่องจะเห็นได้ว่า ลูกต่างเห็นความสำคัญของแม่ แต่ไม่เคยนึกถึงหัวอกแม่ท่านอื่น ถ้าลูกทุกคนนึกถึงหัวอกแม่ท่านอื่นแล้วไซร้ นางวันทองก็คงไม่ถูกประหาร เพราะพระพันวสาเองคงเข้าใจหัวอกแม่ของนางวันทอง และคงให้เกียรตินาง
แต่สังคมไทย ยังคงเป็นสังคมไทย วันแม่ทุกปี ผู้ชายทุกคนบอกรักแม่ แต่ไม่เคยให้เกียรติแก่แม่ของลูกตน ซึ่งเรียกว่าเมียเลย หากจะมีผู้ชายที่เข้าใจ และให้เกียรติสตรี ในฐานะเพศแม่ ก็คงมีน้อย เพราะมีผู้ชายน้อยรายนัก ที่จะยกย่องและนับถือเมียของตน
หากไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่มีถ้อยคำล้อเลียนในหมู่ผู้ชายด้วยกันว่า "เองได้เมียหรือว่าได้แม่ว๊ะ" คำล้อเลียนนี้ มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะผู้ชายไม่เคยให้เกียรติผู้หญิงจากจิตสำนึก เขาให้เกียรติผู้หญิงแค่ฉาบฉวย เพียงเปลือกหน้าแค่นั้น
วันแม่ปีนี้ เป็นอีกวัน ที่ฉันขอเรียกร้องสิทธิสตรีให้แก่แม่ทุกคนบนโลกนี้ อันได้แก่ ผู้หญิงทุกคนที่ถือกำเนิดมาบนโลกนี้ เธอสมควรได้รับการยกย่อง ในฐานะที่พวกเธอเป็นเพศแม่ หาใช่ถูกเหยียดหยามและเอาเปรียบจากผู้ชาย
หากคุณคือคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญต่อแม่ หันมามองมุมมองของลูกคุณด้วย ลูกคุณก็คิดเช่นเดียวกันกับคุณ แล้วคุณซึ่งเป็นพ่อ จะไม่ให้เกียรติแม่ของแกหรือไง
ขอพรพระศรีรัตนตรัยจงคุ้มครองให้แม่ทุกคนบนโลกนี้ ได้รับความสุขความเจริญพ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลายด้วยเทอญ
รักแม่
จากคุณ :
sugarhut
- [
11 ส.ค. 50 15:57:12
]