Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    " จากฟากฟ้าสุราลัย "......Deen

    “ จากฟากฟ้าสุราลัย ”
                                                                                    .....แสงเดือน.....

    ทุกวันผมจะเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนพิงกำแพง ก้มหน้าดูมือที่ยกขึ้นกุมไว้หว่างอก ไม้ยันรักแร้ขะมุกขะมอมวางพิงไว้ข้างๆ เนื้อตัวและเสื้อผ้ามอมแมมพอๆกัน ขาข้างเดียวที่มีอยู่ยันกับพื้นเกร็งแน่น ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่บอกถึงอารมณ์และชีวิตที่มีอยู่ ผมสั้นยุ่งเหยิงห้อยลงมาปิดหน้าผากจนแทบมองไม่เห็นดวงตา มีแต่ขนตาปึกใหญ่ที่หลุบต่ำอยู่ตลอดเวลา จมูกโด่งรับกับปากหยักบนคางคมสัน...

    จะใช่ขอทานหรือเปล่าไม่มีใครรู้ ไม่มีกระป๋อง ไม่มีหมวกวางอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยา ไม่มีปากมีเสียง...เขายืนเฉยอยู่อย่างนั้นทุกวัน


    ‘ไอ้เกียง’ เด็กสาวหลานแป๊ะไหนขายกาแฟข้างตลาดกระโดดข้ามแผงขายของไปๆมาๆ วันนี้เกียงนุ่งกางเกงยืดแนบเนื้อขายาวสีครีม  ผมเหลือบไปเห็นพอดีที่เกียงกำลังก้าวขาซ้ายกระโดดข้ามแผงโดยหันด้านข้างให้ผม พอเกียงเอี้ยวตัวก้าวขาขวาอีกทีก็หันหน้ามาทางผมเต็มๆ...โอ๊ะ! ไอ้ที่นึกว่ากางเกงยืดแนบเนื้อนั้นน่ะที่แท้เนื้อไอ้เกียงล้วนๆ ไม่มีกางเกงสักตัว

    ไอ้เกียงอายุสักสิบกว่าปี สติไม่ค่อยสมประกอบแต่นิสัยดี พ่อกับแม่ก็เป็นปกติ ทำมาค้าขายอยู่ข้างตลาด เกียงเคยมานั่งเล่นที่หน้าบ้านผม เราพูดคุยยิ้มหัวอืออารู้เรื่องกันดี เกียงมีน้องสาวคนหนึ่งรู้เรื่องดีกว่าพี่สาว แต่ไม่ฉลาดพอที่จะแยกแยะความดีเลวได้ เกียงเคยใช้ให้น้องมุดเข้าไปในห้องแถวร้างแทนตัวเองเพื่อขอเงินเล็กๆน้อยๆจากชายแก่ลามก...แล้วมันก็มาเล่าหน้าตาเฉยทุกๆเรื่องที่ตาแก่นั้นทำกับตัวเองและน้องสาว

    วันหนึ่งเกียงมานั่งหน้าบ้านอย่างเคย นั่งมองตาแป๋วดูผมกินข้าว ผมถามว่าจะกินไหม เกียงอมยิ้มตาหวานก้มหัวส่ายไปมา แต่พอถึงคราวกินขนมเกียงตาลุกวาวขอกินบ้าง พอดีขนมเหลือนิดเดียวผมจึงหยิบเงินส่งให้เกียงไปซื้อกินเอง เพราะเหตุที่มือเป็นมันลื่นจากขนมทำให้ผมหยิบธนบัตรติดไปสองใบ ผมตั้งใจว่าจะให้เงินเกียง 20 บาทเพื่อไปซื้อขนมเผื่อน้องสาว แต่กลายเป็นว่าผมส่งเงินให้เกียงไปถึง 120 บาท เกียงดีใจวิ่งตื๋อไปชวนน้องสาวซื้อขนมกินกัน พอดีอาม้าของเกียงเห็นธนบัตรใบละร้อยจึงคิดว่าเกียงขโมยไปจากลิ้นชักใส่เงิน ไม่มีใครเชื่อความจริงที่เกียงชี้แจง เกียงโมโหวิ่งปุเลงๆลงคลองที่เป็นแหล่งคมนาคมและสถานที่ซักล้างชำระร่างกายของคนในหมู่บ้าน

    เกียงแก้ผ้านั่งบนกราบเรือเอี้ยมจุ้นที่จอดพักอยู่แถวนั้น เกียงมุดใต้ท้องเรือไปโผล่อีกด้านหนึ่งแล้วก็มุดกลับมาอีก กลับไปกลับมาเป็นที่สนุกสนานร่วมกับเด็กอื่นๆ ตกเย็นอาม้ามาเรียกให้เกียงขึ้นจากน้ำ เกียงไม่ยอมขึ้นเพราะยังงอนและน้อยใจกับข้อกล่าวหาที่ตัวเองไม่ได้ทำ อาม้าร้องดุด่าเกียงเสียงดังลั่นต่อหน้าคนมากๆ ในที่สุดพ่อแม่ต้องมาช่วยเรียก อาแป๊ะก็มาด้วย ไม่มีใครพูดดีกับเกียงแต่ยิ่งช่วยกันรุมด่าและขู่เข็ญจะลงโทษ เกียงจึงไม่ยอมขึ้นจากน้ำ ยิ่งถูกด่าเกียงคงยิ่งเจ็บช้ำและไม่เข้าใจในความอยุติธรรมนี้เกียงจึงมุดลงไปใต้ท้องเรืออีก เสียงด่าทอของอาม้า พ่อแม่ อาแป๊ะ และเสียงหัวเราะของชาวบ้านที่มายืนมุงดูก็ยังอึงคะนึงอยู่  เกียงคงไม่อยากโผล่ขึ้นจากน้ำเพื่อไปเห็นและได้ยินเสียงเหล่านั้น เกียงจึงดำมุดลงไปอีก...และเกียงก็ไม่โผล่มาอีกเลย.....



    บ้านของผมเป็นห้องแถวอยู่ข้างตลาด ถัดจากตลาดเป็นกองขยะที่หลายๆวันจะเผากันสักหน แต่ขยะของพวกชาวบ้านมักจะเข็นเอาไปทิ้งที่คลองข้างวัด กองขยะข้างตลาดนั้นเป็นทั้งสนามฟุตบอลของเด็ก เป็นลานอเนกประสงค์ของชาวบ้านสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานสงกรานต์ งานปีใหม่ เวทีประกวดนางนพมาศ โรงงิ้วศาลเจ้าพ่อไฟ หรือแม้กระทั่งเป็นที่ทำพิธีกงเต็ก...แต่ที่แน่ๆดินใต้กองขยะนี้เอาไปปลูกตันไม้ได้งามมาก ผมขุดใส่กระป๋องนมปลูกต้นบานชื่น กุหลาบ ดาวเรือง ไว้บนหลังคาบ้าน เวลารดน้ำต้องปีนขึ้นไปรด เวลาจะชื่นชมก็ต้องปีนขึ้นไปดู ไม่รู้ผมจะปลูกไว้ทำไม...

    หลังจากที่เกียงตาย ผมรู้สึกไม่ดีเลย ไม่ค่อยกล้าไปยุ่งเกี่ยวกับใครโดยไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อนโดยเฉพาะกับเด็กๆ  ถึงแม้การที่ผมให้เงินเกียงจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่ก็เป็นต้นเรื่องที่ทำให้เกียงตาย อาม้า อาแป๊ะ และพ่อแม่ของเกียงไม่เคยว่าอะไรผม แต่ก็นั่นแหละมันมีอะไรอยู่ในใจผมตลอดมา...

    ผมเป็นเด็กตัวโตที่สุดในละแวก ไม่ใช่เด็กหรอก วัยรุ่น รุ่นใหญ่แล้ว...ผมทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว มีรายได้เป็นของตัวเองไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ต่างจากเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ ผมจึงเป็นพี่ใหญ่ของใครๆ

    ผมซื้อลูกบอล และเอาไม้ปักกั้นอาณาเขตเป็นประตู ตั้งตัวเป็นโต้โผของสนามฟุตบอลกองขยะนั้น  บางทีก็ซื้อไม้ปิงปองและขึงเน็ทบนแผงขายของในตลาดเล่นกับเด็กสนุกสนานตามประสาเพราะผมเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ เด็กๆแถวตลาดรักและเชื่อฟังผม

    แต่ก็ไม่ทุกคนนัก...

    ‘ไอ้หนึ่ง’ ตัวจ้อยสุดของครอบครัวขอทานข้างศาลเจ้าเป็นเด็กที่ชอบแกล้งเด็กอื่นๆ วันหนึ่งขโมยลูกปิงปองไปซ่อนไม่ยอมให้ใครเล่นจนลูกปิงปองหายไปจริงๆและผมต้องซื้อมาให้ใหม่ ผมใช้ไม้บรรทัดตีมือไอ้หนึ่งไปหนึ่งทีเพื่อสั่งสอน พอตกค่ำพี่ๆของไอ้หนึ่งกลับจากงานก็มารุมด่าท้าตีท้าต่อยกับผมหน้าบ้าน ตะโกนด่าว่าผมต่างๆนาๆหาว่าทำเกินไป ลูกเขามีพ่อมีแม่ผมไม่ควรไปตี ผมไม่ควรทำ...ก็จริง...ผมจึงเฉยเสีย

    ไอ้หนึ่งอีกนั่นแหละไปซ่ากับหมาบ้านใครไม่รู้จึงถูกกัด พอดีไอ้หมีหมาประจำตลาดที่ชอบนั่งเฝ้าหน้าบ้านผมเดินงึมๆอยู่แถวนั้นพอดี พี่ๆเจ้าเก่าของไอ้หนึ่งจึงวิ่งมาจะเอาเรื่องกับผมเพราะไอ้หมีสนิทกับผม ผมชี้แจงว่าไอ้หมีไม่รู้เรื่องไม่ได้กัดก็ไม่มีใครฟัง และไอ้หมีที่จริงก็ไม่ใช่เด็กของผมด้วย มันอยู่หน้าบ้าน ผมแค่ให้ข้าวมันกินเท่านั้น

    ไอ้คนโตที่สกปรกที่สุดในครอบครัวคว้าไม้หน้าสามจะตีผม ผมสู้กับมันด้วยมือเปล่า เด็กๆกรูเข้าช่วยผม พอมันเห็นว่าคงทำอะไรผมไม่ได้ก็ปราดเข้าไปตีไอ้หมี ไอ้หมีมันอายุมากแล้วไม่ว่องไวจึงถูกไอ้ชั่วตีเสียจนหมอบแล้วลากไปทิ้งคลองข้างวัด

    พวกผมวิ่งตามไปดู เห็นไอ้หมีผลุบๆโผล่ๆอยู่สองสามเฮือก มันมองมาทางผม ใจผมหมุนติ้วๆแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร.....

    หลังจากวันนั้นผมก็หายซ่าเหมือนกันกับการเป็นนักบุญ นักสังคมสงเคราะห์ เลิกเป็นโค้ชประจำสนามฟุตบอล เลิกเป็นเจ้าของคอร์ดแบดฯและโต๊ะปิงปอง...คิดได้ว่า การที่จะเมตตาเอ็นดูใครนั้นบางทีก็ได้รับผลร้ายเหมือนกัน หรือจะเป็นเพราะผมโตขึ้นก็ได้ผมจึงไม่นึกสนุกที่จะเฮๆกับเด็กข้างตลาดอีกแล้ว อีกอย่างพี่ๆของไอ้หนึ่งก็เดินฮึ่มๆหน้าบ้านผมบ่อยๆ มันคงอยากจะเป็นขาใหญ่เสียเอง ก็ตามใจมัน


    ที่ๆผมทำงานมักจะมีเด็กบ้าง คนมีอายุบ้างเดินเข้าไปขายของกินกระจุกกระจิก ผมช่วยซื้อเป็นประจำ  กินไม่หมดก็แบ่งให้เพื่อนๆ ไม่ได้มีเงินมากมายนักหรอกครับแต่ก็ช่วยๆกันไป มีแม่ลูกคู่หนึ่งลูกอายุสักสี่ห้าขวบนั่งขายถั่วลิสงต้มอยู่ข้างทาง นั่งขายเงียบๆเฉยๆ ผมซื้อแกเกือบทุกวัน สงสัยว่าแกนั่งเงียบอย่างนั้นจะมีใครซื้อถั่วของแกบ้างนะ ก็คงมีผมคนหนนึ่งละ ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของผมจึงมีถุงถั่วอยู่เต็มไปหมดทั้งเก่าทั้งใหม่ แม่บ้านดุผมเรื่อยเรื่องความไม่มีระเบียบของโต๊ะทำงาน...ใจผมอยากจะให้เงินสองแม่ลูกนั้นโดยไม่ต้องรับถั่ว...แต่คนบางคนแม้จะยากจนอย่างไรก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน

    วันหนึ่งไอ้หนูเป็นคนส่งถุงถั่วต้มให้ผม ผมส่งเงินค่าถั่วให้แม่แล้วทำใจกล้ายื่นเงินให้ไอ้หนู 20 บาท ไอ้หนูหันไปมองแม่ แม่เงยหน้าเฉยขึ้นมองผม...วินาทีนั้นผมรู้สึกอึดอัดใจมาก...แต่ในที่สุดแกก็ยิ้มตอบ.....เฮ้อ!ผมสบายใจจัง....


    เช้าวันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจหยุดที่รูปปั้นเดวิดหนุ่มขาเดียวริมกำแพง...เอาวะ! ผมยัดเงินลงในกระเป๋าเสื้อลูกเสือเก่าๆนั้น...ดูเหมือนขนตาจะเพยิบนิดหนี่งและหน้าซึ่งก้มงุดอยู่แล้วยิ่งงุดลงไปอีก ผมรู้สึกโล่งอกหลังจากที่เคยเดินผ่านเฉยๆอยู่ทุกวัน...

    ตกเย็นผมรู้สึกสบายใจจึงเดินเรื่อยเปื่อยจากที่ทำงานกลับบ้าน นึกในใจตลอดทางถึงการทำความดีว่าเราต้องไม่อายและไม่กลัวที่จะทำ ทำไปแล้วย่อมเกิดผลดีกับทุกๆฝ่ายแน่นอน...ผมเดินโต๋เต๋ชมนกชมไม้ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำโดยเดินผ่านด้านหลังตลาด

    วันนี้ที่หลังตลาดมีกองขยะสะสมอยู่มากจริงๆ กลิ่นจึงฉุนกว่าทุกวัน ผมเห็นหัวคนตะคุ่มๆอยู่หลังกองขยะ  อ๋อ!ขอทานพี่คนหนึ่งของไอ้หนึ่งนั่นเอง คงกำลังคุ้ยหาของกินอย่างเคย  ถ้าเขาได้พบอาหารดีๆสักจานวางซ่อนอยู่คงดีใจมากแน่ ผมแค่นึกสมมติเล่นๆ...เอ...หรือผมจะทำใจกล้าอย่างเมื่อเช้านี้...

    เพียงแค่ผมหยุดคิดกลิ่นก็ฉุนกึ้กเข้าจมูก ผมว่าผมชินกับเจ้ากลิ่นพวกนี้แล้วนี่นาแต่วันนี้ฉุนพิเศษกว่าทุกวัน ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาตั้งใจจะเอาเงินไปให้ ยิ่งเดินเข้าใกล้ก็ยิ่งเหม็นมากขึ้นทุกที มืดก็มืด มีแต่ความมืดและความเหม็น...

    เพื่ออุดมการณ์ลึกๆในใจผมจึงก้าวเดินต่อไป  ผมนึกถึงบทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าฯรัชกาลที่หกขึ้นมาได้... ‘อันความกรุณาปราณีจะมีใครบังคับก็หาไม่’...ผมค่อยย่องเข้าไปอีก กลิ่นก็เหม็นมากขึ้น... ‘หลั่งมาเองเหมือนฝนกันชื่นใจ’...โอ๊ย เหม็นมาก เหม็นเหมือนอุจจาระซึ่งผมเกือบทนไม่ไหวจึงเบือนหน้าไปอีกทางพร้อมกับยื่นเงินให้ไอ้บักนั้น ผมกลั้นใจนึกถึงบทพระราชนิพนธ์ซึ่งเป็นกำลังใจของผมท่อนสุดท้าย...

    ‘จากฟากฟ้าสุราลัย’...แล้วผมก็ได้ยินเสียงตะคอกจากไอ้บักที่ทำให้ผมหายซ่าอีกครั้ง


    “ ไอ้อะ!...อนนจะอี้ ”

         ___________________

    แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 50 15:54:35

    แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 50 12:03:19

    จากคุณ : ดาเรน - [ 13 ส.ค. 50 09:43:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom